หลายคนคงรู้จัก BNK48 Thestar Thevoice มาบ้างแล้ว ตอนนี้เรามาให้ริชชี่ร์ร์ สตาร์ทำนายกัน
หลายๆคนคงกลัวที่จะเปิดเผยว่าความเป็น “ก็ลมมัน” มันน่าอาย เด็กๆสมัยนี้จะรู้จักนี้กันอยู่หรือเปล่า แบ่งหัวข้อไปเลยดีกว่าใครจะอ่านหัวข้อไหนก็อ่านไป
ต้นกำเนิด ที่มา ความสำคัญ
เริ่มที่ตอนเด็ก เป็นคนที่ขยันนะ ช่วยพ่อแม่ทำงานทุกอย่างตอนประมาณป.5 ป.6 ยกกระสอบข้าวโพด ถั่วเหลือง น้ำหนัก 35-40 kg. ได้สบายๆ (ตอนนี้รู้สึกหนักแทบตาย) ทำจริงจังนะจนเต็มคันรถ และบ้านค้าขายไงมันก็ทำตลอด เอาหอมขึ้นรถบ้าง อีกอย่างไปโรงเรียนก็ปั่นจักรยานเป็นนักฟุตบอลเราก็ใช้ร่างกายอย่างนี้ตลอด
ขึ้นม.ต้น เปลี่ยนสายมาตีกลอง ทีนี้ก็แบ่งกลองใหญ่สิครับหนักมักก็หนักแต่เราใช้ความแข็งแรงเราสู้ เล่นเช้าเย็น เดินงานทีหนึ่งนานฝุด
ขึ้นม.ปลาย มาถึงจุดที่เริ่มอาการมา ม.5 เป็นลิดเด้อร์ เป็นฐานเราน่าจะน่ำหนัก 49 kg. ตัวเล็กนะผมว่าทีนี้ ตอนงัดให้กระโดดรู้สึกมีอะไรตุบแถวริด (ตอนแรกไม่รู้อาการเลยจริงๆ) เลือดเต็มกางใน กางในก็สีขาวอีก โอ้แม่เจ้าดีที่ใครไม่เห็น เลยบอกปวดท้องพอเลือดหยุดก็มาซ้อมต่อ >>> มันก็ไม่มีอาการอะไรอีกจนกระทั้ง...
ป.ตรี ก็เล่นกีฬาแต่ไม่เก่ง 555 ซักปีสาม เวลาอึมันเริ่มมีอะไรนูนๆออกมา แต่ก็เข้าไปเองก็เฉยๆ (เป็นคนที่นังอึนาน รอจนกว่าจะหมดใจจริงบางทีครึ่งชั่วโมง)
ป.โท น้องริด เริ่มใหญ่มีก้อนเดียวเท่าปลายนิ้วก้อย ทีนี้มันไม่เข้าไม่เองละ วิธีสำหรับมือใหม่ ง่ายๆ ใส่กางเกงให้เรียบร้อยถ้าเป็นกางเกงยีนจะง่ายหน่อย นั่งคุกเข่าข้างเดียว ใช้ส้นเท้าให้ตรงน้องริดและนั่งลงไป แล้วรอแปปหนึ่งมันก็จะฮึบเข้าไป นี้เป็นขั้นพื้นฐานง่ายๆ
เริ่มทำงาน ทีนี้ทำงานนั่งโต๊ะเป็นส่วนใหญ่ ทำให้กล้าเนื้อเราอ่อนแรงลงไปอีก น้องริดมันใหญ่ขึ้น กว่าเดิม จำนวนเพิ่มขึ้น
สองปีแรกที่ทำงาน ซื้อยาสมุนไพรมากินพวกเพชรสังฆาตหลายยี่ห้อมากๆ และก็เปลี่ยนวิธีเก็บน้องริดใหม่ หามุมโต๊ะครับ มุมโต๊ะที่คุณภาพดีๆคือโต๊ะเหล็กขอบยาง พื้นหน้าเป็นกระจก พนักงานหลายๆคนคงคุ้นเคยกันดี ความแน่นของขอบโต๊ะมันแบบว่าโอ้พระเจ้า มันเก็บไม่ดีจริงๆ
