สวัสดีเพื่อนๆ ชาวpantip ทุกคนค่าา กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ จขกท เขียนรีวิว ถ้ามีอะไรผิดพลาด ก็ขออภัยด้วยน้าค้า
วันนี้จะมารีวิวการไปตามล่าหาใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นกันค่ะ
ช่วงที่ไปคือ8-16 พฤศจิกายน 2017 [9วัน7คืน]
สมาชิก6คน
เดินทางโดยสายการบิน AirAsia X
การวางแผนน ทริปนี้วางแผนง่ายมากเลยค่ะ เนื่องจากมี6คนก็ ให้ทุกคนไปหาที่ๆอยากไปมา แล้วจขกท ก็จัดตารางการเดินทางและที่พัก ให้สะดวกและถูกที่สุดค่ะ โดย สถานที่ๆเพื่อนๆอยากไปก็จะมี 1.outdoor onsen 2.fujiQ 3.Disneysea 4.fukiware fall 5.tokyo 6.คือที่ๆมีใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ และนี่คือแผนการเดินทางและคาดการงบประมาณค่าใช้จ่ายของเราค่ะ
Link ตอนที่ 2 ค่ะ (เผื่อใครหาไม่เจอ)
https://pantip.com/topic/37467121
Day0-8/11/17 {Gogo Japan}
บินสู่Japan ด้วยสายการบิน AirAsia X
Day1- 9/11/17 {Kawaguchiko}
ถึงญี่ปุ่นแล้วววว พวกเรามาถึงญี่ปุ่นตอน 8:00น (Narita-terminal2) อากาศช่วงนี้กำลังเย็นสบายเลยค่ะ (แอบหนาวตอนที่มีลมพัดผ่าน) เป้าหมายของเราในวันนี้คือการเดินทางจาก
Tokyo—-> Kawaguchiko หลังจากรอรับกระเป๋าและผ่าน ตม.เรียบร้อยแล้ว เราก็ไป ซื้อตั๋ว JR tokyo wide pass (10,000yen-ใช้ได้3วันติดต่อกันเท่านั้น) ซึ่งเราจะเปิดใช้วันที่11-13 ค่ะ หลังจากซื้อJRเราก็ซื้อ NEX รถไฟความเร็วสูงของญี่ปุ่น (4000฿round trip) เพื่อนั่งเข้าเมืองไปยัง Shinjuku station (ที่ๆเราจะไปขึ้นรถบัสไปkawaguchiko)
ระหว่างรอขึ้นNEX ก็แอบถ่ายภาพคุณลุง เจ้าหน้าที่ประจำสถานีมาด้วย
หลังจากที่มาถึงShinjuku station แล้วเราก็ไปจองตั๋วรถBus หาข้าวเที่ยวกินและเดินเล่นกันนิดหน่อยค่ะ
อันนี้วิวจากรถบัสที่เรานั่งมุ่งหน้าสู่ Kawaguchiko สวยมากๆเลยค่ะ
ยิ่งนั่งออกไปไกลจากเมืองเท่าไหร่ก็ยิ่งสวยมากขึ้น ถ้าใครเผลอหลับบนรถ ก็น่าเสียดายมากๆเลยหละค่ะ
##วิธีเข้าเมืองจากสนามบินมีหลายวิธีมาก เราเลือกNEXเพราะ 1)สะดวกรวดเร็ว 2)ส่งเราถึง shinjuku station เลย
https://chillchilljapan.com/how-to-go-tokyo-from-narita/
##JR Tokyo wide pass เลือกใช้passนี้เพราะ จากการที่ จขกท คำนวณค่าเดินทางโดยรถไฟทั้งหมดแล้ว ดูpassอื่นๆ ไม่คุ้ม มีคุ้มที่สุดคือJR Tokyo wide pass ใช้แค่3วันบวกกับการเดินทางด้วยรถไฟเป็นรอบ คุ้มกว่าจึงเลือกpass นี้
-JR Tokyo wide pass ไม่มีขายในเมืองไทย ต้องไปซื้อที่ญี่ปุ่นเท่านั้น
https://www.jreast.co.jp/e/tokyowidepass/index.html?src=gnavi
