หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] เบตงโอเคเลย
กระทู้รีวิว
บันทึกนักเดินทาง
อำเภอเบตง
การออกเดินทางในทุกครั้งมักมีความหมาย ไม่ว่าจะเป็นการออกเดินทางกับครอบครัว ออกเดินทางกับคนรัก ออกเดินทางกับเพื่อน กระทั่งออกเดินทางคนเดียว ถ้าไม่กล้าที่จะออกไปไกลๆ ก็ค่อยๆ ลองออกเดินทางไปในที่ใกล้ๆ ก่อน ยิ่งถ้าออกเดินทางคนเดียวแล้วความปลอดภัยต้องมาอันดับ 1 การเดินทางครั้งนี้ก็เช่นกัน “เบตง” น่าจะเป็นสถานที่ที่ไม่มีใครคิดที่จะไป แต่ถ้ามีก็อาจจะน้อยมากๆ วันนี้ก็เลยอยากจะมาเขียนรีวิวในการไปเที่ยวเบตง ขอย้ำว่า “ไปเบตงคนเดียว” จริงๆ แล้วอยากไปมานานแล้ว ไปดูว่าเบตงมีอะไร ถึงจะเป็น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ก็ยังมี “ความเชื่อ” อยู่ว่า ถ้าได้ไปถึงจริงๆ เบตงจะต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ อาจจะเป็นเพราะเป็นติ่งใต้สุดของประเทศไทย เป็นอำเภอที่ไม่ค่อยมีใครไป เป็นอำเภอที่มีป้ายทะเบียนรถเป็นของตัวเอง เป็นเมืองที่มีอะไรหลายๆ อย่างไม่เหมือนที่อื่น เดินทางครั้งนี้จึงเริ่มต้นขึ้น
ช่วงเวลาเดินทาง : ปลายเดือนมกราคม 2561
การเดินทาง : รถไฟไทย (ลงหาดใหญ่)
รถตู้ (หาดใหญ่-เบตง)
รถมอเตอร์ไซค์ (เบตง)
เริ่มต้นกันที่สถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ รถไฟขบวน 37 มาถึงบางซื่อเวลา 15.34 น. แต่เราเลือกที่จะนั่งรถปรับอากาศนอน ราคาอยู่ที่ 833 บาท ก็นั่งชมวิวไปเรื่อย สำหรับอาหารที่ตู้เสบียงจะราคาชุดละ 150 บาท พีคตรงที่ว่า หัวรถจักรเสีย ทำให้รถเสียเวลาไปประมาณ 2 ชั่วโมง ค่อนข้างกังวลเลยทีเดียว เพราะวางแผนไว้ว่าจะต้องไปทันรถตู้รอบประมาณ 7-8 โมงเช้าที่หาดใหญ่ แต่ก็ไม่ทันไรก็หลับไปเพราะนอนหลับสบายมาก zZZzz
สวัสดีหาดใหญ่... ถึงหาดใหญ่ประมาณ 9.30 น. ก็เดินตรงจากสถานีรถไฟมาเรื่อยๆ ประมาณ 3 แยกไฟแดงคิวรถตู้จะอยู่ตรงข้ามกับธนาคารธนชาติ “คิวรถตู้เบตง” ค่าโดยสาร 230 บาท เราเลือกที่จะไปทางยะลา (ไปทางมาเลเซียได้ ราคาจะแพงกว่า) ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง จะมีด่านตรวจเป็นระยะ แต่ก็ไม่ต้องตกใจ การเดินทางก็จะผ่านจังหวัดยะลา สะพานข้ามทะเลสาบฮาลา-บาลา หลังจากสะพานนั้นมาจะเหลือระยะทางอีกประมาณ 50 กิโลเมตรก็จะถึงเบตง แต่ระยะทางนี่คดเคี้ยวมาก ใครไม่เคยชินกับทางคดเคี้ยวเตรียมถุงรอได้เลย ใช้ระยะเวลาในการเดินทาง 2 ชั่วโมง
