[CR] The Netherlands Diary << ตอนที่ 2 >> : วันแห่งครอบครัวที่ Groet

ความเดิมตอนที่แล้ว
The Netherlands Diary << ตอนที่ 1 >> : การเดินทางไปยุโรปครั้งแรก https://pantip.com/topic/37376785

********************

The Netherlands Diary << ตอนที่ 2 >> : วันแห่งครอบครัวที่ Groet

“วันของครอบครัว แม้ห่างกันครึ่งโลกแต่โชคชะตานำพาให้มาพบกัน”

6 เมษายน 2560
… วันนี้เป็นวันที่ 2 แล้วน่ะครับที่มาอยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ก็ยังคงเป็นตอนเช้าที่ยังตื่นกันตีสี่ครึ่งเหมือนเดิม (Jet Lag ฝั่งขาไปนี่ค่อนข้างปรับตัวนานนิดนึง) โดยโปรแกรมของเราในวันนี้ก็คือการเดินทางไปเยี่ยมพ่อกับแม่ของพี่มาร์ตินกันครับ ซึ่งนัดเวลาล้อหมุนกันตอน 10 โมงเช้า ในส่วนของกลุ่มทัวร์ซัวเถาจากเมืองไทยนั้นก็ตื่นกันตั้งแต่เช้าพระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น แต่ฝรั่งเจ้าบ้านกลับตื่นในเวลาใกล้จะแปดโมงแล้ว แถมทำหน้าสงสัยอีกว่าพวกเราตื่นกันเช้าๆทำไม วันนี้วันหยุดน่ะควรจะพักผ่อนให้เต็มที่ สรุปว่าเช้าวันนั้นคนที่ตื่นแปดโมงมายืนรอที่รถตอน 10 โมงเป๊ะ แต่พวกที่ตื่นกันที่สี่ครึ่งกำลังตาลีตาเหลือกเตรียมข้าวของที่จะเอาไปฝากพ่อแม่พี่มาร์ตินกันอย่างชุลมุน นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างนึงครับว่าเรื่องการรักษาเวลาของชาวยุโรปค่อนข้างจะได้มาตราฐานกันเลยทีเดียว
… บ้านเกิดของพี่มาร์ตินนั้นคือหมู่บ้าน Groet เป็นชุมชนเล็กๆตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของอัมส์เตอร์ดัมใกล้กับทะเลเหนือ ห่างจากตัวเมือง Alkmaar ประมาณ15 กิโลเมตร เช้าวันนั้นเราใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงแล้วครับ ระหว่างการเดินทางนั้นสองข้างทางเป็นอะไรที่น่าสนใจมากเพราะพื้นที่ในส่วนตะวันตกของเนเธอร์แลนด์(ส่วนที่ติดกับทะเลเหนือ) นั้นเป็นพื้นที่ราบลุ่มต่ำกว่าระดับน้ำทะเลทั้งหมด ดังนั้นสองข้างทางจึงเป็นทุ่งราบกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาเลยครับ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นทุ่งหญ้ามีวัวนมสีขาวดำเดินกันให้ขวักไขว่ สลับกับทุ่งดอกทิวลิปที่ตอนนั้นกำลังเริ่มออกดอกตูมให้เชยชมกันบ้างแล้ว แถมกังหันลมต้นยักษ์ที่ใช้ปั่นไฟวางอยู่กลางทุ่งให้เห็นเป็นระยะๆ แล้วสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ครับก็คือมีคลองพร้อมกังหันลมแบบดัชต์ตัวเป็นๆให้เห็นกันทั่วไป จากนั้นเมื่อเริ่มเข้าสู่เขตหมู่บ้าน สองข้างทางก็จะมีบ้านเรือนที่ดูแตกต่างจากตึกสีน้ำตาลแดงที่เห็นในอัมสเตอร์ดัมส์ ซึ่งพี่มาร์ตินบอกว่านี่แหละสภาพบ้านดั้งเดิมของชาวดัชต์

Highway เส้นทางขึ้นไป Alkmaar

ต้นวิลโลว์ทีเรารู้จักกันดีในแฮรี่ พอตเตอร์ ตัวเป็นๆหน้าตาเป็นอย่างนี้นี่เอง สังเกตดูครับว่าหญ้านี้เขียวชอุ่ม สูงเท่ากันตลอดเลย

