สดชื่นยามเช้าเหมือนทุกๆวันค่ะ
วันนี้ขอแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ทั้งหลายนะคะ.....🐂🐪🐃🐈
มีคนแพ้ภัยตัวเอง ในทู้มาลารินประจำ ไม่รู้จักปรับปรุงตัวเองสักที
ไม่รู้จะช่วยอะไรให้จิตใจสว่าง สะอาด สงบ ขึ้นหรือเปล่า..?
ปล่อยไปตามบุญตามกรรมดีกว่านะคะ...😊😊😊😊😊
มาอ่านข่าวดีๆกันดีกว่าค่ะ....👍👍👍👍👍
ม.หอการค้า ปรับคาดการณ์ GDP ปี 61 โต 4.4% จากเดิมคาด 4.2%
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ปรับตัวเลขจีดีพีขึ้นเป็น 4.4 %จากเดิม 4.2% จากปัจจัยบวกเศรษฐกิจโลก -ประเทศคู่ค้าสดใสเกินคาด ภาครัฐโหมกระตุ้นรากหญ้า ส่งออก ท่องเที่ยว รวมเงินสะพัดเฉียดสามแสนล้านบาท
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงประมาณการภาวะเศรษฐกิจไทย(จีดีพี) ในปีนี้ว่า จะขยายตัวได้ 4.4% จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนต.ค. 2560 ว่าจะขยายตัว 4.2% โดยสาเหตุที่ต้องปรับประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจใหม่มาจากปัจจัยบวกคือ การส่งออกสินค้าฟื้นตัวชัดเจนขึ้นและคาดว่าจะโตที่ประมาณ 6% ตามเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องและขยายตัวสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ ขณะที่การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีที่ผ่านมาขยายตัวที่ 3.7% ในปีนี้คาดว่าจะขยายตัวที่ 3.9% อัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ประมาณ 1.3% ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 60 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ค่าเงินบาทเฉลี่ย 31.0 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และการที่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% รวมทั้งภาคท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ระดับราคาสินค้าเกษตรปรับตัวสูงขึ้นทำให้รายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้น การลงทุนภาคเอกชนฟื้นตัวตามการส่งออก นอกจากนี้การลงทุนของภาครัฐที่มีมากขึ้น จากการลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ( อีอีซี) และอยู่ใต้สมมติฐานว่าการเมืองไทยจะต้องมีเสถียรภาพ
“การปรับเพิ่มจีดีพีขึ้นนั้น มาจากเม็ดเงินที่คาดว่าจะเข้ามาในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 276,800 ล้านบาท แบ่งเป็นเม็ดเงินจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นกว่า 100,800 ล้านบาทรายได้จากการท่องเที่ยวที่เพิ่มเข้ามา 80,000 ล้านบาท การปรับขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำอีก 60,000 ล้านบาท และบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย ระยะที่2 ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่าอีก 36,000 ล้านบาท” นายธนวรรธน์ กล่าว
สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่จะมีผลต่อจีดีพีของไทยในปีนี้คือ นโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐที่ยังคงมีความไม่แน่นอนส่งผลกระทบระดับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกในภาพรวม อัตราดอกเบี้ยของโลกที่มีแนวโน้มจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจจีนที่ยังขยายตัวในระดับต่ำกว่าศักยภาพ รวมถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากเมื่อเทียบกับประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยแข็งค่าขึ้นมาแล้ว กว่า 4% จากต้นปีที่ผ่านมา แต่คาดว่าค่าเงินบาทในปีนี้จะเฉลี่ยอยู่ที่ 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ภาวะครัวเรือนยังอยู่ในเกิดที่สูง ทำให้สถาบันการเงินอย่างระมัดระวังในการปล่อยกู้อยู่และกำลังการผลิตส่วนเกินที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
http://www.thansettakij.com/content/260765

ขอบคุณภาพเครดิตพี่ตาป๊อกค่ะ
ปีที่ผ่านมา...จีดีพีของไทยสูงกว่าสิงคโปร์นะคะ
สังเกตดู....ประเทศที่ล้าหลังกว่าประเทศไทยทั้งหลาย จีดีพี สูงขึ้นมากมาย
