สวัสดีค่ะ ดิฉันเพิ่งเคยเขียนกระทู้เป็นครั้งแรก ผิดพล่ดอย่างไรขออภัยด้วยนะค่ะ
เข้าเรื่องดีกว่า..ดิฉันคิดไตร่ตรองอยู่นานว่าจะเขียรสอบถามอย่างไรดี เคยเขียนและก็ลบไปหลายๆรอบ จนได้มีโอกาสครั้งนี้ ดิฉันอายุ33 ตอนนี้มีปัญหามากมายมารุมเร้า รู้ท้อ มืดหม่น เครียด หลายๆครั้งอยากหลับไปแบบไปตื่นขึ้นมาอีกเลย หลายๆครั้ง เดินไปอยากให้รถวิ่งมาชนให้จบไป แต่ชีวิตมันไม่ง่ายขนาดนั้น สินะ ตอนนี้ดิฉันตั้งครรภ์ได้ประมาน6 รึ7 เดือนไม่แน่ใจ เนื่องจากไม่ได้ไปฝากครรภ์ (ไม่มีเงินพอ) แต่ดิฉันตั้งใจจะไปตรวจ อยู่ แต่ด้วยอะไรๆหลายอย่าง มันทำให้ไม่มีโอกาสได้ไป ฉันรู้ว่าดิฉันมันแย่ ไม่ห่วงลูกรึไง ต่อว่าตัวเองเสมอ ดิฉันเคยมีลูกมาแล้ว3 คนค่ะ ในท้องคือคนที่4 บอกตรงๆดิฉันไม่ได้ตั้งใจจะมีเลย แต่ด้วยความเหลินเหล่อต้องตัวเอง ความผิดพลาด ของตัวเองล้วนๆ ดิฉันไม่โทษอะไรโทษตัวเองค่ะ แต่ยังไงเมื่อเค้าเกิดมาแล้วไม่ว่าด้วยเหตุผลใด เราต้องรับผิดชอบ ย้อนไปนิด ดิฉันมีสามี2คน คนแรกมีลูกด้วยกัน2คน หัวปีท้ายปี คนโต9ขวบแล้วค่ะ บอกตรงๆอย่างคนเป็นแม่คนนึง ดิฉันไม่ได้ตั้งใจมีลูกเลยสักคน เหตุผลคือไม่พร้อมแต่ด้วย ความเหลินเหล่อ แย่ๆของดิฉัน ไม่ควบคุมให้ดี จึงเกิดเด็กน้อยตาดำๆซึ่งพวกเค้าไม่ได้มีความผิดอะไร ดิฉันไม่คิดที่จะทำแท้ง อาจเพราะกลัว สงสารและหลายๆอย่างจึงทำให้ดิฉันไม่คิดจะทำ ดิฉันมีลูกคนแรกก็ยังโอเครอยู่อาจจะลำบากบ้างแต่ยังพอดีอยู่ ที่บ้านดิฉันไม่ชอบแฟนดิฉันเอามากๆเนื่องจากไม่ได้ทำอะไรถูกต้องตามประเพณี เค้าอายุมากกว่าดิฉัน 11 ปี ดิฉันชอบคนอายุมากกว่าเนื่องเค้าดูเป็นผู้ใหญ่ น่าจะมีความคิด และเป็นผู้นำที่ดีได้ แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นเลยเค้าเจ้าชู้พอตัว ตอนมีลูกคนแรกก็มีเรื่องหญิงเข้ามาช่วงท้อง แต่ดิฉันก็ต้องอดทนเอา จนลูกได้ไม่กี่เดือนเราก็ต้องเลิกกัน ด้วยความเต้าชู้ของเค้าด้วยที่บ้านเราด้วยและอื่นๆ ดิฉันเลิกกับเค้าได้ประมาณไม่กี่เดือนก็กลับมาอยู่ด้สนกันอีกด้วยลูกด้วยและฉันก็พัน จนดันมีลูกอีกคนซึ่งตอนนี้เค้ามีผุ้หญิงอีกคน เพิ่งทราบตอนท้องแล้วความทุกข์แสนสาหัสไม่มีคำอธิบายก็เกิดขึ้นอีก ใช้คำว่าอดทนอย่างเดียวเพื่อลูก จนไปต่อไปไหวจริงๆก็เลิกกันอีก ดิฉันก็กลัยมาอยู่บ้านด้วยความทรมานและอับอาย