เจ้าของกระทู้น่าจะไม่เคยสัมผัสงานกระเบื้องมาก่อน หรือไม่ก็ไม่เข้าใจ ผมก็ไม่ใช่ช่างปูน แต่ลงมือด้วยตัวเองมาตลอดหลายปีจึงพอเข้าใจ จะขออธิบายให้นะครับ

ทำไมช่างหระเบื้องทั่วไปจึงไม่ผสมหิน...
เพราะ.. หิน จะควบคุมยากเมื่อต้องการวัตถุมาปูทับ เพราะ เมื่อเคาะปรับระดับ ถ้าไม่ใจเย็นจริงๆ กนะเบื้องจะเสี่ยงแตกได้ การปูกระเบื้องจึงมักเทคอนกรีตเสรืมเหล็กปูพื้นจัดระดับไปก่อน ซึ่งหินจะผสมอยู่ในนั้น เมื่อพื้นแห้งแล้วจึงใช้ปูนทรายบางๆ ยึดพื้นล่างกับกระเบื้องอีกที จะทำการปรับระดับได้ง่ายกว่า

ทำไมในคลิปถึงผสมหินด้วย...
เพราะ.. ในคลิปเป็นการยกพื้นสูงขึ้นจากเดิมมาก เมื่อชั้นปูนหนาหินจึงจำเป็นต้องมีเพื่อความแข็งแรงและการความคงตัวของปูนที่ยังเหลวอยู่ เมื่อชั้นปูนหนาขนาดนั้นหากไม่มีหิน หลังจากปูแล้วรอปูนเซ็ตตัวน้ำหนักกระเบื้องจะทำให้ตัวกระเบื้องจมเอียงตัวลงไปได้ง่าย

แล้ววิธีไหนดีและเร็วกว่ากัน...
ขอตอบว่า แล้วแต่กรณีครับ
..กรณีทั่วไป การเทคอนกรีตจะเทให้ได้ระดับต่ำกว่าระดับใช้งานจริงประมาณ 2 ซม. สำหรับความหนาของปูนและกระเบื้อง วิธีที่ช่างใช้ปรกติจึงเหมาะสมครับ หากใช้หิน จะกดไม่ลง กระเบื้องแตก หลังปูเสร็จ 2-3 ชม. ก็เหยียบได้แล้วครับ ปูนน้อยเซ็ตตัวไว ยาแนวได้เลย
..กรณีที่ต้องยกพื้นที่ใช้งานให้สูงขึ้น ก็จำเป็นต้องเทพื้นเพิ่มด้วย ก็ต้องผสมหิน ถ้าอยากให้เร็วก็สามารถปูกระเบื้องไปพร้อมกันได้เลย แต่ก็มีความเสียงกระเบื้องจมปูนได้บ้างเช่นกัน ช่างต้องใช้ความชำนาญอย่างมากที่จะเลี้ยงปูนใต้กระเบื้องไม่ให้ขยับ และต้องรอปูนเซ็ตตัวเป็นวันครับ และถ้าเสริมโครงเหล็กในปูนด้วยจะทำให้ปูยากทำให้ความแข็งแรงลดลง ต้องรอวันถัดมาจึงจะยาแนวได้ครับ เพราะปูนหนา จะเซ็ตตัวช้า ระหว่างรอถ้ามีใครหรือตัวอะไรหนักๆ ไปเหยียบกระเบื้องก็พังครับ

ดังนั้น ทำได้ทั้งสองแบบครับ อยู่ที่หน้างานว่าควรทำแบบไหน