ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม...มีแต่เสียง 20/2/2018 (พัทยา)

กระทู้คำถาม


ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ

1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน  ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น





สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องเพลงและเพื่อนสมาชิกทุกท่าน


อู้งานไปหลายวัน รู้สึกดีมาก เอ๊ย ไม่ใช่ รู้สึกต้องรีบกลับมาเคลียร์งาน เยอะมากๆ

เพิ่งกลับมายังรู้สึกเพลียๆ ทั้งๆ ที่นอนอยู่ท่ามกลางกองขนมทั้งวัน งั้นวันนี้เป็นกระทู้เบาๆ พาเพื่อนๆ เที่ยวดีกว่าค่ะ

พัทยา

สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของไทย ดังไกลไปทั่วโลก หลายๆ คนเคยไปเที่ยวมาแล้ว
แต่หลายคนยังอาจไม่รู้ว่าพัทยาเป็นสถานที่สำคัญของประวัติศาสตร์ไทยด้วย วันนี้เลยนำเรื่องเกี่ยวกับประวัติของพัทยามาฝากค่ะ

ประวัติเมืองพัทยา

“เมืองพัทยา” แต่เดิมนั้นเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในเขต ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี  
อยู่ห่างจากตัวเมืองชลบุรีประมาณ 30 กิโลเมตร  

มีลักษณะทางกายภาพแนวหาดพัทยาทอดตัวยาวขาวนวล  อยู่ในวงล้อมของโค้งอ่าวครึ่งวงกลม ตลอดแนวยาว 3  กิโลเมตร
รวมกับนาจอมเทียนอีก 3 กิโลเมตร  




“ด้วยมนต์เสน่ห์ของน้ำทะเลใสที่ส่งประกายระยิบระยับ เสียงคลื่นที่ซัดซ่าฝั่งดังเป็นจังหวะจะโคน
ที่สามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศอันน่าประทับใจ”

ต่อมาในปี 2499 ทางราชการได้จัดตั้งเป็นสุขาภิบาลนาเกลือขึ้น
ขณะนั้นหมู่บ้านชาวประมงพัทยายังอยู่นอกเขตสุขาภิบาล
กระทั่งต่อมาในปี 2507 จึงได้มีการขยายอาณาเขตสุขาภิบาล จากตำบลนาเกลือไปจนถึงเขตพัทยาใต้
มีพื้นที่ในการปกครองประมาณ 22.2 ตารางกิโลเมตร



พัทยาในวันนี้มีชื่อเสียงโด่งดังกลายเป็นชายหาดตากอากาศยอดนิยมอันดับหนึ่งของภูมิภาค
และเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกที่ผู้คนนับล้านจากทั่วทุกทวีปต้องการมาสัมผัส

พัทยาไม่ได้มีแค่ชายหาด แต่ยังมีที่เที่ยวใกล้เคียงมากมายหลายรูปแบบ ทั้งถนนคนเดิน เขาชีจรรย์ วิหารเซียน
สวนนงนุช อาณาจักรน้ำแข็ง FROST Magical Ice Of Siam เมืองจำลอง สวนน้ำการ์ตูนเน็ตเวิร์ค
สวนน้ำรามายณะ เกาะล้าน ตลาดน้ำ 4 ภาค คาบาเรต์โชว์ชื่อก้องโลก ฯลฯ คงต้องไปหลายครั้งกว่าจะเที่ยวครบ




ที่มาของชื่อ "พัทยา" กับความสำคัญในประวัติศาสตร์ไทยพุทธศักราช 2310

ในช่วงสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ในปี พ.ศ. 2310 เมื่อครั้งพระนครศรีอยุธยาถูกพม่าล้อม พระยาตาก(สิน) เจ้าเมืองตาก  
ทรงนำกำลังพลประมาณ 500 นาย ตีแหวกวงล้อมของพม่า เพื่อมาตั้งหลักกันใหม่