โดนที่บ้านเหยียดหยามแสนสาหัส นอนร้องให้กับลูกทุกๆคืน จนดิออหหางานทำให้แม่ช่วยเลี้ยงลูกให้ ดิฉันได้ทำงานหลายที ไม่ได้อยู่บ้านเนื่องจากบ้านอยู่นครปฐม ดิฉันต้องมาทำงานกทม. ดิฉันก็ใช้ชีวิตกับการทำงานส่งเงินให้ลูก แต่อต่างว่ามนุษย์เงินเดือน มีบ้างไม่มีบ้างตามประสา ส่วนพ่อเค้าก็เมติดต่อมาบ้างเรื่องลูก แต่เค้าก็ไม่ได้ส่งเงินให้นะ อาจจะขอมารับลูกไปเที่ยวบ้าง แค่นั้น แต่ดิฉันยอมรับที่ของพ่อเค้ารักลูกดิฉัน ย่าของเค้ารักลูกดิฉันมาก ดิฉันจึงไม่อยากปิดกัน แต่แม่ดิฉันไม่ค่อยยอม กีดกันทุกวิถีทาง ทะเลาะกันหลายๆรอบ ดิฉันคนกลางโดนอยู่คนเดียว ทางบ้านดิฉันไม้ได้ฐานะดีอะไร เคยมีแต่ล้มละลายไปหมดแล้ว แม่ก็ป่วยมีโรคประจำตัวเยอะ แกก็เครียดๆหลายอย่าง วิธีการเลี้ยงหลายก็เลยไม่ค่อยดีนักตามอารมน์ จนปัญหาเกิดหลายๆครั้งดิฉันสงสารลูกมากๆ พวกเค้าติดดิฉันมาก และก็รักพ่อเค้ามากเช่นกัน จนดิฉันต้องตัดสินใจ ให้ลูกไปอยู่กับที่บ้านพ่อเค้า บ้านย่าเค้า แต่พ่อเค้าไม่ได้อยู่นะเค้าอยูกทม ลูกอยู่ตจว อะไรเป็นสิ่งที่ฉันตัดสินใจให้เค้าไป สงสารลูก ต้องรับอารมน์แม่ดิฉันขึ้นๆลงๆด้วยแกป่วย สงสารแม่ที่ต้องมาเลี้ยงหลานซึ่งแกก็ป่วยแล้วก็สถานะการเงินด้วย ดิฉันจึงตัดใจให้ไปใจคนเป็นแม่แทบขาด ตอนนั้น ดิฉันทะเลาะกับที่บ้านใหญ่โต ดิฉันต้องทนกับความรู้สึกนี้มานานจนจะเป็นโรคประสาท ช่วงนั้น จนเวลาผ่านไปหลายปีดิฉันก็ได้พบกับสามีอีกคน ซึ่งตอนนั่นดิฉันคิดว่าแค่เหงา อยากมีเพื่อนข้างๆไม่ได้อยากมีครอบครัวอีก แต่ด้วยสามีคนนี้ค่อนข้างจริงจังเค้าอยากมีครอบครัวและลูกมาก ทำให้ตกกระไดพลอยโจน จนมีลูกมาอีก ความหายะนะก็มาอีกครั้งเมื่อดิฉันกับแฟนก็ยังไม่พร้อม แต่ไหนมาจนป่านนี้สู้ไปอีกครั้ง ทำมาหากิน จากทำงานบริษัทก็ออกมาค้าขาย ที่บ้านดิฉันแต่ไปได้ไม่สวยด้วยหลายอย่าง ประเด็นหลักที่บ้านไม่ชอบ จนดิฉันต้องไปอยู่บ้านแฟนที่ภาคอีสาน แล้วคลอดลูก ดิฉันออกค้าขายกับแฟนตามตลาดนัดจนวินาทีสุดท้ายจนคลอดลำบากลำบนมายอมรับ แต่ต้องสู้ เราอย่างอดบ้างดีบ้าง ตามประสา และเริ่มมีหนี้นอกระบบเข้ามา ำให้ชีวิตหนักขึ้นอีก จนมันสุด ดิฉันก็คุยกับแม่ดิฉันแม่เลยชวนให้กลับขายของแถวบ้าน ดิฉีนเลยตัดสินใจกลับมา เพราะคิดถึงด้วย และที่บ้านแฟนก็ไม่ยินดีที่ดิฉันอยู่สักเท่าไหร่เหมือนเป็นภาระ เลยกลับมาบ้าน เปิดร้านขายข้าวกันหน้ามหาลัย ตอนนั้นก็ไม่มีทุนอะไร กู้เงินมาทำร้านอีก แล้วก็ขายไม่ดี ทำให้หนักเข้าไปอีกฉัน โดนกดดัน แฟนก็เครียดรถก็จะโดนยึดอีก ถาโถมมาหมดเลยตอนนั้น ด้วยความไม่ชอบกันเป็นทุน ที่บ้านก็บอกให้ดิฉันเลิกกะแฟนซะอยู่ไปก็พากันลำบาก แต่ดิฉันเป็นที่ไม่ค่อยเชื่อใครอยู่แล้วรั้นน่ะว่าได้ก็ไม่เลิก อดทนสู้กันให้มันสุด สุดแค่ตาย คิดแค่นั้น จนแฟนทนแรงกดดันไม่ได้พากลับมาบ้านเค้าอีกซึ่งดิฉันไม่ได้อยากเลยแต่ในตอนนั้นไม่มีทางเลือก ในที่สุดดิฉันก็เกิดท้องอีก คราวนี้แทบอยากกินยาตาย มันอะไรขนาดนั้นชีวิต หมดคำสิเว้าเลย จริงๆ ลูกคนที่4ดิฉันกำลังจะเกิดซึ่งพร้อมกับคำว่หมดแล้วไม่เหลือะไรเลยรถโดนยึดไปแล้ว ออกค้าขายตลาดเหมือนเดิมไม่ได้ แฟนออกหางานทำ ไม่มีใครเรียกทำอีก เนื่องด้วยอายุเกิน 37 ชีวิต...ตอนนี้หมดแล้วงานไม่มีเงินไม่มี แถมหนี้สินรุงรัง นอกระบบจ่ายรายวันอีก เนื่องจากตอนมาใหม่ๆมาลงทุนขายของงานประจำปีลองเข้างานดูซึ่งไม่เคยเข้างาน เคยแต่ออกตลาดนัด เลยโดนเต็มๆค่าที่ค่าลงทุนซื้อของ โดนไปหมื่นกว่า ล้มละลายอีกรอบ3-4 ตอนนี้ต้องนั่งจ่ายรายวัน ไป แต่ต้องสู้ สู้แค่ตาย คือตอนนี้ความรู้สึกของดอฉันคือภาระ จะทำงานก็ไม่มีคัยรับท้องแก่แถมมีลูกน้อยอีก ดิฉันรู้สึกว่าดิฉันไร้ค่า ส่วนแฟนก็สู้ไม่ไหว เค้าท้อไว ความเป็นผู้นำยังไม่พอ ในความคิดของดิฉันในตอนนี้ ดิฉันคิดว่าเรามาถึงจุดที่สุดแล้วเหมือนหมาจนตรอกมันต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อตัวเองและครอบครัวรอด มิใช่หรอ ??ดิฉันได้แต่ตอบตัวเองว่าต้องดิฉันใช่มั้ยที่ต้องดิ้นเพื่อลูกๆดิฉันจะทำยังไง? เดินต่อไง กลับบ้านก็ไม่ได้แล้ว ที่บ้านยื่นคำขาดอย่ามาให้เห็นหน้า ใหนลูกในท้องไหน เด็กน้อยวัยซน2ขวบที่นอนอยู่ข้างๆ ดิฉันจะทำอย่างไรดี ดิฉันเป็นคนเพื่อนไม่เยอะ ตั้งแต่มีปัญหาชีวิตก็ไม่ได้ติดต่อใคร ก่อนหน้านี้ไปขอความช่วยเหลือเค้า เค้าก็ไม่กล้าให้ไม่ได้ติดต่อกันนาน ดิฉันตรากหน้าขอความช่วยเหลือเพื่อนทุกคนที่มีอยู่ในเฟส ไม่มีใครช่วยได้เลย ดิฉันไม่โกรธพวกเค้าที่ไม่ช่วย มันเป็นเรื่องปกติฉันเข้าใจ ไม่มีใครไว้ใจใครได้ในเศรษฐกิจช่วงนี้ หรือด้วยเหตุผลอะไรก็ตามเค้ามีสิทธิ์
