เอาตรงๆเลยนะค่ะ เราเคยทำฟาร์มชิวาว่าค่ะ แต่เป็นการทำด้วยใจรัก และ ตกกะไดพลอยโจน
งง ใช่ไหมค่ะ 5555 เพราะแฟนเก่าอยากทำค่ะ พอเลิกกันแล้ว ภาระตกที่เราค่ะ เราก็เลี้ยงมาเรื่อยๆค่ะ จาก 20 กว่าตัว ซื้อมาราคาค่อนข้างสูง
ด้วยความคิดที่ว่า ได้เลี้ยงด้วย ขายมาก็เอามาเลี้ยงพวกที่เลี้ยงไว้ แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่ค่ะ เพราะการบรีดชิวาว่า มันไม่ง่าย
ความเจ็บปวดจากการบรีด ไม่ว่าจะแม่หมาตาย ลูกหมาตาย หรือ ความผิดพลาดหลายๆอย่างระหว่างท้อง หรือ ระหว่างการผ่าคลอด
มันมีแต่ความเจ็บปวด และ ทรมาน จะตัดใจหลายทีแล้วค่ะ แต่ ยอมรับว่าเงินที่ซื้อไปค่อนข้างเยอะ แถมซื้อมาแล้วก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
จากการที่เราขายบ้าง ไม่ขายบ้าง หยิ่งในการขายบ้าง(คือขายไม่ได้ก็เก็บไว้ค่ะ ไม่ลดราคาให้เค้าไปอยู่ในที่ๆไม่เหมาะกับเค้าค่ะ)
ด้วยความรักที่ีมีต่อลูกหมา เพราะเราประคบประหงมเค้ามาตั้งแต่เกิด กว่าจะรอด กว่าจะโต กว่าจะขายได้ จึงค่อนข้างเลือกคนซื้อ
ค่ะ อ่านไม่ผิดค่ะ เลือกคนซื้อค่ะ เพราะอยากให้เค้าได้บ้านที่ดีๆ จึงค่อนข้างเลือกด้วย ใครต่อราคาไม่ขายเลยอ่ะค่ะ จึงเหลือเก็บเกือบทุกครอก
ผ่านไป 5ปี จาก 20 กว่าตัว เพิ่มเป็น 100 กว่าตัวค่ะ จากการขายบ้าง เก็บบ้าง(โดยส่วนมาก) ทุกตัวแข็งแรง อยู่บ้าง ตายจากบ้าง(ส่วนน้อย)
ระหว่างทาง 5 ปีที่ผ่านมา ท้อ เหนื่อย ทุกข์มาตลอดค่ะ แต่ เหมือนขึ้นหลังเสือแล้วลงไม่ได้ ด้วยความที่ต้องหาเงินจำนวนมากมาเลี้ยงดูพวกเค้า
ต้องผันตัวเองมาทำงานประจำอย่างอื่นด้วย เพื่อที่จะหาเงินมาจ่ายค่าใช้จ่ายของเค้าซึ่งเดือนนึง ตก เดือนละ 7-80000 บาท แบบไม่หาหมอนะค่ะ
เพราะเราเลี้ยงเค้าแบบให้อยู่แอร์ตลอด 24 ชม และจ้างคนมาช่วยในการเลี้ยงดูทำความสะอาดคอกของเค้าด้วยเพราะเลี้ยงแบบให้วิ่งเล่นในคอก
ค่าใช้จ่ายของพวกเค้า จะเป็นค่าไฟ น้ำ เดือนละ 20000 ค่าอาหารเดือนละ 35000 ค่าคนดูแล 18000 (2คน ปัญหาหนักอยู่ที่คนเลี้ยงนี่หละค่ะ)
ซึ่งในช่วง 2 ปีหลังมานี่ เราเลิกบรีดแล้ว เพราะ มันเริ่มเพิ่มขึ้นมาเป็น 200 กว่าตัวค่ะ เลยหยุดก่อนดีกว่า ไม่งั้นคงเพิ่มมากกว่านี้
ระหว่าง 2 ปีนี้ ยอมรับว่า เหนื่อยมากๆค่ะ แต่ก็สู้มาตลอด ด้วยหลายๆอย่างของตลาดชิวาว่าที่ซบเซาเอามากๆ เลยตัดสินใจไม่บรีดอีกแล้วด้วย