บรูไน ต่ำสุดในอาเซียน....ทั้งๆที่บรูไนอยู่ในกลุ่มประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก
มาเข้าใจกับจีดีพีกันค่ะ.....😊😊😊😊😊
GDP (Gross Domestic Product) หรือ ผลิตภัณฑ์รวมในประเทศ เป็นมูลค่าของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายของประเทศนั้นๆ ส่วนประกอบหลักประกอบมาจาก 5 ส่วน ก็คือ
(+) C (Consumption) คือ การบริโภคของภาคเอกชนา
(+) I (Investment) คือ การลงทุนจากภาคเอกชนต่างๆ
(+) G (Government Spending) คือ การใช้จ่ายของรัฐบาลหรือการลงทุนจากภาครัฐ
(+) X (Export) คือ การส่งออก
(-) M (Import) คือ การนำเข้า
และนี่คือสมการของที่มาจากส่วนประกอบ 5 ส่วนด้านบนนั่นเอง
GDP = C + I +G + (X-M)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
https://www.moneybuffalo.in.th/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88/gdp-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3
จีดีพี เป็นตัวชี้วัดความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจซึ่งดูจากผลรวมรายได้ของสินค้าและบริการภายในประเทศ
เมื่อค่า จีดีพี เพิ่มขึ้น นั่นก็แสดงให้เราเห็นว่า สินค้าและบริการมีปริมาณเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการลงทุนเพิ่มขึ้น เท่ากับว่าประเทศเจริญเติบโตได้ดี ผลที่ตามมาคือเศรษฐกิจมีการขยายตัว ผู้คนในประเทศก็มีโอกาสได้งานทำ มีเงินเดือนเพิ่มมากขึ้นได้
หรือการที่ จีดีพี เพิ่มขึ้นอาจจะมาจากการที่เราเป็นหนี้ก็เป็นไปได้เช่นกัน เมื่อเรากู้เงินมาบริโภคหรือลงทุนเพิ่มขึ้น แน่นอนว่าก็จะทำให้ตัว C (Consumption) และ I (Investment) ที่เป็นส่วนประกอบหลักของ จีดีพี ปรับตัวเพิ่มขึ้น ภาพที่เราเห็นก็จะเป็นภาพที่เศรษฐกิจโตขึ้นเพราะว่า จีดีพี เป็นบวก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
https://www.moneybuffalo.in.th/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88/gdp-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3
เอาล่ะค่ะ....อย่างไรก็ตาม จีดีพีของเราก็สูงขึ้นแล้ว ก็ควรยินดี ไม่ใช่ต่ำสุดในอาเซียนแน่นอนค่ะ
👍🐴~มาลาริน~เช้านี้ต้องแผ่เมตตาอีกแล้ว..สัพเพสัตตา อเวราโหนตุ สดชื่นยามเช้าค่ะ..ปรับGDP ปี 61 โต 4.4% จากเดิมคาด 4.2%
วันนี้ขอแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ทั้งหลายนะคะ.....🐂🐪🐃🐈
มีคนแพ้ภัยตัวเอง ในทู้มาลารินประจำ ไม่รู้จักปรับปรุงตัวเองสักที
ไม่รู้จะช่วยอะไรให้จิตใจสว่าง สะอาด สงบ ขึ้นหรือเปล่า..?
ปล่อยไปตามบุญตามกรรมดีกว่านะคะ...😊😊😊😊😊
มาอ่านข่าวดีๆกันดีกว่าค่ะ....👍👍👍👍👍
ม.หอการค้า ปรับคาดการณ์ GDP ปี 61 โต 4.4% จากเดิมคาด 4.2%
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ปรับตัวเลขจีดีพีขึ้นเป็น 4.4 %จากเดิม 4.2% จากปัจจัยบวกเศรษฐกิจโลก -ประเทศคู่ค้าสดใสเกินคาด ภาครัฐโหมกระตุ้นรากหญ้า ส่งออก ท่องเที่ยว รวมเงินสะพัดเฉียดสามแสนล้านบาท
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงประมาณการภาวะเศรษฐกิจไทย(จีดีพี) ในปีนี้ว่า จะขยายตัวได้ 4.4% จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนต.ค. 2560 ว่าจะขยายตัว 4.2% โดยสาเหตุที่ต้องปรับประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจใหม่มาจากปัจจัยบวกคือ การส่งออกสินค้าฟื้นตัวชัดเจนขึ้นและคาดว่าจะโตที่ประมาณ 6% ตามเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องและขยายตัวสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ ขณะที่การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีที่ผ่านมาขยายตัวที่ 3.7% ในปีนี้คาดว่าจะขยายตัวที่ 3.9% อัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ประมาณ 1.3% ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 60 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ค่าเงินบาทเฉลี่ย 31.0 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และการที่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% รวมทั้งภาคท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ระดับราคาสินค้าเกษตรปรับตัวสูงขึ้นทำให้รายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้น การลงทุนภาคเอกชนฟื้นตัวตามการส่งออก นอกจากนี้การลงทุนของภาครัฐที่มีมากขึ้น จากการลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ( อีอีซี) และอยู่ใต้สมมติฐานว่าการเมืองไทยจะต้องมีเสถียรภาพ