14.30 น. สวัสดีเบตง เป็นเมืองที่ไม่ใช่ที่ราบแต่อยู่ในหุบเขา มีแต่เนิน เราไปพักที่โรงแรมศรีเบตง อยู่ตรงข้ามกับตลาด เลือกพักห้องพัดลม ราคา 350 บาท หลังจากนั้นก็มีพี่ใจดีพาไปเช่ามอเตอร์ไซค์ ร้านจะอยู่ตรงถนนประชาธิปัตย์ เยื้องกับร้าน Betong Route 410 ราคาจะอยู่ที่ 300 บาท 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็ได้เวลาแว๊น แต่คือ... ขับมอเตอร์ไซค์ไม่เป็นจ้า งานนี้คงจำเป็นที่จะต้องขับเป็นซักหน่อย ก็ประเดิมขับไปที่บ่อน้ำร้อน ที่บ่อน้ำร้อนก็จะมีให้ลองให้ต้มไข่ ใช้เวลาแค่ 7 นาทีไข่ก็จะสุก แต่จะลงเล่นน้ำไม่ได้นะ ต้องไปเล่นอีกบ่อหนึ่งซึงเขาแยกเอาไว้
จากนั้นก็เดินทางเข้ามาทางอำเภอ ด้านซ้ายมือจะมีป้ายต้อนรับและป้าย OKBETONG อยู่ทางด้านซ้ายมือ สามารถเข้าไปถ่ายรูปได้ ขับรถมาเรื่อยๆ ก็จะเห็นป้ายเลี้ยวขวาสามารถไปด่านพรมแดนไทยมาเลเซียได้ ระหว่างทางค่อนข้างเปลี่ยวและกำลังทำถนนใหม่ ประมาณ 10 กิโลเมตร เส้นทางก็คดเคี้ยวแต่มีเกาะกลางถนนคั่นกลางทำให้ขับรถไม่ค่อยยาก
KINGDOM OF THAILAND นั่นคือ พรมแดนระหว่างไทยกับมาเลเซียที่ใต้สุดของประเทศไทย ถ้าใครมีพาสปอร์ตก็สามารถข้ามไปฝั่งมาเลได้ มีคนข้ามไปมาตลอด
อำเภอเบตงเป็นอำเภอเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในหุบเขา ในวันนึงบางครั้งอาจมีถึง 3 ฤดู สถานที่เที่ยวในอำเภอก็จะมีหอนาฬิกา ตู้ไปรษณีย์ใบใหญ่ สวนสุดสยาม สนามกีฬากลางหุบเขา บ้านนกนางแอ่น อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ วัดพุทธาธิวาส เสาธงชาติไทยที่สูงที่สุดในประเทศไทย สามารถเดินขึ้นไปชมวิวเมืองได้บนพิพิธภัณฑ์เบตง
6.18 น. ตื่นสายยยย!! ตอนแรกในใจคิดว่าจะไม่ไปดูทะเลหมอกที่อัยเยอร์เวงแล้ว แต่ก็มาถึงทั้งทีจะยอมไม่ได้ ยิ่งเมื่อวานฝนตก ทะเลหมอกขึ้นแน่ๆ ก็อาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วขับรถออกไปที่ กม.32 เส้นทางค่อนข้างขับยาก เพราะเส้นทางคดเคี้ยวตลอด พอถึง กม. 32 ก็ขับข้ามสะพานไปแล้วเลี้ยวซ้ายเลย จะมีป้ายบอกทางขึ้นไปดูทะเลหมอกอยู่ รถยนต์จอดได้แค่ตรงห้องน้ำก่อนทางขึ้น ถ้าไม่อยากเดินขึ้นก็สามารถใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ได้ คนละ 20 บาท แต่ทางชันมาก จากที่พักใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาที ไปถึงก็เกือบๆ 8 โมงแล้ว ขึ้นไปถึงหมอกฟุ้งมาก แต่ลมก็พัดแรง ไม่นานฟ้าก็เปิดเป็นระยะๆ คนที่ลงมาก่อนน่าเสียดายนะคะ แล้วก็มีพี่วินมอเตอร์ไซค์ทะเลหมอกเบอร์ 2 ที่ใจดีเข้ามาคุยด้วย ไปๆ มาๆ พี่เขาพาไปเที่ยวเฉยเลย ก็ขับรถกันไปคนละคัน มันมีประโยคนึงที่ฟังแล้วสะดุด “ไม่ต้องกลัวเรานะ ถ้ากลัวเราเดี๋ยวเที่ยวไม่สนุก” โอ้โหววว พี่วินคิดได้ไงเนี่ย แล้วพี่วินก็พาไปที่สะพานข้ามทะเลสาบฮาลา-บาลา โดยทางที่ไปนั้น คนเบตงเขาเรียกว่า สายบน (ทางที่รถตู้วิ่งมาเรียกสายล่าง) ทางนี้จะไม่คดเคี้ยวเท่าแต่จะผ่านเขาเยอะกว่า
