สวัสดีครับ วันนี้จะมาสอนวิธีการถ่ายภาพแบบ Light Painting กัน
Light Painting เป็นการถ่ายเล่นกับแสง ไม่ว่าจะเป็น แสงไฟบ้าน ไฟผับ ไฟงานเลี้ยง หรือแสงรถยนต์ก็ได้
เราจะมาดูกันว่าวิธีการตั้งค่ากล้องและวิธีการถ่ายจะต้องทำยังไงบ้าง
พร้อมแล้วก็เริ่มกันเลยครับ

ในการสอนครั้งนี้จะยกตัวอย่างกล้อง Nikon นะครับ
ส่วน Canon ก็ไม่ต่างกันมาก ลองๆ ปรับกันดูนะครับ
-------------------------
1. ให้เลือกใช้เลนส์คิท หรือเลนส์ที่มีระยะสั้นๆ เช่น 18 mm เป็นตั้น เพราะการถ่ายแบบ Light Painting จะต้องใช้แฟลชสาดใส่ตัวแบบ เพื่อให้ตัวแบบชัด ไม่เบลอไปกับแสงที่ถ่าย

2. เลือกโหมด M เพื่อที่เราจะสามารถปรับทุกอย่างเองได้ และค่าต่างๆที่ปรับ จะได้ไม่คลาดเคลื่อนนั่นเองครับ

3.ปรับ ISO ลงต่ำๆ เลยครับ แนะนำให้ปรับลงสุดเลย เพราะภาพ Light Painting จะต้องเน้นแสง และแนะนำให้ถ่ายตอนกลางคืนด้วยนะ จะได้มืดแบบสุดๆ ไปเลย

4. ปรับค่า F หรือค่ารูรับแสงขึ้น ให้อยู่ระหว่าง 8-15 หรือสูงกว่านั้นถ้าหากตอนถ่ายยังไม่มืดพอ
#นอกจากนี้การปรับค่าFสูงๆยังช่วยให้ได้รายละเอียดภาพที่คมชัดอีกด้วยนะ

5. เรามักจะชินกับ Speed Shutter ที่สูงๆ เพราะภาพจะได้ไม่เบลอ และสวย
ปกติจะอยู่ที่ 1/60 ขึ้นไป ภาพถึงจะไม่สั่น
แต่ครั้งนี้ต่างออกไป เราจะใช้ Speed ที่น้อยมากๆ เริ่มตั้งแต่ 1" - 5" (วินาทีต่อการกดหนึ่งครั้ง) หรือกำหนดเอง (Bulb กดค้างเท่าที่ต้องการ) ซึ่งการทำให้ speed shutter ต่ำๆ จะทำให้กล้องเก็บแสงทั้งหมดระหว่างที่กด shutter

6.หลายๆ คนไม่เคยรู้เลยว่ากล้องของเรามีโหมดแฟลชแบบอื่นซ่อนอยู่ด้วย เพราะไม่ค่อยได้ใช้นั่นเอง ดังนั้นวันนี้จะต้องปรับแฟลชให้อยู่ในโหมด Rear (กดปุ่มเปิดแฟลชค้างไว้ แล้วหมุนตัวปรับ Speed shutter) ซึ่งโหมด Rear จะทำให้แฟลชสาดแสงอันแวววับออกมาในจังหวะที่กล้องถ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว หรือตอนที่กล้องมีเสียงดัง แกร๊ก ครั้งที่สอง แฟลชถึงจะสาดออกมา และเจ้าแฟลชนี่แหละ ที่เป็นหัวใจหลัก ทำให้ตัวแบบของเรายังชัดและสวยงามอยู่เสมอ

