หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] เชียงใหม่ 4 วัน 4 สถานที่ "ม่อนจอง-แม่กำปอง-ม่อนแจ่ม-เก๊าไม้ล้านนา" by The Planners เที่ยว กับ แฟน
กระทู้รีวิว
เที่ยวไทย
เดินป่า
เที่ยวภูเขา
บันทึกนักเดินทาง
Backpack
ปลายปีที่แล้ว หมีหมู อยากสลัดอุณหภูมิแสนสูงในเมืองกรุง เพื่อไปโอบกอดความเย็นในที่ต่างๆ
นี่จึงเป็นเหตุที่เราสองคนรวมหัวกันจองตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพ-เชียงใหม่ กันตั้งแต่ต้นปีกันเลยทีเดียว
ขอเล่าถึงความปรารถนาส่วนตัว ก่อนเข้าเรื่อง จริงๆแล้วทริปนี้เกิดขึ้นได้เพราะหมีเอง คือตั้งแต่หมีเริ่มถ่ายภาพมา ก็มีความฝันที่อยากจะเก็บภาพในสถานที่ต่างๆที่ตนไม่เคยไป ซึ่ง 1 ในภาพสูงสุดที่อยากจะถ่ายให้ได้สักครั้งในชีวิตก็คือ “ทางช้างเผือก” และ “ดาวเต็มฟ้า” เป็นสาเหตุให้หมีเริ่มทำการบ้านว่า เราควรจะไปถ่ายที่ไหน ยังไง และเมื่อไหร่
ซึ่งก็ได้พบว่า เราควรจะไปในที่ที่สูงๆ มืดๆ ไม่มีแสงไฟรบกวนเพื่อให้เห็นดาวเยอะๆ พร้อมทั้งช่วงเวลาของทางช้างเผือกแต่ละเดือนก็ขึ้นไม่เหมือนกัน ทำให้เกิดสมการดังต่อไปนี้
ที่สูงๆมืดๆ = ดอย (ภูเขาสูงๆ)
ช่วงเวลาของช้าง = ปลายปีช้างมาเร็ว ไม่ต้องแหกขี้ตาตื่นมาถ่าย
อยากสัมผัสอากาศเย็นในขณะเดินทาง = ปลายปี และภาคเหนือ
ผลลัพธ์คือ “ไปถ่ายดาว ที่ยอดดอยทางภาคเหนือช่วงปลายปี” จึงเกิดมาเป็นทริปนี้นั่นเอง
อ่ะ!!! เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า วันนี้จะขอพูดถึงสถานที่ที่เราไปลุยกันมาในแต่ละที่ จะเป็นการสรุปแบบคร่าวๆ นะครับ
ม่อนจอง
การเดินทาง#1 (เชียงใหม่ – หน่วยพิทักษ์ป่ามูเซอ)
เราสองคนเช่ารถกันไปครับ เพราะเดี๋ยวต้องไปสถานที่อื่นๆอีก โดยรถที่เราสองคนเช่ามาคือ Suzuki Swift ส่วนเรื่องค่าน้ำมัน การไป-กลับ ม่อนจองจากเชียงใหม่ ใช้ประมาณ 1 ถังพอดีๆครับ ซึ่งการขับรถขึ้นไปอาจจะต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควร เนื่องจากเป็นทางขึ้นเขาแบบเลนส์สวนกัน ทำให้บางครั้งอาจจะมีมุมโค้งที่มองไม่เห็นรถที่สวนมา
การเตรียมตัว
ก่อนขึ้นดอย เราต้องเตรียมสัมภาระให้พร้อม เพราะข้างบนม่อนจองมีที่ให้อาบน้ำ แต่ไม่สะดวกมากนัก สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ที่ต้องพกขึ้นไปคือ น้ำดื่ม เต็นท์ ถุงนอน เสื้อกันหนาว เสบียง(ของแห้ง) ของตัวเอง และเผื่อให้กับลูกหาบที่จะช่วยเราแบกของขึ้นไปด้านบน
การเดินทาง#2 (หน่วยพิทักษ์ป่ามูเซอ – จุดจอดรถเพื่อลงเดินขึ้นยอดเขา)
การขึ้นไปที่จุดจอดรถสุดท้าย นักท่องเที่ยวไม่สามารถนำรถขึ้นไปเองได้ครับ โดยเราต้องใช้บริการรถขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) จากทางหน่วยฯ ซึ่งราคาจะอยู่ที่ 1 – 5 คน ราคา2,500 บาท 6 – 9 คน ราคา 3,000 บาท และเพิ่มขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว
เต็นท์ และถุงนอน
เราสามารถเช่าเต็นท์ ถุงนอน และจ้างลูกหาบได้ที่หน่วยฯ เลยครับ
การเดินเท้า
จากจุดจอดรถจุดสุดท้าย เราต้องเดินเท้าต่อเป็นเวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง จะถึงจุดกางเต็นท์ ซึ่งจะเป็น ป่า ทางชัด ทุ่งหญ้า ปะปนกันไป
**แต่ตอนที่หมีหมูไป บอกเลยครับโหดมาก เพราะฝนตก ทำให้ดินที่มีกลายเป็นโคลน และเมื่อถึงเวลาที่ต้องขึ้นทางลาดชัน หากใครไม่ได้เตรียมรองเท้าสำหรับเดินป่าเดินเขามา มีลื่นล้มกันไปเป็นทางแน่นอน และยังมีหลายส่วนที่อันตรายเป็นเหว หากไม่ระวังอาจมีลื่นตกลงไปครับ (พวกเราลื่นกันไป 2-3 ครั้งเลยทีเดียว ดีที่ช่วยกันไว้ทัน)
จากจุดกางเต็นท์ เราต้องเดินต่อไปอีกประมาณ 45-90 นาที (แล้วแต่ฝีเท้าคน) เพื่อไปที่จุดสูงสุดของ ดอยหัวสิงห์ ซึ่งเป็นจุดชมวิวสูงสุดของม่อนจอง
————————————————————————————————————–
นี่ไงรถที่พวกเราเช่ากันในทริปนี้
นี่เสบียงของเราครับ
(แวะซื้อกันที่ตลาดด้านล่าง)
ค่าใช้จ่ายสำหรับขึ้นดอย
รถ 4WD สำหรับข้นดอยที่เราจ้างครับ
ถึงขั้นต้องใส่โซ่ที่ล้อกันเลยทีเดียว
แต่สุดท้ายเราก็ไปไม่ถึงจุดจอดรถครับ เพราะรถไม่สามารถวิ่งต่อไปได้แล้ว
เราเลยต้องลงเดินเท้ากันต่อ
ทำให้เวลาในการเดินจากเดิม 3-4 ชั่วโมง เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดไปถึง 5-6 ชั่วโมง
นี่คือพี่ “จัดคือ” เป็นลูกหาบของเราในทริปนี้
ระหว่างทางเดิน เราสามารถหยุดพักได้นะครับ แต่ลูกหาบจะคอยจำกัดเวลาให้เรา เพราะถ้าเลทเกินไปแล้วมืดจะอันตราย
นับถือใจแฟนตัวเองจริงๆ เป็นผู้หญิงที่อดทนมาก ตลอดการเดินไม่มีบ่นเลย
‘ดอยหมาหอบ’ เป็นทางลาดชัน 60 องศาตลอดช่วง อยากจะบอกว่าไม่ใช่แค่หมาหรอก
พวกเราก็หอบไม่เหลืออะไรเช่นกัน
จากความเหนื่อยล้าทั้งหมดที่สั่งสมมา แต่พอได้เห็นวิวข้างบนแล้ว
เข้าใจคำว่า “หายเหนื่อย” จริงๆนะครับ
นี่ที่นอนเราคืนนี้ครับ เดี๋ยวพี่จัดคือ จะช่วยเรากางเต็นท์กัน
พอขึ้นมาเหนื่อยๆ ทำให้ได้รู้เลยว่า การกินเพื่ออยู่นี่มันรู้สึกดีกว่าการกินอาหารหรูๆแพงๆอีก
ข้อควรระวังเมื่อเดินป่าเวลาฝนตก ‘ทาก’ มันจะมาดูดเลือดเรา
ให้รู้สึกเจ็บนิดๆครับ วิธีการคือดึงมันออก แล้วม้วนมันเป็นก้อนกลมๆ
แล้วโยนทิ้งไป ห้ามเช็ดเลือดนะครบ ต่อให้ไหลน่ากลัวแค่ไหน
ก็ปล่อยให้ไหลไป จนกลายเป็นลิ่มเพื่อมาพอกแผลไว้
ไม่งั้นเลือดเราจะไหลไม่หยุด
อันนี้คือที่สุดของความภาคภูมิใจแล้วครับ
แม้ช้างจะไม่ชัดมาก และดาวจะไม่เยอะเท่าที่ควรเพราะเมฆฝนเยอะ แต่หมีก็ดีใจสุดๆไปเลย
บรรยากาศยามเช้า พร้อมทะเลหมอก
สำหรับม่อนจอง ต้อขอบคุณเพื่อนร่วมทางอีกสองท่านนี้มากครับ ที่ทำให้ทริปนี้มีรสชาติสุดๆ
(เป็นรุ่นพี่และรุ่นน้องของหมีในมหาลัยเอง)
แม่กำปอง
การเดินทาง (เชียงใหม่ – แม่กำปอง)
ระยะทางจากเชียงใหม่ไปแม่กำปองนั้น ไม่ไกลเลยครับ เดินทางประมาณชั่วโมงกว่าๆก็ถึงแล้ว
การเดินทาง (ภายในแม่กำปอง)