ทำงานปีที่ 3-4 อาการหนักขึ้นน้องริดใหญ่ขึ้น หลังอึเสร็จมันจะออกมาทุกครั้งนะน้องริดนี้อะ การเก็บก็ยังใช้วิธีเดิมแต่มันยากขึ้น แล้วที่หน้าโกรธคือชอบทะลึ้งออกมาเองเป็นครั้งคราว ต้องใช้นิ้วเราดันเข้าไป นั่งแช่น้ำอุ่นผสมผงม่วงๆ แต่อ่านเจอว่าให้นั่งแช่น้ำอุ่นก่อนอึและหลังอึให้แช่น้ำเย็น
สิ่งที่ทำไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนเพราะทำมันจะออกมาดูโลกเลย
• ยืนนานๆ 5นาทีอะไรงี้นานยัง
• นั่งดูหนังมันยังออก กินเผ็ดๆนี้บรรจงร้อยเป็นมาลัยเลย
• เล่นกีฬาได้ไม่นาน
• เดินห้าง ไม่สนุกเลย ทรมานตลอดเวลา
ไปโรงพยาบาล
มาถึงจุดที่ต้องไปโรงพยาบาล เลือดมันเต็มชักโครก ไป! ไปโรงพยาบาล แนะนำควรผู้ชายควรปรึกษาแฟนเรื่องแผนอนามัยติดยังไงใช้แบบไหน ก็มันไม่เคยใส่
1. มีบัตรโรงพยาบาลแล้ว
2. ไปห้องประกันสังคมยื่น บัตรประจำตัวประชาชน บัตรโรงพยาบาล เล่าอาการที่มาพบแบบเบาๆๆ
a. น้องคะ! ตรวจริดสีดวงห้องเบอร์สองค่ะ
3. รีบเดินไปให้ไว้ห้องเบอร์สอง ซักประวัติ ตรวจความดัน นน. ความสูง
4. รอๆๆๆๆๆ รอๆๆๆๆๆ รอๆๆๆๆๆ
5. คุณ...ไปห้องตรวจทวานค่ะ ไปเออมีคนเป็นเยอะเหมือนกัน และหมอฝึกหัดเยอะเหมือนกัน ตรวจทีหลายคน
6. นอนคว่ำบนเตียงโค้งๆ กางขาออก
a. หมอทาเจลบางอย่าง หมอบอกมันจะชาๆนิดๆ “น่าจะเอาไปประยุกต์ใช้ได้”
b. เครื่องมือเหมือนกรวยน้ำ หมอคอยเอาใส่ ห้ามเกรงค่ะ ทำเหมือนเบ่งอึ “ทำอยู่หมอแต่ทำไงท่ามันแปลกๆ” มันจุกๆ เจ็บๆแต่ทนเอา
c. เสร็จค่ะ ไวแท้
d. หมอบอกเป็นริชชี่ค่ะ เดวลองทานยาก่อนเนอะ ให้ยามา ชื่อ daflon500กินเช้ากลางวันเย็ฯ, ผงส้มอึนิ่มกินก่อนนอน, ยาเหน็บต้องแช่เย็น จะใช้เอาออกมาแกะเปลือกรอแปปนึงให้ละลายนิดๆแล้วเสียบเข้าไปลึกประมาณสองข้อนิ้วแล้วลองขมิบดูมันจะดูเข้าไปถ้าใส่ตื้นกางเกงขาวหมดมันๆ ด้วยลองแล้วเชื่อผมเถอะ
e. สองอาทิตย์ไปใหม่ เพิ่งรู้ว่าหมอจ่ายยาได้แค่ 42 เม็ด
เวลาผ่านไปสองอาทิตย์ อาการเหมือนเดิมแต่เลือดไม่ไหล ไปหาหมอใหม่ ทำเหมือนเดิม ได้ยามากิน ต่อรองขอมาเดือนครั้งได้ไหม ได้แต่ต้องให้หมอใหญ่เซนต์ซัมติง
ผ่านไปสามเดือน คุยกับหมอมันไม่ลดมัดได้ไหมหมอให้ยานัดตรวจอีกที
มาหาหมออีกครั้ง หมดนัดวันรัด ริด ประมาณ 1 เดือน
ขั้นตอนการรัดริชชี่ เริ่ม 11.00 น.
