สวัสดีคับทุกท่าน กลับมาพบกันอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายจากกระทู้ที่แล้วไปเกือบสี่เดือนคับ ใจจริง ผมพยายามจะมาเขียนเรื่องราวดีๆให้ทุกท่านอ่านหลังเสร็จงานแต่งในแต่ละงานนะคับ แต่ในความเป็นจริง ยากมากคับ ภาระกิจรัดตัวยิ่งนักคับ บางทีก็มีงานติดกันหลายวันจนแทบแย่อยู่เหมือนกันคับ
วันนี้ ผมจะมาในหัวข้อนี้ที่เพิ่งจะเจอมากับตัวเองคับ ต้องออกตัวก่อนว่าปรกติ ผมจะทำงานเป็นทีมทั้งหมด 5 คน โดยแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน ดูแลความเรียบร้อยในงานแต่งงาน เช่น หนึ่งคนดูงานระบบแสงเสียงประสานงานกับเจ้าหน้าที่โรงแรมเปิดปิดไฟในคิวต่างๆ หนึ่งคนดูแลบ่าวสาวโดยเฉพาะนั้นก็คือผมเอง คือประกบไปกับบ่าวสาวแทบจะเป็นเงาและค่อยดูว่าอะไรที่จะทำให้บ่าวสาวมีความสุขที่สุดในวันที่สำคัญที่สุด หนึ่งคนดูแลผู้เกี่ยวข้องต่างๆเช่นเพื่อนเจ้าสาว ญาติพี่น้อง ประธานและบุคคลที่จำเป็นต้องดูแลและประสานงานคับ หนึ่งคนดูแลโต๊ะเซนต์อวยพรด้านหน้างานดูแลความเรียบร้อยความพร้อมในการรับแขกแม้กระทั้งประจำหน้าที่เองถ้าเจ้าหน้าที่ปะจำจุดนี้ยังไม่ลงมาซึ่งส่วนใหญ่บ่าวสาวมักจะมอบหมายให้เพื่อนเจ้าสาวบ้าง ญาติบ้างเป็นผู้ดูแล แต่เวลาทำงานจริงเค้าเหล่านั้น แต่งหน้ายังไม่เสร็จ.....ส่วนคนสุดท้ายก็จะดูเรื่องของการจัดคิวถ่ายภาพ ดูข้างเวทีและเติมเต็มในส่วนที่ขาดคับ ผมว่าทีมห้าคนช่างเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างยิ่งในการจัดงานไม่ว่างานนั้นจะเล็กหรือใหญ่ก็สามารถทำให้งานเป้นที่ชื่นชมนะคับ แต่........
เอาละคับ บ่าวสาวและญาติบ่าวสาว ท่านคงเคยได้ยินมาว่า หลายๆงานผ่านพ้นไปได้ด้วยทีมแค่สามคน หรือสองคนและขอให้เป็นแม่งานด้วย ผมก็เคยงงคับว่าอะไรคือ "แม่งาน???" ก็เพิ่งจะมาถึงบางอ้อจากงานที่แล้วคับ ในปัจจุบัน มีทีมที่ประชาสัมพันธ์ประสิทธิภาพการทำงานของตนเองว่าสามารถดูแลงานทั้งเล็กใหญ่ได้ด้วยทีมงานแค่สามคนและเป็นพิธีกรถือไมค์ให้อีกต่างหาก ผมนึกภาพไม่ค่อยออกว่าจะเป็นไปได้ยังไงและก็นึกถึงตัวเองว่าขนาดทีมห้าคนยังวุ่นแทบแย่ นี้สามคนแถมหนึ่งในสามคนเป็นพิธีกรมันจะวุ่นขนาดไหน จนได้มาเจอกับตัวเองที่งานงานนึงคับที่ทางเจ้าภาพขอคนทำงานแค่นี้ ขอแค่นี้จริงๆ แค่สามคนและขอให้ผมเป็นพิธีกรให้ด้วยสำหรับงานเช้าและงานเย็น เดี๋ยวคุณแม่จะจัดผู้ช่วยมาให้สองคนแทน ผมสบายๆนะคับกับการเป็นพิธีกรเพราะลูกล่อลูกชนผม ผมก็ว่าน่าจะดีพอควร แต่เรื่องของเรื่อง ยังสงสัยว่าจะบริหารจัดงานงานอย่างไรให้งานออกมาเรียบร้อยสมบูรณ์นี้ ซินั้นคือประเด็น จนมาถึงวันงานคับ....
