มีบ้านไหนที่เป็นอย่างนี้บ้าง ??

ที่บ้านมีอยู่ด้วยกัน พ่อ แม่ พี่สาว 2 คน พี่เขย 1 คน หลานสาว 2 คน
ตัวเราเองเราไปอยู่กับแฟนอีกบ้าน เวลามีการมีงานทีถึงจะมารวมตัวกัน แต่มันเป็นอะไรที่น่าปวดหัวมาก
ยกตัวอย่างเมื่อวาน งานศพลุง บ้านลุงอยู่ไม่ไกลกันมาก ตอนลุงเสีย ลูกสาวลุง มาแจ้งที่บ้าน พ่อเลยขอให้พี่สาวคนโตพาไปส่งที่บ้านลุงให้ เพื่อไปรดน้ำศพ และวานให้พี่เขยคนโตขับรถไปส่ง พี่สาวบอกไปไม่ได้ เพราะจองแผงขายของที่ตลาดนัดไว้แล้ว พ่อเราโทรหา เราก็เลยแก้ปัญหาโดยการ ขับรถไปรับพ่อที่บ้าน เพื่อไปแทน ทั้งที่บ้านเราอยู่ไกลออกไปอีก (ไม่ว่ากัน)
พอถึงคืนวันสวดศพ พี่เขยคนโต อาสาไปส่งที่งานทุกคืน (สวด 7 คืน) พี่สาวก็เอาแต่นั่งบ่นพี่เขยว่า จะมาอะไรทุกคืน ไม่คิดถึงค่าน้ำมันรถบ้างหรือไง อันนี้ประเด็นที่ 1
ประเด็นที่ 2 คืนก่อนวันเผา ลูกสาวของลุงมาพูดเชิงทีเล่นทีจริง ให้มาช่วยทำกับข้าวเลี้ยงพระที่วัดตอน 05.00 น. แต่พี่เขยและพ่อพยักหน้ารับ เข้าใจนะ จะให้พูดว่ามาไม่ได้ มันก็คงจะน่าเกลียด พี่สาวด่าพี่เขยแบบจัดหนักมากกกก เราคิดด่ากันทำไมเนี่ยยยย???
ประเด็นที่ 3 วันเผา สรุปไม่ได้ไปช่วยทำกับข้าว พี่สาวคนโตและคนกลาง เถียงกันแบบซีเรียสมาก ว่าไม่ได้ไปช่วย ที่งานเค้าจะด่ามั้ย?? เราเลยพูดและถอนหายใจกับพี่สาวทั้ง2 ว่า เขาพูดไปงั้นแหละ เขาแค่อยากเห็นหน้าเราเท่านั้นมั้ง เค้าคงไม่ว่าอะไรหรอก (ก็เราก็ดูอยู่ว่าเขาพูดทีเล่นทีจริงง่ะ เราอยู่ในเหตุการณ์ด้วย) พี่สาวคนกลางโวยวายใส่เราเลย แล้วไปรับปากเค้าว่าจะไป เค้าก็ต้องด่า เราก็เลยบอก "อ้าว ถ้าเรื่องแค่นี้โกรธ เคืองกัน ก็ไม่ต้องเผา" ทีนี้ทะเลาะกันยาววววว แล้วเราก็ไปอาบอาบน้ำแต่งตัว จะแต่งหน้าอ่ะแหละ มันมืด เลยเดินไปเปิดไปเพิ่ม 1 ดวง พี่สาวคนกลางมาสะกิดว่า เปิดไฟทำไม เดี๋ยวพี่สาวคนโตบ่น เค้าบอกว่ามันเปลืองไฟ ไอ้เรางี้ ปิดดิ ไปแต่งหน้า หน้าบ้าน กลางแดดเลย ประชด
