สมัยที่เงินกู้ยืมเรียนมาใหม่ๆ ก่อนกยศ.ผมคิดอยากจะกู้นะ ดอกกู้แค่ 1 % เรียนจบค่อยจ่าย--ลงหุ้น-ฝากเแบงค์สมัยนั้นก็ 10%ละ

คิดแบบ   หากำไรจากส่วนต่างเลย


เพราะ พ่อแม  เงินเดือน รวมกัน  แสนกว่า   

เกินจากที่กำหนดไป ไม่กี่พัน    รายได้พ่อ..


ผมยังคิดว่า กำหนดแบบนี้ น้อยไป   เพราะเอาเงินเดือนข้าราชการสมัยนั้น  7650 บาท คูณ 12 เดือน ช่วงปี 2542


ผมก็คิดเรื่องเห็นแก่ตัว   ว่า


ถ้ากู้ มา  ดอก 1 %  ฝากแบงคื เล็ก ได้ 16 - 12 %  ผมกำไร แล้วนะ


แล้วก็เอาเงิน แม่   มาจ่ายค่าเทอม  มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง  ในสมัยนั้นเลย

ค่าเทอมปีละ  55000 บาท   

หรือกู้มา ไปลงหุ้น   ที่ต่ำกว่ามูลค่า แต่ยังค้าขายได้อยู่

หรือหุ้นวัฎจักร  อย่าง tta     atc   2 บาท    หุ้นทั้งสองตัว


tta  1  บาทกว่า  ขึ้นไป  40 ลงมา 33   และขึ้นไป 70     psl   50        RCL  42

atc  72 บาท



แต่สุดท้าย ไม่เอาดีกว่า  


เอาให้คนที่ลำบากจริงๆ เค้ากู้เรียน ดีกว่า   พอเรียนจบ เค้ามีรายได้สูงๆ

เพราะ จบ มอ เอกชน คณะดีดี   ก็จ่ายเงินคืน  เพราะหลังจากจบ

ช่วงนั้น เศรษฐกิจก็คงฟื้นตัวแล้ว  โบนัส  สามปี คงจ่ายเงินกู้หมด

ไม่ต้อง เดือนละ  900    ถึง 20 ปี


____________


แต่ก็ไม่คิดว่า   โลกความเป็นจริง

คนที่เรียนจบ ไม่จ่ายหนี้กันเยอะ  บางคนกู้เงินเรียน  มีมือถือใช้

สมัยนั้นมือถือยังแพงอยู่  โนเกีย 3310 รุ่นขายกระจาย ลดราคา

ถือใน มอ. ก็ดูหล่อ สวย เหมือนถือ ไอโฟน สมั้ยนี้ละ


..... ผมก็ ใช้เงินวันละ 20 - 25 บาท   ไป มหาวิทยาลัย

ทุกวันนี้  ผมก็ ยังใช้ 20 บาทอยู่ เลย




หลักการ คือ  เรามีหนี้ ให้จ่ายหนี้ก่อน   แล้วค่อยเหลือใช้ ซื้อของที่กิเลสเราอยากได้




แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่