ผมเห็นคลิปล่าสุดที่ศรีสะเกษทานซุปไก่ 2 ขวดแบรนซุป 2 ขวดหลังจากลดน้ำหนักอย่างหักโหม 2.2 กิโลใน 1 สัปดาห์ (นี่ก็หักโหมพอแล้ว)แล้วมาเจอทีเด็ดที่แบกไปจากประเทศไทยไม่ได้มีประโยชน์ใดๆในทางวิทยาศาสตร์เลย
แม้จะมีข่าวมากมายว่าให้เชื่อมั่น เรื่องการทำน้ำหนัก ไว้ใจทีมงาน ผมก็คิดว่ามันมีผลมากอยู่ดีในการชก กับการลดน้ำหนักหักโหมแบบนี้ 2.2โลใน1สัปดาห์ก่อนชกไฟต์สำคัญกับนักชกระดับมหาโหด แล้วยิ่งเห็นอาหารที่ทีมงานจัดมาให้นั่งกินหลังชั่งน้ำหนักเสร็จ แล้วยิ่งเห็นกับตาพลังหมัดศรีสะเกษไม่เหมือนเดิมแถมหมดตั้งแต่ยก 9 ไอเดียการชกไม่ธรรมชาติเหมือนเดิมเหมือนสมองล้าๆ หมัดชุดที่เคยมีหายไป
คือพอเถอะครับความเชื่อ ไปดูวิทยาศาสตร์การกีฬา ปรึกษาคนไทยที่เก่งด้านนี้ก็ได้ว่าเขากินอะไรเพื่อเพิ่มแรงในระยะสั้นๆ ก่อนวิ่งมาราธอน ก่อนขึ้นชก แล้วกินไปทำไม น้ำต้มไก่ใส่สี กับสิ่งที่เรียกว่ารังนก ที่ใส่อยู่ประมาณไม่ถึง 1% ของทั้งขวด แล้ว เมื่อแยกสกัดออกมามันก็คือแป้งธรรมดาไม่กี่กรัม ผมมั่นใจว่า ทีมงานของแมนนี่ปาเกียวหรือนักมวยดังๆไม่ให้กินสิ่งเหล่านี้แน่นอนและให้กินอย่างอื่น ที่มันมีประโยชน์ในการเตรียมตัวขึ้นชกมากกว่า เวย์โปรตีนรู้จักไหม L glutamine L Carnitine ครีเอทีน bcaa powergel หรืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ น้ำต้มไก่ใส่สี และน้ำหวานรังนก 1 เปอร์เซ็นต์
ผมอยากให้แก้จริงๆหรือถ้าค่ายไม่อยากแก้ผมคิดไปอีกทางเลย ผมอยากให้ค่ายต่างชาติเอาศรีสะเกษไปดูแลด้วยซ้ำ แบบแมนนี่ปาเกียว เพราะว่าวิทยาศาสตร์เหล่านั้นมันดีกว่ากันเยอะ จะส่งผลต่อตัวนักมวย ปาเกียวที่ตอนแรกเป็นมวยเอามาต่อยอุ่นเครื่องกับนักมวยไทยธรรมดาหลังหลังกลายไปเป็นระดับโลก ก็เพราะเจอคนเอาไปดูแลอย่างเหมาะสม พอบวกกับพรสวรรค์ที่มีเลยเฉิดฉายขึ้นไปอีกหลายระดับ มันไปได้ไกลกว่านี้จริงๆถ้าอาหารการกินระหว่างฝึกซ้อมถูกต้อง
ผมตั้งกระทู้นี้รู้เลยว่าเดี๋ยวต้องมีดราม่าเพราะการที่จะเอาความเชื่อออกจากหัวสังคมใดๆมันยาก สังคมไทย ที่ถูกครอบด้วยอำนาจเงินการตลาดของธุรกิจ ที่ปั่นให้เชื่อว่ากินแบบนี้แล้วดี แต่ถ้าเอาไปเข้าแลปดู ก็จะรู้ความจริง แต่ความจริงก็ถูกปกปิด โดยธุรกิจอำนาจเงิน และทีมงานก็คือคนธรรมดาที่รับฟังสื่อการตลาดครอบหัวจากนักธุรกิจ ซึ่งมันมีผลกระทบกับนักมวยพรสวรรค์แบบนี้ แรงหมด หมัดเบาลง สมองไม่แล่น ผมว่าไม่สมควรจะเกิดขึ้นจริงๆ