สะพานข้ามฮาลา-บาลา เป็นสะพานที่วิศวกรของประเทศมาเลเซียมาสร้าง เป็นสะพานที่ไม่มีเสา เป็นสะพานที่เจ๋งมาก พี่วินบอกว่า ถ้าไม่มีสะพานนี้จะต้องเข้าเบตงอีกทางนึง ส่วนใหญ่คนจะมาทางนี้เพราะสะดวก แต่สะพานนี้ห่างจากเบตง 50 กิโลเมตร (คิดในใจจะขับเข้าอำเภอไปยังไงให้ถึง 50 กิโล!!) ระหว่างทางนั้นจะมีทางลงแพอยู่ด้านซ้ายมือ ซึ่งเข้าไปทางวัด (จำชื่อวัดไม่ได้) เขามีบริการล่องแพ แล้วก็เรือหางยาวในการเที่ยวในทะเลสาบด้วย ราคาอยู่ที่ประมาณ 2,000-5,000 บาท ถ้าจำไม่ผิดขึ้นอยู่กับว่าจะใช้บริการอะไร
น้ำตกละอองรุ้งจะอยู่ด้านขวามือ เข้าไปอีกประมาณ 200 เมตร แล้วเดินเท้าต่ออีก 200 เมตรก็จะถึงน้ำตก ชื่อที่มาของน้ำตกก็คือ ตรงสายน้ำตกเส้นใหญ่ที่ตกลงมากระทบกับข้างล่างจะทำให้เห็นสายรุ้งซ้อนกันอยู่ 2-3 รุ้ง
น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ทางเข้าจะอยู่ตรงสะพานก่อนจะทางขึ้นไปดูทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ต้องเข้าไปในซอยประมาณ 2-3 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่สายใหญ่กว่าน้ำตกละอองรุ้ง มีศาลาให้นั่งชมด้วย ถ้ามองจากจุดชมวิวทะเลหมอกก็จะเห็นน้ำตกนี้
สะพานแตแปซูเป็นสะพานที่ชาวบ้านเอาไว้ข้ามเข้าหมู่บ้าน ดูจะข้ามแม่น้ำ จะตั้งอยู่ข้างบ้านกำนัน ตรง กม.32
ระหว่างทางที่จะไปเที่ยวต่อตรงประมาณ กม.24 ถ้าขับรถเข้าอำเภอเบตง ทางด้านซ้ายมือจะมีท่อที่ชาวบ้านเขาต่อออกมา ตรงนั้นจะเป็นน้ำแร่สามารถกินได้ รสชาติก็แปลกๆดี พี่วินบอกว่า ชาวบ้านชอบเอาถังมารองน้ำไปกินเพราะมีหน่วยงานเคยมาตรวจสอบแล้วว่าปลอดภัยกินได้ หลังจากนั้นก็แยกกันกับพี่วิน เพราะพี่วินมีธุระต่อ แต่พี่วินก็แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวไว้อีกที่ยังไม่ได้ไป ขอขอบคุณพี่วินมา ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ
อุโมงค์ปิยะมิตร เป็นอุโมงค์ที่เกี่ยวกับการรบ บัตรค่าเข้าราคา 40 บาท บรรยากาศเหมือนเดินอยู่ในป่า ก่อนทางเข้าอุโมงค์ก็จะมีพิพิธภัณฑ์บอกประวัติและมีอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการรบ ภายในอุโมงค์ก็จะมีทางออกหลายทาง แล้วก็จะมีห้องต่างๆ ภายในอุโมงค์จัดเป็นสัดส่วน เช่น ห้องประกอบงานใต้ดิน ที่นั่ง ที่นอน เป็นต้น ก่อนทางออกจะมีต้นไม้พันปี ต้นใหญ่มาก ใครที่ชอบประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดที่นี่
สวนหมื่นบุปผา เป็นโครงการดอกไม้เมืองหนาวเบตงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บัตรค่าเข้าราคา 20 บาท มีดอกไม้นานาพรรณให้ได้ชม
เส้นทางการไปบ่อน้ำร้อน สวนดอกไม้หมื่นบุปผา อุโมงค์ปิยะมิตร จะเป็นเส้นทางเดียวกัน ถ้าขับรถไปควรใช้ความระมัดระวังกันหน่อย เพราะเส้นทางคดเคี้ยวและลดชันมาก !!
