ตามหัวข้อเลยค่ะ ขออนุญาตเล่าเหตุการณ์คร่าว ๆ แทนเพื่อนทั้งหมดเลยนะคะ ใครมีคำแนะนำรบกวนแนะนำในกระทู้นี้หน่อยนะคะ จะส่ง link ให้เพื่อนอ่านพรุ่งนี้ กราบขอบพระคุณแทนเพื่อนไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ขอไล่ช่วงเวลาเหตุการณ์ตามไทม์ไลน์เพื่อความเข้าใจก่อนนะคะ
ปี 57 เพื่อนทำธุรกิจไปได้ด้วยดี ซื้อบ้านมือสองและกู้สินเชื่อส่วนบุคคลแบงค์สีแสดมาซ่อมแซมบ้าน
ปี 58 ธุรกิจไม่ค่อยดี เริ่มหมุนเงินไม่ทัน เลยติดต่อขอลดหย่อนยอดผ่อนต่อเดือนส่วนของสินเชื่อบุคคลเพราะดอกเบี้ยสูง แบงค์ไม่ยอม เลยใช้วิธีหยุดส่งไป 3-5 เดือน (จำไม่ได้แน่)
ปี 59 แบงค์ส่งหมายศาลมา ไปศาลไกล่เกลี่ย ขอผ่อนยอดต่อเดือนลดลงตามที่ได้ติดต่อขอแบงค์ตั้งแต่ตอนแรก โดยคิดดอกเบี้ย 10% ต่อปี และเริ่มผ่อนในยอดนั้นมาตลอดจนปัจจุบัน แต่แบงค์ไม่เคยส่ง statement มาให้เลย เคยติดต่อทวงถามแบงค์แจ้งว่าเรื่องไปอยู่ฝ่ายกฎหมายแล้ว ไม่มีนโยบายส่ง statement ให้แล้วเพราะไม่ใช่ลูกค้าแบบปกติแล้ว การชำระเงินต่อเดือนใช้ผ่านช่องทาง 7-11 เพราะแบงค์นี้ไม่มีสาขาแถวบ้าน และสาขาที่เคยขอกู้ปิดไปแล้ว
ปี 60 ส่งยอดผ่อนต่อเดือนตามที่ตกลงมาตลอด
ส.ค. ปี 60 เปลี่ยนเบอร์มือถือ
ก.ย.ปี 60 แม่ป่วยเข้าโรงพยาบาลต้องผ่าตัด ไปจ่ายเงินช้า โดยไปจ่ายในวันที่ 1 ต.ค.ที่ 7-11 (ต้องจ่าย 30 ก.ย.) ทราบภายหลังทราบว่ายอดเข้าแบงค์วันที่ 2 ต.ค. แบงค์นับว่าผิดนัดชำระหนี้เริ่มคิดดอกเบี้ยเป็นรายวัน โดยที่เจ้าตัวไม่ทราบ และยังคงไปจ่ายยอดตามที่ตกลงไว้ทุกเดือนจนถึงปัจจุบัน
ปี 61 วันนี้บ่ายได้รับหมายศาล บังคับคดี เนื่องจากผิดนัดชำระหนี้ และจะดำเนินการยึดทรัพย์ โทร.ติดต่อแบงค์หาเบอร์คนที่เคยติดต่อตอนที่เคยไกล่เกลี่ยแล้วโทรไป เจ้าหน้าที่แจ้งยอดค้าง มีมูลค่าสูงกว่ายอดที่เคยกู้เพิ่มมาอีกแสนสาม แจ้งว่าเป็นดอกเบี้ย เพื่อนแจ้งว่าทำไมที่ผ่อนชำระมาตลอดตั้งแต่ปี 59 - ปัจจุบัน ไม่มีผลเลย เจ้าหน้าที่แจ้งว่าที่จ่ายมาถือเป็นดอกเบี้ย ถ้าอยากจบเรื่องต้องจ่ายมาทั้งก้อน คือ ยอดที่กู้ทั้งหมด 100% + ดอกเบี้ยรายวันตั้งแต่เดือนก.