ตอนนี้ใช้ City ปี 2013 รุ่นคืนเงินภาษี 100,000 5 ปีแล้ววิ่งได้ยังไม่ถึง 70,000 กิโล กำลังจะหมดงวดอีกไม่กี่เดือน
บางทีก็คิดอยากได้รถใหม่คันใหญ่กว่าเดิม อย่าง ฟอร์จูนเนอร์ ซีอาร์วี ประเภทรถครอบครัวใหญ่ขึ้นมาหน่อย เผื่อนานๆได้ไปเที่ยวที
แต่คิดไปคิดมา...เราคงไม่ได้ไปเที่ยวตลอด ตอนอยากเที่ยวค่อยเช่าเอาวันสองวันก็ได้มั๊ง
กลับรู้สึกว่ารถคันปัจจุบันผ่อนยาวนานและเหนื่อยกับมันมาก....แทนที่จะมีเงินเก็บ พอสิ้นเดือนก็ต้องจ่ายงวดรถไปอีกแล้วว
เงินมันแหว่ง ถูกสูบไปแบบอัตโนมัติ ไม่จ่ายมันก็โทรมาขู่ฟ่อๆตลอด คือยังไงก็ต้องจ่าย ไม่จ่ายก็เจ็บ....จ่ายช้าโดนไฟแนนซ์ปรับ จ่ายช้า
โดนค่าโทร ค่าทวงถาม ทวงเฉยๆมันยังเอาค่าทวงเลย ทั้งที่ยังไงเราก็จ่าย หรือไม่จ่ายก็ยึดอยู่ดี แล้วจะทวงอะไรขนาดนั้น รู้สึกเข็ดขยาดกับ
บริษัทพวกนี้เข้าไปอีกไหนจะค่าน้ำมันเครื่อง เช็คระยะ ต่อภาษีมาหมาดๆ มันมีเรื่องต้องให้เสียตลอด
ล่าสุดเพิ่งเปลี่ยนยางไป 4 เส้น....ไม่เปลี่ยนก็ไม่ได้ ดอกยางหมดฤดูฝน ขับเพลินๆได้ลงไปเที่ยว
คลองข้างทางแน่ๆ เดือนหน้าคาดว่าคงเปลี่ยน เบรค + เช็คระยะ เงินหมื่นคงหายไปอีก + ได้รอบจ่ายงวด มีเงินไม่ถึง 20,000 มีหนาว
ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา รู้สึกว่ามันทรมานกับการเป็นหนี้ การดูแลรักษาที่ต้องใช้เงินล้วนๆ ต้องรัดกุม จะซื้ออะไรก็คิดแล้วคิดอีก เรียก
ง่ายๆว่าหนี้คือทุกข์อย่างหนึ่งที่ทำให้ชีวิตเสียสมดุลไป พออยากเปลี่ยนรถใหม่ คิดแล้วคิดอีกว่าเราคงเหนื่อยไม่หยุดไม่หย่อนแน่ๆ ไม่รู้คนอื่นคิด
เยอะแบบนี้หรือเปล่า เงินจ่ายมีแต่ไม่อยากจ่าย แบบนี้หรือเปล่า ที่เค้าเรียกว่า งก 55
บางคนบอกทำงานมาเพื่อสนองความต้องการ อยากซื้ออะไรก็ซื้อสิ ก็ถูกของเค้านะ ไม่ซื้อก็ไม่ได้ขับ ไม่ได้ใช้ ต้องยอมแลก
บางทีก็สงสัยว่า เค้าจะรู้สึกเหนื่อยแบบเราบ้างไหม พอหาเงินมาได้ก็เอาไปให้ไฟแนนซ์ หรือเจ้าของบริษัทรถ ทั้งที่ไปไหนก็ถึงเหมือนๆกัน
ถึงได้รถใหม่มาก็คงไม่ได้ขับเร็วขึ้น ความกว้างความสบาย ก็คงนั่งได้แค่เบาะเหมือนๆเบาะทั่วไป ส่วนความโก้หรูคงเลิกคิด เพราะหมดวัย
มอบความเท่ ความโก้ ให้เป็นอนาคตลูกดีกว่า อย่างมากก็แค่เอนลงนอนไม่ได้สบายเหมือน
นอนอยู่บ้านแน่ๆ
ปล.เล่าให้ฟังเผื่อคนอยากมีรถแล้วยังไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง....ถ้าซื้อมาแล้วใช้ๆไปพังแล้วทิ้งอันนี้ไม่ว่ากัน 55
คนที่เปลี่ยนรถใหม่เรื่อยๆ....รู้สึกเหนื่อยไหม?
