รถมอเตอร์ไซค์เมื่อวิ่งกลางวันกับกลางคืน การสิ้นเปลืองน้ำมันต่างกันมาก

เวฟ 110 i เท่าที่สังเกตดูจากการวิ่งยาวๆราว 70-80 กิโลเมตร ที่ความเร็ว 90 ก.ม./ชั่วโมง ถนนค่อนข้างโล่งตลอดเวลา
ถ้าวิ่งตอนกลางวันอากาศแห้งๆจะไม่ค่อยเปลือง  น้ำมันเต็มถังลงไปแค่ขีดเดียวแถมบิดขึ้นได้เป็นร้อย
แต่ถ้าวิ่งตอนกลางคืน อากาศเย็นหรือชื้นนิดๆจะบิดไม่ขึ้น แค่ 90 ยังไม่ค่อยจะถึงแถมซดน้ำมันมากเป็นพิเศษ เติมเต็มถังก็พร่องไปเกินครึ่งถัง
น้ำมันเครื่องก็ยังใหม่ นึกว่ากรองอากาศสกปรก เปลี่ยนของแท้ใส่แล้วลองวิ่งใหม่ การสิ้นเปลืองก็ยังไม่ค่อยจะต่างกัน

แบบนี้สาเหตุมันเกิดจากอะไรครับ
สภาพอากาศภายนอก สภาพรถ หรือทั้งคู่
รบกวนผู้รู้ช่วยไขข้อข้องใจทีครับ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
1) ถ้าวิ่งตอนกลางวันอากาศแห้งๆจะไม่ค่อยเปลือง

2)ถ้าวิ่งตอนกลางคืน อากาศเย็นหรือชื้นนิดๆจะบิดไม่ขึ้น แค่ 90 ยังไม่ค่อยจะถึงแถมซดน้ำมันมากเป็นพิเศษ

>>>>>>>>>
สอง-ข้อนี้ คือ เงื่อนไขของ A/F-ratio ส่วนผสม พอดี และ เจือจาง

เพื่อให้เข้าใจง่าย ให้นึกถึง "โช๊ค"  ที่เราดึงตอนเครื่องเย็น เพื่อ "เพิ่มน้ำมัน" ให้ส่วนผสมหนาขึ้น เครื่องยนต์จะติดง่าย

ที่เป็นอย่างนี้เพราะ "น้ำมัน-ของเหลว" จะเปลี่ยนเป็น "ไอ"  มันต้องการปริมาณ "ความร้อน" ช่วยการ vaporize  (เปลี่ยนสถานะ)

A) เมื่อเราจูนเครื่องให้ A/F ratio พอเหมาะตอนอากาศร้อน

B) พอวิ่งอากาศเย็น A/F ratio ก็จะ "บางลง" ทำให้การเผาไหม้ไม่มีประสิทธิภาพ บิดไม่ค่อยขึ้น

ที่อธิบายข้างบน สามารถวัดได้ด้วย CO

ลองวัด CO ตอนกลางวัน และ ตอนเย็น อากาศเย็น จะได้ค่า CO ที่แตกต่างกัน

วิธีแก้ไข ให้วิ่งกลางคืน อากาศเย็น วิ่งได้ดี บิดขึ้นเร็ว และกินน้ำมันน้อยลง

ให้จูนเครื่องให้ "หนาขึ้น" สักนิด (ย้ำไม่ได้พูดผิด ดูหมายเหตุ) จะทำให้รถคันนี้วิ่งตอนกลางวัน และ กลางคืน อากาศเย็นได้ดีขึ้นและกินน้ำมันพอๆกัน

หลายเหตุ  

ถ้าเอา curve  HP  /  spec fuel consumption / CO มาดู

จะพบว่า ที่ CO=0 หรือการเผาไหม้สมบูรณ์ ไม่ใช่ A/F ที่ประหยัดสูงสุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่