ย.ปี 60 ที่จ่ายช้าไป 1 วัน ยอดแบงค์ได้รับเข้าสู่เดือนต.ค. ไปแล้ว และเนื่องจากผู้กู้เปลี่ยนเบอร์โทรจึงติดต่อไม่ได้
ตอนนี้เเพื่อนกลัวโดนยึดทรัพย์มาก ประกอบกับมีหมายศาลมาบ้านตอนที่เค้าไปทำงาน แม่ของเพื่อนที่ป่วยอยู่เป็นผู้รับเรื่อง จึงตกใจมาก (แม่เพื่อนเป็นโรคหัวใจ) เพื่อนจนตรอกโกหกแม่ว่าส่งมาผิดบ้าน เดี๋ยวเคลียร์เอง ทั้ง ๆ ที่ไม่มีตังส์เพราะระหว่างทางที่ผ่อนมา เค้าเก็บเงินได้ก้อนนึง ก็เอาไปรักษาแม่หมดแล้ว แต่ยังดีที่ทำงานมีรายได้พอผยุงตัวอยู่ได้ แต่ยังไม่มีเงินก้อน ไปจ่ายแบงค์ในงวดเดียวตามที่แบงค์แจ้งมา
คำถาม:
1. คำถามแบบจนแต้มมาก คือ ต้องทำไงต่อไปดีคะ? พรุ่งนี้เพื่อนตั้งใจจะเดินทางไปแบงค์สนญ.ใหญ่ขอประนอมหนี้ คิดว่าคุยกับเจ้าหน้าที่ตัวเป็น ๆ อาจจะดีกว่าโทรศัพท์เพราะที่ผ่านมาเพื่อนพยายามติดต่อทางโทรศัพท์แต่ไม่ได้รับการลดหย่อนใดใดเลย => เค้าคิดถูกมั๊ยคะ?
2. ทำไมที่จ่ายมาตลอดตั้งแต่ปี 59 ถึงปัจจุบัน จึงไม่ได้ลดทั้งเงินต้น และดอกเบี้ยเลยคะ? เพราะเงินก้อนที่แบงค์ต้องการสูงกว่ายอดที่ขอกู้เสียอีก
3. จขกท.คิดว่าเพื่อนควรติดต่อสภาทนายความขอความช่วยเหลือทนายฟรี เพื่อปกป้องสิทธิ์ของตน เพราะดูแล้วเค้าไม่ได้มีเจตนาบิดพลิ้วเลย อีกทั้งพยายามขอประนีประนอมตั้งแต่รู้ตัวว่าหมุนเงินไม่ทันแล้ว และพยายามชำระเงินมาโดยตลอด => จขกท.คิดถูกรึเปล่า? ถ้าถูกแล้ว มีทนายฟรีจริง ๆ มั๊ยคะ เพราะเค้าคงไม่มีตังส์จ่ายไปสู้อะไรกับแบงค์
4. เพื่อนกำลังหาทางหาเงินก้อนมาชำระยอดที่สูงกว่ายอดกู้ โดยเมื่อจขกท.ปฎิเสธไม่ช่วย เพราะตัวเองก็ไม่มีตังส์เหมือนกัน เค้าเลยคิดว่าจะลองเอารถเก่าที่มีไปจำนองพวก car for cash อะไรทำนองนี้เพื่อหาเงินก้อนมาชำระหนี้บางส่วนก่อน => ควรทำมั๊ยคะ?