หากใครขับรถไปก็สะดวกมากครับ สามารถเดินเที่ยวเล่นได้ แต่ถ้าต้องการไปไกลๆอย่าง “กิ่วฝิ่น” อาจจะจำเป็นต้องเช่ารถไป หากขบรถไม่แข็งมาก เพราะได้ยินมาว่าทางนั้นชันมาก
ที่พัก
ส่วนมากที่พักในแม่กำปองจะเป็นสไตล์ บ้านไม้ นอนกางมุ้ง อยู่กับธรรมชาติ
คำแนะนำ
หากมีเวลา ลองสละสักคืนหนึ่งไปดื่มด่ำกับธรรมชาติด้วยการนอนที่แม่กำปองดูครับ เพราะเวลาที่ตื่นเช้ามาสูดอากาศบริสุทธิ์ พร้อมเดินเล่นยิ้มให้ชาวบ้าน ก็นับเป็นความสุขอีกอย่างหนึ่งของทริปนี้
นอนที่แม่กำปอง ได้ตื่นเช้ามาสูดอากาศบริสุทธิ์พร้อมจิบกาแฟ
เดินเล่นในหมู่บ้านน่ารักๆแห่งนี้ ในขณะที่คนจากตัวเมืองยังเดินทางมาไม่ถึง
ได้ถ่ายรูปที่บ้านฮิมห้วย ลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง แบบไม่ต้องแบ่งกับใคร
กิน ไข่ป่าม ของขึ้นชื่อเมืองเหนือในราคาเพียง 20 บาท (ซาวบาท) เท่านั้น
เติมพลังแห่งวันด้วยกาแฟร้าน “ชมนกชมไม้”
ชมศาลากลางน้ำที่ วัดแม่กำปอง
กินอาหารชิคๆ ริมลำธาร
ไปน้ำแช่เท้ากับสายน้ำเย็นๆที่ “ผาน้ำลอด”
ชื่อสินค้า:
เชียงใหม่
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อช.ดอยสุเทพเตรียมเปิด “โรงเรียนนักเดินป่า” พ.ย.นี้ เรียนรู้ธรรมชาติจากผืนป่าจริง
นายธงชัย นาราษฎร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เปิดเผยว่า อุทยานฯ เตรียมเปิด “โรงเรียนนักเดินป่า” ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเป้
สมาชิกหมายเลข 6652492
อยากทราบเส้นทางที่ไปดอยอินทนนท์
อยากทราบเส้นทางที่ไปดอยอินทนนท์ ค่ะ 1. จากจังหวัดตาก ใช้เส้นทางไหน ที่ไม่ชันมาก 2. ต้องเข้าไปในตัวเชียงใหม่ไหม 3. ต้องผ่านเส้นทางไหนบ้างขอให้ละเอียดหน่อยค่ะ 4. ไปดอยอินทนนท์ครั้งแรกขับรถเองผู้หญ
สมาชิกหมายเลข 8643376
สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่
ดอยอ่างขาง อ.ฝาง หรืออีกชื่อหนึ่ง สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จุดชมซากุระเมืองไทย พญาเสือโคร่ง อีกที่หนึ่งของเชียงใหม่ ตั้งอยู่ที่อำเภอฝาง ที่นี่เป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง วิจัยในไม้ผลเขตหนาว
สมาชิกหมายเลข 8645229
สอบถามไปม่อนจองรถเครื่อง1200 ขึ้นได้มั้ย
สอบถามไปศูนย์บริการนักท่องเที่ยวดอยม่อนจอง เชียงใหม่ ตรงจุดก่อนเปลี่ยนรถ4*4 รถยนต์เครื่อง1200 ไปได้มั้ย ทางไปยากมั้ยคะ จะเริ่มตากตัวเมืองชม. ขอบคุณค่ะ
สมาชิกหมายเลข 3147907
ฝากช่วยจัดโปรแกรมเที่ยวเชียงใหม่
จะไปเชียงใหม่ วันที่ 18/10 ลงเครื่อง เก้าโมงกว่า แล้วเช่ารถ คืนแรกพักที่ รร.ประตูเมืองเชียงใหม่ คืนที่สอง พักม่อนแจ่ม ขึ้นเครื่องกลับ สามทุ่ม วันที่ 20/10 ชอบเที่ยวถ่ายรูปตามคาเฟ่ ชอบแวะวัดทำบุญ และอย
mahnoitammada
ใครไม่จอง "ม่อนจอง" ดอยแรกในชีวิต กับการพิชิตในวันฝนตก --> 6 ชั่วโมงไปเลยจ้าาาาา!!!!!!!
