ฝากถึงทุกคนที่ติดตาม BNK48 และเรื่องอื่น ๆ

ตั้งแต่ปีนี้มา BNK48 ได้ขึ้นเล่นมินิคอนเสิร์ตหลายงานมาก ไม่ว่าจะเป็นงานเกม งานโปรโมทสินค้า งานอะไรก็แล้วแต่จะมีแฟนคลับตามไปทุกงาน คนที่ตามไปส่วนมากก็จะมีหน้าเดิม ๆ ที่คุ้นเคยกันเจอกันที่ตู้ปลา ก็ยินดีกับน้อง ๆ ด้วยที่มีงานเข้ามามากมายทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังนะครับ


แต่ผมไม่ได้จะพูดถึงน้อง ขอพูดถึงคนที่ติดตามหน่อยละกัน ตั้งใจจะมาด่าแหละเอาง่าย ๆ สำหรับใครที่เพิ่งเคยไปโผล่ในอีเวนท์ต่าง ๆ ที่ BNK ไปร่วมงานไม่ว่าจะงานอะไรก็ตาม ขอให้คิดหลาย ๆ อย่างหน่อย สำหรับแฟนคลับรุ่นแรก ๆ ซึ่งส่วนมากจะเป็นตากล้อง คือตากล้องทุกคนมารยาทดีมากจริง ๆ ทุก ๆ งานที่ไปตากล้องไม่ว่าจะเป็นของทีมงานเองหรือแฟนคลับ(ถ้าทีมงานจะมีสเตจสำหรับกล้องหลัก) ตากล้องแฟนคลับจะหามุมตั้งบันไดหรือเก้าอี้ที่พกไปอยู่ข้างเสาหรือตรงไหนก็ตามที่เป็นมุมอับที่สายตามนุษย์ไม่สามารถมองทะลุผ่านไปได้ แต่ที่แย่ก็คือผู้ติดตามที่เป็น Passerby


ถึงจุดนี้ผมเข้าใจว่า BNK48 เป็นที่สนใจของสังคมมาก ๆ ทุก ๆ คนก็คงอยากเห็นอยากสัมผัสตัวจริงทั้งนั้น เมื่อตากล้องแฟนคลับจับจองพื้นที่ถ่ายภาพแล้ว ก็จะเหลือที่สำหรับคนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้ดู สำหรับบริเวณนั้นใครมาก่อนก็จับจองพื้นที่ก่อน อันนี้ไม่ว่ากัน แต่!! พอน้อง ๆ ขึ้นเวทีมา จะยกมือถือขึ้นมากันทำอะไร จะอยากไลฟ์ลงเฟสบุ๊คไปทำไม มันบังคนอื่น ๆ ที่เขาอาจจะมาต่อข้างหลัง แทนที่เขาจะได้ดูได้มองเห็นบ้างผ่านซอกหูหรืออะไรก็ตามที่มันน่าจะเป็นไปได้ กลับมองไม่เห็นเลย


ไม่ใช่ว่าผมไปช้าไม่มีการเตรียมตัวไปดู พอดูไม่ได้แล้วหัวร้อนจะมาด่า มันไม่ใช่ ผมไปดูน้อง ๆ ที่ตู้ปลาบ่อย ๆ อยู่ผมไม่ได้หัวร้อนเพราะไม่ได้ดู ผมจะไปดูน้องตอนไหนก็ได้ไม่ได้ซีเรียสอะไร ที่ออกมาพูดนี่คือมันสุดทนแล้วจริง ๆ มันหลายงาน แทนที่คนอื่นเค้าจะได้ดูบ้างกลับไม่เห็นอะไรเลยเพราะชูมือถือขึ้นมาไลฟ์กัน แบบล่าสุดงานที่ฟิวเจอร์พาร์ค ตอนแรกก็เห็นหัวน้องไข่มุกอยู่หรอก พอเริ่มเพลงเท่านั้นแหละ ไม่เห็นแม้ที่คาดผมเลย


บางส่วนที่ยกมือถือขึ้นมานี่เพราะว่าก็คงดูด้วยตาตัวเองไม่เห็นเหมือนกันเลยยกมือถือมาแล้วดูผ่านมือถือ แต่ผมก็ไม่อนุโลมให้ในการที่จะด่านะ มันก็คือการตัดสิทธิ์ผู้อื่นเหมือนกัน แต่สำหรับคนที่ไลฟ์เฟสบุ๊คนี่ทำไปทำไม ตากล้องบางคนใช้เลนส์ 70-200 สุดระยะยังแทบไม่รอด มือถือนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย


ผมก็เลยลองคิดดูว่า ทำไมคนพวกนี้ถึงอยากไลฟ์ลงเฟสบุ๊ค ก็เลยได้คำตอบในหัวตัวเองประมาณว่า "BNK48 กำลังโด่งดังมาก ๆ การที่เราได้เข้าไปร่วมงานอะไรที่มันมีคนดังมาแล้วเราโชว์ให้คนอื่นดู คนอื่นต้องอิจฉาเราแน่ ๆ เลยที่เราได้มา!"ร้องไห้มันอาจจะไม่เป็นแบบนี้ก็ได้) อะไรแบบนี้รึเปล่า ผมก็ไม่รู้นะผมแค่จำลองความคิดคนอื่นในหัวตัวเอง สำหรับผมมันไม่น่าอิจฉาเลยซักนิดเพราะผมก็ไปเห็นน้องบ่อย ๆ ที่ตู้ปลาอะไรแบบนี้ แต่สำหรับคนที่เพิ่งเคยครั้งแรกก็อาจจะมีอารมณ์แบบนั้นก็ได้


แล้วก็อีกอย่างนึงที่เจอเลยคือ ไออารมณ์จำลองของผมมันอาจจะเป็นจริงก็ได้คือ งานที่ฟิวเจอร์พาร์คมีมนุษย์ป้าท่านหนึ่ง อายุน่าจะ 50+ พอน้อง ๆ ขึ้นเวทีปุ๊บ หยิบมือถือตั้งกล้องรอ แล้วเบียดคนอื่นซึ่งทุก ๆ คนน่าจะรู้ดีว่า BNK ไปงานไหนห้างแตกทุกงาน คุณป้าท่านนี้ก็เบียดคนอื่น(แบบน่าเกลียด)เพื่อจะไปถ่ายรูปให้ได้ โดยที่ไม่รู้หรอกว่าไอที่มันขึ้นแสดงอยู่คืออะไร แต่การ Mass ของหมู่คนขนาดนี้มันต้องเป็นอะไรที่ใหญ่ และป้าก็ต้องถ่ายรูปให้ได้เพื่อไปอวดใคร ๆ ก็ตาม


ประเด็นวันนี้คือจะมาด่าเรื่องการชูมือถือในการรับชมการแสดง มันควรจะหยุดนะการกระทำนี้ผมว่า แล้วก็ฝากถึงผู้จัดงานด้วยควรจะกำชับคนดูว่าอย่ายกขึ้นมา หรืออย่ายกสูง ซึ่งมีงานเดียวที่ผมได้ยินพิธีกรในรายการประกาศคืองาน MBK Cover Dance 2017 ว่าไม่ให้ยกมือถือขึ้นมา ให้เกรงใจคนอื่นด้วยเดี๋ยวคนข้างหลังจะมองไม่เห็น และงานอื่น ๆ ที่ตามมาในช่วงหลัง ๆ จะเป็นงานสเตจต่ำ สูงแค่ประมาณ 60 cm. แต่สิ่งที่พิธีกรรายการประกาศนั้นมันตรงข้างกับสิ่งที่ควรจะเป็น ในงานขนมแท่งเคลือบรสชาติต่าง ๆ พิธีกรกลับประกาศว่า "เตรียมมือถือของคุณให้พร้อม น้อง ๆ ออกมาเมื่อไรกดให้ยับ" เห้ยมันใช่หรอวะ มันควรจะบอกให้เกรงใจคนข้างหลังดิ ปกติคนมันก็ไม่มีมารยาทอยู่แล้ว ยังจะไปส่งเสริมอีกทำไม ผมกับเพื่อนไปถ่ายรูปมา เหมือนไม่ใช่งานขนมอะ เหมือนงานขายมือถือ ไม่รู้อะไรตากล้องคนอื่นแทนที่เขาจะได้ภาพดี ๆ กลับได้แต่รูปมือถือเต็มไปหมด


ฝากอีกถึงผู้จ้างงานรายต่อ ๆ ไป ผมเข้าใจการตลาดว่าการเอาสิ่งที่กำลังโด่งดังมาเป็นสิ่งล่อใจในการซื้อสินค้า แต่ขอร้องดูด้วยว่าสินค้าคุณเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายแบบไหนเช่น งานเกม 10^12 Online กลุ่มเป้าหมายของการเล่นเกมคือชายฉกรรพ์ ถูกต้องเลย สรุปจบงานเป็นไง เกมเมอร์ผันตัวเป็นโอตะ เจ๊งครับ 5555 แล้วอีกงานนี่ผมคิดว่ามันผิดกลุ่มเป้าหมายมาก ๆ เลยก็คืองานเปิดตัวร้านเครื่องสำอางอะไรซักอย่าง เครื่องสำอางแน่นอนคือของผู้หญิงใช้กัน แต่แฟนคลับ BNK ส่วนใหญ่ราว 80%เป็นผู้ชาย แล้วถ้าคุณจะคิดต่อยอดไปว่าเผื่อชายฉกรรพ์เหล่านี้จะซื้อไปให้แฟนใช้ ทานโทษนะฮะผู้ชายที่มาตามดูผู้หญิง 25 คนนี่เขาน่าจะมีแฟนกันหมดใช่มั้ยครับ จะบ้าหรอผู้หญิงที่ไหนจะปล่อยแฟนออกมาวิ่งตามผู้หญิงอื่นอีก 25 คน เพราะพวกเขาไม่มีแฟนไงเลยออกมาทำแบบนี้ได้(ไม่ทุกคนนะบางคนก็มีแฟน แฟนก็เป็นโอตะเหมือนกันก็มี)