ผมเดินทางถึงที่งานแต่เช้าตรู่คับ ความวุ่นวานก็บังเกิดเพราะการเตรียมงานทั้งหมดคุณแม่เจ้าบ่าวดูแลเพียงท่านเดียว มันจึงเป็นปัญหาแบบคอขวดที่ทุกคนต้องเข้ามาถามที่คุณแม่คนเดียวรวมถึงผมซึ่งก็ไม่ทราบว่า จานอยู่ไหน แก้วเก็บตรงไหน ของถวายพระใครไปรับมาหรือยัง ปิ่นโตละปิ่นโต และบลาบลาบลา จนต้องให้พระท่านมานั่งรอนะครับ แต่ทุกอย่างต้องดำเนินไปคับ ผมจึงขอให้ทำพิธีสงฆ์ให้เรียบร้อยก่อน อย่างอื่น เดี๋ยวมาว่ากันหลังจากนั้น ซึ่งระหว่างพิธีสงฆ์กำลังดำเนินไปผมกับทีมสองคนก็ช่วยกันตรวจสอบรายละเอียดต่างๆว่าอะไรยังไงบ้าง วุ่นวายอยู่พอควรคับ คุณแม่ก็ฟังสวดไป หันไปสั่งการไป ไม่นิ่งอย่างแท้จริงคับ
มาถึงช่วงพิธีการแล้วละคับที่ผมต้องจับไมค์ ผมจึงไม่ได้มีวิทยุสือสารอยู่ที่ตัว พิธีการเริ่มต้น ผู้ใหญ่และญาติของทางบ่าวสาวก็เดินทางมาถึง ผมก็มีการแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ทราบรายละเอียดเป็นระยะ แต่ต้องออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่พิธีกรแบบที่ช่างจำนรรจาที่พูดไปเรื่อยๆนะคับ จะพูดบ้าง ให้ท่านอย่ในความสงบบ้างตามกาละเทศะคับ พิธีการต่างๆก็เริ่มต้นขึ้นคับ ตั้งแต่แห่ขันหมาก เชิญผู้ใหญ่ขึ้นนั่งบนเวที รับตัวเจ้าสาว จุดพีคของเรื่องนี้อยู่ตรงที่ว่า การที่ผมต้องถือไมค์ในบทบาทพิธีการ ทำการคุมงานค่อนข้างยากขึ้นคับ เพราะการคิดล่วงหน้าไม่สามารถทำขึ้นได้ การป้องกันปัญหาไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ทั้งที่กำลังเล็งเห็นปัยหาได้แต่กวักมือหยอยๆเรียกทีมงานมาบอก การคุมเวลาก็เป้นไปได้ยากคับในบางจุด บางท่านอาจจะถามว่าทำไมไม่สั่งการผ่านไมค์เลย ผมถามกลับเลยดีกว่าว่า มันดูดีไหมคับกับการทำแบบนั้น ผมว่ามันดูไม่ค่อยดีนะ อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวคับ อีกปัญหาหนึ่งก็คือการเคลื่อนย้ายจัดสถานที่สำหรับพิธีการต่างๆซึ่งเราก็อดไม่ได้ที่จะลงมือไปดูแลการจัดวางด้วยตนเองจนบางที อ้าว ลืม ผมเป้นพิธีการนี้นา ต้องยืนพูดสวยๆพอ ภาพที่ท่านเห็นก็เลยเห็นภาพพิธีกรไปช่วยจัดสถานที่ไปด้วยกับทีมงานคับ อดไม่ได้จิงๆ รวมถึงการดูแลบ่าวสาวอย่างใกล้ชิดก็ทำไม่ได้คับเพราะต้องมาถือไมค์ตลอดเวลา เวลาบ่าวสาวมีคำถาม ผมก็ต้องละจากไมค์ตอบคำถามบ่าวสาวก่อน แล้วกลับมาสู่ไมคือีกครั้ง ดูวุ่นวายอยู่ไหมคับ ผู้ใหย่ท่านก็ใจเย็นนะคับ ทุกท่านยังคงยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดพิธีการ ขลุกขลักบ้างท่านก็มิได้ว่าอะไรคับ
