สวัสดีค่าชาวพันทิป วันนี้อยากจะแชร์เรื่องราวของตัวเองเพื่อเป็นกำลังใจให้เพื่อนสาวหรือใครก็ตามที่กำลังอกหักและกำลังดำดิ่งสู่ความเศร้าโศกจนไม่ได้ยินเสียงปลอบใจจากคนรอบข้าง และไอดีนี้เป็นของ จขกท.เองไม่ได้ยืมเพื่อนหรือเอาของแม่มาใช้แต่อย่างใด อิอิ
เชื่อว่าไม่มีใครไม่เคยอกหัก และแต่ละคนก็มีวิธีรักษาแผลใจต่างกัน บางคนก็เลือกที่จบชีวิตตัวเองเพราะทนเจ็บไม่ไหว
เราเองเคยมีแฟนที่คบกันมาห้าหกปีตั้งแต่เรียนม.ต้น แต่ต้องเลิกกันตอนเข้าปี1 เพราะเรียนคนละที่ แต่ฝ่ายชายก็เจอคนมากมายที่ดีกว่าสวยกว่าเรา แถมเขายังรู้สึกอายเพื่อนเวลาควงเรา เขาเริ่มตีตัวออกห่างเรามากขึ้น และเลิกกันในที่สุด เราทำใจไม่ได้ ร้องไห้ฟูมฟายทุกวันขอให้เขากลับมา เขาเองก็ผูกพันกับเราแต่ไม่ได้รักเรา และเราก็ยอมทุกอย่างขอเพียงอย่าไปจากเรา เขาให้เราในสถานะ Friend with benefits เราก็ยอมรับสถานะนี้ อยู่ในเงามืดอย่างเต็มใจ บางครั้งเราก็ตัดพ้อน้อยใจ เขาก็พูดว่า'เลือกที่จะอยู่แบบนี้เองนะ อยากไปก็ไม่ได้ว่า' หรือไม่ก็บ่นเราด้วยคำหยาบ หลายครั้งหลายหน จนเราเริ่มไม่ไหวร้องไห้ทุกวัน และไม่มีจิตใจจะเรียน ความซื่อสัตย์ที่เราให้เขามันไม่มีค่าอะไร เราเริ่มโมโหจากที่รักมาก 5555+ บวกกับตอนนั้นได้ฟังเพลงหนึ่งของ Taylor swift ทำให้ฉุกคิดขึ้นมาเพราะมันตรงกับสิ่งที่เราทำอยู่ เราเลือกให้เขาอยู่ในชีวิตทั้งที่รู้ว่าเขาจะทำกับเรายังไง
เท่านั้นแหละค่ะคุณ เราเหมือนดวงตาเห็นธรรม ปาดน้ำตารัวๆและเริ่มไลน์หาเขาน้อยลงเรื่อยๆ หันกลับมาดูสภาพตัวเอง มันยับเยินมาก ทันทีที่เราหยุดวิ่งตามเขา มันรู้สึกเหนื่อยขึ้นมาทันที เขาไม่ได้ทำร้ายเรา แต่เป็นตัวเราที่ทำตัวเองล้วนๆ เอาหัวใจไปเขาเหยียบเล่น
กระทั่งวันหนึ่งญาติสนิทเราติดต่อมาจ้างเราไปเฝ้าบ้านทุกอาทิตย์และเสนอให้เราอยู่ถาวร เราตอบตกลงเพราะอยู่ใกล้มหาลัยเดินทางสะดวกและอยากอยู่ห่างๆสิ่งเดิมๆ แทบไม่มีเวลาว่างจนเขาโทรมาหาเราเอง แรกๆเราก็ไปหาเขา พอตอนหลังรู้สึกเหนื่อยและขี้เกียจเพราะนั่งรถไกล บ่ายเบี่ยงและปฏิเสธเกือบทุกครั้งเวลาเขาชวนไปหา จนห่างกันเรื่อยและเราก็เริ่มไม่รู้สึกอะไรกับเขาอีกแล้ว
พอมาอยู่ใหม่ก็คิดว่าควรจะเริ่มต้นใหม่ด้วยเช่นกัน เรากลับไปทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ อ่านหนังสือทุกเล่มที่เคยอ่านทิ้งไว้ กลับมาคุยกับพี่สาวและครอบครัว เอาใจใส่ตัวเองมากขึ้น และกลับมาตั้งใจเรียนเหมือนเดิมหลังจากเสียเวลามาหนึ่งปี เป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ ไม่ต้องพยายามเป็นผู้หญิงในอุดมคติของให้เหนื่อย