ทำตามขั้นตอนโรงพยายาบาลทุกครั้งนานตรงนี้แหละ “บ่นทำไม ใช้สิทธ์รักษาก็ฟรี” เอาเริ่มขั้นตอนรัดน้องริด
1. นอนคว้ำลงด้วยความเชี่ยวชาญ พยาบาลยังบอกเหมือนเดิมนะ
2. หมอใส่เครื่องมือเข้าไปก็ไอ้กรวยอันเดิม แล้วที่นี้หมอก็ตรวจมีสามเม็ดนะเดวจะรัดแล้ว เจ็บไหม เจ็บบอกนะเดี๋ยวเป็นลม ภาพแว๊ปขึ้นมาเคยเห็นคนเป็นลมเตียงข้างๆออ!!!!
3. เม็ดแรกเหมือนคนหยิกครับเจ็บอยู่ หมอเลยเอาไว้ก่อนคงเล็กไป
4. เม็ดสองสาม ยิงยางรัดแปปเดว
5. เวลารัดแบบเดียวน่าจะซักสองถึงสามนาที แต่ต่อเม็ดประมาณ สิบห้าวินาที ถ้าเทียบเหมือนต่อดันฟันแล้วหมอรัดย่างเหมือนเลย ไอ้ยางกลมๆเล็กๆติดอยู่ที่ฟันเครื่องมือน่าจะคล้ายกัน
6. หมอแนะนำถ้ามีเลือดออกมากๆก็ให้มา รพ.อีกนะ บลาๆๆๆ ฟังไม่ค่อยชัดเพราะเบลอๆๆๆๆๆ
7. แนะนำติดแผ่นอนามัยไว้ที่กกน.เลย เอายาแก้ปวดไปด้วย รัดแล้วกินเลยสองเม็ด
8. กลับบ้าน เหมือนคนปวดอึ ฉี่ไม่ออก
a. วันแรก
i. เรื่องฉี่ กินน้ำเยอะๆๆ ครับ เดวออกเอง
ii. เรื่องอึลองไปเบ่งละ ไม่ออก ไม่ต้องฝืน กินมะละกอ ผลไม้เยอะๆ ผักเยอะ สรุปวันแรกไม่ออก
iii. เป็นริชชี่จะกินยาชุดเดิมๆๆๆ
iv. จะนอน จะเดิน จะกลิ้งทำไปเถอะทรมานเหมือนเดิมเอาที่สยายใย
v. นอนหลับยากแน่นอน ก็ปวดฉี่ปวดอึตลอด ผมหลับตีห้า
vi. รู้สึกขั้นเนื้อขั้นตัว
b. วันที่สอง ตื่นมา เรื่องฉี่ดีขึ้น แต่ปวดอึอยู่ วันนี้เลยกินมะลอกอสุกเต็มเหนี่ยว ถ่ายออกแล้วแต่ก็ต้องดันริดเข้าไปโดยใช้นิ้วอยู่
i. อาการแทรกซ้อน หูรุดจะตึงๆ ตดยากมากเสียดแน่นท้องต้องรอปริมาณแก๊สมากๆแล้วค่อยวิดเล็กๆออกมา
ii. เป็นไข้ 41.5 องศา ก็พารา นอนสั่น เช็ดตัวลดไข้ ตรงนี้ทำให้การขับถ่ายยิ่งยาก
c. วันที่สาม ริชชี่ยังไม่หลุด ฉี่ปกติ เริ่มหายป่วย ตดยาก พยายามอึทุกวัน กินยา กินพาราเสริม มันปวดขึ้นปวดแบบปวดแผลนะ เป็นไข้ลดลง การเก็บริชชี่จะยากหน่อย มันจะแน่นๆกว่าที่เราเคยเก็บมา “คนเคยเก็บจะรู้” เมื่อก่อนเข้าได้ทั้งนิ้วตอนนี้ได้สองข้อนิ้วเดียวแทบตาย มันคงปวมข้างใน
d. วันที่สี่ ริชชี่ยังไม่หลุด หายไข้แล้ว อึแล้วริดยังออกมา ปวดริชชี่อยู่ถึงเราจะเก็บเข้าที่แล้วก็ตาม กินพาราช่วยไม่งั้นก็ปวดไม่มีสมาธิทำงานเลย ทนๆๆๆ
e. วันที่ห้า วันพรุ่งนี้ “ค่อยอัพเดทให้อ่านเน้อขอทรมานก่อน”
สรุป
1. มีลูกหลาน ให้ทำงานหนักพอประมาณคอบควบคุมให้ดี เน้นเรื่องอย่ายกของหนัก
