สังคมคุณตะพาบ ... เมื่อ 7-11 เป็นธนาคาร ...

สังคมคุณตะพาบ (คุณภาพ) เมื่อ ...
คนไทยส่วนหนึ่งมักเป็นโรค ...
โรคกดไลค์ กดแชร์ กันโดย
ไม่คิด ... ไม่วิเคราะห์ ... ไม่แกแยะ


จนหลายครั้งทำให้ข่าวออน์ไลน์ ยิ่งเป็นข่าวที่ไม่มีที่มาชัดเจน แพร่สะพัดได้เร็วยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง โดยข่าวที่มีคำว่า
#แชร์ด่วน #แชร์แล้วได้บุญ #ส่งต่อได้บุญ #รีบดูก่อนโดนลบ มักจะไปไวกว่าข่าวดีๆ


ข่าวลวง ข่าวที่ไม่มีข้อมูลความจริง ข่าวที่แชร์ต่อๆ กันมา โดยไม่มีต้นตอผู้ให้ข่าว จากความปราถนาดี แต่กำลังจะส่งผลร้ายให้กับสังคมไทย ประเด็นชวนเชื่อนี้มีเข้ามาเรื่อยๆ ทุกวัน ทุกสัปดาห์ ผ่านช่องทางไลน์บ้าง Facebook บ้าง เป็นเรื่องที่แชร์กันโดยไม่มีการตรวจสอบ แอบอ้างข้อมูลและสรรพคุณเกินจริงบ้าง

เพื่อเน้นอยากได้กระแส ได้เรตติ้ง จนไม่สนใจความถูกต้องของข่าวที่เขียน

สื่อสมัยนี้ แทบไม่มีราคาแล้ว เพราะจุดประสงค์ไม่ใช่การเผยแพร่เนื้อหาข่าว แต่จุดประสงค์ คือ "ขายข่าว"

การเสนอข่าวที่ผ่านมา จะเน้นตั้งหัวข่าวให้แรง อ้างอิงแหล่งข่าวไม่ชัดเจน ข่าวเสนอออกมาผิดๆ ก็ทำเนียนปล่อยให้เรื่องเงียบขายข่าวต่อไป เพราะรู้ดีว่า "พรุ่งนี้ก็จะมีข่าวใหม่" มากลบ

มุ่งยอดไลค์ ยอดแชร์ แต่ไม่เคยคิดถึงมุมกลับกันเลยว่า การกระทำดังกล่าวจะทำให้สังคมเป็นอย่างไร

และทำให้รู้อย่างหนึ่งว่า สังคมไทย คนไทยอ่านหนังสือไม่เกิน 8 บรรทัด นั้นเป็นความจริงแค่ไหน??

*** ถ้าคุณสามารถทนอ่านมาถึงบรรทัดนี้ได้ ก็หวังว่าคนไทยยังมีคนส่วนน้อย ที่รู้ความจริง ไม่ตกเป็นเหยื่อของนักฉวยโอกาสเพื่อขายข่าว โดยการจับแพะ ชนแกะ เอาข้อมูลตรงนู้น ข้อมูลตรงนี้มาผสมปนเป มั่วไปหมด หาความถูกต้องไม่ได้ ***

เพราะคนส่วนใหญ่ไม่สงสัยกันหรือว่า ทำไมสื่อใหญ่ๆ ไม่ได้เล่น หรือขายข่าวนี้กันเลย

คำตอบง่ายๆ ก็เพราะมันเป็น ข้อมูลที่ผิด อย่างเช่น ข่าวที่เป็นกระแสดังอยู่ตอนนี้ ที่กระจายไปทั่วโลกออนไลน์



ธนาคารแห่งประเทศพูดว่า "ร้านโชห่วย และร้านสะดวกซื้อ เช่น 7-11 ก็สามารถเป็นตัวแทนธนาคารได้"

แต่ผลคือหลายๆ เว็บ (ซึ่งไม่ใช่เว็บข่าวหลัก) หยิบแค่ข้อความตรงนี้ไปนำเขียนใหม่ว่า

“ธปท.อนุมัติให้ 7-Eleven เป็นธนาคารแล้ว”


แบงค์ชาติถึงกลับ งง???  ว่าไปพูดตอนไหน แถมพ่วงด้วยรูป Seven Bank ที่ประเทศญี่ปุ่นลงไปในบทความอีก

จนทำให้ทางธนาคารแห่งประเทศไทยต้องออกมาชี้แจงเป็นการด่วนเมื่อวันที่ 19 กพ. 2561 ที่ผ่านมาว่า

"ทางธปท. อนุมัติให้ธนาคารพาณิชย์ ทำแบงก์กิ้ง เอเยนต์ หรือ มีตัวแทนแบงก์ได้โดยให้ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้เลือกเองว่า จะเลือกกิจการใดเป็นตัวแทน แต่ต้องเป็นธุรกิจที่มีหลักแหล่งที่ตั้งแน่นอน อยู่ในแหล่งชุมชน มีความมั่นคง โดยให้ธนาคารพาณิชย์ตัดสินใจเลือกได้เอง ไม่ต้องมาขออนุมัติแบงก์ชาติเช่นในอดีต เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ลดต้นทุนเรื่องการเปิดสาขา และปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับพฤติกรรมลูกค้า แต่ แบงก์กิ้ง เอเยนต์ จะให้บริการกับลูกค้าได้ไม่เกินครั้งละ 5 พันบาท และไม่เกิน 2 หมื่นบาทต่อคนต่อวัน

ในปัจจุบันมีผู้ดำเนินการเป็น แบงก์กิ้ง เอเย่นต์ (Banking Agent) อยู่แล้ว อาทิ บริษัทไปรษณีย์ไทย ตู้บุญเติม ตู้เติมสบาย แอร์เพย์ และ เคาน์เตอร์เซอร์วิส" ที่มา : ​การปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับช่องทางให้บริการของธนาคารพาณิชย์


แค่เปลี่ยนพาดหัวข่าว ก็ไปกันคนละเรื่องแล้ว ทางที่ดีควรจะตามข่าวเฉพาะสื่อที่น่าเชื่อถือ และมีจรรยาบรรณกันดีกว่านะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่