และเราก็ตั้งใจว่า เราจะเอาตัวเองเป็นหลัก จะไม่ยอมให้ใครเข้ามาทำร้ายจิตใจอีกแล้ว ตัวเราก็เองสามารถทำได้ทุกอย่างจนแทบไม่ต้องพึ่งใครก็ได้ ติดแค่ไม่สวยอย่างเดียวนี่แหละ5555 จนทุกวันนี้เราอยู่ได้แบบสบายใจและรักชีวิตโสดมากมาย แม้ลึกๆจะเหงาแต่ความกลัวจากบทเรียนในอดีตมันมีมากกว่า คิดว่าหากชีวิตนี้ไม่เจอผู้ชายที่มองเห็นคุณค่าที่แท้จริงของเรา ขออยู่บนคานดีกว่า5555 แถมผู้ชายส่วนใหญ่ไม่ชอบผู้หญิงที่ชอบอ่านหนังสือและคลั่งซุปเปอร์ฮีโร่อย่างเรา แลดูน่าเบื่อ(แฟนเก่าเราเขาว่าอย่างงั้นนะ ท่าจะจริงไม่มีคนมาจีบเลย เศร้า )
ที่เล่ามาทั้งหมดทั้งมวลนี้ เพื่ออยากจะบอกว่า เราทุกคนต่างมีอดีตที่เจ็บปวดและโดนทำร้ายมาไม่ใช่น้อย สิ่งสำคัญที่ต้องนึกถึงเลยก็คือตัวเอง การรักตัวเองนั้นดีที่สุด อย่าเอาใครเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเพราะไม่มีใครอยู่กับเราได้ตลอด ยึดตัวเองเป็นหลัก คนเราทุกเราล้วนมีคุณค่าในตัวเอง คนอื่นไม่เห็นแต่ตัวเองต้องมองเห็น หากพบเจอคนที่มองเห็นคุณค่าที่แท้จริงของคุณ จงรักษาเขาไว้ให้ดี
บนโลกใบนี้มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจเยอะแยะ อย่าเลือกจบชีวิตตัวเองเพื่อสังเวยความรัก อดทนผ่านจุดนั้นมาให้ได้แล้วจะพบเจอกับหลายสิ่งที่เคยพลาดไป เว้นแต่จะเป็นโรคซึมเศร้าแล้วไม่ไปหาหมอ อันนี้ไม่นับ 55555
สุดท้ายนี้ จขกท.ปลงทุกสิ่งอย่าง ไม่วิ่งหาความรัก ไม่อยากที่จะมีแฟนอีก ปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตาดีกว่า ถ้าเรามีเนื้อคู่ยังไงก็ต้องได้เจอวันใดวันหนึ่ง ตอนนี้ก็นั่งต่อเลโก้ นอนกอดประมวลยอดรัก(จขกท.เรียนนิติ) หาความสุขให้ตัวเองเต็มที่ เป็นกำลังใจให้คนที่ผิดหวังในความรักค่ะ
เสียใจได้ ร้องไห้ได้ แต่อย่านานเหมือน จขกท.นะ กว่าจะรู้สึกตัวก็ไม่ทันเรียนจบสี่ปีซะแล้ว บ๊ายบาย
ถึงคนที่ผิดหวังในความรัก
เชื่อว่าไม่มีใครไม่เคยอกหัก และแต่ละคนก็มีวิธีรักษาแผลใจต่างกัน บางคนก็เลือกที่จบชีวิตตัวเองเพราะทนเจ็บไม่ไหว
เราเองเคยมีแฟนที่คบกันมาห้าหกปีตั้งแต่เรียนม.ต้น แต่ต้องเลิกกันตอนเข้าปี1 เพราะเรียนคนละที่ แต่ฝ่ายชายก็เจอคนมากมายที่ดีกว่าสวยกว่าเรา แถมเขายังรู้สึกอายเพื่อนเวลาควงเรา เขาเริ่มตีตัวออกห่างเรามากขึ้น และเลิกกันในที่สุด เราทำใจไม่ได้ ร้องไห้ฟูมฟายทุกวันขอให้เขากลับมา เขาเองก็ผูกพันกับเราแต่ไม่ได้รักเรา และเราก็ยอมทุกอย่างขอเพียงอย่าไปจากเรา เขาให้เราในสถานะ Friend with benefits เราก็ยอมรับสถานะนี้ อยู่ในเงามืดอย่างเต็มใจ บางครั้งเราก็ตัดพ้อน้อยใจ เขาก็พูดว่า'เลือกที่จะอยู่แบบนี้เองนะ อยากไปก็ไม่ได้ว่า' หรือไม่ก็บ่นเราด้วยคำหยาบ หลายครั้งหลายหน จนเราเริ่มไม่ไหวร้องไห้ทุกวัน และไม่มีจิตใจจะเรียน ความซื่อสัตย์ที่เราให้เขามันไม่มีค่าอะไร เราเริ่มโมโหจากที่รักมาก 5555+ บวกกับตอนนั้นได้ฟังเพลงหนึ่งของ Taylor swift ทำให้ฉุกคิดขึ้นมาเพราะมันตรงกับสิ่งที่เราทำอยู่ เราเลือกให้เขาอยู่ในชีวิตทั้งที่รู้ว่าเขาจะทำกับเรายังไง