2. เล่นดนตรีก็เล่นเครื่องที่เบาๆหน่อยละกัน
3. กินน้ำ กินผัก กินผลไม้ทุกวันถึงมันจะหายาก จะแพงกว่าแซวม่อน ไม่อร่อยกุ้งมังกรหมูก็ตาม
4. *******ขับถ่ายเป็นวินัย ปวดแล้วนั่ง เบ่งนิดเดียวให้ถูกจังหวะการบีบท้องและลำไส้ อึออกจบล้างเลยไม่ต้องรอ ปวดใหม่ค่อยเข้าอีก*********
5. รู้ว่าเป็นไม่ว่าจะตอนไหน ไม่ต้องอาย ไปหาหมอเลย เพราะสุดท้ายเราต้องไปหาอยู่ดีเพราะโรคนี้ไม่ไปจากเราเองแน่นอนอย่าทำเหมือนผม หรือคิดว่ามีตังซื้อdaflon500กินเช้ากลางวันเย็น, ผงส้มอึนิ่มกินก่อนนอนแต่ไม่แนะนำหาหมอดีกว่า
6. ผ่าวันศุกร์ดีสุด หยุดเสาร์ อาทิตย์ไปเลย เป็นช่วงทรมานสุดละ
7. กินยาให้ตรงเวลา
8. คุณจะไม่อายอีกต่อไป คุณจะมีความสนิทกับอวัยวะส่วนนั้นอย่างลึกซึ้ง คุณจะดูแลมันอย่างดี เมื่อก่อนการจับต้องอายนะบอกเลยเดี๋ยวนี้ด้านชา
9. คุณไม่ต้องกลัวว่ามันจะเปลี่ยนเพศครับมันเหมือนเดิม มันเจ็บ มันต้องทำ มันต้องเก็บหัวน้องริดแค่นั้นเอง
10. ได้รู้ว่าหมอน่ารักๆ ต้องมาเจอภาพบาดตาบาดใจอย่างนี้ด้วย ฉะนั้นคุณที่หน้าตาไม่เละกว่าน้องริดผมว่าจีบหมอได้นะเพราะเค้าคงไม่แคร์เรื่องหน้าตา ขอให้มีความดี ความมั่นคงในชีวิตเป็นพอ ครั้งน่าจะแนะนำจีบหมอยังไงให้กลายเป็นเมีย
แนะนำมือใหม่ที่เป็น จะเป็น หรือคิดว่าจะเป็น ริชชี่ร์ร์ สตาร์
หลายๆคนคงกลัวที่จะเปิดเผยว่าความเป็น “ก็ลมมัน” มันน่าอาย เด็กๆสมัยนี้จะรู้จักนี้กันอยู่หรือเปล่า แบ่งหัวข้อไปเลยดีกว่าใครจะอ่านหัวข้อไหนก็อ่านไป
ต้นกำเนิด ที่มา ความสำคัญ
เริ่มที่ตอนเด็ก เป็นคนที่ขยันนะ ช่วยพ่อแม่ทำงานทุกอย่างตอนประมาณป.5 ป.6 ยกกระสอบข้าวโพด ถั่วเหลือง น้ำหนัก 35-40 kg. ได้สบายๆ (ตอนนี้รู้สึกหนักแทบตาย) ทำจริงจังนะจนเต็มคันรถ และบ้านค้าขายไงมันก็ทำตลอด เอาหอมขึ้นรถบ้าง อีกอย่างไปโรงเรียนก็ปั่นจักรยานเป็นนักฟุตบอลเราก็ใช้ร่างกายอย่างนี้ตลอด
ขึ้นม.ต้น เปลี่ยนสายมาตีกลอง ทีนี้ก็แบ่งกลองใหญ่สิครับหนักมักก็หนักแต่เราใช้ความแข็งแรงเราสู้ เล่นเช้าเย็น เดินงานทีหนึ่งนานฝุด
ขึ้นม.ปลาย มาถึงจุดที่เริ่มอาการมา ม.5 เป็นลิดเด้อร์ เป็นฐานเราน่าจะน่ำหนัก 49 kg. ตัวเล็กนะผมว่าทีนี้ ตอนงัดให้กระโดดรู้สึกมีอะไรตุบแถวริด (ตอนแรกไม่รู้อาการเลยจริงๆ) เลือดเต็มกางใน กางในก็สีขาวอีก โอ้แม่เจ้าดีที่ใครไม่เห็น เลยบอกปวดท้องพอเลือดหยุดก็มาซ้อมต่อ >>> มันก็ไม่มีอาการอะไรอีกจนกระทั้ง...