4.1 ลำพังเงินจำนองรถก็คงไม่พอตามที่แบงค์เรียกมา (รถอายุ 5 ปีไม่ติดไฟแนนซ์) แต่เพื่อนบอกว่ากำลังจะเซ็นต์สัญญาได้งานชิ้นใหม่ในเดือนเม.ย. นี้ ซึ่งจะทำให้มีรายได้เข้ามาทุกเดือนพอเคลียร์หนี้ก้อนนี้ได้ภายใน 6 เดือน (รวมส่วนที่จำนองรถด้วย) จึงคิดจะไปแบงค์พรุ่งนี้เผื่อขอผ่อนผัน และจะชำระให้หมดภายใน 6 เดือน => มีโอกาสที่แบงค์จะยืดระยะเวลามั๊ยคะ? เพราะวันนี้เค้าโทรไปขอเจ้าหน้าที่ทางโทรศัพท์แล้วเจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้แค่ 5 เดือนเริ่มเดือนนี้เลยด้วย ทำไมโหดมาก
4.2 ถ้าให้เค้าไปขอลดยอดที่ต้องจ่ายกับแบงค์ได้มั๊ย? เพื่อนได้โทรติดต่อแบงค์ตั้งแต่ทราบว่ามีหมายศาลแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ไม่มีส่วนลดหย่อนเลยแถมยังคิดดอกเพิ่มด้วย
ส่วนตัวจขกท. รู้สึกโกรธแทนเพื่อนที่ผ่อนชำระมาตลอดเป็นปีแล้วผิดนัดแค่ 1 วัน กลับโดนฟ้องกลับในยอดที่สูงกว่าที่กู้มา แบงค์ทำเกินไปในสายตาจขกท. แต่จขกท.ไม่มีความรู้อะไรเลย เงินก็ไม่มีจะช่วยเพื่อน ถึงแม้นจะรู้ว่ามันเป็นคนดี และที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่าเค้าพยายามชำระเงินที่กู้มาโดยไม่ได้หนีไปไหน แค่มีน้อยเท่านั้นเอง ทำไมแบงค์ต้องทำกันขนาดนี้
จขกท.ทำได้แค่ช่วยตั้งกระทู้ โดยขอความเมตตาจากผู้รู้ในสังคมนี้ช่วยแนะนำด้วย
จขกท.คิดว่ากรณีนี้แบงค์เอาเปรียบมากเกินไป และยังไม่เคยส่ง statement มาให้ผู้กู้เลย แต่อยู่ดี ๆ ส่งหมายศาลมาเลย
หากท่านใดมีคำแนะนำดี ๆ ขอความกรุณาช่วยสละเวลาพิมพ์แสดงความคิดเห็นหน่อยนะคะ
จขกท.จะเอากระทู้นี้ให้เพื่อนอ่านก่อนไปติดต่อแบงค์ค่ะ เผื่อจะช่วยเป็นแสงนำทางให้เค้าแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกทาง
จขกท.ขอขอบพระคุณทุกความคิดเห็นไว้ล่วงหน้า ณ ที่นี้อีกครั้งค่ะ
ป.ล. จขกท.เลือกแทคห้องตามระบบที่ขึ้นมาให้ ถ้าผิดกลุ่มผิดที่ประการใดขออภัยด้วยนะคะ
เพื่อนเดือดร้อน มาขอยืมเงิน เพราะโดนหมายศาลบังคับคดี เราไม่ให้ยืม แต่มาตั้งกระทู้ช่วยแทน รบกวนผู้รู้ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ
ขอไล่ช่วงเวลาเหตุการณ์ตามไทม์ไลน์เพื่อความเข้าใจก่อนนะคะ
ปี 57 เพื่อนทำธุรกิจไปได้ด้วยดี ซื้อบ้านมือสองและกู้สินเชื่อส่วนบุคคลแบงค์สีแสดมาซ่อมแซมบ้าน
ปี 58 ธุรกิจไม่ค่อยดี เริ่มหมุนเงินไม่ทัน เลยติดต่อขอลดหย่อนยอดผ่อนต่อเดือนส่วนของสินเชื่อบุคคลเพราะดอกเบี้ยสูง แบงค์ไม่ยอม เลยใช้วิธีหยุดส่งไป 3-5 เดือน (จำไม่ได้แน่)