ใครที่อยากไปเที่ยวนเบตงที่พักมีหลายที่มาก เช่น Foto Hostel (พี่เจ้าของน่ารักมาก), โรงแรมเบตงโฮเต็ล, Grand Mandarin Betong Hotel และมีอีกหลายโรงแรม ของที่นี่ราคาก็ไม่แพงมาก ราคาพอๆ คนที่นี่ใจดีมาก ภายในอำเภอเบตงส่วนใหญ่จะเป็นคนจีน แต่รอบนอกจะเป็นอิสลามซะส่วนใหญ่ เรื่องของความปลอดภัย ปลอดภัยมากเขาจะมีหน่วยตรวจการณ์ประจำอยู่ทุกแยก ใส่ชุดลายพรางไว้ดูแลความสงบเรียบร้อย
การเดินทางคนเดียวความสนุกอยู่ที่ระหว่างทางมากกว่าปลายทาง ออกเดินทางแล้วเราจะได้คิดอะไรมากขึ้น ได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น ออกเดินทางเพื่อที่จะได้มีพลังไปสู้กับสิ่งต่างๆ ในอนาคต
ขอบคุณความ “กล้า” ที่ทำให้ “ก้าว” ไปในสิ่งที่คิดไว้
ขอบคุณพี่น้องผองเพื่อนที่ให้คำแนะนำตลอดการเดินทาง
ขอบคุณเธอที่เป็นแรงผลักดันในการเดินทาง
ชื่อสินค้า:
เบตง
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ขับรถไปเที่ยวเบตงกันครับ_Part 1
ไปเที่ยวทางใต้มาก้อบ่อยครั้ง แต่ยังไม่เคยไปถึง "เบตง" เลย จนเมื่อปลายเดือน ตค.ที่ผ่านมาได้มีโอกาสจัด Trip ลงไปเที่ยวเบตง เลยเอาภาพมาฝากครับ Trip เริ่มจาก วันแรก กทม. - ไปพักที่ นครศรีธรรมราช
สมาชิกหมายเลข 781592
บุกทะลวงถนนสายใต้ ‘พิพัฒน์’ หารือ World Bank เคาะแหล่งเงินกู้ ‘สะพานทะเลสาบสงขลา-เกาะลันตา’
พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมต คมนาคม เปิดเผยว่าได้คุยกับ ธนาคารโลก ที่จะสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลาถึงพัทลุง ขณะเดียวกันร่วมศึกษาความคุ้มค่าในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมโยงการขนส่งทางน้ำระหว่าง
สมาชิกหมายเลข 9147005
ขับรถไปเที่ยวเบตงกันครับ_Part 2
Part 2 พวกเราออกเดินทางจากเบตง เข้าสงขลา นครศรีฯ ชุมพร แล้วเข้า กทม.ครับ อาหารเช้าไก่เบตง แวะเก็บภาพก่อนกลับออกจากเบตง ผ่านเข้าด่านมาเลเซีย ถึงสงขลาแล้ว เข้าถนนนางงาม หาของรับประทานกัน ก๊วยเต
สมาชิกหมายเลข 781592
รบกวนตรวจทริปครับ สงขลา ปีนัง เบตง ครับ
ตาราง ทริป แบกเป้ สงขลา ปีนัง เบตง D1 จากสนามบิน สองแถวสีน้ำเงิน ไป หอนาฬิกา เอากระเป็าไปเก็บ กินข้าวเที่ยง นั่งสองแถวไปสงขลา ที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวแหลมสมิหลา (ใกล้ร้านเค้ก EP สมิหลา) รอบ 13
สมาชิกหมายเลข 2159089
เบตง ถ้าจะเที่ยวสวนหมื่นบุปผา อุโมงค์ปิยะมิตร และบ่อน้ำร้อน ควรมีเวลากี่ชั่วโมง