ทรงเดินทางมาแวะพักทัพในบริเวณอันเป็นที่ตั้งของ “เมืองพัทยา” ในปัจจุบัน
ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังเมืองจันทบุรี และกลับไปต่อสู้ขับไล่ข้าศึกออกจากประเทศไทย
หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2  พร้อมทั้งประกาศอิสรภาพ ทรงกอบกู้เอกราชของชาติมาได้ ภายในระยะเวลาเพียง 7 เดือนเท่านั้น

ต่อมาท่านได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” ทรงปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงธนบุรี
เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2310 ของประเทศไทย  

ดังนั้น สถานที่บริเวณที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้เดินทางมาแวะพักทัพนั้น ต่อมาชาวบ้านเรียกขานกันว่า “ทัพพระยา”        
ต่อมาเรียกใหม่เป็น "ทัพธยา" และกลายเป็น "พัทยา" ในที่สุด

การมาแวะพักทัพของพระเจ้าตาก ถือว่ามีความสำคัญต่อเมืองพัทยามาก
จึงได้สร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ประดิษฐานไว้ที่บริเวณหน้าศาลาว่าการเมืองพัทยา (Pattaya city Hall)


ขอบคุณภาพจากคุณ singharatdecho
https://w.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E2758514/E2758514.html



ส่วนอีกกระแส ได้กล่าวถึงตรงบริเวณที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมาแวะพักทัพนั้น
เป็นบริเวณที่มีทำเลดีและมีลมทะเลชนิดหนึ่งชื่อว่า “ลมพัทธยา”
ซึ่งเป็นลมที่พัดจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ได้พัดผ่านเข้ามาที่นี่เป็นประจำทุกปีในตอนต้นฤดูฝน
จึงได้เรียกสถานที่บริเวณนี้ว่า “หมู่บ้านพัทธยา” และต่อมาได้เรียกเป็น “พัทยา” ในที่สุด  

จากประวัติศาสตร์ สู่ตราสัญลักษณ์เมือง

อย่างไรก็ตาม สำหรับการแวะมาพักทัพของ “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” ในคราวนั้น
ประชาราษร์ชาวไทยและชาวพัทยาผู้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ทรงยกย่องถวายพระเกียรติพระองค์ท่านว่า “มหาราช”
รัฐบาล ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้พร้อมใจกันสร้างอนุสาวรีย์ บริเวณหน้า “ศาลาว่าการเมืองพัทยา”
เพื่อน้อมรำลึกในพระเกียรติประวัติ เกียรติยศและเกียรติคุณให้ปรากฏกับอนุชนรุ่นหลังตราบเท่าทุกวันนี้



จากประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญจึงเป็นที่มาของ “ตราสัญลักษณ์ประจำเมืองพัทยา”
ซึ่งเป็น รูปทรงกลมสองวงซ้อนกัน ภายในวงกลมมีภาพทหารโบราณขี่ม้าอยู่บนหน้าผา
ด้านหลังคนขี่ม้านั้นมีภาพชายหาด ทะเล และเกาะ


ประวัติศาสตร์เมืองพัทยา พุทธศักราช 2491

ในปี พ.ศ. 2491 ได้มีการบุกเบิกพัฒนาที่ดินของเมืองพัทยา โดยได้มีบุคคลสำคัญ คือ คุณปริญญา ชวลิตธำรง
ซึ่งท่านได้ซื้อที่ดินบุกเบิกและสร้างความเจริญให้กับเมืองพัทยา
ระหว่างบุกเบิกพัฒนา คุณปริญญา ได้นำเสนอและขอร้องท่านนายอำเภอให้เปลี่ยนภาษาเขียน
เพราะเห็นว่าการเขียนแบบเดิมนั้นไม่ทันสมัยและโบราณ โดยเปลี่ยนจาก “พัทธยา” นำ ธ.ธง ออก
มาเป็นคำว่า “พัทยา” ที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน


ก้าวแรก.. “เมืองพัทยาในฐานะเมืองท่องเที่ยว”

