เราเป็นลูกคนสุดท้องของพ่อและแม่ ตั้งแต่จำความได้เราจำได้ว่าเราอยู่กับยายจนกระทั่งต้องเรียนอนุบาลจึงต้องอยู่กับแม่จนประมาณอายุ 8 ขวบแม่ต้องทำงานที่ต่างจังหวัดเราเลยต้องอยู่กับพ่อ ย่า และพี่ชาย เรารู้สึกว่า3คนนี้เข้าใจเรามากในตอนเด็กๆ พออายุ11ขวบแม่ก็ย้ายกลับมาทำงานใกล้บ้านตั้งแต่ตอนนั้นเราไม่มีความสุขเลยค่ะ ซึ่งมันต่างกันมากกับตอนที่อยู่กับพ่อ ทุกวันที่แม่ไปส่งไปโรงเรียนไม่มีวันไหนเลยที่เราจะยิ้มไปโรงเรียนบางวันแม่ก็ด่าเรา ด่าพ่อ ด่าพี่ชาย ก่อนจะเดินทางทุกครั้ง ทุกๆครั้งที่แม่โมโหใครจะมาลงที่เราเสมอๆนั่นจึงเป็นสาเหตุที่เราต้องร้องไห้ก่อนไปเรียนทุกครั้ง จนกระทั่งเราขึ้นมัธยมเราสอบติดในอันดับที่ค่อนข้างดีแม่ก็ยินดีด้วย พอขึ้นมัธยมเราเริ่มมองอนาคตว่าจะเรียนอะไรต่อดี เรารู้ว่าตัวเองชอบอะไรอยากเรียนอะไรพอเราไปปรึกษาพ่อแม่ ซึ่งมักจะได้คำตอบกลับมาว่า "ทุนเรียนต่างประเทศ งั้นหรอ สอบติดแล้วไง ฉันรู้ว่าแกอยากไปตามเทรนด์เหมือนที่คนอื่นไป อย่ามาเถียงนะชั้นเลี้ยงแกมา "อย่างงั้นอย่างงี้ ทุกๆเรื่องที่เราพูดแม่มักจะเอาวลีนี้มาพูด ซึ่งเราจะปรึกษาใครก็ไม่มีใครเข้าใจเราจริงๆเรานั่งร้องไห้คนเดียวบ่อยมาก อยากฆ่าตัวตายบ่อยมาก เพราะอะไรรู้มั้ยคะ เพราะว่าที่เราพยายามตั้งใจเรียนให้อะไรๆมันดีขึ้นเพราะว่าเราไม่อยากให้พ่อแม่ต้องอายใครเกี่ยวกับการเรียนของเรา เวลาเราเครียดไม่มีใครอยู่ข้างเราหรือถามเหตุผลเราเลย มีแต่คอยตอกย้ำ เช่นเวลาอกหักงี้ เราไม่เคยมีคนมาปลอบเลยแม้แต่เพื่อน เวลาคะแนนน้อย ทุกคนมักจะFadeตัวออกจากเรา เรารู้สึกว่าชีวิตเรามันไม่มีใครเลยค่ะ ที่ไม่ฆ่าตัวตายวันนี้เพราะจำไว้ตลอดว่ามันบาปถึงเราไม่อยู่เพื่อคนอื่นอย่างน้อยก็อยู่เพื่อตัวเอง แต่ที่เป็นอยู่วันนี้กำลังใจมันไม่มีแล้วค่ะ ให้กำลังใจตัวเองจนมันไม่ไหวแล้ว จะทำไงดีคะความรู้สึกมันดิ่งลงจุดต่ำสุดไปมากๆๆๆๆเลย
เอายังไงดีกับชีวิตคะ