สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
คือ F4 ในบท Human Torch นี่มันต้องเป็น สุดยอดนักบินหนุ่มหล่อ Hot ขวัญใจสาว ๆ เจ้าชู้นิด ๆ หว่านเสน่ห์ไปทั่ว
พูดมาก ปากหมานรองจาก Deadpool และ Spidy
ตอนที่เขามารับบทนี่ มี ลุค ตรงไหนบ้างที่พอจะเป็นแบบที่ว่ามา ทีนี้จากเรื่องเป็นคนขาวด้วย พอเอาผิวสีมาเล่นเลยเป็นปัญหา
เทียบง่าย ๆ เลยคืออย่าง Ghost in the Shell ที่เอาสการ์เล็ต มาเล่น ทั้งที่ตามบทต้องเป็นนักแสดงเอเชีย
เรื่องนั้น ความสวยระดับนั้นก็โดนคนตำหนิเหมือนกัน แถมรายได้ก็ไม่เข้าเป้า
ตอน F4 นี่เขาไม่ได้ด่าเพราะว่าไม่หล่อ ไม่ได้ด่าว่าเป็นคนผิวสี
แต่ที่เขาด่าคือไม่ตรงบทประพันธ์ ภาพของไมเคิล ตอนนั้นไม่มีอะไรที่ใกล้เคียงกับบทใน f4 เลย
คือหน้าตาจัดว่าดี หล่อพอสมควร แต่เขาไม่ได้หล่อออร่ากระจายอย่างที่ควรจะเป็น
ยิ่งพอไปเทียบกับนักแสดงคนก่อน นี่ยิ่งเห็นชัด ๆ ว่ามันไม่ใช่ จากนักบินสุดเก่ง กลายเป็นแกงค์รถซิ่ง ง่อย ๆ ก็เลยโดนคนตำหนิ
พอมาเรื่องนี้ บทคิลมังเกอร์ มันไม่ได้มีภาพจำอะไรมากมาย คนแทบไม่รู้จักเสียด้วยซ้ำ นักแสดงเลยไม่ต้องมีภาพจำมาบังคับ
เพราะงั้นที่นักแสดงทำได้คือการแสดงศักยภาพของตัวเองออกมาได้มากกว่า ฉายแสงได้มากกว่าเพราะตัวบท
แล้วว่ากันตรง ๆ เลยคือผมเป็นแฟนการ์ตูน F4 มากที่สุดเพราะเป็นเรื่องแรกที่ผมได้อ่าน ผมแทบจะตอบกระทู้ของ F4 เกือบทุกกระทู้
ผมกล้ายืนยันเลยว่าในพันทิป(เฉพาะในพันทิปนะที่อื่นไม่ทราบ) ไม่มีใครตำหนิเขาเรื่องเป็นคนผิวสีเลย
ที่เขาตำหนิกันนั่นคือไม่ตรงตามการ์ตูน ยิ่งพอไปเทียบกับ คริส นักแสดงคนก่อน ยิ่งเห็นได้ชัดถึงความไม่สมบทบาท
ดังนั้นที่ตอน F4 มีคนบอกว่าไม่หล่อ นั่นคือไม่หล่อมากพอที่จะเป็น Human Torch ไม่ใช่ว่าเขาหน้าตาไม่หล่อเลย
ที่โดนบ่นตั้งแต่ตอนเลือกนักแสดงก็เพราะเลือกนักแสดงไม่ตรงกับบทประพันธ์ คนเขาถึงบ่นกัน
เรื่องไหนที่ต้นฉบับบรรยายว่าสวยหล่อขั้นเทพ แต่เลือกนักแสดงที่หล่อแต่หล่อไม่ถึงขั้นเทพ คนเขาก็บ่นกันทั้งนั้นแหละ
ยิ่งไปเจอบทง่อย ๆ ผกก ง่อย ๆ ก็ยิ่งทำให้นักแสดงโดนด่าหนักเข้าไปอีก
แต่กลับกันที่ผมเห็นเยอะมากในพันทิปคือ ถ้ามีใครบอกว่าไมเคิลไม่เหมาะกับบท Human Torch หรือบอกว่าไม่หล่อ
มักจะโดนเหมารวมว่าเหยียดผิวเอาไว้ก่อน
พูดมาก ปากหมานรองจาก Deadpool และ Spidy
ตอนที่เขามารับบทนี่ มี ลุค ตรงไหนบ้างที่พอจะเป็นแบบที่ว่ามา ทีนี้จากเรื่องเป็นคนขาวด้วย พอเอาผิวสีมาเล่นเลยเป็นปัญหา
เทียบง่าย ๆ เลยคืออย่าง Ghost in the Shell ที่เอาสการ์เล็ต มาเล่น ทั้งที่ตามบทต้องเป็นนักแสดงเอเชีย
เรื่องนั้น ความสวยระดับนั้นก็โดนคนตำหนิเหมือนกัน แถมรายได้ก็ไม่เข้าเป้า
ตอน F4 นี่เขาไม่ได้ด่าเพราะว่าไม่หล่อ ไม่ได้ด่าว่าเป็นคนผิวสี
แต่ที่เขาด่าคือไม่ตรงบทประพันธ์ ภาพของไมเคิล ตอนนั้นไม่มีอะไรที่ใกล้เคียงกับบทใน f4 เลย
คือหน้าตาจัดว่าดี หล่อพอสมควร แต่เขาไม่ได้หล่อออร่ากระจายอย่างที่ควรจะเป็น
ยิ่งพอไปเทียบกับนักแสดงคนก่อน นี่ยิ่งเห็นชัด ๆ ว่ามันไม่ใช่ จากนักบินสุดเก่ง กลายเป็นแกงค์รถซิ่ง ง่อย ๆ ก็เลยโดนคนตำหนิ