ศรีสะเกษกับอาหารที่กินหลังจากลดน้ำหนักอย่างหักโหม ไม่ใช่วิทยาศาสตร์การกีฬา มีแต่อาหารตามความเชื่อ ส่งผลต่อแรงตก หมัดเบา
แม้จะมีข่าวมากมายว่าให้เชื่อมั่น เรื่องการทำน้ำหนัก ไว้ใจทีมงาน ผมก็คิดว่ามันมีผลมากอยู่ดีในการชก กับการลดน้ำหนักหักโหมแบบนี้ 2.2โลใน1สัปดาห์ก่อนชกไฟต์สำคัญกับนักชกระดับมหาโหด แล้วยิ่งเห็นอาหารที่ทีมงานจัดมาให้นั่งกินหลังชั่งน้ำหนักเสร็จ แล้วยิ่งเห็นกับตาพลังหมัดศรีสะเกษไม่เหมือนเดิมแถมหมดตั้งแต่ยก 9 ไอเดียการชกไม่ธรรมชาติเหมือนเดิมเหมือนสมองล้าๆ หมัดชุดที่เคยมีหายไป
คือพอเถอะครับความเชื่อ ไปดูวิทยาศาสตร์การกีฬา ปรึกษาคนไทยที่เก่งด้านนี้ก็ได้ว่าเขากินอะไรเพื่อเพิ่มแรงในระยะสั้นๆ ก่อนวิ่งมาราธอน ก่อนขึ้นชก แล้วกินไปทำไม น้ำต้มไก่ใส่สี กับสิ่งที่เรียกว่ารังนก ที่ใส่อยู่ประมาณไม่ถึง 1% ของทั้งขวด แล้ว เมื่อแยกสกัดออกมามันก็คือแป้งธรรมดาไม่กี่กรัม ผมมั่นใจว่า ทีมงานของแมนนี่ปาเกียวหรือนักมวยดังๆไม่ให้กินสิ่งเหล่านี้แน่นอนและให้กินอย่างอื่น ที่มันมีประโยชน์ในการเตรียมตัวขึ้นชกมากกว่า เวย์โปรตีนรู้จักไหม L glutamine L Carnitine ครีเอทีน bcaa powergel หรืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ น้ำต้มไก่ใส่สี และน้ำหวานรังนก 1 เปอร์เซ็นต์
ผมอยากให้แก้จริงๆหรือถ้าค่ายไม่อยากแก้ผมคิดไปอีกทางเลย ผมอยากให้ค่ายต่างชาติเอาศรีสะเกษไปดูแลด้วยซ้ำ แบบแมนนี่ปาเกียว เพราะว่าวิทยาศาสตร์เหล่านั้นมันดีกว่ากันเยอะ จะส่งผลต่อตัวนักมวย ปาเกียวที่ตอนแรกเป็นมวยเอามาต่อยอุ่นเครื่องกับนักมวยไทยธรรมดาหลังหลังกลายไปเป็นระดับโลก ก็เพราะเจอคนเอาไปดูแลอย่างเหมาะสม พอบวกกับพรสวรรค์ที่มีเลยเฉิดฉายขึ้นไปอีกหลายระดับ มันไปได้ไกลกว่านี้จริงๆถ้าอาหารการกินระหว่างฝึกซ้อมถูกต้อง
ผมตั้งกระทู้นี้รู้เลยว่าเดี๋ยวต้องมีดราม่าเพราะการที่จะเอาความเชื่อออกจากหัวสังคมใดๆมันยาก สังคมไทย ที่ถูกครอบด้วยอำนาจเงินการตลาดของธุรกิจ ที่ปั่นให้เชื่อว่ากินแบบนี้แล้วดี แต่ถ้าเอาไปเข้าแลปดู ก็จะรู้ความจริง แต่ความจริงก็ถูกปกปิด โดยธุรกิจอำนาจเงิน และทีมงานก็คือคนธรรมดาที่รับฟังสื่อการตลาดครอบหัวจากนักธุรกิจ ซึ่งมันมีผลกระทบกับนักมวยพรสวรรค์แบบนี้ แรงหมด หมัดเบาลง สมองไม่แล่น ผมว่าไม่สมควรจะเกิดขึ้นจริงๆ