บางทีก็คิดอยากได้รถใหม่คันใหญ่กว่าเดิม อย่าง ฟอร์จูนเนอร์ ซีอาร์วี ประเภทรถครอบครัวใหญ่ขึ้นมาหน่อย เผื่อนานๆได้ไปเที่ยวที
แต่คิดไปคิดมา...เราคงไม่ได้ไปเที่ยวตลอด ตอนอยากเที่ยวค่อยเช่าเอาวันสองวันก็ได้มั๊ง
กลับรู้สึกว่ารถคันปัจจุบันผ่อนยาวนานและเหนื่อยกับมันมาก....แทนที่จะมีเงินเก็บ พอสิ้นเดือนก็ต้องจ่ายงวดรถไปอีกแล้วว
เงินมันแหว่ง ถูกสูบไปแบบอัตโนมัติ ไม่จ่ายมันก็โทรมาขู่ฟ่อๆตลอด คือยังไงก็ต้องจ่าย ไม่จ่ายก็เจ็บ....จ่ายช้าโดนไฟแนนซ์ปรับ จ่ายช้า
โดนค่าโทร ค่าทวงถาม ทวงเฉยๆมันยังเอาค่าทวงเลย ทั้งที่ยังไงเราก็จ่าย หรือไม่จ่ายก็ยึดอยู่ดี แล้วจะทวงอะไรขนาดนั้น รู้สึกเข็ดขยาดกับ
บริษัทพวกนี้เข้าไปอีกไหนจะค่าน้ำมันเครื่อง เช็คระยะ ต่อภาษีมาหมาดๆ มันมีเรื่องต้องให้เสียตลอด
ล่าสุดเพิ่งเปลี่ยนยางไป 4 เส้น....ไม่เปลี่ยนก็ไม่ได้ ดอกยางหมดฤดูฝน ขับเพลินๆได้ลงไปเที่ยว
คลองข้างทางแน่ๆ เดือนหน้าคาดว่าคงเปลี่ยน เบรค + เช็คระยะ เงินหมื่นคงหายไปอีก + ได้รอบจ่ายงวด มีเงินไม่ถึง 20,000 มีหนาว
ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา รู้สึกว่ามันทรมานกับการเป็นหนี้ การดูแลรักษาที่ต้องใช้เงินล้วนๆ ต้องรัดกุม จะซื้ออะไรก็คิดแล้วคิดอีก เรียก
ง่ายๆว่าหนี้คือทุกข์อย่างหนึ่งที่ทำให้ชีวิตเสียสมดุลไป พออยากเปลี่ยนรถใหม่ คิดแล้วคิดอีกว่าเราคงเหนื่อยไม่หยุดไม่หย่อนแน่ๆ ไม่รู้คนอื่นคิด
เยอะแบบนี้หรือเปล่า เงินจ่ายมีแต่ไม่อยากจ่าย แบบนี้หรือเปล่า ที่เค้าเรียกว่า งก 55
บางคนบอกทำงานมาเพื่อสนองความต้องการ อยากซื้ออะไรก็ซื้อสิ ก็ถูกของเค้านะ ไม่ซื้อก็ไม่ได้ขับ ไม่ได้ใช้ ต้องยอมแลก
บางทีก็สงสัยว่า เค้าจะรู้สึกเหนื่อยแบบเราบ้างไหม พอหาเงินมาได้ก็เอาไปให้ไฟแนนซ์ หรือเจ้าของบริษัทรถ ทั้งที่ไปไหนก็ถึงเหมือนๆกัน
ถึงได้รถใหม่มาก็คงไม่ได้ขับเร็วขึ้น ความกว้างความสบาย ก็คงนั่งได้แค่เบาะเหมือนๆเบาะทั่วไป ส่วนความโก้หรูคงเลิกคิด เพราะหมดวัย
มอบความเท่ ความโก้ ให้เป็นอนาคตลูกดีกว่า อย่างมากก็แค่เอนลงนอนไม่ได้สบายเหมือน
นอนอยู่บ้านแน่ๆ
ปล.เล่าให้ฟังเผื่อคนอยากมีรถแล้วยังไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง....ถ้าซื้อมาแล้วใช้ๆไปพังแล้วทิ้งอันนี้ไม่ว่ากัน 55