ป.ตรี ก็เล่นกีฬาแต่ไม่เก่ง 555 ซักปีสาม เวลาอึมันเริ่มมีอะไรนูนๆออกมา แต่ก็เข้าไปเองก็เฉยๆ (เป็นคนที่นังอึนาน รอจนกว่าจะหมดใจจริงบางทีครึ่งชั่วโมง)
ป.โท น้องริด เริ่มใหญ่มีก้อนเดียวเท่าปลายนิ้วก้อย ทีนี้มันไม่เข้าไม่เองละ วิธีสำหรับมือใหม่ ง่ายๆ ใส่กางเกงให้เรียบร้อยถ้าเป็นกางเกงยีนจะง่ายหน่อย นั่งคุกเข่าข้างเดียว ใช้ส้นเท้าให้ตรงน้องริดและนั่งลงไป แล้วรอแปปหนึ่งมันก็จะฮึบเข้าไป นี้เป็นขั้นพื้นฐานง่ายๆ
เริ่มทำงาน ทีนี้ทำงานนั่งโต๊ะเป็นส่วนใหญ่ ทำให้กล้าเนื้อเราอ่อนแรงลงไปอีก น้องริดมันใหญ่ขึ้น กว่าเดิม จำนวนเพิ่มขึ้น
สองปีแรกที่ทำงาน ซื้อยาสมุนไพรมากินพวกเพชรสังฆาตหลายยี่ห้อมากๆ และก็เปลี่ยนวิธีเก็บน้องริดใหม่ หามุมโต๊ะครับ มุมโต๊ะที่คุณภาพดีๆคือโต๊ะเหล็กขอบยาง พื้นหน้าเป็นกระจก พนักงานหลายๆคนคงคุ้นเคยกันดี ความแน่นของขอบโต๊ะมันแบบว่าโอ้พระเจ้า มันเก็บไม่ดีจริงๆ
ทำงานปีที่ 3-4 อาการหนักขึ้นน้องริดใหญ่ขึ้น หลังอึเสร็จมันจะออกมาทุกครั้งนะน้องริดนี้อะ การเก็บก็ยังใช้วิธีเดิมแต่มันยากขึ้น แล้วที่หน้าโกรธคือชอบทะลึ้งออกมาเองเป็นครั้งคราว ต้องใช้นิ้วเราดันเข้าไป นั่งแช่น้ำอุ่นผสมผงม่วงๆ แต่อ่านเจอว่าให้นั่งแช่น้ำอุ่นก่อนอึและหลังอึให้แช่น้ำเย็น
สิ่งที่ทำไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนเพราะทำมันจะออกมาดูโลกเลย
• ยืนนานๆ 5นาทีอะไรงี้นานยัง
• นั่งดูหนังมันยังออก กินเผ็ดๆนี้บรรจงร้อยเป็นมาลัยเลย
• เล่นกีฬาได้ไม่นาน
• เดินห้าง ไม่สนุกเลย ทรมานตลอดเวลา
ไปโรงพยาบาล
มาถึงจุดที่ต้องไปโรงพยาบาล เลือดมันเต็มชักโครก ไป! ไปโรงพยาบาล แนะนำควรผู้ชายควรปรึกษาแฟนเรื่องแผนอนามัยติดยังไงใช้แบบไหน ก็มันไม่เคยใส่
1. มีบัตรโรงพยาบาลแล้ว
2. ไปห้องประกันสังคมยื่น บัตรประจำตัวประชาชน บัตรโรงพยาบาล เล่าอาการที่มาพบแบบเบาๆๆ
a. น้องคะ! ตรวจริดสีดวงห้องเบอร์สองค่ะ
3. รีบเดินไปให้ไว้ห้องเบอร์สอง ซักประวัติ ตรวจความดัน นน. ความสูง
4. รอๆๆๆๆๆ รอๆๆๆๆๆ รอๆๆๆๆๆ
5. คุณ...ไปห้องตรวจทวานค่ะ ไปเออมีคนเป็นเยอะเหมือนกัน และหมอฝึกหัดเยอะเหมือนกัน ตรวจทีหลายคน
6. นอนคว่ำบนเตียงโค้งๆ กางขาออก
a. หมอทาเจลบางอย่าง หมอบอกมันจะชาๆนิดๆ “น่าจะเอาไปประยุกต์ใช้ได้”