พอดีมีแพลนไปเบตง จะถึงตัวเมืองราวๆ 14.30 ซึ่งถ้าเที่ยวในตัวเมือง ก็ไม่ค่อยมีจุดที่สมาชิกต้องการ จะมีก็คือกินข้าวเย็นและถ่ายรูปตรงอุโมงค์ เลยคิดว่า พอเช็คอินโรงแรมเสร็จ จะขับรถไปที่สวนหมื่นบุปผา เก็บโ
double@pantip
เบตง สตรีทอาร์ต อุโมงค์ ทะเลหมอก วันเดย์ทริป เพื่อนใหม่ ความสุข
จุดเริ่มต้นการเดินทาง หัวลำโพง ทริปนี้หนึ่งในทริปที่ต้องไปก่อนตาย " เบตง " ความตั้งใจที่ไปถ่ายรูปสตรีทอาร์ตในเมืองเบตง จากการชวนเพื่อนที่รู้จักหลายครั้งจนครั้งนี้ ตัดสินใจจองตั๋วรถไฟ รถทัวร์
สมาชิกหมายเลข 1000423
#ไปกับKNA :: Betong 3D2N ณ The Holidays Hill Betong by KNA
.. เมืองเบตง ..เป็นอำเภอที่มีขนาดใหญ่ที่อยู่ในจังหวัดยะลาเป็นอำเภอที่ตั้งอยู่ใต้สุดของประเทศไทยอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 1,220 กิโลเมตร ....ฉันได้มาถึงแล้วววววววว *O*3 วัน 2 คืน (8-10 ธันวา 2563
KNA4381324
นั่งรถไฟไป “เบตง” กันไหม เบตงยังคงโอเค เมืองใต้สุดสยาม เที่ยวง่ายๆ ไปไม่ยาก
#นั่งรถไฟไป “เบตง ” กันไหม #เบตงยังคงโอเค ....... เบตง เมืองเล็กๆที่อยู่ใต้สุดเเดนสยามไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ใครคิด เที่ยวง่ายๆ ไปไม่ยาก งบ 4,490 ก็เที่ยวได้ #เที่ยวครบใช้งบน้อย ออกเดินทางจา
Taeremix
แลต๊ะแลใต้ 6 วัน เบตง-หาดใหญ่ Green Sea, Mist Sea 24-29/7/67
เมื่อคิดถึงต้นไม้ ภูเขา ทะเลหมอก จขกท ก็เลือกที่จะไปภาคเหนือเป็นหลัก แต่แม่เคยบอกเสมอว่าเห็นหมอกจนชินแล้วที่บ้านเกิด สมัยก่อนยังไม่มีโซเชียลก็ยังไม่ค่อยเชื่อ แต่ปัจจุบันทั้งภาพ และคลิปทำให้ต้องเชื่อว่
สายฟ้า พาเที่ยว
เบตง สูงวัย ขอไปเอง ไปกับทัวร์ไม่ไหว ตอนที่ 3
เบตง สูงวัย ขอไปเอง ไปกับทัวร์ไม่ไหว ตอนที่ 1 https://pantip.com/topic/41512323/ เบตง สูงวัย ขอไปเอง ไปกับทัวร์ไม่ไหว ตอนที่ 2 https://pantip.com/topi
ห้าสิบกะรัต
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
อำเภอเบตง
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 649
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] เบตงโอเคเลย
ช่วงเวลาเดินทาง : ปลายเดือนมกราคม 2561
การเดินทาง : รถไฟไทย (ลงหาดใหญ่)
รถตู้ (หาดใหญ่-เบตง)
รถมอเตอร์ไซค์ (เบตง)