เพราะทำใจไม่ได้ที่จะขายเค้าหลักพัน และ หลายๆอย่างที่เราต้องประสบค่ะ ความทุกข์ใจช่วงผ่าคลอดสำคัญสุดค่ะ ที่เราตัดสินใจไม่บรีดต่อ
คิดว่า เด๋วน่าจะดีขึ้น แต่ แล้ว หลายๆอย่างก็ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ควรจะสุขใจเพียงแค่เรากับแฟนเรา(แฟนใหม่)เท่านั้น เราสุขใจที่มีลูกๆอยู่
แต่หลายๆอย่างมันเริ่มจะไม่ไหว สภาพร่างกายเราที่แย่ลง ลงป่วยเป็นเบาหวานความดัน และ เพิ่งจะเพิ่มโรคหัวใจมา และได้ทำการทำบอลลูนหัวใจแล้ว
การงานของเราตอนนี้ยังไหว แต่ มันเริ่มมีหลายอย่างๆส่อแวว ซึ่งเราคิดว่า มันคงถึงเวลา ที่เราควรจะปลดปล่อยให้ลูกๆได้ไปพบความสุขเสียที
การที่เค้าอยู๋กับเรา ใช่ เค้ารักเรา เค้ามีความสุขส่วนหนึ่ง เหมือนเรา แต่ จริงๆแล้ว มันไม่ใช่ความสุขจริงๆหรอก เพราะเราไม่มีเวลาเลย
ไม่มีเวลาทักทายทุกตัว ไม่มีเวลาได้กอดลูก มุ่งแต่ทำงาน หาเงินเพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายให้พวกเค้า คือมันกลายเป็นหาแต่เงินๆๆๆๆๆ
โดยให้พวกเค้าอยู่แต่ในบ้านของพวกเค้ากับพี่เลี้ยง ซึ่งพี่เลี้ยงก็หายากมากกกกกกกกกกกกกกกกกก เข้าใจนะค่ะ อยู๋กับหมามันไม่ง่าย
ช่วง 2 ปีล่าสุด เราคิดมาตลอดว่าจะทำไง คิดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆแต่ทำไม่ได้สักที จนเรามาค้นพบว่าเราเป็นโรคหัวใจ จนต้องทำบอลลูน
เรารู้ละ ว่า เราคงไม่ไหวแล้ว ถ้าเราจะต้องมาช่วยแฟนเราทำความสะอาดบ้านลูกทุกๆวันเหมือนก่อนตอนไม่มีพี่เลี้ยงลูก(คนงาน)
เวลาไม่มี เราสู้กันกับแฟน ทำด้วยกัน แฟนเราจะทำมากกว่า เพราะเราต้องทำงานด้วย สู้กันมาตลอด เพียงเพราะสงสารลูก
แต่ จริงๆแล้ว ลูกควรได้บ้านใหม่ที่ดีกว่าอยู๋กับเรา เค้าต้องการความรัก ต้องการภาษากายแสดงความรัก แต่ตอนนี้ เราสองคนไม่ทั่วถึงเลย
พอมีคนงานดูแล ก็ไปคิดอย่างอื่น ลืมความคิดจะหาบ้านให้เค้า ปล่อยเวลาผ่านไป แต่พอคนงานมาขอลากลับบ้าน จึงเกิดปัญหา
เพราะ เค้าบอกว่า อาจกลับ 1 เดือน คือ ฟังแล้ว ยอมรับว่า ตกใจมาก และ รู้ได้ทันทีว่า แฟนเรา กับ เรา ต้องสภาพไหน
ยอมรับว่าแฟนเรา เค้าก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน เพราะ 200 กว่าตัว แค่ ทำความสะอาดอย่างเดียวก็แทบตาย แต่ เราต้องอาบน้ำให้เค้าด้วย
ทำงานด้วย หาค่าใช้จ่ายเค้าด้วย แถมสภาพร่างกายเราด้วย จะเอาเวลาไหน หรือ แรงไหนมาทำได้ เราจึงต้องตัดสินใจแล้ว ยอมรับว่าเครียดมาก
