การแถลงหมู่ของครูปรีชา ผู้เป็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ ในคลิปนี้ ทำให้เห็นภาพของคำว่า "ดีเข้าตัวชั่วให้คนอื่น" ได้ คม! ชัด! ลึก!

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ในคลิป...
ครูปรีชา ย้ำเสมอว่า ตนเองเป็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์
ครูปรีชา ย้ำเสมอว่า ให้เชื่อใจครู มีผลงานดีเด่นมากมาย สอนพระพุทธศาสนา ไม่เอาหน้าที่การงานไปเสี่ยงในการกระทำความผิด
ครูปรีชา ย้ำเสมอว่า อย่าเพิ่งด่วนสรุป กองปราบฯ ยังไม่สรุปสำนวน
ครูปรีชา ย้ำเสมอว่า ต้องเข้าสู่กระบวนการของศาล
ครูปรีชา ย้ำเสมอว่า ไม่ได้เป็นขบวนการ
ครูปรีชา ย้ำเสมอว่า หวยเป็นของตนเอง100% เพราะได้แจ้งลงบันทึกประจำวันและศาลสั่งอายัดเงินไว้แล้ว
ครูปรีชา ย้ำเสมอว่า พยานบุคคลฝั่งครูไม่มีใครโกหก และยังมีพยานหลักฐานวิทยาศาลตร์อื่นๆ อีก แต่ไม่ขอเปิดเผย จะนำไว้ใช้ต่อสู้คดีในศาล
แต่...
ครูปรีชา ลืมนึกไปว่า ลุงจรูญ เป็นอดีตผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
ครูปรีชา ลืมนึกไปว่า ให้เชื่อใจตำรวจ เหมือนที่ครูปรีชาเชื่อใจตำรวจภาค 7
ครูปรีชา ลืมนึกไปว่า ครูมักอ้างการสรุปสำนวนของภาค 7 ที่ชี้ว่า "หวยเป็นของครูปรีชา" อยู่เสมอ
ครูปรีชา ลืมนึกไปว่า ก่อนเข้าสู่กระบวนการของศาล นอกจากต้องรอกระบวนการสอบสวนของทางตำรวจให้แล้วเสร็จ และยังต้องรอกระบวนการทางฝั่งอัยการอีกด้วย
ครูปรีชา ลืมนึกไปว่า ประเทศไทย มีความผิดฐาน อั้งยี่,ซ่องโจร
ครูปรีชา ลืมนึกไปว่า ยุคนี้ ยุคโซเชี่ยล ยุคมาร์ค ซัคเคอร์เบิก มี ออยศรีและผองเผือก เผือกเรนเจอร์ ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และอื่นๆ มากมาย ที่พร้อมจะโต้แย้งคำพูดของครูปรีชาด้วยข้อเท็จจริงที่เป็นความจริงที่แท้ทรู เช่น

ครูปรีชา ลืมนึกไปว่า ยังมี ทนายประชาชน เช่น ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ที่พร้อมทุ่มสุดตัวสุดใจสุดกำลัง คอยยืนเคียงข้าง ลุงจรูญและครอบครัว เพื่ออำนวยความเป็นธรรมให้บังเกิดขึ้นในสังคมไทย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่