หลังจากหมีหมูไปบุกป่าฝ่าดงกันมา ทริปเชียงใหม่นี้เราจะตัดเป็นสถานที่กันนะ เริ่มจากม่อนจองแล้วกันเนอะ!!! เรามาลุยกันเลย!!! ปลายปีที่ผ่านมาแบบนี้ หมีหมู เชื่อว่าเพื่อนๆหลายๆคน คงอยากสลัดอุณหภูมิแสนสูงใ
TurkTS
ขุนตาลเอาเต็นท์อุทยานไปกางบน ย.2 ได้ไหม
ได้ไหมคะ พอดีเราสนใจไปเที่ยวขุนตาลกับเพื่อนเเต่ไม่มีเต็นท์ว่าจะไปดช่าดต็นท์อุทยานเเต่เคยได้ยินมาว่าไม่สามารถนำเต้นท์อุทยานขึเนไปข้างบนได้
สมาชิกหมายเลข 8461970
ภาพบรรยากาศเที่ยว ม่อนจอง 2 วัน 1 คืน ในปี 2020
สวัสดีที่นี่ "ดอยม่อนจอง" อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ไหนๆโควิดรอบ 2 ก็มาแล้ว ดอยม่อนจองก็ได้ประกาศปิดดอย เลยนำภาพบรรยากาศม่อนจองของปีนี้มาฝากครับ 📷 21-22 พ.ย. 2563 รบกว
Go And See - ไปให้เห็น
ทริปนี้มีเรื่องเล่า #ตอนที่ 7 >พิชิตยอดเขา 2102 "ภูสอยดาว"
ทริปนี้มีเรื่องเล่า #ตอนที่ 7 > พิชิตยอดเขาสูง 2102 เมตร "ภูสอยดาว" อุตรดิตถ์ >> ไหนๆ ผมก็ได้มีการพูดถึง "ภูสอยดาว" ในเรื่องเล่าตอนที่ 6 ของทริป ดอยหลวงเชียงดาว มาแล้ว เร
หยุดแล้วเที่ยวได้
รบกวนแนะนำที่เที่ยวเชียงใหม่หน่อยครับ
มีแผนจะไปเที่ยวเชียงใหม่ ตอนกลางๆเดือน ม.ค. 69 นี้ (ไม่เคยเที่ยวเหนือมาก่อน) อยากให้พี่ๆ เพื่อนๆ ช่วยแนะนำหน่อยครับ (ทริปนี้ มีผู้ใหญ่ไปด้วย ) วันแรก(วันอาทิตย์) ถึงเชียงใหม่ประมาณ 11.00 น อยากจะไปเริ
สมาชิกหมายเลข 6747556
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวไทย
เดินป่า
เที่ยวภูเขา
บันทึกนักเดินทาง
Backpack
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 13
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] เชียงใหม่ 4 วัน 4 สถานที่ "ม่อนจอง-แม่กำปอง-ม่อนแจ่ม-เก๊าไม้ล้านนา" by The Planners เที่ยว กับ แฟน
ปลายปีที่แล้ว หมีหมู อยากสลัดอุณหภูมิแสนสูงในเมืองกรุง เพื่อไปโอบกอดความเย็นในที่ต่างๆ
นี่จึงเป็นเหตุที่เราสองคนรวมหัวกันจองตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพ-เชียงใหม่ กันตั้งแต่ต้นปีกันเลยทีเดียว
ขอเล่าถึงความปรารถนาส่วนตัว ก่อนเข้าเรื่อง จริงๆแล้วทริปนี้เกิดขึ้นได้เพราะหมีเอง คือตั้งแต่หมีเริ่มถ่ายภาพมา ก็มีความฝันที่อยากจะเก็บภาพในสถานที่ต่างๆที่ตนไม่เคยไป ซึ่ง 1 ในภาพสูงสุดที่อยากจะถ่ายให้ได้สักครั้งในชีวิตก็คือ “ทางช้างเผือก” และ “ดาวเต็มฟ้า” เป็นสาเหตุให้หมีเริ่มทำการบ้านว่า เราควรจะไปถ่ายที่ไหน ยังไง และเมื่อไหร่