พอมาเรื่องนี้ บทคิลมังเกอร์ มันไม่ได้มีภาพจำอะไรมากมาย คนแทบไม่รู้จักเสียด้วยซ้ำ นักแสดงเลยไม่ต้องมีภาพจำมาบังคับ
เพราะงั้นที่นักแสดงทำได้คือการแสดงศักยภาพของตัวเองออกมาได้มากกว่า ฉายแสงได้มากกว่าเพราะตัวบท
แล้วว่ากันตรง ๆ เลยคือผมเป็นแฟนการ์ตูน F4 มากที่สุดเพราะเป็นเรื่องแรกที่ผมได้อ่าน ผมแทบจะตอบกระทู้ของ F4 เกือบทุกกระทู้
ผมกล้ายืนยันเลยว่าในพันทิป(เฉพาะในพันทิปนะที่อื่นไม่ทราบ) ไม่มีใครตำหนิเขาเรื่องเป็นคนผิวสีเลย
ที่เขาตำหนิกันนั่นคือไม่ตรงตามการ์ตูน ยิ่งพอไปเทียบกับ คริส นักแสดงคนก่อน ยิ่งเห็นได้ชัดถึงความไม่สมบทบาท
ดังนั้นที่ตอน F4 มีคนบอกว่าไม่หล่อ นั่นคือไม่หล่อมากพอที่จะเป็น Human Torch ไม่ใช่ว่าเขาหน้าตาไม่หล่อเลย
ที่โดนบ่นตั้งแต่ตอนเลือกนักแสดงก็เพราะเลือกนักแสดงไม่ตรงกับบทประพันธ์ คนเขาถึงบ่นกัน
เรื่องไหนที่ต้นฉบับบรรยายว่าสวยหล่อขั้นเทพ แต่เลือกนักแสดงที่หล่อแต่หล่อไม่ถึงขั้นเทพ คนเขาก็บ่นกันทั้งนั้นแหละ
ยิ่งไปเจอบทง่อย ๆ ผกก ง่อย ๆ ก็ยิ่งทำให้นักแสดงโดนด่าหนักเข้าไปอีก
แต่กลับกันที่ผมเห็นเยอะมากในพันทิปคือ ถ้ามีใครบอกว่าไมเคิลไม่เหมาะกับบท Human Torch หรือบอกว่าไม่หล่อ
มักจะโดนเหมารวมว่าเหยียดผิวเอาไว้ก่อน
แสดงความคิดเห็น
ยินดีกับ Michael B. Jordan ด้วยนะที่ในที่สุดก็มีวันนี้
พอมาวันนี้ทุกสิ่งเปลี่ยนไป แทบไม่เห็น comment คนไทยด่าว่า Michael ไม่หล่ออีกต่อไป แต่กลับเห็น comment ว่า Michael ทั้งหล่อและเท่เป็นตัวร้ายที่เท่มากเยอะมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ Michael สมควรได้รับมากกว่าคำด่าว่าไม่หล่ออ่ะนะ
สื่อเมืองนอกบางสื่อก็พูดถึง Marvel กับ Michael เหมือนกันว่า Marvel นั้นเหมือนมาช่วยเซฟอาชีพนักแสดงของ Michael ไว้ให้รุ่งโรจน์อยู่ใน spotlight มากยิ่งขึ้น จากที่เคยร่วงไปกับ Fantastic 4
อันที่จริงก็มีสื่อนอกหลายสื่อก็พูดถึงเรื่องที่ Marvel เป็น career boost กับเป็น career revive ให้กับนักแสดงหลายคนอยู่เหมือนกัน
กรณี career boost นี่มีนักแสดง Marvel หลายคนที่อยู่ในข่ายนี้ ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ Chris Pratt ที่ก่อนหน้านี้เค้าเป็นผู้ชายอ้วนที่มักจะไม่ได้รับบทเป็นตัวเอกซักเท่าไหร่ มักจะได้รับบทรองเป็นตัวขโมยซีนมากกว่า จนเจมส์ กันน์เลือกให้ Chris Pratt เป็นพระเอก GOTG โดยยืนยันว่าพระเอกต้องเป็นคนนี้เท่านั้น ต่อให้ถ้า Chris ลดความอ้วนไม่สำเร็จก็จะยังให้เป็นพระเอกแบบอ้วนๆไปนี่แหละ พอ Chris เปิดตัวเป็นพระเอกกับ GOTG แล้ว หลังจากนั้นบทพระเอกหนังเรื่องอื่นๆก็ตามมายาวๆกลายเป็นนักแสดง A-list ไปเลย
อีกคนที่เห็นได้ชัดก็ Tom ก่อนหน้าที่จะมารับบทโลกิ ทอมยังไม่มีแฟนคลับมหาศาลมากอย่างที่เห็นทุกวันนี้ พอมารับบทโลกิปุ๊บกวาดแฟนคลับเป็นขโยงเรียบร้อยโรงเรียนแอสการ์ด
กรณี career revive ที่ช่วยเซฟอาชีพให้กับนักแสดงให้ยังคงมีงานอยู่ในวงการอีกครั้งก็มีหลายรายเหมือนกัน เห็นได้ชัดสุดก็ Robert Downey Jr. ที่หลังจากตกอับไปก็สามารถกลับมาใหม่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมได้หลังจากที่ได้รับบท Ironman