b. เครื่องมือเหมือนกรวยน้ำ หมอคอยเอาใส่ ห้ามเกรงค่ะ ทำเหมือนเบ่งอึ “ทำอยู่หมอแต่ทำไงท่ามันแปลกๆ” มันจุกๆ เจ็บๆแต่ทนเอา
c. เสร็จค่ะ ไวแท้
d. หมอบอกเป็นริชชี่ค่ะ เดวลองทานยาก่อนเนอะ ให้ยามา ชื่อ daflon500กินเช้ากลางวันเย็ฯ, ผงส้มอึนิ่มกินก่อนนอน, ยาเหน็บต้องแช่เย็น จะใช้เอาออกมาแกะเปลือกรอแปปนึงให้ละลายนิดๆแล้วเสียบเข้าไปลึกประมาณสองข้อนิ้วแล้วลองขมิบดูมันจะดูเข้าไปถ้าใส่ตื้นกางเกงขาวหมดมันๆ ด้วยลองแล้วเชื่อผมเถอะ
e. สองอาทิตย์ไปใหม่ เพิ่งรู้ว่าหมอจ่ายยาได้แค่ 42 เม็ด
เวลาผ่านไปสองอาทิตย์ อาการเหมือนเดิมแต่เลือดไม่ไหล ไปหาหมอใหม่ ทำเหมือนเดิม ได้ยามากิน ต่อรองขอมาเดือนครั้งได้ไหม ได้แต่ต้องให้หมอใหญ่เซนต์ซัมติง
ผ่านไปสามเดือน คุยกับหมอมันไม่ลดมัดได้ไหมหมอให้ยานัดตรวจอีกที
มาหาหมออีกครั้ง หมดนัดวันรัด ริด ประมาณ 1 เดือน
ขั้นตอนการรัดริชชี่ เริ่ม 11.00 น.
ทำตามขั้นตอนโรงพยายาบาลทุกครั้งนานตรงนี้แหละ “บ่นทำไม ใช้สิทธ์รักษาก็ฟรี” เอาเริ่มขั้นตอนรัดน้องริด
1. นอนคว้ำลงด้วยความเชี่ยวชาญ พยาบาลยังบอกเหมือนเดิมนะ
2. หมอใส่เครื่องมือเข้าไปก็ไอ้กรวยอันเดิม แล้วที่นี้หมอก็ตรวจมีสามเม็ดนะเดวจะรัดแล้ว เจ็บไหม เจ็บบอกนะเดี๋ยวเป็นลม ภาพแว๊ปขึ้นมาเคยเห็นคนเป็นลมเตียงข้างๆออ!!!!
3. เม็ดแรกเหมือนคนหยิกครับเจ็บอยู่ หมอเลยเอาไว้ก่อนคงเล็กไป
4. เม็ดสองสาม ยิงยางรัดแปปเดว
5. เวลารัดแบบเดียวน่าจะซักสองถึงสามนาที แต่ต่อเม็ดประมาณ สิบห้าวินาที ถ้าเทียบเหมือนต่อดันฟันแล้วหมอรัดย่างเหมือนเลย ไอ้ยางกลมๆเล็กๆติดอยู่ที่ฟันเครื่องมือน่าจะคล้ายกัน
6. หมอแนะนำถ้ามีเลือดออกมากๆก็ให้มา รพ.อีกนะ บลาๆๆๆ ฟังไม่ค่อยชัดเพราะเบลอๆๆๆๆๆ
7. แนะนำติดแผ่นอนามัยไว้ที่กกน.เลย เอายาแก้ปวดไปด้วย รัดแล้วกินเลยสองเม็ด
8. กลับบ้าน เหมือนคนปวดอึ ฉี่ไม่ออก
a. วันแรก
i. เรื่องฉี่ กินน้ำเยอะๆๆ ครับ เดวออกเอง
ii. เรื่องอึลองไปเบ่งละ ไม่ออก ไม่ต้องฝืน กินมะละกอ ผลไม้เยอะๆ ผักเยอะ สรุปวันแรกไม่ออก
iii. เป็นริชชี่จะกินยาชุดเดิมๆๆๆ
iv. จะนอน จะเดิน จะกลิ้งทำไปเถอะทรมานเหมือนเดิมเอาที่สยายใย
v. นอนหลับยากแน่นอน ก็ปวดฉี่ปวดอึตลอด ผมหลับตีห้า
vi. รู้สึกขั้นเนื้อขั้นตัว