-อันนี้เป็นที่เที่ยวและสถานีต่างๆที่ใช้ JR Tokyo wide passได้ค่ะ
http://www.jreast.co.jp/E/downloads/pdf/jtp_th.pdf
ถึง Kawaguchiko แล้ว หลังจากที่รถของทางที่พักมารับที่สถานีรถไฟและมาส่งเราเก็บของแล้ว พวกเราก็ขอยืมจักรยานออกไปสำรวจเมืองนี้กัน และเราก็ไม่ผิดหวังกับใบไม้เปลี่ยนสีของที่นี่เลยค่ะ สวยมากจริงๆ เรียกได้ว่า ช่วงที่พวกเรามา เป็นช่วงพีคของที่นี่เลย มีจัดงานแสดงไฟที่อุโมงค์เมเปิลตอนกลางคืนด้วย (แต่แนะนำว่าตอนกลางวันสวยกว่า เยอะ55555)
จากที่พักก็ออกไปเป็นถนนเส้นหลักเลยค่ะ แถมวิวสวยมากก
เห็นฟูจิซังชัดมาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เจอคุณยายถ่ายรูปให้คุณตา น่ารักมากๆเลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รูปหมูครอบครัว;)
แถมอีกรูปค่ะ หลังจากพวกเราเห็นว่าพระอาทิตย์ใกล้จะตกแล้ว พวกเราเลยขี่จักรยานกลับโดยใช้เส้นทางเลียบแม่นำ้ เพื่อกลับไปหาของกินกันค่ะ ซึ่งวิวแถวแม่นำ้สวยมาก ซึ่งเป็นเวลาพระอาทิตย์กำลังตกดิน ยิ่งสวยเลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอบคุณพี่ช่างภาพคนไทยที่เดินผ่านมาแถวนั้นมากๆเลยค่ะ สำหรับรูปสวยๆ🙏🏻
หลังจากนั่นเราก็ขี่จักรยานตามหาร้านที่ทางที่พักแนะนำมาว่าเป็นร้านพื้นเมือง อาหารแบบ original มากๆ
ระหว่างตามหาก็ได้วิวสวยๆยามคำ่คืนของที่นี่มาค่ะ
ตอนกลางคืนเปิดไฟแล้วก็สวยไปอีกแบบค่ะ ภาพสุดท้ายนี้คือเพื่อนๆจขกท หนาวมือกันมาก เพราะลืมเอาถุงมืออกมาด้วย เลยแอบเอามือไปผิงไฟตามข้างทางค่ะ 5555 (ตอนกลางคืนที่นี่ เดือนพฤษจิกายน ค่อนข้างหนาวนะคะ อากาศจะเย็นลงจนบางทีเหลือเลขตัวเดียวเลยค่ะ อย่าลืมเตรียมถุงมือ และผ้าพันคอให้พร้อมนะคะ)
ร้านอาหารที่ที่พักแนะนำมาหายากจริงๆค่ะ อาจเป็นเพราะมืดแล้วด้วย แต่พวกเราก็ไม่ย้อท้อ พี่ที่ขี่จักยานนำก็พยายามหาอย่างเต็มที่ [อากาศตอนกลางคืนหนาวมากกกตอนนั้นน่าจะเหลือ5องศา ใครที่มาเที่ยวก็อย่าลืมพกเสื้ออีกตัวมาเผื่อด้วยนะคะ] พวกเราขี่จักรยานไปตัวสั่นกันไป และในที่สุดก็ตามหาร้านจนเจอค่ะ แต่เราก็ผิดหวังกับอาหารนิดหน่อย คือว่ามันเป็นซุปผักที่ไม่มีเนื้อเลย แถมที่นั่นมีเมนู2อย่างคือ ซุปนี้กับ เนื้อม้า ซาซิมิค่ะ 0-0 ฟังดูแล้วหยึ๋ยมาก แต่เพื่อน จขกท ก็ลองสั่งมากินนะคะ
อันนี้เป็นซุปที่มีแต่ผักค่ะ
ส่วนอันนี้คือ เนื้อม้า ซาซิมิค่ะ นับถือเพื่อนๆที่กล้าสั่งมากินมากๆ สุดยอดมากค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากกินเสร็จเราก็แวะมินิมาท เพื่อหาเนื้อมากินเพิ่มค่ะ ตอนนั้นคือไม่ไหวแล้วจริงๆ ต้องการเนื้อมาก 55+