ปี 59 แบงค์ส่งหมายศาลมา ไปศาลไกล่เกลี่ย ขอผ่อนยอดต่อเดือนลดลงตามที่ได้ติดต่อขอแบงค์ตั้งแต่ตอนแรก โดยคิดดอกเบี้ย 10% ต่อปี และเริ่มผ่อนในยอดนั้นมาตลอดจนปัจจุบัน แต่แบงค์ไม่เคยส่ง statement มาให้เลย เคยติดต่อทวงถามแบงค์แจ้งว่าเรื่องไปอยู่ฝ่ายกฎหมายแล้ว ไม่มีนโยบายส่ง statement ให้แล้วเพราะไม่ใช่ลูกค้าแบบปกติแล้ว การชำระเงินต่อเดือนใช้ผ่านช่องทาง 7-11 เพราะแบงค์นี้ไม่มีสาขาแถวบ้าน และสาขาที่เคยขอกู้ปิดไปแล้ว
ปี 60 ส่งยอดผ่อนต่อเดือนตามที่ตกลงมาตลอด
ส.ค. ปี 60 เปลี่ยนเบอร์มือถือ
ก.ย.ปี 60 แม่ป่วยเข้าโรงพยาบาลต้องผ่าตัด ไปจ่ายเงินช้า โดยไปจ่ายในวันที่ 1 ต.ค.ที่ 7-11 (ต้องจ่าย 30 ก.ย.) ทราบภายหลังทราบว่ายอดเข้าแบงค์วันที่ 2 ต.ค. แบงค์นับว่าผิดนัดชำระหนี้เริ่มคิดดอกเบี้ยเป็นรายวัน โดยที่เจ้าตัวไม่ทราบ และยังคงไปจ่ายยอดตามที่ตกลงไว้ทุกเดือนจนถึงปัจจุบัน
ปี 61 วันนี้บ่ายได้รับหมายศาล บังคับคดี เนื่องจากผิดนัดชำระหนี้ และจะดำเนินการยึดทรัพย์ โทร.ติดต่อแบงค์หาเบอร์คนที่เคยติดต่อตอนที่เคยไกล่เกลี่ยแล้วโทรไป เจ้าหน้าที่แจ้งยอดค้าง มีมูลค่าสูงกว่ายอดที่เคยกู้เพิ่มมาอีกแสนสาม แจ้งว่าเป็นดอกเบี้ย เพื่อนแจ้งว่าทำไมที่ผ่อนชำระมาตลอดตั้งแต่ปี 59 - ปัจจุบัน ไม่มีผลเลย เจ้าหน้าที่แจ้งว่าที่จ่ายมาถือเป็นดอกเบี้ย ถ้าอยากจบเรื่องต้องจ่ายมาทั้งก้อน คือ ยอดที่กู้ทั้งหมด 100% + ดอกเบี้ยรายวันตั้งแต่เดือนก.ย.ปี 60 ที่จ่ายช้าไป 1 วัน ยอดแบงค์ได้รับเข้าสู่เดือนต.ค. ไปแล้ว และเนื่องจากผู้กู้เปลี่ยนเบอร์โทรจึงติดต่อไม่ได้
ตอนนี้เเพื่อนกลัวโดนยึดทรัพย์มาก ประกอบกับมีหมายศาลมาบ้านตอนที่เค้าไปทำงาน แม่ของเพื่อนที่ป่วยอยู่เป็นผู้รับเรื่อง จึงตกใจมาก (แม่เพื่อนเป็นโรคหัวใจ) เพื่อนจนตรอกโกหกแม่ว่าส่งมาผิดบ้าน เดี๋ยวเคลียร์เอง ทั้ง ๆ ที่ไม่มีตังส์เพราะระหว่างทางที่ผ่อนมา เค้าเก็บเงินได้ก้อนนึง ก็เอาไปรักษาแม่หมดแล้ว แต่ยังดีที่ทำงานมีรายได้พอผยุงตัวอยู่ได้ แต่ยังไม่มีเงินก้อน ไปจ่ายแบงค์ในงวดเดียวตามที่แบงค์แจ้งมา
คำถาม:
1. คำถามแบบจนแต้มมาก คือ ต้องทำไงต่อไปดีคะ? พรุ่งนี้เพื่อนตั้งใจจะเดินทางไปแบงค์สนญ.ใหญ่ขอประนอมหนี้ คิดว่าคุยกับเจ้าหน้าที่ตัวเป็น ๆ อาจจะดีกว่าโทรศัพท์เพราะที่ผ่านมาเพื่อนพยายามติดต่อทางโทรศัพท์แต่ไม่ได้รับการลดหย่อนใดใดเลย => เค้าคิดถูกมั๊ยคะ?