จุดเริ่มต้นของการเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก เป็นผลมาจากการพัฒนา
คือภายหลังจากที่ “ถนนสายพัทยา – นาเกลือ”  เสร็จได้ไม่นาน  มีนักหนังสือพิมพ์ “เพลินจิตต์“  
และนักประพันธ์ชื่อดังมาเที่ยวพัทยาด้วยรถตู้ ได้เดินทางไปที่หาดแห่งหนึ่ง
ซึ่งในปัจจุบันนี้คือที่ตั้งของ “โรงแรมดุสิต รีสอร์ท” ซึ่งทุกท่านเห็นแล้วชอบและประทับใจมาก
ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "อ่าวนี้ช่างสวยงาม”

เมื่อกลับไปได้นำเรื่องราวของหาดพัทยาเขียนลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ เพลินจิตต์  
ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้คนได้รู้จักพัทยากันมากขึ้น

หลังจากนั้น ในปี พ.ศ.2498 เริ่มมีทัวร์พาคนกรุงเทพฯ  มาเที่ยวที่พัทยาคราวละ  30 – 40  คนบ้าง
จนถึงปี พ.ศ.2515 ความสะดวก สบายของถนนหนทาง ทำให้คนสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวโดยทางรถยนต์
และการเดินทางด้วยรถโดยสาร ที่สถานีขนส่งสายใต้ ใช้เวลาเดินทางมาถึง “พัทยา” ในเวลาไม่นาน  


จุดเปลี่ยน “เมืองพัทยา”

เมื่อประมาณปี พ.ศ.  2502  กองทัพสหรัฐมีนายทหารอเมริกันหลายพันนาย ได้มาขอใช้สนามบินอู่ตะเภา
เป็นฐานที่มั่นประจำการ เพื่อส่งกองกำลังทหารอเมริกันเข้าร่วมรบในสงครามเวียดนาม

ช่วงวันหยุดราชการทหารอเมริกันจะนั่งรถยี  เอ็ม  ซี  เดินทางเข้ามาพักผ่อนที่อ่าวพัทยา
ช่วงนั้นพัทยายังเงียบสงบเมื่อเสร็จสิ้นการรบทหารอเมริกันได้กลับไป

ชื่อเสียงของเมืองพัทยาก็เริ่มขจรไกลจากปากบรรดาจีไอไปสู่ชาวตะวันตกอื่นๆ  
ต่อมาในช่วงปี  พ.ศ.  2520  นักท่องเที่ยวจากตะวันตกซึ่งเป็นชาวยุโรป  เริ่มเข้ามาท่องเที่ยว
ทำให้เมืองพัทยาเติบโตขึ้นมาก  โรงแรมใหม่ๆ ก็ผุดขึ้นมามากมาย



ในยุคสมัยหนึ่งพัทยารุ่งเรืองสุดขีดถึงกับได้รับการขนานนามว่าเป็น  "ริเวียร่าแห่งเอเชีย”
คือมีความสวยงาม เทียบเท่าชายหาดของอิตาลีที่ชื่อว่า “อิตาลี ริเวียร่า” ทางฝั่งยุโรป
ซึ่งได้ชื่อว่าอากาศดีมาก ติดอันดับเมืองท่องเที่ยว เลยทีเดียว



ขอบคุณที่มาข้อมูลและภาพประกอบ
http://www.pattaya.go.th/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2/
http://www.พัทยา.ws/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2
http://bigmapthailand.com/th/3447_pattaya-map-2017_photo_reviews.html
https://travel.kapook.com/view180444.html
https://www.pinterest.com/pin/410320216036736805/

....................................................................



ถ้าหากว่าเธอคือฟ้า ฉันคือทะเล จะเปรียบทะเล ดั่งความมั่นคง
หากแผ่นฟ้า เป็นรักที่ซื่อตรง ทุกๆสิ่งจะคงนิรันดร์ ..ไม่ต่างกับเรา


ฝากฟ้าทะเลฝัน - เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย

https://www.youtube.com/watch?v=8ATuteT3FTE
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 17
ทัพพระยา......จากอดีตสู่ปัจจุบัน

ขอขอบคุณภาพจากเวบเด็กดี.คอม

พัทยา - ฝน ธนสุนทร
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่