และเราก็กลับที่พักมานั่งกินกันก่อนแยกย้ายไปอาบนำ้นอนค่ะ
จบแล้ววันแรกของทริปเรา ไว้พรุ่งนี้จะมาลงวันต่อไปนะคะ
รีวิว:ที่พัก Shirataki (จองจาก booking.com) (แนะนำสำหรับคนงบน้อยและอยากพักที่วิวเดียวกับ weekend shuffleค่ะ)
ที่พักที่ kawaguchiko เราพักที่ Shirataki น้อยคนนักที่จะรู้จักที่นี่ คนไทยส่วนใหญ่ชอบไปพักที่ w.. หรือตามกระทู้ที่พันทิปแนะนำ ที่พักพวกนั้นก็ดี วิวสวย แต่แพงกว่า ความสะดวกก็คงดีกว่าด้วย แต่ด้วยความที่ว่าทุกคนอยากประหยัดมากเลยให้ จขทกหาที่พักใหม่ จขทกเลยไปเปิดgoogle mapแล้วจิ้มที่พักดูราคา ปรากฏว่าเจอที่นี่ ในราคางามมาก สถานที่คือ อยู่ตรงข้างๆ w... (นั่นหมายถึงวิวก็สวยพอๆกัน) และ ถูกกว่า !! เจ้าของใจดีมากๆ เป็นกิจการครอบครัวเหมือนเป็นบ้านคนและเปิดเป็นที่พักด้วย ที่นี่มีบริการ รับส่งสถานีรถไฟฟรีด้วย แต่เจ้าของพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้แต่ก็พยายามสื่อสารกับเรามากโดยใช้app แปล พวกเราก็เข้าใจนะ นอกจากนี้ที่นี่ยังให้ยืมจักรยานฟรีด้วย (เราเลยประหยัดค่าจักรยานไปคนละ1000เยน-สุดยอด) จริงๆแล้วแนะนำให้ค้างนี่1คืนแล้วเที่ยวที่นี่2วันเพราะ เจ้าของใจดีมากจริงๆ บอกว่าจะพาเราไปเที่ยวฟรีพรุ่งนี้ด้วย แต่เนื่องจากตอนแรกเราวางแผนไว้ที่จะมานอนที่นี่คืนเดียวแล้วพรุ่งนี้จะออกไป เล่นเครื่องเล่นที่Fuji Q เราเลยปฏิเสธเขาไปและขอให้เขาช่วยไปส่งที่สถานีรถไฟตอน9โมงแทน
ข้อดี
-ถูกกว่าหลายโรงแรมในละแวกนี้และวิวดีมาก คือเดินออกมาก็เป็นถนนหลักของเมืองเลยขี่จักรยานเที่ยวได้ทุกจุดจริงๆ
-ที่พักโอเคเลย เป็นฟูกแบบญี่ปุ่นและมีชุดยูกาตะให้ด้วย มีของอำนวยความสะดวกทุกอย่างให้
-สะอาด แล้วก็มีโต๊ะกลางให้นั่งเล่นก่อนขึ้นชั้นบนไปเป็นห้องนอน
-จักรยานฟรี wifi ฟรีด้วย
-รถรับส่งสถานีรถไฟฟรี (ทำให้พวกเราไม่ต้องหอบกระเป๋าขึ้นบัสมาเอง)
ข้อเสีย
-ห้องอาบนำ้รวมแต่แยกเวลา ผ็หญิงต้องอาบก่อน 22:00 หลังจากนั้นจะเป็นคิวของหนุ่มๆค่ะ (ซึ่งพวกเราโอเค)
ให้คะแนน4.9/5 เลย (ไม่รู้จะหักอะไรคือดีพอกับราคาที่เราจ่ายไปอะ มีที่พูดอังกฤษไม่ได้ แต่เราไม่หักเพราะเขาพยายามมากในการสื่อสาร สุดยอดมากค่ะ)
[CR] {รีวิว} Autumn in Japan ตามล่าหาใบไม้เปลี่ยนสี 2017
วันนี้จะมารีวิวการไปตามล่าหาใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นกันค่ะ
ช่วงที่ไปคือ8-16 พฤศจิกายน 2017 [9วัน7คืน]
สมาชิก6คน
เดินทางโดยสายการบิน AirAsia X
Link ตอนที่ 2 ค่ะ (เผื่อใครหาไม่เจอ)
https://pantip.com/topic/37467121
Day0-8/11/17 {Gogo Japan}