ที่ดิฉันมาตั้งกระทู้ ขอระบายนี้ ดิฉันเพียงต้องการระบายความอึดอัดที่มีแล้วมันไม่สามารถระบายกับใครได้เลย ดิฉันรู้สึกเหนื่อย ท้อกับชีวิต เพียงอยากได้คำแนะนำจากใครสักคนเพื่อก้าวเดินต่อ ขอแนวทาง ว่าฉันควรเดินทางไหนดี ซึ่งบ้างทีนี่อาจเป็นทางสุดท้ายของดิฉันแล้วก็ตาม
อีกอย่างนึง ดิฉันเคยทราบเรื่องบ้านพักฉุกเฉิน ว่าให้คนที่ไม่มีทางไปตั้งครรภ์ อยากมีที่พักมีงานพอให้ทำ ดิฉันจะไปอยู่นั้นชั่วคราวได้ไหม? ถ้าดิฉันเลือกที่จะเดินออกไปจากสามี เพือไม่เป็นภาระกันอีก ไม่ต้องทนกันอีก จะดีหรือเปล่า
ดิฉันต้องรีบหาเงินฝากท้องหาเงินคลอด ค่าใช้จ่ายตามมามากมาย ดิฉันต้องหาทางออก ให้เร็วที่สุด หรือขอความกรุณา มีงานใดที่คนท้องทำได้ ไม่ได้ลงทุนเงินลงแรงอย่างเดียวช่วยแนะนำได้ไหมค่ะ (ดิฉันเคยขายออนไลน์มันห็ไม่ได้อะไร ต้องลงทุนเงินอีกอยู่ดี)
ขอขอบคุณที่นั้งอ่านเรื่องแย่ๆของคนๆนึง ที่ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนที่พิมพ์พอได้พิมพ์ออกมาก็ไดระบายบางส่วนทำให้โล่งขึ้นเยอะ ยังไงดิฉันก็อยากได้ ความเห็นของทุกคนอยู่นะค้ะ จะดีจะร้ายดิฉันยินดีนำไปปรับกับชีวิตตัวเองเพราะเมือถึงทางตันของตัวเอง มองทางออกทางไหนมันมืดไปหมดจริงค่ะ เชื่อเถอะ.....
ดิฉันอยากระบาย และหาที่ปรึกษา
เข้าเรื่องดีกว่า..ดิฉันคิดไตร่ตรองอยู่นานว่าจะเขียรสอบถามอย่างไรดี เคยเขียนและก็ลบไปหลายๆรอบ จนได้มีโอกาสครั้งนี้ ดิฉันอายุ33 ตอนนี้มีปัญหามากมายมารุมเร้า รู้ท้อ มืดหม่น เครียด หลายๆครั้งอยากหลับไปแบบไปตื่นขึ้นมาอีกเลย หลายๆครั้ง เดินไปอยากให้รถวิ่งมาชนให้จบไป แต่ชีวิตมันไม่ง่ายขนาดนั้น สินะ ตอนนี้ดิฉันตั้งครรภ์ได้ประมาน6 รึ7 เดือนไม่แน่ใจ เนื่องจากไม่ได้ไปฝากครรภ์ (ไม่มีเงินพอ) แต่ดิฉันตั้งใจจะไปตรวจ อยู่ แต่ด้วยอะไรๆหลายอย่าง มันทำให้ไม่มีโอกาสได้ไป ฉันรู้ว่าดิฉันมันแย่ ไม่ห่วงลูกรึไง ต่อว่าตัวเองเสมอ ดิฉันเคยมีลูกมาแล้ว3 คนค่ะ ในท้องคือคนที่4 บอกตรงๆดิฉันไม่ได้ตั้งใจจะมีเลย แต่ด้วยความเหลินเหล่อต้องตัวเอง ความผิดพลาด ของตัวเองล้วนๆ ดิฉันไม่โทษอะไรโทษตัวเองค่ะ แต่ยังไงเมื่อเค้าเกิดมาแล้วไม่ว่าด้วยเหตุผลใด เราต้องรับผิดชอบ ย้อนไปนิด ดิฉันมีสามี2คน คนแรกมีลูกด้วยกัน2คน หัวปีท้ายปี คนโต9ขวบแล้วค่ะ บอกตรงๆอย่างคนเป็นแม่คนนึง ดิฉันไม่ได้ตั้งใจมีลูกเลยสักคน เหตุผลคือไม่พร้อมแต่ด้วย