แต่ก็ดูสนุก เพลินๆ แบบที่คนเขาพูดกัน วันนี้ไปดู คิดดีแล้วที่ไม่ได้ดูโรง imax ไม่งั้นคงเสียดายตังค์
หนังขายความเท่ ความล้ำ ความว้าวของผู้ร้ายบวกกับฉาก CG สวยๆ คอสตูมสีสันที่ว่าไปก็เหมือนนั่งดูงิ้วฉบับแอฟริกา

บทของคิลมองเกอร์ที่คนชมกันก็โอเคครับ แต่ไม่สุดนะ แม้จะเป็นตัวละครที่น่าเห็นใจ แต่บทจะมา บทจะไปก็ง่ายดาย แทบจะไม่ได้โดดเด่นเลย ดีที่หล่อ smart ถูกใจแฟนๆ เทียบกับซีโม่แล้วมันต่างกันมาก ซีโม่มีเหตุผลรองรับน่าเชื่อถือ แม้จะผ่านการสูญเสียมาเหมือนกัน แต่ซีโม่ตั้งใจรอเวลาเอาคืน แต่คิลมองเกอร์เหมือนไม่เคยคิดว่าจะแก้แค้นอะไร พอดีส้มหล่น [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คือมาร่วมงานกับตัวร้ายที่แขนด้วน หากินกับการขายสมบัติของวากานด้าแล้วดั้นมาเจอกับฝ่าบาท แล้วก็หักหลังเพื่อนแค่ว่าจะใช้เป็นใบเบิกทาง แล้วถ้าไม่ได้รู้จักกับเจ้านั่นล่ะ ก็คงจะไม่แก้แค้นอะไร ปูพื้นเทียบกับซีโม่แล้วห่างชั้นกันเยอะ

ส่วนที่ขัดใจผมกลับเป็นบรรดาเทคโนโลยี่ล้ำของวากานด้า คือมันอะไรกันอ่ะ ลองคิดดูว่า [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อุกกาบาตที่มีธาตุไวเบรเนี่ยมพุ่งชนโลกตกที่แอฟริกาเมื่อหลายล้านหรือหลายพันปีก่อน ตอนนั้นชนเผ่าอาจจะยังไม่มี แล้วชาววากานด้ารู้จักทำประโยชน์กับธาตุนี้ขนาดไหน แม้จะแข็งแกร่ง แต่โลกในยุคโบราณก็มีเหล็ก ที่มีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำขวาน โล่ เกราะ ยังไม่มีความจำเป็นขนาดที่จะทำให้ไวเบรเนี่ยมเป็นสิ่งมีค่า เป็นที่ต้องการขนาดนั้น เหมือนน้ำมันที่มีในโลกมาเป็นล้านปีแต่เพิ่งมีค่าก็ตอนที่โลกเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม มีรถยนต์ ก่อนหน้านี้ใช้ไอน้ำ น้ำมันไม่มีค่าเลยครับ ปืนยังไม่มี ไม่มีความจำเป็นต้องใช้เกราะที่กันกระสุนได้

ที่สำคัญ ชาววากานด้านำไวเบรเนี่ยมมาได้ยังไง สมัยพันกว่าปีก่อน เอามาทำอาวุธได้อย่างไร [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตามที่กล่าวถึงในพิพิธภัณฑ์อาวุธโบราณ ย้อนไปศตวรรษที่ 6 มั้งถ้าจำไม่ผิด สมัยนั้นไม่น่าที่จะมีเตาหลอมความร้อนสูงขนาดหลอมไวเบรเนี่ยมแล้วตีเป็นอาวุธได้