บินสู่Japan ด้วยสายการบิน AirAsia X
Day1- 9/11/17 {Kawaguchiko}
ถึงญี่ปุ่นแล้วววว พวกเรามาถึงญี่ปุ่นตอน 8:00น (Narita-terminal2) อากาศช่วงนี้กำลังเย็นสบายเลยค่ะ (แอบหนาวตอนที่มีลมพัดผ่าน) เป้าหมายของเราในวันนี้คือการเดินทางจาก
Tokyo—-> Kawaguchiko หลังจากรอรับกระเป๋าและผ่าน ตม.เรียบร้อยแล้ว เราก็ไป ซื้อตั๋ว JR tokyo wide pass (10,000yen-ใช้ได้3วันติดต่อกันเท่านั้น) ซึ่งเราจะเปิดใช้วันที่11-13 ค่ะ หลังจากซื้อJRเราก็ซื้อ NEX รถไฟความเร็วสูงของญี่ปุ่น (4000฿round trip) เพื่อนั่งเข้าเมืองไปยัง Shinjuku station (ที่ๆเราจะไปขึ้นรถบัสไปkawaguchiko)
หลังจากที่มาถึงShinjuku station แล้วเราก็ไปจองตั๋วรถBus หาข้าวเที่ยวกินและเดินเล่นกันนิดหน่อยค่ะ
อันนี้วิวจากรถบัสที่เรานั่งมุ่งหน้าสู่ Kawaguchiko สวยมากๆเลยค่ะ
##วิธีเข้าเมืองจากสนามบินมีหลายวิธีมาก เราเลือกNEXเพราะ 1)สะดวกรวดเร็ว 2)ส่งเราถึง shinjuku station เลย
https://chillchilljapan.com/how-to-go-tokyo-from-narita/
##JR Tokyo wide pass เลือกใช้passนี้เพราะ จากการที่ จขกท คำนวณค่าเดินทางโดยรถไฟทั้งหมดแล้ว ดูpassอื่นๆ ไม่คุ้ม มีคุ้มที่สุดคือJR Tokyo wide pass ใช้แค่3วันบวกกับการเดินทางด้วยรถไฟเป็นรอบ คุ้มกว่าจึงเลือกpass นี้
-JR Tokyo wide pass ไม่มีขายในเมืองไทย ต้องไปซื้อที่ญี่ปุ่นเท่านั้น
https://www.jreast.co.jp/e/tokyowidepass/index.html?src=gnavi
-อันนี้เป็นที่เที่ยวและสถานีต่างๆที่ใช้ JR Tokyo wide passได้ค่ะ
http://www.jreast.co.jp/E/downloads/pdf/jtp_th.pdf
ถึง Kawaguchiko แล้ว หลังจากที่รถของทางที่พักมารับที่สถานีรถไฟและมาส่งเราเก็บของแล้ว พวกเราก็ขอยืมจักรยานออกไปสำรวจเมืองนี้กัน และเราก็ไม่ผิดหวังกับใบไม้เปลี่ยนสีของที่นี่เลยค่ะ สวยมากจริงๆ เรียกได้ว่า ช่วงที่พวกเรามา เป็นช่วงพีคของที่นี่เลย มีจัดงานแสดงไฟที่อุโมงค์เมเปิลตอนกลางคืนด้วย (แต่แนะนำว่าตอนกลางวันสวยกว่า เยอะ55555)
เห็นฟูจิซังชัดมาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากนั่นเราก็ขี่จักรยานตามหาร้านที่ทางที่พักแนะนำมาว่าเป็นร้านพื้นเมือง อาหารแบบ original มากๆ
ระหว่างตามหาก็ได้วิวสวยๆยามคำ่คืนของที่นี่มาค่ะ