2. ทำไมที่จ่ายมาตลอดตั้งแต่ปี 59 ถึงปัจจุบัน จึงไม่ได้ลดทั้งเงินต้น และดอกเบี้ยเลยคะ? เพราะเงินก้อนที่แบงค์ต้องการสูงกว่ายอดที่ขอกู้เสียอีก
3. จขกท.คิดว่าเพื่อนควรติดต่อสภาทนายความขอความช่วยเหลือทนายฟรี เพื่อปกป้องสิทธิ์ของตน เพราะดูแล้วเค้าไม่ได้มีเจตนาบิดพลิ้วเลย อีกทั้งพยายามขอประนีประนอมตั้งแต่รู้ตัวว่าหมุนเงินไม่ทันแล้ว และพยายามชำระเงินมาโดยตลอด => จขกท.คิดถูกรึเปล่า? ถ้าถูกแล้ว มีทนายฟรีจริง ๆ มั๊ยคะ เพราะเค้าคงไม่มีตังส์จ่ายไปสู้อะไรกับแบงค์
4. เพื่อนกำลังหาทางหาเงินก้อนมาชำระยอดที่สูงกว่ายอดกู้ โดยเมื่อจขกท.ปฎิเสธไม่ช่วย เพราะตัวเองก็ไม่มีตังส์เหมือนกัน เค้าเลยคิดว่าจะลองเอารถเก่าที่มีไปจำนองพวก car for cash อะไรทำนองนี้เพื่อหาเงินก้อนมาชำระหนี้บางส่วนก่อน => ควรทำมั๊ยคะ?
4.1 ลำพังเงินจำนองรถก็คงไม่พอตามที่แบงค์เรียกมา (รถอายุ 5 ปีไม่ติดไฟแนนซ์) แต่เพื่อนบอกว่ากำลังจะเซ็นต์สัญญาได้งานชิ้นใหม่ในเดือนเม.ย. นี้ ซึ่งจะทำให้มีรายได้เข้ามาทุกเดือนพอเคลียร์หนี้ก้อนนี้ได้ภายใน 6 เดือน (รวมส่วนที่จำนองรถด้วย) จึงคิดจะไปแบงค์พรุ่งนี้เผื่อขอผ่อนผัน และจะชำระให้หมดภายใน 6 เดือน => มีโอกาสที่แบงค์จะยืดระยะเวลามั๊ยคะ? เพราะวันนี้เค้าโทรไปขอเจ้าหน้าที่ทางโทรศัพท์แล้วเจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้แค่ 5 เดือนเริ่มเดือนนี้เลยด้วย ทำไมโหดมาก
4.2 ถ้าให้เค้าไปขอลดยอดที่ต้องจ่ายกับแบงค์ได้มั๊ย? เพื่อนได้โทรติดต่อแบงค์ตั้งแต่ทราบว่ามีหมายศาลแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ไม่มีส่วนลดหย่อนเลยแถมยังคิดดอกเพิ่มด้วย
ส่วนตัวจขกท. รู้สึกโกรธแทนเพื่อนที่ผ่อนชำระมาตลอดเป็นปีแล้วผิดนัดแค่ 1 วัน กลับโดนฟ้องกลับในยอดที่สูงกว่าที่กู้มา แบงค์ทำเกินไปในสายตาจขกท. แต่จขกท.ไม่มีความรู้อะไรเลย เงินก็ไม่มีจะช่วยเพื่อน ถึงแม้นจะรู้ว่ามันเป็นคนดี และที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่าเค้าพยายามชำระเงินที่กู้มาโดยไม่ได้หนีไปไหน แค่มีน้อยเท่านั้นเอง ทำไมแบงค์ต้องทำกันขนาดนี้
จขกท.ทำได้แค่ช่วยตั้งกระทู้ โดยขอความเมตตาจากผู้รู้ในสังคมนี้ช่วยแนะนำด้วย
จขกท.คิดว่ากรณีนี้แบงค์เอาเปรียบมากเกินไป และยังไม่เคยส่ง statement มาให้ผู้กู้เลย แต่อยู่ดี ๆ ส่งหมายศาลมาเลย
หากท่านใดมีคำแนะนำดี ๆ ขอความกรุณาช่วยสละเวลาพิมพ์แสดงความคิดเห็นหน่อยนะคะ
จขกท.จะเอากระทู้นี้ให้เพื่อนอ่านก่อนไปติดต่อแบงค์ค่ะ เผื่อจะช่วยเป็นแสงนำทางให้เค้าแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกทาง
จขกท.ขอขอบพระคุณทุกความคิดเห็นไว้ล่วงหน้า ณ ที่นี้อีกครั้งค่ะ
ป.ล. จขกท.เลือกแทคห้องตามระบบที่ขึ้นมาให้ ถ้าผิดกลุ่มผิดที่ประการใดขออภัยด้วยนะคะ