คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
เรื่องแบบนี้ ไม่ค่อยอยากตัดสินว่าให้ทำอย่างนู้นอย่างนี้เลยค่ะ
แต่ขอแนะนำในฐานะผู้มีประสบการณ์ใกล้เคียงนะคะ
ก่อนอื่นหนูต้องดูนิสัยของคุณพ่อคุณแม่ก่อนนะ ว่าเป็นคนประเภทไหน พอจะพูดคุยได้ไหม
ถ้าคุณพ่อคุณแม่เป็นคนอารมณ์รุนแรง ไม่ค่อยรับฟัง แนะนำว่าอย่ายุ่งดีกว่าค่ะ ให้เขาตัดสินกันเอง
แต่ถ้าพอจะสนิทกันอยู่บ้าง พอคุยได้ ขอแนะนำให้ลองพูดกับคุณพ่อดูก่อนนะคะ ว่าพฤติกรรมนี้พอจะหยุดได้ไหม
ลองดูท่าทีตอบกลับ ถ้าคุณพ่อดูมีความรู้สึกผิดกับเรื่องที่ทำอยู่บ้าง ให้ลองเกลี้ยกล่อมเรื่อยๆค่ะ ค่อยๆพูด ไม่ใช้อารมณ์กันนะคะ
แต่ถ้าคุณพ่อดูมีท่าทีต่อต้าน หรือไม่รู้สึกผิด ก็หยุดคุยกับคุณพ่อค่ะ แล้วหันมาทางคุณแม่แทน
ถ้าเป็นเรา เราจะเล่าเรื่องที่เรารู้ทั้งหมดให้คุณแม่ฟัง (พยายามอย่าใส่อารมณ์ร่วมนะคะ เล่าในฐานะคนที่มองอยู่ด้านนอก)
และพยายามรับฟังคุณแม่ให้มากๆนะคะ ตอนนี้คุณแม่อาจจะกำลังทุกข์ใจ และต้องการระบาย ฟังเงียบๆ ให้เขารู้ว่าเรายังมีเราอยู่ข้างเขา
ลองฟังการตัดสินใจของคุณแม่ว่าจะเอายังไงต่อไป คอยเบรกอารมณ์เป็นพักๆ อย่าให้เขาเอาอารมณ์อยู่เหนือเหตุผลในการตัดสินใจจะดีค่ะ
สุดท้าย ก็เคารพในการตัดสินใจของคุณแม่ค่ะ จะเกิดอะไรขึ้นจากนี้ ให้เราอยู่ในฐานะเพื่อนเคียงข้างนะคะ
ก่อนจะตัดสินใจอะไร อยากให้ลองคิดพิจารณาดูอีกรอบนะคะ ไม่อยากให้ทำตามทุกคำพูดเลย เพราะสถานการณ์ของเราก็ต่างกันเนาะ แต่ที่พิมพ์คือหวังว่าจะช่วยอะไรได้ไม่มากก็น้อยนะคะ
ห้าม! โยนความผิดให้ตัวเองเด็ดขาด เราผ่านจุดนั้นมาแล้ว สุดท้ายแล้วนี่ก็เป็นเรื่องของเขาสองคนเนาะ เราพยายามอยู่นิ่งๆได้จะดีที่สุดค่ะ
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าสถานการณ์ดีขึ้น ก็ยินดีด้วยมากๆนะคะ แต่ถ้าอะไรแย่ลง ก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามนั้นเนาะ เป็นกำลังใจให้นะคะ เครียดได้ แต่อย่าให้มันส่งผลกระทบต่อตัวเรามากจนเกินไปนะคะ
แต่ขอแนะนำในฐานะผู้มีประสบการณ์ใกล้เคียงนะคะ
ก่อนอื่นหนูต้องดูนิสัยของคุณพ่อคุณแม่ก่อนนะ ว่าเป็นคนประเภทไหน พอจะพูดคุยได้ไหม
ถ้าคุณพ่อคุณแม่เป็นคนอารมณ์รุนแรง ไม่ค่อยรับฟัง แนะนำว่าอย่ายุ่งดีกว่าค่ะ ให้เขาตัดสินกันเอง
แต่ถ้าพอจะสนิทกันอยู่บ้าง พอคุยได้ ขอแนะนำให้ลองพูดกับคุณพ่อดูก่อนนะคะ ว่าพฤติกรรมนี้พอจะหยุดได้ไหม
ลองดูท่าทีตอบกลับ ถ้าคุณพ่อดูมีความรู้สึกผิดกับเรื่องที่ทำอยู่บ้าง ให้ลองเกลี้ยกล่อมเรื่อยๆค่ะ ค่อยๆพูด ไม่ใช้อารมณ์กันนะคะ
แต่ถ้าคุณพ่อดูมีท่าทีต่อต้าน หรือไม่รู้สึกผิด ก็หยุดคุยกับคุณพ่อค่ะ แล้วหันมาทางคุณแม่แทน
ถ้าเป็นเรา เราจะเล่าเรื่องที่เรารู้ทั้งหมดให้คุณแม่ฟัง (พยายามอย่าใส่อารมณ์ร่วมนะคะ เล่าในฐานะคนที่มองอยู่ด้านนอก)
และพยายามรับฟังคุณแม่ให้มากๆนะคะ ตอนนี้คุณแม่อาจจะกำลังทุกข์ใจ และต้องการระบาย ฟังเงียบๆ ให้เขารู้ว่าเรายังมีเราอยู่ข้างเขา
ลองฟังการตัดสินใจของคุณแม่ว่าจะเอายังไงต่อไป คอยเบรกอารมณ์เป็นพักๆ อย่าให้เขาเอาอารมณ์อยู่เหนือเหตุผลในการตัดสินใจจะดีค่ะ
สุดท้าย ก็เคารพในการตัดสินใจของคุณแม่ค่ะ จะเกิดอะไรขึ้นจากนี้ ให้เราอยู่ในฐานะเพื่อนเคียงข้างนะคะ
ก่อนจะตัดสินใจอะไร อยากให้ลองคิดพิจารณาดูอีกรอบนะคะ ไม่อยากให้ทำตามทุกคำพูดเลย เพราะสถานการณ์ของเราก็ต่างกันเนาะ แต่ที่พิมพ์คือหวังว่าจะช่วยอะไรได้ไม่มากก็น้อยนะคะ
ห้าม! โยนความผิดให้ตัวเองเด็ดขาด เราผ่านจุดนั้นมาแล้ว สุดท้ายแล้วนี่ก็เป็นเรื่องของเขาสองคนเนาะ เราพยายามอยู่นิ่งๆได้จะดีที่สุดค่ะ
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าสถานการณ์ดีขึ้น ก็ยินดีด้วยมากๆนะคะ แต่ถ้าอะไรแย่ลง ก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามนั้นเนาะ เป็นกำลังใจให้นะคะ เครียดได้ แต่อย่าให้มันส่งผลกระทบต่อตัวเรามากจนเกินไปนะคะ
แสดงความคิดเห็น
พ่อนัดเจอกับคนอื่น เราควรขอให้พ่อเลิกทำมั้ย?