ความเหลินเหล่อ แย่ๆของดิฉัน ไม่ควบคุมให้ดี จึงเกิดเด็กน้อยตาดำๆซึ่งพวกเค้าไม่ได้มีความผิดอะไร ดิฉันไม่คิดที่จะทำแท้ง อาจเพราะกลัว สงสารและหลายๆอย่างจึงทำให้ดิฉันไม่คิดจะทำ ดิฉันมีลูกคนแรกก็ยังโอเครอยู่อาจจะลำบากบ้างแต่ยังพอดีอยู่ ที่บ้านดิฉันไม่ชอบแฟนดิฉันเอามากๆเนื่องจากไม่ได้ทำอะไรถูกต้องตามประเพณี เค้าอายุมากกว่าดิฉัน 11 ปี ดิฉันชอบคนอายุมากกว่าเนื่องเค้าดูเป็นผู้ใหญ่ น่าจะมีความคิด และเป็นผู้นำที่ดีได้ แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นเลยเค้าเจ้าชู้พอตัว ตอนมีลูกคนแรกก็มีเรื่องหญิงเข้ามาช่วงท้อง แต่ดิฉันก็ต้องอดทนเอา จนลูกได้ไม่กี่เดือนเราก็ต้องเลิกกัน ด้วยความเต้าชู้ของเค้าด้วยที่บ้านเราด้วยและอื่นๆ ดิฉันเลิกกับเค้าได้ประมาณไม่กี่เดือนก็กลับมาอยู่ด้สนกันอีกด้วยลูกด้วยและฉันก็พัน จนดันมีลูกอีกคนซึ่งตอนนี้เค้ามีผุ้หญิงอีกคน เพิ่งทราบตอนท้องแล้วความทุกข์แสนสาหัสไม่มีคำอธิบายก็เกิดขึ้นอีก ใช้คำว่าอดทนอย่างเดียวเพื่อลูก จนไปต่อไปไหวจริงๆก็เลิกกันอีก ดิฉันก็กลัยมาอยู่บ้านด้วยความทรมานและอับอาย โดนที่บ้านเหยียดหยามแสนสาหัส นอนร้องให้กับลูกทุกๆคืน จนดิออหหางานทำให้แม่ช่วยเลี้ยงลูกให้ ดิฉันได้ทำงานหลายที ไม่ได้อยู่บ้านเนื่องจากบ้านอยู่นครปฐม ดิฉันต้องมาทำงานกทม. ดิฉันก็ใช้ชีวิตกับการทำงานส่งเงินให้ลูก แต่อต่างว่ามนุษย์เงินเดือน มีบ้างไม่มีบ้างตามประสา ส่วนพ่อเค้าก็เมติดต่อมาบ้างเรื่องลูก แต่เค้าก็ไม่ได้ส่งเงินให้นะ อาจจะขอมารับลูกไปเที่ยวบ้าง แค่นั้น แต่ดิฉันยอมรับที่ของพ่อเค้ารักลูกดิฉัน ย่าของเค้ารักลูกดิฉันมาก ดิฉันจึงไม่อยากปิดกัน แต่แม่ดิฉันไม่ค่อยยอม กีดกันทุกวิถีทาง ทะเลาะกันหลายๆรอบ ดิฉันคนกลางโดนอยู่คนเดียว ทางบ้านดิฉันไม้ได้ฐานะดีอะไร เคยมีแต่ล้มละลายไปหมดแล้ว แม่ก็ป่วยมีโรคประจำตัวเยอะ แกก็เครียดๆหลายอย่าง วิธีการเลี้ยงหลายก็เลยไม่ค่อยดีนักตามอารมน์ จนปัญหาเกิดหลายๆครั้งดิฉันสงสารลูกมากๆ พวกเค้าติดดิฉันมาก และก็รักพ่อเค้ามากเช่นกัน จนดิฉันต้องตัดสินใจ ให้ลูกไปอยู่กับที่บ้านพ่อเค้า บ้านย่าเค้า แต่พ่อเค้าไม่ได้อยู่นะเค้าอยูกทม ลูกอยู่ตจว อะไรเป็นสิ่งที่ฉันตัดสินใจให้เค้าไป สงสารลูก ต้องรับอารมน์แม่ดิฉันขึ้นๆลงๆด้วยแกป่วย