b. วันที่สอง ตื่นมา เรื่องฉี่ดีขึ้น แต่ปวดอึอยู่ วันนี้เลยกินมะลอกอสุกเต็มเหนี่ยว ถ่ายออกแล้วแต่ก็ต้องดันริดเข้าไปโดยใช้นิ้วอยู่
i. อาการแทรกซ้อน หูรุดจะตึงๆ ตดยากมากเสียดแน่นท้องต้องรอปริมาณแก๊สมากๆแล้วค่อยวิดเล็กๆออกมา
ii. เป็นไข้ 41.5 องศา ก็พารา นอนสั่น เช็ดตัวลดไข้ ตรงนี้ทำให้การขับถ่ายยิ่งยาก
c. วันที่สาม ริชชี่ยังไม่หลุด ฉี่ปกติ เริ่มหายป่วย ตดยาก พยายามอึทุกวัน กินยา กินพาราเสริม มันปวดขึ้นปวดแบบปวดแผลนะ เป็นไข้ลดลง การเก็บริชชี่จะยากหน่อย มันจะแน่นๆกว่าที่เราเคยเก็บมา “คนเคยเก็บจะรู้” เมื่อก่อนเข้าได้ทั้งนิ้วตอนนี้ได้สองข้อนิ้วเดียวแทบตาย มันคงปวมข้างใน
d. วันที่สี่ ริชชี่ยังไม่หลุด หายไข้แล้ว อึแล้วริดยังออกมา ปวดริชชี่อยู่ถึงเราจะเก็บเข้าที่แล้วก็ตาม กินพาราช่วยไม่งั้นก็ปวดไม่มีสมาธิทำงานเลย ทนๆๆๆ
e. วันที่ห้า วันพรุ่งนี้ “ค่อยอัพเดทให้อ่านเน้อขอทรมานก่อน”
สรุป
1. มีลูกหลาน ให้ทำงานหนักพอประมาณคอบควบคุมให้ดี เน้นเรื่องอย่ายกของหนัก
2. เล่นดนตรีก็เล่นเครื่องที่เบาๆหน่อยละกัน
3. กินน้ำ กินผัก กินผลไม้ทุกวันถึงมันจะหายาก จะแพงกว่าแซวม่อน ไม่อร่อยกุ้งมังกรหมูก็ตาม
4. *******ขับถ่ายเป็นวินัย ปวดแล้วนั่ง เบ่งนิดเดียวให้ถูกจังหวะการบีบท้องและลำไส้ อึออกจบล้างเลยไม่ต้องรอ ปวดใหม่ค่อยเข้าอีก*********
5. รู้ว่าเป็นไม่ว่าจะตอนไหน ไม่ต้องอาย ไปหาหมอเลย เพราะสุดท้ายเราต้องไปหาอยู่ดีเพราะโรคนี้ไม่ไปจากเราเองแน่นอนอย่าทำเหมือนผม หรือคิดว่ามีตังซื้อdaflon500กินเช้ากลางวันเย็น, ผงส้มอึนิ่มกินก่อนนอนแต่ไม่แนะนำหาหมอดีกว่า
6. ผ่าวันศุกร์ดีสุด หยุดเสาร์ อาทิตย์ไปเลย เป็นช่วงทรมานสุดละ
7. กินยาให้ตรงเวลา
8. คุณจะไม่อายอีกต่อไป คุณจะมีความสนิทกับอวัยวะส่วนนั้นอย่างลึกซึ้ง คุณจะดูแลมันอย่างดี เมื่อก่อนการจับต้องอายนะบอกเลยเดี๋ยวนี้ด้านชา
9. คุณไม่ต้องกลัวว่ามันจะเปลี่ยนเพศครับมันเหมือนเดิม มันเจ็บ มันต้องทำ มันต้องเก็บหัวน้องริดแค่นั้นเอง
10. ได้รู้ว่าหมอน่ารักๆ ต้องมาเจอภาพบาดตาบาดใจอย่างนี้ด้วย ฉะนั้นคุณที่หน้าตาไม่เละกว่าน้องริดผมว่าจีบหมอได้นะเพราะเค้าคงไม่แคร์เรื่องหน้าตา ขอให้มีความดี ความมั่นคงในชีวิตเป็นพอ ครั้งน่าจะแนะนำจีบหมอยังไงให้กลายเป็นเมีย