7.1 เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้ว คราวนี้เป็นวิธีการถ่ายนะครับ แบบแรกคือการถ่ายภาพคน ซึ่งมักจะถ่ายในผับ หรือที่มีแสงสวยๆ
มีธีการคือจ่อกล้องไว้ที่แบบ ให้แบบอยู่ใกล้กล้องมากที่สุด แต่ห้ามซูมนะ เพราะมันจะทำให้แฟลลชสาดออกไปไม่ถึงตัวแบบ ตัวแบบจะหายไปกับแสงนั่นเอง

7.2 คราวนี้ก็เอียงกล้องซักเล็กน้อย ให้คิดว่า เอียงมาก แสงที่ได้ก็จะเป็นเส้นยาวๆ เอียงน้อย แสงที่ได้ก็จะเป็นเส้นสั้นๆ อยากได้แบบไหนก็เอียงเอาเองนะครับ

7.3 จากนั้น ถ้า speed shutter เป็นโหมด Bulb ให้กด Shutter ค้างไว้ แล้วหมุนกล้องกลับมามุมที่ต้องการจากนั้นก็ปล่อย shutter ทันที แต่ถ้า speed shutter ที่ตั้งไว้เป็นวินาที ก็กดแค่ครั้งเดียว แล้วหมุนกล้องกลับมาทันที ก่อนที่กล้องจะจับภาพเสร็จ หรือก่อนที่แฟลชจะสาดกระหน่ำออกมานั่นเอง
พอเสร็จแล้วเราก็จะได้ภาพที่มีแสงสวยๆ ไว้อวดเพื่อนๆ กันแล้ว

8.1 คราวนี้มาดูการถ่ายแสงรถยนต์ตามท้องถนนกันบ้างนะครับ
การถ่ายแบบนี้ เราต้องการแสงที่มีการเคลื่อนไหว แต่ฉากหรือสิ่งแวดล้อมต้องนิ่ง
แต่เราไม่สามารถสาดแฟลชไปให้ทั่วทั้งบริเวณได้ เพราะงั้นก็ปิดแฟลลชได้เลยครับ แต่เปลี่ยนมาใช้ขาตั้งกล้องแทน หรือถ้ามีรีโหมทชัทเตอร์มาช่วย จะดีมากเลยครับ เพราะตอนเรากด Shutter ภาพจะได้นิ่งที่สุดนั่นเอง
การถ่ายแบบนี้จะไม่แนะนำให้ใช้ Bulb นะครับ แนะนำให้ตั้ง Speed Shutter ไว้ที่ประมาณ 2"-5" วินาที หรือมากกว่านี้ ถ้าต้องการแสงแบบยาวๆ

8.2 แต่ถ้าหากจะใช้ Bulb ก็กดค้างไว้ซัก 2-5 วินาที ก็ได้ครับ รอจังหวะที่รถแล่นก่อนนะ ค่อยกด
และอย่าลืมว่าต้องให้กล้องนิ่งที่สุด เพราะเราไม่ได้สาดแฟลชออกมาแล้ว
จากนั้นเราก็จะได้ภาพที่เป็นเส้นแสงของรถยนต์ที่โลดแล่นอยู่บนถนนแบบสวยๆ แล้ว
ถ้าไม่สวยก็ถ่ายใหมม่นะเออ