เริ่มต้นกันที่สถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ รถไฟขบวน 37 มาถึงบางซื่อเวลา 15.34 น. แต่เราเลือกที่จะนั่งรถปรับอากาศนอน ราคาอยู่ที่ 833 บาท ก็นั่งชมวิวไปเรื่อย สำหรับอาหารที่ตู้เสบียงจะราคาชุดละ 150 บาท พีคตรงที่ว่า หัวรถจักรเสีย ทำให้รถเสียเวลาไปประมาณ 2 ชั่วโมง ค่อนข้างกังวลเลยทีเดียว เพราะวางแผนไว้ว่าจะต้องไปทันรถตู้รอบประมาณ 7-8 โมงเช้าที่หาดใหญ่ แต่ก็ไม่ทันไรก็หลับไปเพราะนอนหลับสบายมาก zZZzz
สวัสดีหาดใหญ่... ถึงหาดใหญ่ประมาณ 9.30 น. ก็เดินตรงจากสถานีรถไฟมาเรื่อยๆ ประมาณ 3 แยกไฟแดงคิวรถตู้จะอยู่ตรงข้ามกับธนาคารธนชาติ “คิวรถตู้เบตง” ค่าโดยสาร 230 บาท เราเลือกที่จะไปทางยะลา (ไปทางมาเลเซียได้ ราคาจะแพงกว่า) ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง จะมีด่านตรวจเป็นระยะ แต่ก็ไม่ต้องตกใจ การเดินทางก็จะผ่านจังหวัดยะลา สะพานข้ามทะเลสาบฮาลา-บาลา หลังจากสะพานนั้นมาจะเหลือระยะทางอีกประมาณ 50 กิโลเมตรก็จะถึงเบตง แต่ระยะทางนี่คดเคี้ยวมาก ใครไม่เคยชินกับทางคดเคี้ยวเตรียมถุงรอได้เลย ใช้ระยะเวลาในการเดินทาง 2 ชั่วโมง
14.30 น. สวัสดีเบตง เป็นเมืองที่ไม่ใช่ที่ราบแต่อยู่ในหุบเขา มีแต่เนิน เราไปพักที่โรงแรมศรีเบตง อยู่ตรงข้ามกับตลาด เลือกพักห้องพัดลม ราคา 350 บาท หลังจากนั้นก็มีพี่ใจดีพาไปเช่ามอเตอร์ไซค์ ร้านจะอยู่ตรงถนนประชาธิปัตย์ เยื้องกับร้าน Betong Route 410 ราคาจะอยู่ที่ 300 บาท 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็ได้เวลาแว๊น แต่คือ... ขับมอเตอร์ไซค์ไม่เป็นจ้า งานนี้คงจำเป็นที่จะต้องขับเป็นซักหน่อย ก็ประเดิมขับไปที่บ่อน้ำร้อน ที่บ่อน้ำร้อนก็จะมีให้ลองให้ต้มไข่ ใช้เวลาแค่ 7 นาทีไข่ก็จะสุก แต่จะลงเล่นน้ำไม่ได้นะ ต้องไปเล่นอีกบ่อหนึ่งซึงเขาแยกเอาไว้
จากนั้นก็เดินทางเข้ามาทางอำเภอ ด้านซ้ายมือจะมีป้ายต้อนรับและป้าย OKBETONG อยู่ทางด้านซ้ายมือ สามารถเข้าไปถ่ายรูปได้ ขับรถมาเรื่อยๆ ก็จะเห็นป้ายเลี้ยวขวาสามารถไปด่านพรมแดนไทยมาเลเซียได้ ระหว่างทางค่อนข้างเปลี่ยวและกำลังทำถนนใหม่ ประมาณ 10 กิโลเมตร เส้นทางก็คดเคี้ยวแต่มีเกาะกลางถนนคั่นกลางทำให้ขับรถไม่ค่อยยาก
KINGDOM OF THAILAND นั่นคือ พรมแดนระหว่างไทยกับมาเลเซียที่ใต้สุดของประเทศไทย ถ้าใครมีพาสปอร์ตก็สามารถข้ามไปฝั่งมาเลได้ มีคนข้ามไปมาตลอด
อำเภอเบตงเป็นอำเภอเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในหุบเขา ในวันนึงบางครั้งอาจมีถึง 3 ฤดู สถานที่เที่ยวในอำเภอก็จะมีหอนาฬิกา ตู้ไปรษณีย์ใบใหญ่ สวนสุดสยาม สนามกีฬากลางหุบเขา บ้านนกนางแอ่น อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ วัดพุทธาธิวาส เสาธงชาติไทยที่สูงที่สุดในประเทศไทย สามารถเดินขึ้นไปชมวิวเมืองได้บนพิพิธภัณฑ์เบตง
