ปัญหารอบนี้มันเรื่อง money game
มันเรื่องของเงินที่มันต้องมองว่า บอนด์ยิลด์ขึ้น เงินมันจะไปไหน
ตราบใดที่คนระดับบนที่กุมไข่ของเศรษฐกิจไม่เจ๊ง
โอกาสเกิดวิกฤติคงยาก
มันแค่เป็นเรื่องของเงินที่พวกเค้าถือจะไหนต่อดี
จะอยู่ในตลาดต่อมั้ย ที่ต้องยอมรับว่า ไม่ถูกแล้ว
หรือจะเอาเงินออกมาพัก กินดอกเพลินๆ ที่ความเสี่ยงต่ำกว่าก่อน
แล้วรอให้เงินมันไหลออกจากตลาดไปมากที่คุ้มกับความเสี่ยงพอ
เพราะงั้นการลงหนัก ไม่มี เพราะลงระดับนึง เงินที่พักไว้มันก็กลับเข้ามา
แต่มันจะเลือกเข้าด้วยนะ หุ้นที่แพง เราก็เห็นแล้วว่า เค้าขายจนเละแค่ไหน
เพราะต้องยอมรับว่า การเติบโตของเศรษฐกิจมันมี แต่มันจะไม่โตมาก
เพราะก่อนหน้านี้ ต้นทุนทางการเงินมันต่ำ การลงทุนมันเลยเกิด
แต่จากนี้จะลงทุนอะไรต้องคิดหนักขึ้น
และบรรยากาศที่ดอกขึ้นเรื่อยๆ ใครจะมีอารมณ์ลงทุนเยอะๆนอกจากรายใหญ่
ภาพรวมของเศรษฐกิจมันเลยจะโตช้าขึ้น ฟื้นแบบช้าๆ
แต่ถ้าเค้าอยากทำให้เกิดวิกฤติ คงจะเกิดจากการจงใจ ตั้งใจขึ้นดอกรัวๆ ให้ตลาดมันช็อก
มันไม่ใช่วิกฤติ มันห่างจากวิกฤติเยอะ
มันเรื่องของเงินที่มันต้องมองว่า บอนด์ยิลด์ขึ้น เงินมันจะไปไหน
ตราบใดที่คนระดับบนที่กุมไข่ของเศรษฐกิจไม่เจ๊ง
โอกาสเกิดวิกฤติคงยาก
มันแค่เป็นเรื่องของเงินที่พวกเค้าถือจะไหนต่อดี
จะอยู่ในตลาดต่อมั้ย ที่ต้องยอมรับว่า ไม่ถูกแล้ว
หรือจะเอาเงินออกมาพัก กินดอกเพลินๆ ที่ความเสี่ยงต่ำกว่าก่อน
แล้วรอให้เงินมันไหลออกจากตลาดไปมากที่คุ้มกับความเสี่ยงพอ
เพราะงั้นการลงหนัก ไม่มี เพราะลงระดับนึง เงินที่พักไว้มันก็กลับเข้ามา
แต่มันจะเลือกเข้าด้วยนะ หุ้นที่แพง เราก็เห็นแล้วว่า เค้าขายจนเละแค่ไหน
เพราะต้องยอมรับว่า การเติบโตของเศรษฐกิจมันมี แต่มันจะไม่โตมาก
เพราะก่อนหน้านี้ ต้นทุนทางการเงินมันต่ำ การลงทุนมันเลยเกิด
แต่จากนี้จะลงทุนอะไรต้องคิดหนักขึ้น
และบรรยากาศที่ดอกขึ้นเรื่อยๆ ใครจะมีอารมณ์ลงทุนเยอะๆนอกจากรายใหญ่
ภาพรวมของเศรษฐกิจมันเลยจะโตช้าขึ้น ฟื้นแบบช้าๆ
แต่ถ้าเค้าอยากทำให้เกิดวิกฤติ คงจะเกิดจากการจงใจ ตั้งใจขึ้นดอกรัวๆ ให้ตลาดมันช็อก