หลังงานผมลองมาประเมินความสำเร็จของงาน โดยผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ก็ชื่นชมนะคับว่าโอเค งานลื่นไหลดี แต่ในความคิดผม ผมว่ามันดีได้มากกว่านั้นคับ ผมเลยแอบสงสัยว่าบางงานที่ใช้แม่งานและทีมงานอีกคนเดียว ความยุ่งยากมันจะมีมากขนาดไหน อ้อ ผมลืมพูดถึงสองคนที่คุณแม่ให้มาช่วยเหลือ เอาจริงๆ อยู่ร่วมงานดีกว่าคับ ยิ่งช่วยยิ่งงง ให้น้องเค้าสนุกกับการร่วมงานน่าจะดีกว่าคับ ผมทำสามคนพอได้อยู่คับ ยุ่งแบบสนุกๆกันไป แต่หลักงานหอบเลยคับ
โดยสรุปนะคับ ประเด็นที่อยากจะให้ท่านผู้อ่านได้ลองคิดดูคือ ทีมงานมีส่วนสำคัญคับ ถามว่าทีมสามคนพร้อมทำพิธีกรทำได้ไหม ทำได้คับ แต่ท่านต้องอย่าคาดหวังความสมบูรณ์แบบนะคับ มันจะไหลๆของมันไปได้คับ ขลุกขลักบ้าง ถ้าท่านไม่คิดมาก ก็ทำได้คับ แต่ท่านต้องเชื่อว่าเค้าทำได้กันจริงๆนะคับ ไม่ได้มายืนมึนงงกันไปมา ผมเข้าใจว่าการใช้ทีมเล็กก็จะประหยัดงบ แต่งานของท่านจัดครั้งเดียว จะเอาเงินเพียงเล็กน้อยมาแลกจะคุ้มกันหรือไม่คับ ลองคิดดูให้ดี โดยเฉพาะคำพูดของผู้ที่มาร่วมงานที่จะชมหรือติ นั้นเป็นส่วนที่ทำให้เจ้าภาพคิดหนักมากคับ อาจจะมีคนที่เค้าสามารถทำได้ดี อันนี้ผมก็เชื่อว่าอาจจะมี แต่ต้องมั่นใจและต้องไม่มาเสียใจทีหลังกับการตัดสินใจที่ผิดพลาดนะคับ
วันนี้คงต้องไปทำงานต่อละคับ ถ้าท่านสงสัย อยากพูดคุยอยากถาม อยากปรึกษา โทรมาคุยที่ 093 9156942 หรือไลน์มาคุยกันนะคับ ไอดีผม gamemun ผมมีอีกหลายแง่มุมให้ท่านได้รับทราบก่อนการจัดงานจริง อย่าเกรงใจที่จะทักมาคุยกันคับ ผมมาเขียนที่นี้เพราะอยากจะให้ทุกท่านจัดงานออกมาในรุปแบบของท่านเองที่เหมาะสมกับท่านเอง ดีที่สุดและคุ้มค่าที่สุดคับ
เรื่องหน้าผมจะคุยเรื่อง After Party ดีกว่า เผื่อเป็นแนวทางให้แก่หลายๆท่านได้ทราบ หรือพิมพ์ไว้ก็ได้นะครับ ถ้าอยากทราบแง่มุมไหน จะกลับมาเขียนให้อ่านสนุกๆต่อไปคับ
แม่งานและทีมอีกสองคน เท่านั้น ช่วยให้ราบรื่น แน่ใจหรออออ???