6.18 น. ตื่นสายยยย!! ตอนแรกในใจคิดว่าจะไม่ไปดูทะเลหมอกที่อัยเยอร์เวงแล้ว แต่ก็มาถึงทั้งทีจะยอมไม่ได้ ยิ่งเมื่อวานฝนตก ทะเลหมอกขึ้นแน่ๆ ก็อาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วขับรถออกไปที่ กม.32 เส้นทางค่อนข้างขับยาก เพราะเส้นทางคดเคี้ยวตลอด พอถึง กม. 32 ก็ขับข้ามสะพานไปแล้วเลี้ยวซ้ายเลย จะมีป้ายบอกทางขึ้นไปดูทะเลหมอกอยู่ รถยนต์จอดได้แค่ตรงห้องน้ำก่อนทางขึ้น ถ้าไม่อยากเดินขึ้นก็สามารถใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ได้ คนละ 20 บาท แต่ทางชันมาก จากที่พักใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาที ไปถึงก็เกือบๆ 8 โมงแล้ว ขึ้นไปถึงหมอกฟุ้งมาก แต่ลมก็พัดแรง ไม่นานฟ้าก็เปิดเป็นระยะๆ คนที่ลงมาก่อนน่าเสียดายนะคะ แล้วก็มีพี่วินมอเตอร์ไซค์ทะเลหมอกเบอร์ 2 ที่ใจดีเข้ามาคุยด้วย ไปๆ มาๆ พี่เขาพาไปเที่ยวเฉยเลย ก็ขับรถกันไปคนละคัน มันมีประโยคนึงที่ฟังแล้วสะดุด “ไม่ต้องกลัวเรานะ ถ้ากลัวเราเดี๋ยวเที่ยวไม่สนุก” โอ้โหววว พี่วินคิดได้ไงเนี่ย แล้วพี่วินก็พาไปที่สะพานข้ามทะเลสาบฮาลา-บาลา โดยทางที่ไปนั้น คนเบตงเขาเรียกว่า สายบน (ทางที่รถตู้วิ่งมาเรียกสายล่าง) ทางนี้จะไม่คดเคี้ยวเท่าแต่จะผ่านเขาเยอะกว่า
สะพานข้ามฮาลา-บาลา เป็นสะพานที่วิศวกรของประเทศมาเลเซียมาสร้าง เป็นสะพานที่ไม่มีเสา เป็นสะพานที่เจ๋งมาก พี่วินบอกว่า ถ้าไม่มีสะพานนี้จะต้องเข้าเบตงอีกทางนึง ส่วนใหญ่คนจะมาทางนี้เพราะสะดวก แต่สะพานนี้ห่างจากเบตง 50 กิโลเมตร (คิดในใจจะขับเข้าอำเภอไปยังไงให้ถึง 50 กิโล!!) ระหว่างทางนั้นจะมีทางลงแพอยู่ด้านซ้ายมือ ซึ่งเข้าไปทางวัด (จำชื่อวัดไม่ได้) เขามีบริการล่องแพ แล้วก็เรือหางยาวในการเที่ยวในทะเลสาบด้วย ราคาอยู่ที่ประมาณ 2,000-5,000 บาท ถ้าจำไม่ผิดขึ้นอยู่กับว่าจะใช้บริการอะไร
น้ำตกละอองรุ้งจะอยู่ด้านขวามือ เข้าไปอีกประมาณ 200 เมตร แล้วเดินเท้าต่ออีก 200 เมตรก็จะถึงน้ำตก ชื่อที่มาของน้ำตกก็คือ ตรงสายน้ำตกเส้นใหญ่ที่ตกลงมากระทบกับข้างล่างจะทำให้เห็นสายรุ้งซ้อนกันอยู่ 2-3 รุ้ง
น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ทางเข้าจะอยู่ตรงสะพานก่อนจะทางขึ้นไปดูทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ต้องเข้าไปในซอยประมาณ 2-3 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่สายใหญ่กว่าน้ำตกละอองรุ้ง มีศาลาให้นั่งชมด้วย ถ้ามองจากจุดชมวิวทะเลหมอกก็จะเห็นน้ำตกนี้