แล้วก็ในงานต่อ ๆ ไปถ้าจะจ้างน้อง ๆ ไปเล่นก็ไม่ขัดนะครับ แต่ผมสงสารน้อง น้องบางคนที่ได้ไปทุกงานคนอยากเจอคนอยากเห็นมันก็ดีสำหรับน้อง แต่น้องไม่ได้พักผ่อนไง บางคนยังพูดออกไลฟ์อยู่เลยว่าได้นอน 3 ชั่วโมง มันไม่เพียงพอเว้ยให้ตายเถอะ แล้วก็อีกมุมนึงคือน้อง ๆ under girls ได้รับงานในส่วนนี้น้อย ที่น่าสงสารคือน้องก็มีใจรักที่จะทำงานในส่วนนี้เหมือนคนอื่น ๆ แต่ไม่ได้รับงานซักที เห็นใจน้อง ๆ เหมือนกัน แต่ผมก็เข้าใจว่าการตลาดการโฆษณาต้องเอาสิ่งที่มีชื่อเสียงมาโน้มน้าวการซื้อ


วันนี้แค่นี้ละกันครับ ผมไม่ได้ดีกว่าคนอื่นอะไรถึงจะมาด่าได้นะ แต่บางอย่างก็สมควรแก้ไข ตรงไหนที่ผมว่ามามันผิดนี่ติได้เลย ด่าก็ได้ครับแต่ขออย่าหลงประเด็นก็พอ คิดกันดี ๆ คิดกันเยอะ ๆ เพื่อสังคมที่มันจะได้ดีขึ้นสำหรับทุก ๆ คน
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ร้านเครื่องสำอาง ที่น้องไปออกเขาไม่ได้ขายเเต่เครื่องสำอางหญิงนะ
ขายของดูเเละผิวผู้ชายก็มี ซึ่งการจ้างดาราไปออกอีเว้นเขาไม่ได้ดูกลุ่มเป้าหมายชัดเจน คนจ้างต้องการดาราที่เรียกคนได้ไปร่วมงานเฉยๆ
อันนี้คือช่วงกอบโกยของน้องๆเเล้ว ตอนนี้มีกระเเส รายได้หลักตอนนี้น้องได้จากพรีเซ็นเตอร์ 70 เปอร์เซ็น รองลงมาคืออีเว้น
เเละถึงเป็นการขายของปัจจุบัน BNK48 ขายในตลาดเเมสที่ขายคนนอกเรียกคนนอกมาดูได้เเล้วมันก็อยู่ในช่วงกอบโกยนี่เเหล่ะ

ส่วนเรื่องยกมือถือไม่มีสิทธิ์อะไรไปห้ามเขานะ งานช่วงหลังที่น้องออกคือ อีเว้นงานฟรีที่ผู้จ้างว่าจ้างงานน้องๆเพื่อเรียกคนมาดูการที่เขา
ไม่ห้ามถ่ายรูปเพราะ มันคือเหตุผลทางการตลาดล้วนๆ งานอีเว้น เขายอมเสียเงินจ้างน้องไปร้องเป็นเเสนนะเจ้าของงานน่ะ
เขาต้องการเรียกคนมาสนใจ การที่เขาไม่ห้ามยกมือถือเพราะ เมื่อมีคนถ่ายรูปน้อง มันก็ติดเเบรนด์สินค้าเขาไปด้วย เป็นการโฆษณา
ทางโซเชียลไปโดยอัตโนมัติ โอตะต้องทำความเข้าใจว่า ตอนนี้น้องไม่ได้มีเเค่โอตะที่ตามเเล้ว คนนอกทั่วไปเดินผ่านไปมาในห้าง
อยากเห็นน้องอยากดูน้องครั้งเเรก เเละมันเป็นอีเว้น ที่เข้าชมฟรี ไม่มีสิทธิ์อะไรไปห้ามเขาถ่ายรูปถ้าเจ้าของงานไม่ห้าม เพราะนั่นคือ
จุดประสงค์ของเจ้าของงานเลยว่าต้องการให้งานดูอลังการ มันเป็นงานฟรี ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์ห้ามยกกล้องมือถือมาถ่ายถ้าเจ้าของงาน
ไม่ห้าม เพราะเจ้าของงานต้องการเเบบนั้น ถึงยอมเสียเงินจ้างน้องไปออกอีเว้น เป็นเเสนๆ

ส่วนป้าขอไม่ออกความเห็นมันเป็นนิสัยส่วนบุคคลเขา อันนี้ไม่ดีจริงๆถ้าทำอย่างที่เจ้าของกระทู้ว่า

สิ่งที่เจ้าของกระทู้ต้องปรับตัวคือต้องยอมรับมันในตอนนี้ว่าน้องไม่ได้มีเเค่โอตะที่ตามอีกต่อไปเเล้วน้องกลายเป็นของเเมสที่ใครๆก็อยาก
เห็นอยากถ่ายรูป ซึ่งในสังคมไทยการเกิดเเบบนี้ถือว่าประสบความสำเร็จมากๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่