สุดท้ายนี้อยากขอฝากครับ ว่า
"จะเป็นช่างภาพที่ดี ไม่จำเป็นต้องมีพรสวรรค์
แต่จะต้องขยันถ่ายบ่อยๆ
เพราะภาพที่สวย คือภาพที่ถ่ายถูกที่ ถูกเวลา"
อย่าคิดว่าตั้งค่าตามนี้เปะๆ แล้ว ภาพจะสวยเว่อร์วังอลังการ เราต้องรู้จักประยุกต์ใช้ และดูแสงของแต่ละที่ด้วย ว่ามากน้อยแค่ไหน ค่อยๆปรับ ค่อยๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ครับ และอย่ายึดติดกับความสมบูรณ์แบบให้มาก ลองนั่น ลองนี่เยอะๆ บางทีเราอาจจะเจอเทคนิคการถ่ายของตัวเองก็เป็นได้
สอนถ่ายภาพแบบ Light Painting หรือการเล่นกับแสง
Light Painting เป็นการถ่ายเล่นกับแสง ไม่ว่าจะเป็น แสงไฟบ้าน ไฟผับ ไฟงานเลี้ยง หรือแสงรถยนต์ก็ได้
เราจะมาดูกันว่าวิธีการตั้งค่ากล้องและวิธีการถ่ายจะต้องทำยังไงบ้าง
พร้อมแล้วก็เริ่มกันเลยครับ
ในการสอนครั้งนี้จะยกตัวอย่างกล้อง Nikon นะครับ
ส่วน Canon ก็ไม่ต่างกันมาก ลองๆ ปรับกันดูนะครับ
-------------------------
1. ให้เลือกใช้เลนส์คิท หรือเลนส์ที่มีระยะสั้นๆ เช่น 18 mm เป็นตั้น เพราะการถ่ายแบบ Light Painting จะต้องใช้แฟลชสาดใส่ตัวแบบ เพื่อให้ตัวแบบชัด ไม่เบลอไปกับแสงที่ถ่าย
2. เลือกโหมด M เพื่อที่เราจะสามารถปรับทุกอย่างเองได้ และค่าต่างๆที่ปรับ จะได้ไม่คลาดเคลื่อนนั่นเองครับ
3.ปรับ ISO ลงต่ำๆ เลยครับ แนะนำให้ปรับลงสุดเลย เพราะภาพ Light Painting จะต้องเน้นแสง และแนะนำให้ถ่ายตอนกลางคืนด้วยนะ จะได้มืดแบบสุดๆ ไปเลย
4. ปรับค่า F หรือค่ารูรับแสงขึ้น ให้อยู่ระหว่าง 8-15 หรือสูงกว่านั้นถ้าหากตอนถ่ายยังไม่มืดพอ
#นอกจากนี้การปรับค่าFสูงๆยังช่วยให้ได้รายละเอียดภาพที่คมชัดอีกด้วยนะ
5. เรามักจะชินกับ Speed Shutter ที่สูงๆ เพราะภาพจะได้ไม่เบลอ และสวย
ปกติจะอยู่ที่ 1/60 ขึ้นไป ภาพถึงจะไม่สั่น
แต่ครั้งนี้ต่างออกไป เราจะใช้ Speed ที่น้อยมากๆ เริ่มตั้งแต่ 1" - 5" (วินาทีต่อการกดหนึ่งครั้ง) หรือกำหนดเอง (Bulb กดค้างเท่าที่ต้องการ) ซึ่งการทำให้ speed shutter ต่ำๆ จะทำให้กล้องเก็บแสงทั้งหมดระหว่างที่กด shutter
6.หลายๆ คนไม่เคยรู้เลยว่ากล้องของเรามีโหมดแฟลชแบบอื่นซ่อนอยู่ด้วย เพราะไม่ค่อยได้ใช้นั่นเอง ดังนั้นวันนี้จะต้องปรับแฟลชให้อยู่ในโหมด Rear (กดปุ่มเปิดแฟลชค้างไว้ แล้วหมุนตัวปรับ Speed shutter) ซึ่งโหมด Rear จะทำให้แฟลชสาดแสงอันแวววับออกมาในจังหวะที่กล้องถ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว หรือตอนที่กล้องมีเสียงดัง แกร๊ก ครั้งที่สอง แฟลชถึงจะสาดออกมา และเจ้าแฟลชนี่แหละ ที่เป็นหัวใจหลัก ทำให้ตัวแบบของเรายังชัดและสวยงามอยู่เสมอ