เท่านั้นแหละค่ะคุณ เราเหมือนดวงตาเห็นธรรม ปาดน้ำตารัวๆและเริ่มไลน์หาเขาน้อยลงเรื่อยๆ หันกลับมาดูสภาพตัวเอง มันยับเยินมาก ทันทีที่เราหยุดวิ่งตามเขา มันรู้สึกเหนื่อยขึ้นมาทันที เขาไม่ได้ทำร้ายเรา แต่เป็นตัวเราที่ทำตัวเองล้วนๆ เอาหัวใจไปเขาเหยียบเล่น
กระทั่งวันหนึ่งญาติสนิทเราติดต่อมาจ้างเราไปเฝ้าบ้านทุกอาทิตย์และเสนอให้เราอยู่ถาวร เราตอบตกลงเพราะอยู่ใกล้มหาลัยเดินทางสะดวกและอยากอยู่ห่างๆสิ่งเดิมๆ แทบไม่มีเวลาว่างจนเขาโทรมาหาเราเอง แรกๆเราก็ไปหาเขา พอตอนหลังรู้สึกเหนื่อยและขี้เกียจเพราะนั่งรถไกล บ่ายเบี่ยงและปฏิเสธเกือบทุกครั้งเวลาเขาชวนไปหา จนห่างกันเรื่อยและเราก็เริ่มไม่รู้สึกอะไรกับเขาอีกแล้ว
พอมาอยู่ใหม่ก็คิดว่าควรจะเริ่มต้นใหม่ด้วยเช่นกัน เรากลับไปทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ อ่านหนังสือทุกเล่มที่เคยอ่านทิ้งไว้ กลับมาคุยกับพี่สาวและครอบครัว เอาใจใส่ตัวเองมากขึ้น และกลับมาตั้งใจเรียนเหมือนเดิมหลังจากเสียเวลามาหนึ่งปี เป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ ไม่ต้องพยายามเป็นผู้หญิงในอุดมคติของให้เหนื่อย
และเราก็ตั้งใจว่า เราจะเอาตัวเองเป็นหลัก จะไม่ยอมให้ใครเข้ามาทำร้ายจิตใจอีกแล้ว ตัวเราก็เองสามารถทำได้ทุกอย่างจนแทบไม่ต้องพึ่งใครก็ได้ ติดแค่ไม่สวยอย่างเดียวนี่แหละ5555 จนทุกวันนี้เราอยู่ได้แบบสบายใจและรักชีวิตโสดมากมาย แม้ลึกๆจะเหงาแต่ความกลัวจากบทเรียนในอดีตมันมีมากกว่า คิดว่าหากชีวิตนี้ไม่เจอผู้ชายที่มองเห็นคุณค่าที่แท้จริงของเรา ขออยู่บนคานดีกว่า5555 แถมผู้ชายส่วนใหญ่ไม่ชอบผู้หญิงที่ชอบอ่านหนังสือและคลั่งซุปเปอร์ฮีโร่อย่างเรา แลดูน่าเบื่อ(แฟนเก่าเราเขาว่าอย่างงั้นนะ ท่าจะจริงไม่มีคนมาจีบเลย เศร้า )
ที่เล่ามาทั้งหมดทั้งมวลนี้ เพื่ออยากจะบอกว่า เราทุกคนต่างมีอดีตที่เจ็บปวดและโดนทำร้ายมาไม่ใช่น้อย สิ่งสำคัญที่ต้องนึกถึงเลยก็คือตัวเอง การรักตัวเองนั้นดีที่สุด อย่าเอาใครเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเพราะไม่มีใครอยู่กับเราได้ตลอด ยึดตัวเองเป็นหลัก คนเราทุกเราล้วนมีคุณค่าในตัวเอง คนอื่นไม่เห็นแต่ตัวเองต้องมองเห็น หากพบเจอคนที่มองเห็นคุณค่าที่แท้จริงของคุณ จงรักษาเขาไว้ให้ดี
บนโลกใบนี้มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจเยอะแยะ อย่าเลือกจบชีวิตตัวเองเพื่อสังเวยความรัก อดทนผ่านจุดนั้นมาให้ได้แล้วจะพบเจอกับหลายสิ่งที่เคยพลาดไป เว้นแต่จะเป็นโรคซึมเศร้าแล้วไม่ไปหาหมอ อันนี้ไม่นับ 55555
สุดท้ายนี้ จขกท.ปลงทุกสิ่งอย่าง ไม่วิ่งหาความรัก ไม่อยากที่จะมีแฟนอีก ปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตาดีกว่า ถ้าเรามีเนื้อคู่ยังไงก็ต้องได้เจอวันใดวันหนึ่ง ตอนนี้ก็นั่งต่อเลโก้ นอนกอดประมวลยอดรัก(จขกท.เรียนนิติ) หาความสุขให้ตัวเองเต็มที่ เป็นกำลังใจให้คนที่ผิดหวังในความรักค่ะ
เสียใจได้ ร้องไห้ได้ แต่อย่านานเหมือน จขกท.นะ กว่าจะรู้สึกตัวก็ไม่ทันเรียนจบสี่ปีซะแล้ว บ๊ายบาย