ถึงเมือง Alkmaar แล้วครับ จะเห็นสนามเหย้าของทีม AZ Alkmaar เด่นเป็นสง่ามาแต่ไกล

ขาดไม่ได้ครับสำหรับเนเธอร์แลนด์ คลองกับกังหันลม

ถึงแล้วครับ Groet มีแต่บ้านสวยๆทั้งนั้น

… พ่อแม่พี่มาร์ตินรอพวกเราอยู่ที่บ้านตั้งแต่เช้าแล้วครับ สองตายายที่อายุเกือบ 90 แล้วเดินออกมาต้อนรับพวกเราที่หน้าประตูบ้าน เป็นความรู้สึกที่น่าประทับใจมากๆครับ ภาพของคนแก่ 2 ที่ยืนยังลำบากเลย มาช่วยรับเสื้อโค้ทเอาไปแขวน แล้วเชิญเรามาที่ห้องรับแขก จากนั้นก็ยกกาแฟพร้อมขนมมาเลี้ยงต้อนรับเรา ตอนที่เราเห็นสองตายายทำโน่นทำนี่บอกว่าน่าเห็นใจมากครับ เพราะแกสองคนแก่มากๆทำอะไรไม่ค่อยไหวแล้วครับอยากเข้าไปช่วย แต่พี่โอ๋กระซิบบอกเราครับว่าห้ามเข้าไปเลยครับ มันเป็นวัฒนธรรมของเค้าในฐานะเจ้าบ้าน เราเป็นแขกที่ได้รับเชิญมาเพราะฉะนั้นห้ามเข้าไปช่วยไม่งั้นจะถือว่าเสียมารยาท แถมพ่อกับแม่พี่มาร์ตินอยากแสดงให้เห็นว่าเค้ายังสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เพราะที่นี่ถ้าผู้สูงอายุคนใดที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ รัฐบาลเค้าจะบังคับให้ไปอยู่ที่บ้านพักคนชราครับ
… บรรยากาศของวงกาแฟต้อนรับพวกเรานั้นเต็มไปด้วยความสนุกสนาน งงงวย และเสียงหัวเราะ เพราะว่าแต่ละบ้านก็มีขาเม้าท์ประจำกัน แม่พี่มาร์ตินเป็นคนที่คุยเก่งมาก แกเป็นคนทันสมัย เป็นคนชอบพูดคุย ทักทายพบปะกับคนทั่วไป แม้ว่าจะอายุมากแล้วแต่ก็ยังหลงเหลือความเป็นสาวนำสมัยอยู่เหมือนเดิม ส่วนคุณเพลินที่แม้ว่าจะฟังเค้าไม่รู้เรื่อง แต่ก็พยายามเปิดบทสนทนาอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้บรรยากาศการพบปะกันครั้งแรกดูไม่เงียบเหงา แต่ทว่าอย่างที่บอกไปอุปสรรคสำคัญเลยนั่นก็คือเรื่องภาษาครับ บ้านพี่มาร์ตินนั้นเค้าพูดและเข้าใจได้แต่ภาษาดัชต์และภาษาเยอรมัน ส่วนบ้านเรานั้นก็พูดได้แต่ภาษาไทยและจีนแต้จิ๋ว ดังนั้นงานหนักจึงตกมาอยู่ที่ล่ามทั้ง 3 คนครับทั้งแปลจากไทยเป็นอังกฤษ แปลอังกฤษเป็นดัชต์ แปลดัชต์เป็นไทย แปลไทยเป็นดัชต์ แปลอังกฤษเป็นไทย …. วุ่นวายดีจริงๆครับ 555 …. สุดท้ายทำไปทำมาด้วยโชคชะตาที่พาให้พวกเรามาเจอกัน มันกลายเป็นว่าแก๊งค์ผู้เฒ่า 4 คน โดยที่คุยกันไม่รู้เรื่องน่ะแต่ก็ชักชวนกันไปดูโน่นดูนี่รอบบ้านเลยครับ ทั้งโต๊ะโบราณสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ปู่พี่มาร์ตินทิ้งเอาไว้เป็นมรดกประจำบ้าน หรือ แม่พี่มาร์ตินพาพวกเราขึ้นไปดูภาพวาดฝีมือแกเอง ที่เป็นของสะสมส่วนตัวถึงในห้องนอน (ปกติตามธรรมเนียมฝรั่งเค้าจะไม่ทำกันน่ะครับถ้าไม่สนิทสนมกันจริงๆ) แล้วก็อีกหลายอย่างเลยครับ บรรยากาศในตอนนั้นบอกได้เลยว่ามันอบอุ่นจริงๆ แล้วหลังจากนั้นสักพักนึง ทางพี่มาร์ตินก็พาพวกเราออกไปเดินเล่นกันรอบๆหมู่บ้าน ส่วนทาง 2 ตายายก็ขอเวลาในการเตรียมอาหารเพราะวันนี้ทางบ้านพี่มาร์ตินจะเลี้ยงอาหารมื้อเที่ยงตามสไตล์ชาวดัชต์ให้พวกเราได้ลิ้มชิมรสกัน
… Groet เป็นหมู่บ้านเล็กๆแต่สะดวกสบายมากเลยครับ แม้จะมีขนาดเล็กแต่พร้อมทุกอย่าง มีซุปเปอร์มาร์เก็ตมาตรฐาน สนามกีฬา โรงเรียนระดับประถม มีร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านกาแฟ ร้านขายของเกือบทุกอย่างเลยครับ เรียกว่าแทบไม่ต้องออกไปไหนเลยก็สามารถอยู่ได้แบบสบายๆ เราเดินเล่นกับรอบๆดูนั่นดูนี่ไปเรื่อย เราแวะไปถ่ายรูปกันที่โบสถ์เล็กๆกลางเมือง เป็นโบสถ์โปเตสแตนท์เก่าแก่อายุหลายร้อยปีมาแล้วครับ แต่ก็ยังคงสภาพสมบูรณ์ คงความสวยงามแบบเรียบง่ายตามแบบฉบับของโบสถ์โปรเตสแตนท์