สงสารแม่ที่ต้องมาเลี้ยงหลานซึ่งแกก็ป่วยแล้วก็สถานะการเงินด้วย ดิฉันจึงตัดใจให้ไปใจคนเป็นแม่แทบขาด ตอนนั้น ดิฉันทะเลาะกับที่บ้านใหญ่โต ดิฉันต้องทนกับความรู้สึกนี้มานานจนจะเป็นโรคประสาท ช่วงนั้น จนเวลาผ่านไปหลายปีดิฉันก็ได้พบกับสามีอีกคน ซึ่งตอนนั่นดิฉันคิดว่าแค่เหงา อยากมีเพื่อนข้างๆไม่ได้อยากมีครอบครัวอีก แต่ด้วยสามีคนนี้ค่อนข้างจริงจังเค้าอยากมีครอบครัวและลูกมาก ทำให้ตกกระไดพลอยโจน จนมีลูกมาอีก ความหายะนะก็มาอีกครั้งเมื่อดิฉันกับแฟนก็ยังไม่พร้อม แต่ไหนมาจนป่านนี้สู้ไปอีกครั้ง ทำมาหากิน จากทำงานบริษัทก็ออกมาค้าขาย ที่บ้านดิฉันแต่ไปได้ไม่สวยด้วยหลายอย่าง ประเด็นหลักที่บ้านไม่ชอบ จนดิฉันต้องไปอยู่บ้านแฟนที่ภาคอีสาน แล้วคลอดลูก ดิฉันออกค้าขายกับแฟนตามตลาดนัดจนวินาทีสุดท้ายจนคลอดลำบากลำบนมายอมรับ แต่ต้องสู้ เราอย่างอดบ้างดีบ้าง ตามประสา และเริ่มมีหนี้นอกระบบเข้ามา ำให้ชีวิตหนักขึ้นอีก จนมันสุด ดิฉันก็คุยกับแม่ดิฉันแม่เลยชวนให้กลับขายของแถวบ้าน ดิฉีนเลยตัดสินใจกลับมา เพราะคิดถึงด้วย และที่บ้านแฟนก็ไม่ยินดีที่ดิฉันอยู่สักเท่าไหร่เหมือนเป็นภาระ เลยกลับมาบ้าน เปิดร้านขายข้าวกันหน้ามหาลัย ตอนนั้นก็ไม่มีทุนอะไร กู้เงินมาทำร้านอีก แล้วก็ขายไม่ดี ทำให้หนักเข้าไปอีกฉัน โดนกดดัน แฟนก็เครียดรถก็จะโดนยึดอีก ถาโถมมาหมดเลยตอนนั้น ด้วยความไม่ชอบกันเป็นทุน ที่บ้านก็บอกให้ดิฉันเลิกกะแฟนซะอยู่ไปก็พากันลำบาก แต่ดิฉันเป็นที่ไม่ค่อยเชื่อใครอยู่แล้วรั้นน่ะว่าได้ก็ไม่เลิก อดทนสู้กันให้มันสุด สุดแค่ตาย คิดแค่นั้น จนแฟนทนแรงกดดันไม่ได้พากลับมาบ้านเค้าอีกซึ่งดิฉันไม่ได้อยากเลยแต่ในตอนนั้นไม่มีทางเลือก ในที่สุดดิฉันก็เกิดท้องอีก คราวนี้แทบอยากกินยาตาย มันอะไรขนาดนั้นชีวิต หมดคำสิเว้าเลย จริงๆ ลูกคนที่4ดิฉันกำลังจะเกิดซึ่งพร้อมกับคำว่หมดแล้วไม่เหลือะไรเลยรถโดนยึดไปแล้ว ออกค้าขายตลาดเหมือนเดิมไม่ได้ แฟนออกหางานทำ ไม่มีใครเรียกทำอีก เนื่องด้วยอายุเกิน 37 ชีวิต...