แต่ต้องตัดสินใจแล้ว ยอมรับว่า จำเป็นต้องแจกตัวผู้ก่อน เพราะ ถ้าแจกตัวเมีย แล้ว โดนเอาไปบรีดต่อ เราไม่อยากให้เค้าเป็นแบบนั้นแล้ว
เราจึงตัดสินใจแจกตัวผู้ก่อน แล้ว ค่อยๆทำหมันตัวเมีย แล้วแจกตามไป จนหมด มันคงไม่ใช่เวลาแป้ปๆ คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก
ซึ่งคงหนักไปทาง ใช้เวลาทำใจของเราสองคน แต่ มันต้องทำแล้ว สองคนกอดกันร้องไห้มาแล้ว ไม่อยากทำแบบนี้เลย แต่ มันต้องทำแล้ว
ถ้าวันหนึ่งไม่มีคนงาน จะทำไง ถ้าวันหนึ่งงานที่ทำมีปัญหา จะหาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าใช้จ่ายเค้า คนอ่ะอดได้นะ แต่หมาอ่ะจะอดไง คิดวนเวียนมาตลอด
จริงๆตอนแรกประกาศในเฟสส่วนตัวค่ะ แต่มีคนแนะนำว่า ลองมาประกาศที่นี่ น่าจะหาบ้านที่ดีให้เค้าได้ แต่ คงต้องบอกไว้ก่อนว่า ขอคนที่รักจริง พร้อมจะดูแลเค้าจริงๆ ความพร้อมคือ มีเงินพาเค้าไปหาหมอได้แบบไม่ต้องมาประกาศหาคนช่วย และ ไม่ต้องรอเวลาหาเงิน อันนี้ตรงๆเลยอะนะค่ะต้องขอโทษด้วยไม่ได้คิดจะดูถูกใคร อยากได้คนที่สามารถเลี้ยงดูเค้าได้ในบ้าน ไม่ใช่ให้อยู๋นอกบ้าน เค้าไม่ใช่หมาพันธุ์ที่สามารถอยู่นอกบ้านได้ อยากได้คนที่กอดเค้าได้ทุกวัน เพราะกุ้งไม่มีตรงนี้ให้เค้าเลยค่ะตอนนี้ อยากได้คนที่พาเค้าไปเที่ยวได้ เพราะเค้าไม่ได้จากกุ้งเลยค่ะ อยากได้คนที่สามารถติดต่อได้ง่ายๆ เพราะกุ้งเคยให้ไปบ้าง แล้ว หายต๋อมเลยค่ะ ทุกข์ใจมากค่ะ ไม่รู้ว่าลูกเป็นตายร้ายดียังไงค่ะ อยากได้คนที่มีเฟสที่มีการอัพเดทพวกเค้าให้เห็นบ้าง
การสกรีนบ้านให้ลูกๆ กุ้งจะขอพูดตรงๆในทุกๆเรื่อง ยังไงคงต้องรบกวนพูดตรงๆนะค่ะ จะได้สบายใจทั้งสองฝ่ายค่ะ
ท่านใดคิดว่า สามารถรับน้องไปเลี้ยงดูได้ ติดต่อหลังไมค์กุ้งมาได้ที่ facebook ของกุ้งนะค่ะ
https://www.facebook.com/chihuahuaatlove
ขอไม่ดราม่านะค่ะ เพราะแค่นี้ ก็ทุกข์ใจพอแล้ว ไม่มีใครอยากทิ้งสิ่งที่ตัวเองรักหรอกนะ การตัดสินใจนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆตัดสินใจง่ายๆ แต่เมื่อมาถึงทางตัน ถึงจุดหนึ่งที่ต้องตัดสินใจ ก็คงต้องทำ ตอนนี้ทำได้แค่ เลือกบ้านที่ดีที่สุดให้เค้า ไม่อยากเลือกบ้านที่ผิดๆเลยค่ะ ยังไงขอร้องนะค่ะ ถ้าท่านใดไม่พร้อมจริงๆ ไม่ต้องติดต่อมานะค่ะ เพราะรับไปแล้ว เอามาคืน นี่ เสียความรู้สึกทั้งคนทั้งหมานะค่ะ สงสารกันด้วยนะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