วันนี้ ผมจะมาในหัวข้อนี้ที่เพิ่งจะเจอมากับตัวเองคับ ต้องออกตัวก่อนว่าปรกติ ผมจะทำงานเป็นทีมทั้งหมด 5 คน โดยแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน ดูแลความเรียบร้อยในงานแต่งงาน เช่น หนึ่งคนดูงานระบบแสงเสียงประสานงานกับเจ้าหน้าที่โรงแรมเปิดปิดไฟในคิวต่างๆ หนึ่งคนดูแลบ่าวสาวโดยเฉพาะนั้นก็คือผมเอง คือประกบไปกับบ่าวสาวแทบจะเป็นเงาและค่อยดูว่าอะไรที่จะทำให้บ่าวสาวมีความสุขที่สุดในวันที่สำคัญที่สุด หนึ่งคนดูแลผู้เกี่ยวข้องต่างๆเช่นเพื่อนเจ้าสาว ญาติพี่น้อง ประธานและบุคคลที่จำเป็นต้องดูแลและประสานงานคับ หนึ่งคนดูแลโต๊ะเซนต์อวยพรด้านหน้างานดูแลความเรียบร้อยความพร้อมในการรับแขกแม้กระทั้งประจำหน้าที่เองถ้าเจ้าหน้าที่ปะจำจุดนี้ยังไม่ลงมาซึ่งส่วนใหญ่บ่าวสาวมักจะมอบหมายให้เพื่อนเจ้าสาวบ้าง ญาติบ้างเป็นผู้ดูแล แต่เวลาทำงานจริงเค้าเหล่านั้น แต่งหน้ายังไม่เสร็จ.....ส่วนคนสุดท้ายก็จะดูเรื่องของการจัดคิวถ่ายภาพ ดูข้างเวทีและเติมเต็มในส่วนที่ขาดคับ ผมว่าทีมห้าคนช่างเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างยิ่งในการจัดงานไม่ว่างานนั้นจะเล็กหรือใหญ่ก็สามารถทำให้งานเป้นที่ชื่นชมนะคับ แต่........
เอาละคับ บ่าวสาวและญาติบ่าวสาว ท่านคงเคยได้ยินมาว่า หลายๆงานผ่านพ้นไปได้ด้วยทีมแค่สามคน หรือสองคนและขอให้เป็นแม่งานด้วย ผมก็เคยงงคับว่าอะไรคือ "แม่งาน???" ก็เพิ่งจะมาถึงบางอ้อจากงานที่แล้วคับ ในปัจจุบัน มีทีมที่ประชาสัมพันธ์ประสิทธิภาพการทำงานของตนเองว่าสามารถดูแลงานทั้งเล็กใหญ่ได้ด้วยทีมงานแค่สามคนและเป็นพิธีกรถือไมค์ให้อีกต่างหาก ผมนึกภาพไม่ค่อยออกว่าจะเป็นไปได้ยังไงและก็นึกถึงตัวเองว่าขนาดทีมห้าคนยังวุ่นแทบแย่ นี้สามคนแถมหนึ่งในสามคนเป็นพิธีกรมันจะวุ่นขนาดไหน จนได้มาเจอกับตัวเองที่งานงานนึงคับที่ทางเจ้าภาพขอคนทำงานแค่นี้ ขอแค่นี้จริงๆ แค่สามคนและขอให้ผมเป็นพิธีกรให้ด้วยสำหรับงานเช้าและงานเย็น เดี๋ยวคุณแม่จะจัดผู้ช่วยมาให้สองคนแทน ผมสบายๆนะคับกับการเป็นพิธีกรเพราะลูกล่อลูกชนผม ผมก็ว่าน่าจะดีพอควร แต่เรื่องของเรื่อง ยังสงสัยว่าจะบริหารจัดงานงานอย่างไรให้งานออกมาเรียบร้อยสมบูรณ์นี้ ซินั้นคือประเด็น จนมาถึงวันงานคับ....