ตอนนี้หมดแล้วงานไม่มีเงินไม่มี แถมหนี้สินรุงรัง นอกระบบจ่ายรายวันอีก เนื่องจากตอนมาใหม่ๆมาลงทุนขายของงานประจำปีลองเข้างานดูซึ่งไม่เคยเข้างาน เคยแต่ออกตลาดนัด เลยโดนเต็มๆค่าที่ค่าลงทุนซื้อของ โดนไปหมื่นกว่า ล้มละลายอีกรอบ3-4 ตอนนี้ต้องนั่งจ่ายรายวัน ไป แต่ต้องสู้ สู้แค่ตาย คือตอนนี้ความรู้สึกของดอฉันคือภาระ จะทำงานก็ไม่มีคัยรับท้องแก่แถมมีลูกน้อยอีก ดิฉันรู้สึกว่าดิฉันไร้ค่า ส่วนแฟนก็สู้ไม่ไหว เค้าท้อไว ความเป็นผู้นำยังไม่พอ ในความคิดของดิฉันในตอนนี้ ดิฉันคิดว่าเรามาถึงจุดที่สุดแล้วเหมือนหมาจนตรอกมันต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อตัวเองและครอบครัวรอด มิใช่หรอ ??ดิฉันได้แต่ตอบตัวเองว่าต้องดิฉันใช่มั้ยที่ต้องดิ้นเพื่อลูกๆดิฉันจะทำยังไง? เดินต่อไง กลับบ้านก็ไม่ได้แล้ว ที่บ้านยื่นคำขาดอย่ามาให้เห็นหน้า ใหนลูกในท้องไหน เด็กน้อยวัยซน2ขวบที่นอนอยู่ข้างๆ ดิฉันจะทำอย่างไรดี ดิฉันเป็นคนเพื่อนไม่เยอะ ตั้งแต่มีปัญหาชีวิตก็ไม่ได้ติดต่อใคร ก่อนหน้านี้ไปขอความช่วยเหลือเค้า เค้าก็ไม่กล้าให้ไม่ได้ติดต่อกันนาน ดิฉันตรากหน้าขอความช่วยเหลือเพื่อนทุกคนที่มีอยู่ในเฟส ไม่มีใครช่วยได้เลย ดิฉันไม่โกรธพวกเค้าที่ไม่ช่วย มันเป็นเรื่องปกติฉันเข้าใจ ไม่มีใครไว้ใจใครได้ในเศรษฐกิจช่วงนี้ หรือด้วยเหตุผลอะไรก็ตามเค้ามีสิทธิ์
ที่ดิฉันมาตั้งกระทู้ ขอระบายนี้ ดิฉันเพียงต้องการระบายความอึดอัดที่มีแล้วมันไม่สามารถระบายกับใครได้เลย ดิฉันรู้สึกเหนื่อย ท้อกับชีวิต เพียงอยากได้คำแนะนำจากใครสักคนเพื่อก้าวเดินต่อ ขอแนวทาง ว่าฉันควรเดินทางไหนดี ซึ่งบ้างทีนี่อาจเป็นทางสุดท้ายของดิฉันแล้วก็ตาม
อีกอย่างนึง ดิฉันเคยทราบเรื่องบ้านพักฉุกเฉิน ว่าให้คนที่ไม่มีทางไปตั้งครรภ์ อยากมีที่พักมีงานพอให้ทำ ดิฉันจะไปอยู่นั้นชั่วคราวได้ไหม? ถ้าดิฉันเลือกที่จะเดินออกไปจากสามี เพือไม่เป็นภาระกันอีก ไม่ต้องทนกันอีก จะดีหรือเปล่า
ดิฉันต้องรีบหาเงินฝากท้องหาเงินคลอด ค่าใช้จ่ายตามมามากมาย ดิฉันต้องหาทางออก ให้เร็วที่สุด หรือขอความกรุณา มีงานใดที่คนท้องทำได้ ไม่ได้ลงทุนเงินลงแรงอย่างเดียวช่วยแนะนำได้ไหมค่ะ (ดิฉันเคยขายออนไลน์มันห็ไม่ได้อะไร ต้องลงทุนเงินอีกอยู่ดี)
ขอขอบคุณที่นั้งอ่านเรื่องแย่ๆของคนๆนึง ที่ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนที่พิมพ์พอได้พิมพ์ออกมาก็ไดระบายบางส่วนทำให้โล่งขึ้นเยอะ ยังไงดิฉันก็อยากได้ ความเห็นของทุกคนอยู่นะค้ะ จะดีจะร้ายดิฉันยินดีนำไปปรับกับชีวิตตัวเองเพราะเมือถึงทางตันของตัวเอง มองทางออกทางไหนมันมืดไปหมดจริงค่ะ เชื่อเถอะ.....