หาบ้านให้น้องหมาชิวาว่าเพศผู้ฟรีค่ะ อายุ 2 ปี - 5 ปีค่ะ กทมนะค่ะ ขอคนที่รักจริงและพร้อมเท่านั้นค่ะ มีสตรอรี่ยาวเหยียด
งง ใช่ไหมค่ะ 5555 เพราะแฟนเก่าอยากทำค่ะ พอเลิกกันแล้ว ภาระตกที่เราค่ะ เราก็เลี้ยงมาเรื่อยๆค่ะ จาก 20 กว่าตัว ซื้อมาราคาค่อนข้างสูง
ด้วยความคิดที่ว่า ได้เลี้ยงด้วย ขายมาก็เอามาเลี้ยงพวกที่เลี้ยงไว้ แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่ค่ะ เพราะการบรีดชิวาว่า มันไม่ง่าย
ความเจ็บปวดจากการบรีด ไม่ว่าจะแม่หมาตาย ลูกหมาตาย หรือ ความผิดพลาดหลายๆอย่างระหว่างท้อง หรือ ระหว่างการผ่าคลอด
มันมีแต่ความเจ็บปวด และ ทรมาน จะตัดใจหลายทีแล้วค่ะ แต่ ยอมรับว่าเงินที่ซื้อไปค่อนข้างเยอะ แถมซื้อมาแล้วก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
จากการที่เราขายบ้าง ไม่ขายบ้าง หยิ่งในการขายบ้าง(คือขายไม่ได้ก็เก็บไว้ค่ะ ไม่ลดราคาให้เค้าไปอยู่ในที่ๆไม่เหมาะกับเค้าค่ะ)
ด้วยความรักที่ีมีต่อลูกหมา เพราะเราประคบประหงมเค้ามาตั้งแต่เกิด กว่าจะรอด กว่าจะโต กว่าจะขายได้ จึงค่อนข้างเลือกคนซื้อ
ค่ะ อ่านไม่ผิดค่ะ เลือกคนซื้อค่ะ เพราะอยากให้เค้าได้บ้านที่ดีๆ จึงค่อนข้างเลือกด้วย ใครต่อราคาไม่ขายเลยอ่ะค่ะ จึงเหลือเก็บเกือบทุกครอก
ผ่านไป 5ปี จาก 20 กว่าตัว เพิ่มเป็น 100 กว่าตัวค่ะ จากการขายบ้าง เก็บบ้าง(โดยส่วนมาก) ทุกตัวแข็งแรง อยู่บ้าง ตายจากบ้าง(ส่วนน้อย)
ระหว่างทาง 5 ปีที่ผ่านมา ท้อ เหนื่อย ทุกข์มาตลอดค่ะ แต่ เหมือนขึ้นหลังเสือแล้วลงไม่ได้ ด้วยความที่ต้องหาเงินจำนวนมากมาเลี้ยงดูพวกเค้า
ต้องผันตัวเองมาทำงานประจำอย่างอื่นด้วย เพื่อที่จะหาเงินมาจ่ายค่าใช้จ่ายของเค้าซึ่งเดือนนึง ตก เดือนละ 7-80000 บาท แบบไม่หาหมอนะค่ะ
เพราะเราเลี้ยงเค้าแบบให้อยู่แอร์ตลอด 24 ชม และจ้างคนมาช่วยในการเลี้ยงดูทำความสะอาดคอกของเค้าด้วยเพราะเลี้ยงแบบให้วิ่งเล่นในคอก
ค่าใช้จ่ายของพวกเค้า จะเป็นค่าไฟ น้ำ เดือนละ 20000 ค่าอาหารเดือนละ 35000 ค่าคนดูแล 18000 (2คน ปัญหาหนักอยู่ที่คนเลี้ยงนี่หละค่ะ)
ซึ่งในช่วง 2 ปีหลังมานี่ เราเลิกบรีดแล้ว เพราะ มันเริ่มเพิ่มขึ้นมาเป็น 200 กว่าตัวค่ะ เลยหยุดก่อนดีกว่า ไม่งั้นคงเพิ่มมากกว่านี้
ระหว่าง 2 ปีนี้ ยอมรับว่า เหนื่อยมากๆค่ะ แต่ก็สู้มาตลอด ด้วยหลายๆอย่างของตลาดชิวาว่าที่ซบเซาเอามากๆ เลยตัดสินใจไม่บรีดอีกแล้วด้วย