ผมเดินทางถึงที่งานแต่เช้าตรู่คับ ความวุ่นวานก็บังเกิดเพราะการเตรียมงานทั้งหมดคุณแม่เจ้าบ่าวดูแลเพียงท่านเดียว มันจึงเป็นปัญหาแบบคอขวดที่ทุกคนต้องเข้ามาถามที่คุณแม่คนเดียวรวมถึงผมซึ่งก็ไม่ทราบว่า จานอยู่ไหน แก้วเก็บตรงไหน ของถวายพระใครไปรับมาหรือยัง ปิ่นโตละปิ่นโต และบลาบลาบลา จนต้องให้พระท่านมานั่งรอนะครับ แต่ทุกอย่างต้องดำเนินไปคับ ผมจึงขอให้ทำพิธีสงฆ์ให้เรียบร้อยก่อน อย่างอื่น เดี๋ยวมาว่ากันหลังจากนั้น ซึ่งระหว่างพิธีสงฆ์กำลังดำเนินไปผมกับทีมสองคนก็ช่วยกันตรวจสอบรายละเอียดต่างๆว่าอะไรยังไงบ้าง วุ่นวายอยู่พอควรคับ คุณแม่ก็ฟังสวดไป หันไปสั่งการไป ไม่นิ่งอย่างแท้จริงคับ
มาถึงช่วงพิธีการแล้วละคับที่ผมต้องจับไมค์ ผมจึงไม่ได้มีวิทยุสือสารอยู่ที่ตัว พิธีการเริ่มต้น ผู้ใหญ่และญาติของทางบ่าวสาวก็เดินทางมาถึง ผมก็มีการแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ทราบรายละเอียดเป็นระยะ แต่ต้องออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่พิธีกรแบบที่ช่างจำนรรจาที่พูดไปเรื่อยๆนะคับ จะพูดบ้าง ให้ท่านอย่ในความสงบบ้างตามกาละเทศะคับ พิธีการต่างๆก็เริ่มต้นขึ้นคับ ตั้งแต่แห่ขันหมาก เชิญผู้ใหญ่ขึ้นนั่งบนเวที รับตัวเจ้าสาว จุดพีคของเรื่องนี้อยู่ตรงที่ว่า การที่ผมต้องถือไมค์ในบทบาทพิธีการ ทำการคุมงานค่อนข้างยากขึ้นคับ เพราะการคิดล่วงหน้าไม่สามารถทำขึ้นได้ การป้องกันปัญหาไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ทั้งที่กำลังเล็งเห็นปัยหาได้แต่กวักมือหยอยๆเรียกทีมงานมาบอก การคุมเวลาก็เป้นไปได้ยากคับในบางจุด บางท่านอาจจะถามว่าทำไมไม่สั่งการผ่านไมค์เลย ผมถามกลับเลยดีกว่าว่า มันดูดีไหมคับกับการทำแบบนั้น ผมว่ามันดูไม่ค่อยดีนะ อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวคับ อีกปัญหาหนึ่งก็คือการเคลื่อนย้ายจัดสถานที่สำหรับพิธีการต่างๆซึ่งเราก็อดไม่ได้ที่จะลงมือไปดูแลการจัดวางด้วยตนเองจนบางที อ้าว ลืม ผมเป้นพิธีการนี้นา ต้องยืนพูดสวยๆพอ ภาพที่ท่านเห็นก็เลยเห็นภาพพิธีกรไปช่วยจัดสถานที่ไปด้วยกับทีมงานคับ อดไม่ได้จิงๆ รวมถึงการดูแลบ่าวสาวอย่างใกล้ชิดก็ทำไม่ได้คับเพราะต้องมาถือไมค์ตลอดเวลา เวลาบ่าวสาวมีคำถาม ผมก็ต้องละจากไมค์ตอบคำถามบ่าวสาวก่อน แล้วกลับมาสู่ไมคือีกครั้ง ดูวุ่นวายอยู่ไหมคับ ผู้ใหย่ท่านก็ใจเย็นนะคับ ทุกท่านยังคงยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดพิธีการ ขลุกขลักบ้างท่านก็มิได้ว่าอะไรคับ