สะพานแตแปซูเป็นสะพานที่ชาวบ้านเอาไว้ข้ามเข้าหมู่บ้าน ดูจะข้ามแม่น้ำ จะตั้งอยู่ข้างบ้านกำนัน ตรง กม.32
ระหว่างทางที่จะไปเที่ยวต่อตรงประมาณ กม.24 ถ้าขับรถเข้าอำเภอเบตง ทางด้านซ้ายมือจะมีท่อที่ชาวบ้านเขาต่อออกมา ตรงนั้นจะเป็นน้ำแร่สามารถกินได้ รสชาติก็แปลกๆดี พี่วินบอกว่า ชาวบ้านชอบเอาถังมารองน้ำไปกินเพราะมีหน่วยงานเคยมาตรวจสอบแล้วว่าปลอดภัยกินได้ หลังจากนั้นก็แยกกันกับพี่วิน เพราะพี่วินมีธุระต่อ แต่พี่วินก็แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวไว้อีกที่ยังไม่ได้ไป ขอขอบคุณพี่วินมา ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ
อุโมงค์ปิยะมิตร เป็นอุโมงค์ที่เกี่ยวกับการรบ บัตรค่าเข้าราคา 40 บาท บรรยากาศเหมือนเดินอยู่ในป่า ก่อนทางเข้าอุโมงค์ก็จะมีพิพิธภัณฑ์บอกประวัติและมีอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการรบ ภายในอุโมงค์ก็จะมีทางออกหลายทาง แล้วก็จะมีห้องต่างๆ ภายในอุโมงค์จัดเป็นสัดส่วน เช่น ห้องประกอบงานใต้ดิน ที่นั่ง ที่นอน เป็นต้น ก่อนทางออกจะมีต้นไม้พันปี ต้นใหญ่มาก ใครที่ชอบประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดที่นี่
สวนหมื่นบุปผา เป็นโครงการดอกไม้เมืองหนาวเบตงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บัตรค่าเข้าราคา 20 บาท มีดอกไม้นานาพรรณให้ได้ชม
เส้นทางการไปบ่อน้ำร้อน สวนดอกไม้หมื่นบุปผา อุโมงค์ปิยะมิตร จะเป็นเส้นทางเดียวกัน ถ้าขับรถไปควรใช้ความระมัดระวังกันหน่อย เพราะเส้นทางคดเคี้ยวและลดชันมาก !!
ใครที่อยากไปเที่ยวนเบตงที่พักมีหลายที่มาก เช่น Foto Hostel (พี่เจ้าของน่ารักมาก), โรงแรมเบตงโฮเต็ล, Grand Mandarin Betong Hotel และมีอีกหลายโรงแรม ของที่นี่ราคาก็ไม่แพงมาก ราคาพอๆ คนที่นี่ใจดีมาก ภายในอำเภอเบตงส่วนใหญ่จะเป็นคนจีน แต่รอบนอกจะเป็นอิสลามซะส่วนใหญ่ เรื่องของความปลอดภัย ปลอดภัยมากเขาจะมีหน่วยตรวจการณ์ประจำอยู่ทุกแยก ใส่ชุดลายพรางไว้ดูแลความสงบเรียบร้อย
การเดินทางคนเดียวความสนุกอยู่ที่ระหว่างทางมากกว่าปลายทาง ออกเดินทางแล้วเราจะได้คิดอะไรมากขึ้น ได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น ออกเดินทางเพื่อที่จะได้มีพลังไปสู้กับสิ่งต่างๆ ในอนาคต
ขอบคุณความ “กล้า” ที่ทำให้ “ก้าว” ไปในสิ่งที่คิดไว้
ขอบคุณพี่น้องผองเพื่อนที่ให้คำแนะนำตลอดการเดินทาง
ขอบคุณเธอที่เป็นแรงผลักดันในการเดินทาง