ไม่ได้เหยียดชนชั้น แต่สงสัย พวกข่าวแม่ฆ่าลูก พ่อ/พ่อเลี้ยงฆ่าข่มขืน พ่อ/พ่อเลี้ยงโมโหซ้อมลูกตาย มักเกิดในครอบครัวยากจน

แน่นอนล่ะ ว่าข่าวที่เกิดในครอบครัวคนฐานะพอใช้ ไปจนถึงรวย ก็อาจจะมีบ้าง

แต่ก็น้อยมาก แทบจะเกิน 90% ข่าวลักษณะนี้ มักจะเกิดขึ้นจากครอบครัวที่ฐานะยากจนมากกว่า

เอาแค่ปีสองปีมานี้ ข่าวฆ่าพันผ้าห่มถ่วงน้ำ ข่าวฆ่าเด็กออติสติก และล่าสุด ข่าวผลักลูกตกคลอง

และก็ข่าวพวก พ่อ-พ่อเลี้ยง ข่มขืน-ฆ่าข่มขืน ส่วนมากพอไปทำข่าวที่บ้าน ดูแล้วเป็นบ้านฐานะค่อนข้างยากจนแทบทั้งนั้นเลย

กระทู้นี้ก็อาจจะมีคนเอาลิงค์ข่าวลักษณะนี้ ที่เกิดขึ้นในครอบครัวที่ฐานะค่อนข้างดีไปจนถึงรวยมาแนบไว้เพื่อแย้งว่านี่ไง ใครว่าไม่มี

ก็อาจจะมีนั่นแหละ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลย ว่าส่วนมากเรื่องพวกนี้ มักจะเกิดขึ้นในครอบครัวที่ฐานะไม่ใคร่จะดีนัก

ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ???????????????????????????
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 19
เรื่องเงินเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดเหตุอาชญากรรมได้ง่าย บ้านไหนจน ปัญหาทะเลาะเบาะแว้งจะมากกว่า เพราะเครียดในการดำรงชีวิต
คนรวยก็เครียดแต่จะเป็นปัญหาอื่นๆ ที่ละเอียดกว่า (เช่น ทำธุรกิจแล้วไม่รุ่ง ทุ่มหมดหน้าตัก หาหนี้ใช้ไม่ทัน)
แต่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องปัจจัยพื้นฐานเหมือนคนที่ยากจน (ข้าวที่จะกรอกหม้อ ที่อยู่อาศัยซึ่งไม่มั่นคง สภาพแวดล้อมเสี่ยงภัย)
บ้านที่ฐานะกลางๆ พอเลี้ยงตัวได้ ส่งลูกเรียนได้ในโรงเรียนดีๆ เด็กๆ เท่าที่เราเห็นก็โตไปตามเสต็ปเป็นปกติ ไม่ค่อยมีเรื่องมีราว ยกเว้นพาตัวไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติดเอง
อันนี้จากที่เห็นด้วยตัวเอง หลายครอบครัวแถวบ้านเรา แม่มีลูกตอนอายุน้อย ไม่ได้เรียน หรือเรียนไม่สูง ได้สามีระดับเดียวกัน ทำงานรับจ้างหรือทำอาชีพค้าขายแบบแย่งกันทำ คือทำของกินเลียนแบบคนอื่น ขายไม่ดีก็เลิกแล้วหาเลียนแบบใหม่ จึงทำให้ไม่ร่ำรวยเสียที ลูกสาวก็มีแฟนและสามีตอนอายุน้อย ท้อง เรียนไม่จบออกจากระบบก่อน จึงทำงานได้แต่งานฐานเงินเดือนไม่สูง วนลูปไป เพราะเขาไม่เห็นตัวอย่างที่ดี
แถวบ้านเราปัญหายาเสพติดเยอะค่ะ เด็กที่ได้เรียนระดับมหาวิทยาลัยแทบจะนับหัวได้ ส่วนมากจบอยู่ที่ชั้นมัธยมปลายแล้วออกจากระบบ
บางคนดีหน่อย ออกมาช่วยพ่อแม่ทำงานค้าขาย ยังพอเก็บเงินได้ แต่บ้าหวย กินเหล้าตั้งวงบ่อย ก็ไม่รู้ว่าจะเก็บเงินได้กี่มากน้อย
แต่บางคนออกเพราะท้อง ซึ่งเยอะมาก และอย่างที่บอก ทำงานอะไรที่สูงกว่าระดับที่เรียนไม่ได้ ต้องรับจ้าง หรือไปเป็นแม่บ้าน
คนที่ไปลงท้ายที่ยาเสพติดก็เยอะ เพราะทำเงินดีในระยะสั้น แต่วันดีคืนดีตำรวจมากวาดจับ (ช่วงที่มีข่าวทลายแก๊งยาใหญ่ๆ เมื่อไม่นานมานี้) หายหน้าไปหลายคนเลย
การที่คนจนยังจน ให้สรุปภาษาเราคือ "จนปัญญา" ไม่เห็นตัวอย่างที่ดี ก็พาตัวเองไปในทางที่ดีไม่ได้ เพราะไม่รู้จัก
คนจนที่รวยขึ้น คือพาตัวออกจากสภาพแวดล้อมที่เลว "ด้วยตัวเอง"
หลายคนที่เราเห็น ไม่คบเพื่อนพากินพาเที่ยวแถวบ้าน พ่อแม่พาย้ายบ้านออกไป ทำงานต่างถิ่น เจอสังคมใหม่ ที่ได้ดีกลับมาเยี่ยมให้เห็นหน้าก็หลายคน
ส่วนที่เรายังอยู่ เพราะเป็นบ้านที่ปลูกอยู่เดิมนานแล้ว สมบัติสุดท้าย ขายยากเพราะบ้านเก่าอยู่ในแหล่งชุมชนไม่ดี ไม่มีใครอยากมาซื้อ
สมัยวัยรุ่นเราไม่ได้โตแถวบ้าน เลยไม่ได้คบเพื่อนแถวๆ นี้ ไม่เสพยา เรียนโรงเรียนดี โดยไปอยู่ประจำเสียหลายปี เพราะพ่อแม่พยายามสุดชีวิตให้ไปอยู่ในที่ดีๆ พ่อแม่เรียนไม่สูง แต่ขยัน ไม่เล่นการพนัน ไม่ติดเหล้ายา เราจบมา จึงหางานดีๆ ทำได้ เลี้ยงตัวเอง เลี้ยงแม่ได้ แม้ฐานะไม่ร่ำรวย เรียกได้เต็มปากว่าคนชั้นกลาง จึงเห็นความแตกต่างของตัวเองกับคนแถวบ้าน

หากเด็กยากจนแต่มีโอกาสได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้ เห็นความเห็นนี้ อยากจะบอกว่า
คบเพื่อนอย่างไร พาตัวเองไปอยู่ในสังคมแบบไหน สำคัญที่สุดในการฉุดรั้งเราให้ขึ้นมา และพาตัวเราไปต่อในอนาคต ระวังเรื่องนี้ให้มาก
ความคิดเห็นที่ 42
ประเด็นแบบนี้ก่อเรื่องทะเลาะมาเยอะแล้ว แต่เราขอบอกว่าที่คุณพูดมีส่วนถูกเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แน่ๆ
ขอยกประโยคของ แจ็คหม่า ละกัน ''คนที่เอาใจยากที่สุดคือ คนจน''
เวลาเอาความรู้ไปสอน ก็ไม่รับ อ้างนู่นอ้างนี่
เวลาทำความผิดก็อ้างความจน
เวลาเขาช่วยก็คิดไปเองว่าเขาดูถูก
เวลาเขาไม่ช่วยก็หาว่าใจดำเห็นแก่ตัว
และทุกครั้งที่มีคนมาแตะประเด็นแบบนี้ถ้ามีคำว่า คนจน โผล่ขึ้นมาแม้แต่คำเดียว
คุณเตรียมตัวโดนฝูงชนกลุ่มหนึ่งถล่มด้วยข้อหา เหยียดชนชั้น ได้เลย โดยที่คนเหล่านั้นอาจจะไม่ได้อ่านและวิเคราะห์ครบถ้วนด้วยซ้ำ
คำว่าคนจนเหมือนคำที่เป็นชนวนปลุกจิตสำนึกด้านมืดอะไรซักอย่างให้คนออกมาร้อนรน
เข้าใจว่ามันอาจจะเป็นปมสำหรับบางคน แต่มันเป็นความจริงที่ว่าความจนมันสร้างปัญหาหลายๆอย่างตามมาเยอะมากและมันต้องเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไข

การแก้ไขที่ดีที่สุดคือการศึกษา ปัญหาคือด้วยสภาพแวดล้อมและความจนมันไม่สามารถทำให้เด็กได้รับการศึกษาที่ดีได้
แต่เอาจริงๆนะ คนจนมากๆๆที่เขาเรียนสูงๆประสบความสำเร็จก็มีเยอะ เขาได้ดีด้วยความขวนขวายพยายาม เป็นดร.เป็นอาจารย์เยอะแยะมากมาย
แต่คนจนกลุ่มหนึ่งก็มักจะหาข้ออ้างให้ตัวเอง "ชั้นส่งลูกชั้นเรียนสูงไม่ได้เพราะชั้นจน" "ใช่ซิ แกมันรวยนิแกไม่เข้าใจคนจนอย่างชั้นหรอก"
หรือไม่ก็ "เรียนไปทำไมเดี๋ยวก็มีผัวแล้ว" หรือไม่ก็แอดวานซ์กว่านั้นอีกเยอะที่ไม่ค่อยอยากจะพิมพ์เท่าไหร่ มันอนาถ
ยังมีคนจนจำนวนมากในไทยที่ไม่เห็นคุณค่าทางการศึกษา ซึ่งมันน่าเศร้ามากๆ
พ่อแม่หลายคนก็ใช้ความจนของตนมาเป็นข้ออ้างในการที่ไม่สนับสนุนการของลูก มองว่าแค่นี้ก็พอ ให้มันมาช่วยงาน

และการที่เด็กอยู่ในสภาพแวดล้อมแย่ๆมันเสี่ยงต่อการเสี่ยงคนง่ายมาก ยาเสพติดเอย ความรุนแรงเอย ท้องเอย
เขาจะมองว่าเรื่องพวกนี้กลายเป็นเรื่องปกติไป
แน่นอนว่า ช้างเผือกมีอยู่ทุกที คนที่ดันตัวเองออกจากสภาพแวดล้อมนี้ได้ก็มีมากมาย

แต่ก็ยังมีเด็กมากมายที่ยังตกค้างอยู่ในสภาพแวดล้อมนี้ นำมาสู่ปัญหาต่อๆมา
ยาเสพติด - ยาเสพติดนี่เป็นสิ่งที่เป็นต้นเหตุของอาชญกรรมหลายอย่างของชาติเลยนะ(แบบละครเรื่องล่าก็นับว่าใช่) และที่เฮงซวยที่สุดคือพวกค้ายาชอบมาออกข่าวว่าที่ทำไปเพราะจน (และอนาถกว่าคือดันมีคนเห็นใจด้วยข้ออ้างว่า "ไม่จนไม่รู้หรอกว่ามันลำบากแค่ไหน)
ความรุนแรง - สภาพแวดล้อมประมาณสลัม ไปสังเกตุดูได้เลยจะมีซักกี่บ้านที่พูดจากันดีๆ คนพวกนี้จะมองว่าความรุนแรงเป็นเรื่องปกติ และจะนำมาสู่ปัญหาอีกหลายยยอย่างต่อมา การทำร้ายร่างกาย ฆาตกรรม
ท้อง - โอยยยยย เป็นปัญหาที่เราปวดหัวมาก เคยหลงไปในกรุ๊ปคนท้องในเฟส บอกได้เลยว่าสิ้นหวังมากๆ
หลายๆคนตั้งใจท้องทั้งๆที่อยู่ม.ต้น พ่อแม่ก็ดันสนับสนุนเพราะพ่อแม่ก็เป็นแบบนั้น
ท้องมาก็ทิ้งๆขว้างๆ เด็กโตมาไม่มีคุณภาพ พ่อแม่ไปมีผัวใหม่มีเมียใหม่
เด็กมีปัญหา เป็นโรคบ้างอะไรบ้าง ปัญหาสุขภาพจิตบ้าง โตมาเป็นอาชญกรบ้าง