หลังงานผมลองมาประเมินความสำเร็จของงาน โดยผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ก็ชื่นชมนะคับว่าโอเค งานลื่นไหลดี แต่ในความคิดผม ผมว่ามันดีได้มากกว่านั้นคับ ผมเลยแอบสงสัยว่าบางงานที่ใช้แม่งานและทีมงานอีกคนเดียว ความยุ่งยากมันจะมีมากขนาดไหน อ้อ ผมลืมพูดถึงสองคนที่คุณแม่ให้มาช่วยเหลือ เอาจริงๆ อยู่ร่วมงานดีกว่าคับ ยิ่งช่วยยิ่งงง ให้น้องเค้าสนุกกับการร่วมงานน่าจะดีกว่าคับ ผมทำสามคนพอได้อยู่คับ ยุ่งแบบสนุกๆกันไป แต่หลักงานหอบเลยคับ
โดยสรุปนะคับ ประเด็นที่อยากจะให้ท่านผู้อ่านได้ลองคิดดูคือ ทีมงานมีส่วนสำคัญคับ ถามว่าทีมสามคนพร้อมทำพิธีกรทำได้ไหม ทำได้คับ แต่ท่านต้องอย่าคาดหวังความสมบูรณ์แบบนะคับ มันจะไหลๆของมันไปได้คับ ขลุกขลักบ้าง ถ้าท่านไม่คิดมาก ก็ทำได้คับ แต่ท่านต้องเชื่อว่าเค้าทำได้กันจริงๆนะคับ ไม่ได้มายืนมึนงงกันไปมา ผมเข้าใจว่าการใช้ทีมเล็กก็จะประหยัดงบ แต่งานของท่านจัดครั้งเดียว จะเอาเงินเพียงเล็กน้อยมาแลกจะคุ้มกันหรือไม่คับ ลองคิดดูให้ดี โดยเฉพาะคำพูดของผู้ที่มาร่วมงานที่จะชมหรือติ นั้นเป็นส่วนที่ทำให้เจ้าภาพคิดหนักมากคับ อาจจะมีคนที่เค้าสามารถทำได้ดี อันนี้ผมก็เชื่อว่าอาจจะมี แต่ต้องมั่นใจและต้องไม่มาเสียใจทีหลังกับการตัดสินใจที่ผิดพลาดนะคับ
วันนี้คงต้องไปทำงานต่อละคับ ถ้าท่านสงสัย อยากพูดคุยอยากถาม อยากปรึกษา โทรมาคุยที่ 093 9156942 หรือไลน์มาคุยกันนะคับ ไอดีผม gamemun ผมมีอีกหลายแง่มุมให้ท่านได้รับทราบก่อนการจัดงานจริง อย่าเกรงใจที่จะทักมาคุยกันคับ ผมมาเขียนที่นี้เพราะอยากจะให้ทุกท่านจัดงานออกมาในรุปแบบของท่านเองที่เหมาะสมกับท่านเอง ดีที่สุดและคุ้มค่าที่สุดคับ
เรื่องหน้าผมจะคุยเรื่อง After Party ดีกว่า เผื่อเป็นแนวทางให้แก่หลายๆท่านได้ทราบ หรือพิมพ์ไว้ก็ได้นะครับ ถ้าอยากทราบแง่มุมไหน จะกลับมาเขียนให้อ่านสนุกๆต่อไปคับ