ซึ่งก็ได้พบว่า เราควรจะไปในที่ที่สูงๆ มืดๆ ไม่มีแสงไฟรบกวนเพื่อให้เห็นดาวเยอะๆ พร้อมทั้งช่วงเวลาของทางช้างเผือกแต่ละเดือนก็ขึ้นไม่เหมือนกัน ทำให้เกิดสมการดังต่อไปนี้
ที่สูงๆมืดๆ = ดอย (ภูเขาสูงๆ)
ช่วงเวลาของช้าง = ปลายปีช้างมาเร็ว ไม่ต้องแหกขี้ตาตื่นมาถ่าย
อยากสัมผัสอากาศเย็นในขณะเดินทาง = ปลายปี และภาคเหนือ
ผลลัพธ์คือ “ไปถ่ายดาว ที่ยอดดอยทางภาคเหนือช่วงปลายปี” จึงเกิดมาเป็นทริปนี้นั่นเอง
อ่ะ!!! เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า วันนี้จะขอพูดถึงสถานที่ที่เราไปลุยกันมาในแต่ละที่ จะเป็นการสรุปแบบคร่าวๆ นะครับ
ม่อนจอง
การเดินทาง#1 (เชียงใหม่ – หน่วยพิทักษ์ป่ามูเซอ)
เราสองคนเช่ารถกันไปครับ เพราะเดี๋ยวต้องไปสถานที่อื่นๆอีก โดยรถที่เราสองคนเช่ามาคือ Suzuki Swift ส่วนเรื่องค่าน้ำมัน การไป-กลับ ม่อนจองจากเชียงใหม่ ใช้ประมาณ 1 ถังพอดีๆครับ ซึ่งการขับรถขึ้นไปอาจจะต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควร เนื่องจากเป็นทางขึ้นเขาแบบเลนส์สวนกัน ทำให้บางครั้งอาจจะมีมุมโค้งที่มองไม่เห็นรถที่สวนมา
การเตรียมตัว
ก่อนขึ้นดอย เราต้องเตรียมสัมภาระให้พร้อม เพราะข้างบนม่อนจองมีที่ให้อาบน้ำ แต่ไม่สะดวกมากนัก สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ที่ต้องพกขึ้นไปคือ น้ำดื่ม เต็นท์ ถุงนอน เสื้อกันหนาว เสบียง(ของแห้ง) ของตัวเอง และเผื่อให้กับลูกหาบที่จะช่วยเราแบกของขึ้นไปด้านบน
การเดินทาง#2 (หน่วยพิทักษ์ป่ามูเซอ – จุดจอดรถเพื่อลงเดินขึ้นยอดเขา)
การขึ้นไปที่จุดจอดรถสุดท้าย นักท่องเที่ยวไม่สามารถนำรถขึ้นไปเองได้ครับ โดยเราต้องใช้บริการรถขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) จากทางหน่วยฯ ซึ่งราคาจะอยู่ที่ 1 – 5 คน ราคา2,500 บาท 6 – 9 คน ราคา 3,000 บาท และเพิ่มขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว
เต็นท์ และถุงนอน
เราสามารถเช่าเต็นท์ ถุงนอน และจ้างลูกหาบได้ที่หน่วยฯ เลยครับ
การเดินเท้า
จากจุดจอดรถจุดสุดท้าย เราต้องเดินเท้าต่อเป็นเวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง จะถึงจุดกางเต็นท์ ซึ่งจะเป็น ป่า ทางชัด ทุ่งหญ้า ปะปนกันไป