ร้านอาหารที่ที่พักแนะนำมาหายากจริงๆค่ะ อาจเป็นเพราะมืดแล้วด้วย แต่พวกเราก็ไม่ย้อท้อ พี่ที่ขี่จักยานนำก็พยายามหาอย่างเต็มที่ [อากาศตอนกลางคืนหนาวมากกกตอนนั้นน่าจะเหลือ5องศา ใครที่มาเที่ยวก็อย่าลืมพกเสื้ออีกตัวมาเผื่อด้วยนะคะ] พวกเราขี่จักรยานไปตัวสั่นกันไป และในที่สุดก็ตามหาร้านจนเจอค่ะ แต่เราก็ผิดหวังกับอาหารนิดหน่อย คือว่ามันเป็นซุปผักที่ไม่มีเนื้อเลย แถมที่นั่นมีเมนู2อย่างคือ ซุปนี้กับ เนื้อม้า ซาซิมิค่ะ 0-0 ฟังดูแล้วหยึ๋ยมาก แต่เพื่อน จขกท ก็ลองสั่งมากินนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากกินเสร็จเราก็แวะมินิมาท เพื่อหาเนื้อมากินเพิ่มค่ะ ตอนนั้นคือไม่ไหวแล้วจริงๆ ต้องการเนื้อมาก 55+
และเราก็กลับที่พักมานั่งกินกันก่อนแยกย้ายไปอาบนำ้นอนค่ะ
จบแล้ววันแรกของทริปเรา ไว้พรุ่งนี้จะมาลงวันต่อไปนะคะ
รีวิว:ที่พัก Shirataki (จองจาก booking.com) (แนะนำสำหรับคนงบน้อยและอยากพักที่วิวเดียวกับ weekend shuffleค่ะ)
ที่พักที่ kawaguchiko เราพักที่ Shirataki น้อยคนนักที่จะรู้จักที่นี่ คนไทยส่วนใหญ่ชอบไปพักที่ w.. หรือตามกระทู้ที่พันทิปแนะนำ ที่พักพวกนั้นก็ดี วิวสวย แต่แพงกว่า ความสะดวกก็คงดีกว่าด้วย แต่ด้วยความที่ว่าทุกคนอยากประหยัดมากเลยให้ จขทกหาที่พักใหม่ จขทกเลยไปเปิดgoogle mapแล้วจิ้มที่พักดูราคา ปรากฏว่าเจอที่นี่ ในราคางามมาก สถานที่คือ อยู่ตรงข้างๆ w... (นั่นหมายถึงวิวก็สวยพอๆกัน) และ ถูกกว่า !! เจ้าของใจดีมากๆ เป็นกิจการครอบครัวเหมือนเป็นบ้านคนและเปิดเป็นที่พักด้วย ที่นี่มีบริการ รับส่งสถานีรถไฟฟรีด้วย แต่เจ้าของพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้แต่ก็พยายามสื่อสารกับเรามากโดยใช้app แปล พวกเราก็เข้าใจนะ นอกจากนี้ที่นี่ยังให้ยืมจักรยานฟรีด้วย (เราเลยประหยัดค่าจักรยานไปคนละ1000เยน-สุดยอด) จริงๆแล้วแนะนำให้ค้างนี่1คืนแล้วเที่ยวที่นี่2วันเพราะ เจ้าของใจดีมากจริงๆ บอกว่าจะพาเราไปเที่ยวฟรีพรุ่งนี้ด้วย แต่เนื่องจากตอนแรกเราวางแผนไว้ที่จะมานอนที่นี่คืนเดียวแล้วพรุ่งนี้จะออกไป เล่นเครื่องเล่นที่Fuji Q เราเลยปฏิเสธเขาไปและขอให้เขาช่วยไปส่งที่สถานีรถไฟตอน9โมงแทน
ข้อดี
-ถูกกว่าหลายโรงแรมในละแวกนี้และวิวดีมาก คือเดินออกมาก็เป็นถนนหลักของเมืองเลยขี่จักรยานเที่ยวได้ทุกจุดจริงๆ
-ที่พักโอเคเลย เป็นฟูกแบบญี่ปุ่นและมีชุดยูกาตะให้ด้วย มีของอำนวยความสะดวกทุกอย่างให้
-สะอาด แล้วก็มีโต๊ะกลางให้นั่งเล่นก่อนขึ้นชั้นบนไปเป็นห้องนอน
-จักรยานฟรี wifi ฟรีด้วย
-รถรับส่งสถานีรถไฟฟรี (ทำให้พวกเราไม่ต้องหอบกระเป๋าขึ้นบัสมาเอง)
ข้อเสีย
-ห้องอาบนำ้รวมแต่แยกเวลา ผ็หญิงต้องอาบก่อน 22:00 หลังจากนั้นจะเป็นคิวของหนุ่มๆค่ะ (ซึ่งพวกเราโอเค)
ให้คะแนน4.9/5 เลย (ไม่รู้จะหักอะไรคือดีพอกับราคาที่เราจ่ายไปอะ มีที่พูดอังกฤษไม่ได้ แต่เราไม่หักเพราะเขาพยายามมากในการสื่อสาร สุดยอดมากค่ะ)