ชาววากานด้าพัฒนาเทคโนโลยี่ระดับนั้นได้อย่างไร ต่อให้กรวดทรายเป็นเพชร ภูเขาเป็นทองคำ น้ำในแม่น้ำลำธารเป็นน้ำมัน ก็ไม่มีทางจะพัฒนาเทคโนโลยี่ได้ แถมวากานด้าปิดประเทศ ไม่คบค้ากับใครมานับพันปี เอาไวเบรเนี่ยมไปขาย เอาเงินมาพัฒนาได้จริงแต่ใครสอนเทคโนโลยี่ที่ไม่มีในโลก
จะโอเคมากถ้าหนังปูพื้นว่า ชาววากานด้าเคยพบกับชาวแอสการ์ด (แต่นั่นเคยเกริ่นเอาไว้ในธอร์ภาคนึงที่ชาวแอสกาเดื่ยนมาช่วยชาวไวกิ้งจากการรุกรานของยักษ์น้ำแข็ง) หรือชาววากานด้าเคยติดต่อกับเผ่าพันธุ์นอกโลกที่มีอารยธรรมสูงมากๆ แบบใน guardian of the galaxy)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หนังพูดถึงน้องสาวฝ่าบาทที่เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยี่ ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลย เธอก็ต้องศึกษา มีสถาบันไหนในโลกที่สอน คงไม่ได้เรียนรู้เอง โทนี่เองถึงเป็นอัจฉริยะ ก็ยังต้องใช้ AI อย่างจาร์วิสในการช่วยออกแบบ สร้างไอรอนแมนแต่ละรุ่น แบบค่อยเป็นค่อยไป แต่น้องสาวฝ่าบาทกลับสร้างชุดในระดับนั้นได้ โทนี่ยังทำไม่ได้เลย
คืออะไรมันล้ำยุคเกินไป ถ้าเป็นโลกในยุคเดียวกับ Star Trek อันนี้ก็เข้าใจ คือโลกพัฒนาไปด้วยกันหมดทั้งดวงดาว  

แล้วที่มาของพลังอีก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ในกัปตันอเมริกา นักวิทยาศาสตร์คิดค้นเซรุ่มสร้างซูเปอร์โซลเยอร์ กว่าจะพัฒนามาสำเร็จ แล้วทำให้กัปตันกลายเป็นกัปตันอเมริกา ขนาดนาซีพยายามขโมยสูตร ผมจำไม่ได้ว่าพ่อของโทนี่พัฒนาต่อจนสำเร็จจนทำให้ถูกฆ่าเพื่อชิงเอาเซรุ่มไปสร้างรุ่นต่อมารึเปล่า แต่ในแบล็ค แพนเธอร์ เล่นกินสมุนไพรแล้วมีพลังเลย สมุนไพรได้พลังจากไวเบรเนี่ยมน่าจะมีราคาค่างวดกว่าไวเบรเนี่ยมเองด้วยซ้ำ แล้วคนอื่นก็ไม่มีใครแอบฉกไปกิน สงวนไว้แค่คนที่จะขึ้นเป็นกษัตริย์

แถมตอนประลองยังมีการฮั้วกันอีก ฮา [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ลองคิดดูถ้าชนเผ่าอื่นท้าประลองหมด ฝ่าบาทไม่ตายเหรอ ต้องสู้กับผู้ท้าชิงทุกคน การยอมรับคิลมองเกอร์ให้ประลองก็ไม่มีเหตุผล ถึงจะมีสายเลือดราชนิกูล แต่ก็ไม่ใช่รัชทายาท ไม่น่าจะได้รับการยอมรับ แต่ตรงนั้นคงไม่สำคัญ ขนบชาววากานด้าอาจยอมรับ

คือตัวหนังไม่ใช่ไม่ดีนะครับ ดูสนุก แต่ไม่ใช่หนังที่อยากดูซ้ำ หรือต้องเสียเงินไปดูโรงเฟิร์สคลาส ไอแมกซ์ 4D แต่ความที่มันเป็นหนังมาร์เวล แล้วก็มีตัวละครเท่ๆ ซีจีล้ำๆ เขียนบทผูกโยงเรื่องได้ดี ก็ทำให้มองข้ามข้อเสียเล็กๆ น้อยๆ ไปได้