เพราะทำใจไม่ได้ที่จะขายเค้าหลักพัน และ หลายๆอย่างที่เราต้องประสบค่ะ ความทุกข์ใจช่วงผ่าคลอดสำคัญสุดค่ะ ที่เราตัดสินใจไม่บรีดต่อ
คิดว่า เด๋วน่าจะดีขึ้น แต่ แล้ว หลายๆอย่างก็ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ควรจะสุขใจเพียงแค่เรากับแฟนเรา(แฟนใหม่)เท่านั้น เราสุขใจที่มีลูกๆอยู่
แต่หลายๆอย่างมันเริ่มจะไม่ไหว สภาพร่างกายเราที่แย่ลง ลงป่วยเป็นเบาหวานความดัน และ เพิ่งจะเพิ่มโรคหัวใจมา และได้ทำการทำบอลลูนหัวใจแล้ว
การงานของเราตอนนี้ยังไหว แต่ มันเริ่มมีหลายอย่างๆส่อแวว ซึ่งเราคิดว่า มันคงถึงเวลา ที่เราควรจะปลดปล่อยให้ลูกๆได้ไปพบความสุขเสียที
การที่เค้าอยู๋กับเรา ใช่ เค้ารักเรา เค้ามีความสุขส่วนหนึ่ง เหมือนเรา แต่ จริงๆแล้ว มันไม่ใช่ความสุขจริงๆหรอก เพราะเราไม่มีเวลาเลย
ไม่มีเวลาทักทายทุกตัว ไม่มีเวลาได้กอดลูก มุ่งแต่ทำงาน หาเงินเพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายให้พวกเค้า คือมันกลายเป็นหาแต่เงินๆๆๆๆๆ
โดยให้พวกเค้าอยู่แต่ในบ้านของพวกเค้ากับพี่เลี้ยง ซึ่งพี่เลี้ยงก็หายากมากกกกกกกกกกกกกกกกกก เข้าใจนะค่ะ อยู๋กับหมามันไม่ง่าย
ช่วง 2 ปีล่าสุด เราคิดมาตลอดว่าจะทำไง คิดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆแต่ทำไม่ได้สักที จนเรามาค้นพบว่าเราเป็นโรคหัวใจ จนต้องทำบอลลูน
เรารู้ละ ว่า เราคงไม่ไหวแล้ว ถ้าเราจะต้องมาช่วยแฟนเราทำความสะอาดบ้านลูกทุกๆวันเหมือนก่อนตอนไม่มีพี่เลี้ยงลูก(คนงาน)
เวลาไม่มี เราสู้กันกับแฟน ทำด้วยกัน แฟนเราจะทำมากกว่า เพราะเราต้องทำงานด้วย สู้กันมาตลอด เพียงเพราะสงสารลูก
แต่ จริงๆแล้ว ลูกควรได้บ้านใหม่ที่ดีกว่าอยู๋กับเรา เค้าต้องการความรัก ต้องการภาษากายแสดงความรัก แต่ตอนนี้ เราสองคนไม่ทั่วถึงเลย
พอมีคนงานดูแล ก็ไปคิดอย่างอื่น ลืมความคิดจะหาบ้านให้เค้า ปล่อยเวลาผ่านไป แต่พอคนงานมาขอลากลับบ้าน จึงเกิดปัญหา
เพราะ เค้าบอกว่า อาจกลับ 1 เดือน คือ ฟังแล้ว ยอมรับว่า ตกใจมาก และ รู้ได้ทันทีว่า แฟนเรา กับ เรา ต้องสภาพไหน
ยอมรับว่าแฟนเรา เค้าก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน เพราะ 200 กว่าตัว แค่ ทำความสะอาดอย่างเดียวก็แทบตาย แต่ เราต้องอาบน้ำให้เค้าด้วย
ทำงานด้วย หาค่าใช้จ่ายเค้าด้วย แถมสภาพร่างกายเราด้วย จะเอาเวลาไหน หรือ แรงไหนมาทำได้ เราจึงต้องตัดสินใจแล้ว ยอมรับว่าเครียดมาก