แล้วทุกสิ่งทุกอย่างมันก็จะวนเป็นลูปไปเรื่อยๆ เพราะคนกลุ่มหนึ่งมันอยู่ในกลุ่มนั้น มองว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องปกติ
และที่น่าเศร้าคือหลายๆคนทำเลวและใช้ความจนเป็นข้ออ้างเรียกร้องความสงสาร อะไรๆก็อ้างความจนไว้ก่อน
ทั้งๆที่หนทางที่จะออกจากจุดนั้นมันก็มี

แต่เวลาคนนอกเข้าไปสอนอะไรใหม่ๆให้ก็ไม่ฟัง
สอนว่าให้ส่งเสริมเรื่องการศึกษาแก่ลูกหลาน   ก็อ้างว่า โอ๊ย ทำไม่ได้หรอก ฉันจน
สอนว่าอย่าท้องวัยเรียน ก็ด่ากลับ ว่า เ-ด ได้ก็เลี้ยงได้ ใครๆก็ทำกัน
สอนว่าอย่ายุ่งกับยาเสพติด เวลาโดนจับก็อ้างว่า ที่ทำไปเพราะลำบาก เพราะความอยากจน ต้องเลี้ยงครอบครัว ถึงค้ายาก็รักแม่นะ บลาๆ
สอนว่าให้รักษาสุขภาพ อย่าไปกินมั่วซั่ว ก็อ้างว่าไม่มีเงิน ก็ต้องกินตามที่หาได้
สอนว่าป่วยให้เข้าโรงพยาบาล ก็อ้างว่า ไม่มีเงินไปโรงพยาบาล (ทั้งๆที่มีสิทธิต่างๆให้ศึกษาเยอะเแยะแต่ก็ไม่สนใจ)
อ้างว่าโดนหมอเหยียด (ทั้งๆที่บางทีก็คิดไปเอง)

ที่พิมพ์มานี่ไม่ได้อคตินะ
ไม่เชื่อไปดูตามเพจข่าวต่างในเฟสบุ๊คได้เลย
เวลามีคนมาเตือนอะไรซักอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องสิทธิเรื่องสุขภาพเรื่องหยูกยา
ต้องมีคอมเม้นท์จำนวนมาก(ไลค์เยอะด้วย) ออกมาด่า ออกมาต่อต้าน ไม่ยอมรับความรู้พวกนั้น
ขอให้ได้ด่าคนมีความรู้มากกว่าไว้ก่อน และก็ต่อท้ายด้วยการอ้างเรื่องความจน
ความคิดเห็นที่ 40
อ่าน comment เหนื่อยใจ คนที่ความรู้ต่างกันมาก คุยกันไม่มีทางเข้าใจ

เหมือนอยู่คนละโลก
ความคิดเห็นที่ 6
เพราะปัญหาในครอบครัวที่ จขกท บอก
ส่วนใหญ่มาจากการไม่มีเงิน

อย่างที่แม่ผลักลูกตกคลอง
ก็อ้างว่าเครียด เพราะต้องหาคนช่วยเลี้ยงลูก
(นึกภาพแม่คนนั้นจ้างคนมาเลี้ยงลูกได้
หรือเอาลูกไปให้ยายเลี้ยง พร้อมฝากเงินค่านม
เหตุก็คงไม่เกิด)

หรือพ่อเลี้ยงข่มขืนลูก
ถ้าพ่อเลี้ยงมีเงินไปเที่ยวอาบอบนวดบ้าง
ก็คงไม่ต้องมาหาคนในครอบครัว

สรุปคือ การมีเงิน หมายถึงการมีทางเลือกอื่นๆ
ที่จะทำให้ไม่ต้องเลือกทางเลือกที่ไม่อยากเลือก หรือไม่สมควรเลือก

แต่พอไม่มีเงิน
มันก็เลยเป็นอีกเรื่องนึง
ความคิดเห็นที่ 8
ถ้าไม่โลกสวย ก็จริงแหละ
วงจรความจนนำมาซึ่งปัญหาหลายๆ อย่าง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่