**แต่ตอนที่หมีหมูไป บอกเลยครับโหดมาก เพราะฝนตก ทำให้ดินที่มีกลายเป็นโคลน และเมื่อถึงเวลาที่ต้องขึ้นทางลาดชัน หากใครไม่ได้เตรียมรองเท้าสำหรับเดินป่าเดินเขามา มีลื่นล้มกันไปเป็นทางแน่นอน และยังมีหลายส่วนที่อันตรายเป็นเหว หากไม่ระวังอาจมีลื่นตกลงไปครับ (พวกเราลื่นกันไป 2-3 ครั้งเลยทีเดียว ดีที่ช่วยกันไว้ทัน)
จากจุดกางเต็นท์ เราต้องเดินต่อไปอีกประมาณ 45-90 นาที (แล้วแต่ฝีเท้าคน) เพื่อไปที่จุดสูงสุดของ ดอยหัวสิงห์ ซึ่งเป็นจุดชมวิวสูงสุดของม่อนจอง
————————————————————————————————————–
(แวะซื้อกันที่ตลาดด้านล่าง)
แต่สุดท้ายเราก็ไปไม่ถึงจุดจอดรถครับ เพราะรถไม่สามารถวิ่งต่อไปได้แล้ว
ทำให้เวลาในการเดินจากเดิม 3-4 ชั่วโมง เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดไปถึง 5-6 ชั่วโมง
พวกเราก็หอบไม่เหลืออะไรเช่นกัน
เข้าใจคำว่า “หายเหนื่อย” จริงๆนะครับ
ให้รู้สึกเจ็บนิดๆครับ วิธีการคือดึงมันออก แล้วม้วนมันเป็นก้อนกลมๆ
แล้วโยนทิ้งไป ห้ามเช็ดเลือดนะครบ ต่อให้ไหลน่ากลัวแค่ไหน
ก็ปล่อยให้ไหลไป จนกลายเป็นลิ่มเพื่อมาพอกแผลไว้
ไม่งั้นเลือดเราจะไหลไม่หยุด
แม้ช้างจะไม่ชัดมาก และดาวจะไม่เยอะเท่าที่ควรเพราะเมฆฝนเยอะ แต่หมีก็ดีใจสุดๆไปเลย
สำหรับม่อนจอง ต้อขอบคุณเพื่อนร่วมทางอีกสองท่านนี้มากครับ ที่ทำให้ทริปนี้มีรสชาติสุดๆ
(เป็นรุ่นพี่และรุ่นน้องของหมีในมหาลัยเอง)
แม่กำปอง
การเดินทาง (เชียงใหม่ – แม่กำปอง)
ระยะทางจากเชียงใหม่ไปแม่กำปองนั้น ไม่ไกลเลยครับ เดินทางประมาณชั่วโมงกว่าๆก็ถึงแล้ว
การเดินทาง (ภายในแม่กำปอง)
หากใครขับรถไปก็สะดวกมากครับ สามารถเดินเที่ยวเล่นได้ แต่ถ้าต้องการไปไกลๆอย่าง “กิ่วฝิ่น” อาจจะจำเป็นต้องเช่ารถไป หากขบรถไม่แข็งมาก เพราะได้ยินมาว่าทางนั้นชันมาก
ที่พัก
ส่วนมากที่พักในแม่กำปองจะเป็นสไตล์ บ้านไม้ นอนกางมุ้ง อยู่กับธรรมชาติ
คำแนะนำ
หากมีเวลา ลองสละสักคืนหนึ่งไปดื่มด่ำกับธรรมชาติด้วยการนอนที่แม่กำปองดูครับ เพราะเวลาที่ตื่นเช้ามาสูดอากาศบริสุทธิ์ พร้อมเดินเล่นยิ้มให้ชาวบ้าน ก็นับเป็นความสุขอีกอย่างหนึ่งของทริปนี้
นอนที่แม่กำปอง ได้ตื่นเช้ามาสูดอากาศบริสุทธิ์พร้อมจิบกาแฟ
เดินเล่นในหมู่บ้านน่ารักๆแห่งนี้ ในขณะที่คนจากตัวเมืองยังเดินทางมาไม่ถึง
ได้ถ่ายรูปที่บ้านฮิมห้วย ลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง แบบไม่ต้องแบ่งกับใคร
กิน ไข่ป่าม ของขึ้นชื่อเมืองเหนือในราคาเพียง 20 บาท (ซาวบาท) เท่านั้น
เติมพลังแห่งวันด้วยกาแฟร้าน “ชมนกชมไม้”
ชมศาลากลางน้ำที่ วัดแม่กำปอง
กินอาหารชิคๆ ริมลำธาร
ไปน้ำแช่เท้ากับสายน้ำเย็นๆที่ “ผาน้ำลอด”