“การปรับเพิ่มจีดีพีขึ้นนั้น มาจากเม็ดเงินที่คาดว่าจะเข้ามาในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 276,800 ล้านบาท แบ่งเป็นเม็ดเงินจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นกว่า 100,800 ล้านบาทรายได้จากการท่องเที่ยวที่เพิ่มเข้ามา 80,000 ล้านบาท การปรับขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำอีก 60,000 ล้านบาท และบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย ระยะที่2 ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่าอีก 36,000 ล้านบาท” นายธนวรรธน์ กล่าว
สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่จะมีผลต่อจีดีพีของไทยในปีนี้คือ นโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐที่ยังคงมีความไม่แน่นอนส่งผลกระทบระดับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกในภาพรวม อัตราดอกเบี้ยของโลกที่มีแนวโน้มจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจจีนที่ยังขยายตัวในระดับต่ำกว่าศักยภาพ รวมถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากเมื่อเทียบกับประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยแข็งค่าขึ้นมาแล้ว กว่า 4% จากต้นปีที่ผ่านมา แต่คาดว่าค่าเงินบาทในปีนี้จะเฉลี่ยอยู่ที่ 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ภาวะครัวเรือนยังอยู่ในเกิดที่สูง ทำให้สถาบันการเงินอย่างระมัดระวังในการปล่อยกู้อยู่และกำลังการผลิตส่วนเกินที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
http://www.thansettakij.com/content/260765
ปีที่ผ่านมา...จีดีพีของไทยสูงกว่าสิงคโปร์นะคะ
สังเกตดู....ประเทศที่ล้าหลังกว่าประเทศไทยทั้งหลาย จีดีพี สูงขึ้นมากมาย
บรูไน ต่ำสุดในอาเซียน....ทั้งๆที่บรูไนอยู่ในกลุ่มประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก
มาเข้าใจกับจีดีพีกันค่ะ.....😊😊😊😊😊
GDP (Gross Domestic Product) หรือ ผลิตภัณฑ์รวมในประเทศ เป็นมูลค่าของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายของประเทศนั้นๆ ส่วนประกอบหลักประกอบมาจาก 5 ส่วน ก็คือ
(+) C (Consumption) คือ การบริโภคของภาคเอกชนา
(+) I (Investment) คือ การลงทุนจากภาคเอกชนต่างๆ
(+) G (Government Spending) คือ การใช้จ่ายของรัฐบาลหรือการลงทุนจากภาครัฐ
(+) X (Export) คือ การส่งออก
(-) M (Import) คือ การนำเข้า
และนี่คือสมการของที่มาจากส่วนประกอบ 5 ส่วนด้านบนนั่นเอง
GDP = C + I +G + (X-M)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จีดีพี เป็นตัวชี้วัดความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจซึ่งดูจากผลรวมรายได้ของสินค้าและบริการภายในประเทศ
เมื่อค่า จีดีพี เพิ่มขึ้น นั่นก็แสดงให้เราเห็นว่า สินค้าและบริการมีปริมาณเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการลงทุนเพิ่มขึ้น เท่ากับว่าประเทศเจริญเติบโตได้ดี ผลที่ตามมาคือเศรษฐกิจมีการขยายตัว ผู้คนในประเทศก็มีโอกาสได้งานทำ มีเงินเดือนเพิ่มมากขึ้นได้
หรือการที่ จีดีพี เพิ่มขึ้นอาจจะมาจากการที่เราเป็นหนี้ก็เป็นไปได้เช่นกัน เมื่อเรากู้เงินมาบริโภคหรือลงทุนเพิ่มขึ้น แน่นอนว่าก็จะทำให้ตัว C (Consumption) และ I (Investment) ที่เป็นส่วนประกอบหลักของ จีดีพี ปรับตัวเพิ่มขึ้น ภาพที่เราเห็นก็จะเป็นภาพที่เศรษฐกิจโตขึ้นเพราะว่า จีดีพี เป็นบวก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เอาล่ะค่ะ....อย่างไรก็ตาม จีดีพีของเราก็สูงขึ้นแล้ว ก็ควรยินดี ไม่ใช่ต่ำสุดในอาเซียนแน่นอนค่ะ