บรรยากาศของที่นี่ครับ เมืองเล็กๆแต่น่าอยู่มากๆๆ



Kerk Groet

แต่ไฮไลท์สำคัญนั่นก็คือ เมืองนี้ตั้งอยู่แนวเนินทรายธรรมชาติ (Dunes) ที่เป็นเขตกั้นน้ำทะเลกับแผ่นดินชั้นใน (ซึ่งเป็นลักษณะทางภูมิประเทศที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล คือเมื่อน้ำทะเลสูงขึ้นก็จะสะสมตะกอนพอกขึ้น แต่พอน้ำลดตะกอนเหล่านี้จะโผล่พ้นน้ำแล้วมีลมมาพัดทรายเหล่านี้ ทำให้มีพื้นที่ที่มีตะกอนทรายเหล่านี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆซ้ำไปซ้ำมา จึงเกิดเป็นแผ่นดินที่มี Dunes กั้นอยู่ริมชายฝั่งทะเล) ซึ่ง Dunes เราไปเดินเที่ยวกันนี้คือ Schoorlse Duinen เป็น Dunes ที่มีขนาดใหญ่แห่งนึงของเนเธอร์แลนด์ครับ มีความยาวกว่า 10 กม. ขนานไปกับชายฝั่งทะเลเหนือ ความกว้างราว 5 กม. และมีจุดสูงสุดที่ประมาณ 50 ม. พี่มาร์ตินบอกว่าแต่ก่อนผู้เฒ่าผู้แก่เล่าให้ฟังว่าเมื่อสักประมาณ 100 ปีก่อนมันเป็นเนินทรายเปล่าๆมีแค่หญ้าขึ้น ต่อมาเริ่มมีองค์กรพวกสิ่งแวดล้อมเอาต้นสนมาปลูกบนเนินนี้ ทำให้ต่อมาที่ตรงนี้เลยกลายเป็นเขตอุทยานมีพันธุ์ไม้ มีสัตว์ป่าหลากหลายสายพันธุ์มาอาศัยอยู่มากมาย มีความหลายหลายทางระบบนิเวศแบบชายฝั่งทะเลที่มีความน่าสนใจมากครับ โดยเฉพาะพื้นที่ป่าสนที่นี่เรียกได้ว่าตื่นตาตื่นใจสำหรับพี่ไทยอย่างเรามากเพราะเป็นธรรมชาติแปลกใหม่ที่พวกเราไม่เคยกันมาก่อนครับ เราใช้เวลาเดินเล่นกันอยู่บน Dunes ประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนลงมายังในเขตหมู่บ้านอีกครั้ง

มาฝึกกำลังขากันครับที่ Schoorlse Duinen
จากด้านบนครับ เดินขึ้นไปสักพักแล้วมองย้อนกลับมาที่หมู่บ้าน สูงเอาเรื่องเหมือนกันน่ะครับ
ไกด์เถื่อนกำลังพาเราเดินไปที่จุดชมวิว

ยังไม่พอครับ เดินกันมาสักพักต้องปีนขึ้นแนวป่าสนอีกชั้นนึงก่อนถึงจุดชมวิว

ทางลงกลับมาเข้าหมู่บ้านครับ ธรรมชาติสวยมาก
ชื่อสินค้า:   ยุโรป , Europe , Netherland , เนเธอร์แลนด์
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่