แต่ต้องตัดสินใจแล้ว ยอมรับว่า จำเป็นต้องแจกตัวผู้ก่อน เพราะ ถ้าแจกตัวเมีย แล้ว โดนเอาไปบรีดต่อ เราไม่อยากให้เค้าเป็นแบบนั้นแล้ว
เราจึงตัดสินใจแจกตัวผู้ก่อน แล้ว ค่อยๆทำหมันตัวเมีย แล้วแจกตามไป จนหมด มันคงไม่ใช่เวลาแป้ปๆ คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก
ซึ่งคงหนักไปทาง ใช้เวลาทำใจของเราสองคน แต่ มันต้องทำแล้ว สองคนกอดกันร้องไห้มาแล้ว ไม่อยากทำแบบนี้เลย แต่ มันต้องทำแล้ว
ถ้าวันหนึ่งไม่มีคนงาน จะทำไง ถ้าวันหนึ่งงานที่ทำมีปัญหา จะหาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าใช้จ่ายเค้า คนอ่ะอดได้นะ แต่หมาอ่ะจะอดไง คิดวนเวียนมาตลอด
จริงๆตอนแรกประกาศในเฟสส่วนตัวค่ะ แต่มีคนแนะนำว่า ลองมาประกาศที่นี่ น่าจะหาบ้านที่ดีให้เค้าได้ แต่ คงต้องบอกไว้ก่อนว่า ขอคนที่รักจริง พร้อมจะดูแลเค้าจริงๆ ความพร้อมคือ มีเงินพาเค้าไปหาหมอได้แบบไม่ต้องมาประกาศหาคนช่วย และ ไม่ต้องรอเวลาหาเงิน อันนี้ตรงๆเลยอะนะค่ะต้องขอโทษด้วยไม่ได้คิดจะดูถูกใคร อยากได้คนที่สามารถเลี้ยงดูเค้าได้ในบ้าน ไม่ใช่ให้อยู๋นอกบ้าน เค้าไม่ใช่หมาพันธุ์ที่สามารถอยู่นอกบ้านได้ อยากได้คนที่กอดเค้าได้ทุกวัน เพราะกุ้งไม่มีตรงนี้ให้เค้าเลยค่ะตอนนี้ อยากได้คนที่พาเค้าไปเที่ยวได้ เพราะเค้าไม่ได้จากกุ้งเลยค่ะ อยากได้คนที่สามารถติดต่อได้ง่ายๆ เพราะกุ้งเคยให้ไปบ้าง แล้ว หายต๋อมเลยค่ะ ทุกข์ใจมากค่ะ ไม่รู้ว่าลูกเป็นตายร้ายดียังไงค่ะ อยากได้คนที่มีเฟสที่มีการอัพเดทพวกเค้าให้เห็นบ้าง
การสกรีนบ้านให้ลูกๆ กุ้งจะขอพูดตรงๆในทุกๆเรื่อง ยังไงคงต้องรบกวนพูดตรงๆนะค่ะ จะได้สบายใจทั้งสองฝ่ายค่ะ
ท่านใดคิดว่า สามารถรับน้องไปเลี้ยงดูได้ ติดต่อหลังไมค์กุ้งมาได้ที่ facebook ของกุ้งนะค่ะ
https://www.facebook.com/chihuahuaatlove
ขอไม่ดราม่านะค่ะ เพราะแค่นี้ ก็ทุกข์ใจพอแล้ว ไม่มีใครอยากทิ้งสิ่งที่ตัวเองรักหรอกนะ การตัดสินใจนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆตัดสินใจง่ายๆ แต่เมื่อมาถึงทางตัน ถึงจุดหนึ่งที่ต้องตัดสินใจ ก็คงต้องทำ ตอนนี้ทำได้แค่ เลือกบ้านที่ดีที่สุดให้เค้า ไม่อยากเลือกบ้านที่ผิดๆเลยค่ะ ยังไงขอร้องนะค่ะ ถ้าท่านใดไม่พร้อมจริงๆ ไม่ต้องติดต่อมานะค่ะ เพราะรับไปแล้ว เอามาคืน นี่ เสียความรู้สึกทั้งคนทั้งหมานะค่ะ สงสารกันด้วยนะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