7.1 เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้ว คราวนี้เป็นวิธีการถ่ายนะครับ แบบแรกคือการถ่ายภาพคน ซึ่งมักจะถ่ายในผับ หรือที่มีแสงสวยๆ
มีธีการคือจ่อกล้องไว้ที่แบบ ให้แบบอยู่ใกล้กล้องมากที่สุด แต่ห้ามซูมนะ เพราะมันจะทำให้แฟลลชสาดออกไปไม่ถึงตัวแบบ ตัวแบบจะหายไปกับแสงนั่นเอง
7.2 คราวนี้ก็เอียงกล้องซักเล็กน้อย ให้คิดว่า เอียงมาก แสงที่ได้ก็จะเป็นเส้นยาวๆ เอียงน้อย แสงที่ได้ก็จะเป็นเส้นสั้นๆ อยากได้แบบไหนก็เอียงเอาเองนะครับ
7.3 จากนั้น ถ้า speed shutter เป็นโหมด Bulb ให้กด Shutter ค้างไว้ แล้วหมุนกล้องกลับมามุมที่ต้องการจากนั้นก็ปล่อย shutter ทันที แต่ถ้า speed shutter ที่ตั้งไว้เป็นวินาที ก็กดแค่ครั้งเดียว แล้วหมุนกล้องกลับมาทันที ก่อนที่กล้องจะจับภาพเสร็จ หรือก่อนที่แฟลชจะสาดกระหน่ำออกมานั่นเอง
พอเสร็จแล้วเราก็จะได้ภาพที่มีแสงสวยๆ ไว้อวดเพื่อนๆ กันแล้ว
8.1 คราวนี้มาดูการถ่ายแสงรถยนต์ตามท้องถนนกันบ้างนะครับ
การถ่ายแบบนี้ เราต้องการแสงที่มีการเคลื่อนไหว แต่ฉากหรือสิ่งแวดล้อมต้องนิ่ง
แต่เราไม่สามารถสาดแฟลชไปให้ทั่วทั้งบริเวณได้ เพราะงั้นก็ปิดแฟลลชได้เลยครับ แต่เปลี่ยนมาใช้ขาตั้งกล้องแทน หรือถ้ามีรีโหมทชัทเตอร์มาช่วย จะดีมากเลยครับ เพราะตอนเรากด Shutter ภาพจะได้นิ่งที่สุดนั่นเอง
การถ่ายแบบนี้จะไม่แนะนำให้ใช้ Bulb นะครับ แนะนำให้ตั้ง Speed Shutter ไว้ที่ประมาณ 2"-5" วินาที หรือมากกว่านี้ ถ้าต้องการแสงแบบยาวๆ
8.2 แต่ถ้าหากจะใช้ Bulb ก็กดค้างไว้ซัก 2-5 วินาที ก็ได้ครับ รอจังหวะที่รถแล่นก่อนนะ ค่อยกด
และอย่าลืมว่าต้องให้กล้องนิ่งที่สุด เพราะเราไม่ได้สาดแฟลชออกมาแล้ว
จากนั้นเราก็จะได้ภาพที่เป็นเส้นแสงของรถยนต์ที่โลดแล่นอยู่บนถนนแบบสวยๆ แล้ว
ถ้าไม่สวยก็ถ่ายใหมม่นะเออ
สุดท้ายนี้อยากขอฝากครับ ว่า
"จะเป็นช่างภาพที่ดี ไม่จำเป็นต้องมีพรสวรรค์
แต่จะต้องขยันถ่ายบ่อยๆ
เพราะภาพที่สวย คือภาพที่ถ่ายถูกที่ ถูกเวลา"
อย่าคิดว่าตั้งค่าตามนี้เปะๆ แล้ว ภาพจะสวยเว่อร์วังอลังการ เราต้องรู้จักประยุกต์ใช้ และดูแสงของแต่ละที่ด้วย ว่ามากน้อยแค่ไหน ค่อยๆปรับ ค่อยๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ครับ และอย่ายึดติดกับความสมบูรณ์แบบให้มาก ลองนั่น ลองนี่เยอะๆ บางทีเราอาจจะเจอเทคนิคการถ่ายของตัวเองก็เป็นได้