ประเด็นที่ 4 รองเท้าหาย ตอนที่ไปวันเผา ตอนเข้าไปนั่งฟังสวด ต้องถอดรองเท้าไว้ด้านนอก ประเด็นคือรองเท้า เป็นรองเท้าที่ยืมพี่สาวคนโตมา มารู้ตัวว่ารองเท้าหาย ตอนที่จะไปเข้าห้องน้ำ เดินหาจนหงุดหงิด สรุปเราไม่ได้ไปเข้าห้องน้ำ ไปจนถึงเวลาแห่ศพขึ้นเมรุ เดินเท้าเปล่า อินดี้สุดๆ พี่สาวคนโตเจ้าของรองเท้าบอก "ไม่เป็นไรหรอก รองเท้าคู่นั้นไม่ค่อยได้ใส่ หายก็ช่างมัน" แต่เราก็ยังกังวลเรื่องการกลับบ้านอยู่นะ จะใส่อะไรกลับล่ะ ก็เลยไม่คิดอะไร เดินแห่ศพจนครบ และไปเจอกับรองเท้าที่อีกคนใส่ไปผิด เราชี้ให้พ่อดู พ่อบอกว่า "เออ เดี๋ยวค่อยบอกเค้า เค้าใส่ผิดมั้ง" หันหลังไปหาพี่สาว บอก"เจอรองเท้าแล้ว" พี่สาวบอก "ไหน ไปเลยไปเอาคืนมาเดี๋ยวนี้ รองเท้าคู่ละ 100 เชียวนะโว้ย"  คิดในใจ อ้าว เมื่อกี้บอกหายไม่เป็นไรไม่ใช่หราาา สุดท้ายไปขอคืนมาจนได้ คนที่ใส่ไปเขาก็ขอโทษ เขาว่ามันเหมือนของเขา ไม่ทันมอง ประเด็นนี้จบ
ประเด็นที่ 5 หลังกลับจากงานศพ เราหิวข้าว ก็เลยชวนกันกินหมูกระทะ พอจะกินมีประเด็นถกเถียงกันอีก ว่าใครจะจ่ายเงิน ในใจเรา " โอ้ยยยยยย ยากเหลือเกิน ชีวิตตตตตต"
เราก็เลยตัดปัญหาพาไปซื้อ แต่ไม่บอกว่าใครจ่าย ไปถึงตลาดเราจ่ายเองทั้งหมด ควักทุกร้าน มีไม่ได้จ่ายอย่างเดียว คือผักบุ้ง 2 กำ พี่สาวคนโตซื้อ เพราะแยกกันไปซื้อ ปัญหาก็น่าจะจบ
พอมาถึงบ้าน เตรียมกินมีปัญหาต่ออีก พี่สาวคนโตไปนั่งบ่นเราหลังบ้าน ว่าไม่มาช่วยหั่นผัก (ผักบุ้ง 2 กำ ร้องไห้) คือเราเก็บกระเป๋าเพื่อเตรียมกลับบ้าน ก็เลยไม่ได้ออกไปช่วย เราได้ยินเราก็เงียบ ถอนหายใจเฮือกๆไป
พอถึงเวลากิน พี่สาวคนโต หลานคนเล็ก พี่เขย มานั่งกิน พี่สาวคนกลางไม่มากินด้วย เดินบ่นงึมงำๆ เรียกกินก็บอก ไม่กินแระ น้ำเสียงแบบไม่ใจ
เราคิดในใจอีกกกก " อารายยยของพวกเมิงงงงงงงงงง (ชักจะเหลืออด)"
กินพอจะอิ่ม ตกลงพี่สาวคนกลาง ไม่มากิน เพราะทะเลาะกับสามี ด่ากันแหลกทางโทรศัพท์ ไอ้เราก็นั่งฟัง คีบหมูใส่ปากไปด้วย ถอนหายใจไปด้วย

บ้านนี้มันอะไรกันนักกันหนา เราไม่ค่อยจะกลับไปบ้านหลังนี้ซักเท่าไหร่
เพราะก้าวขาเข้าไปก็ x@#o//*b!! พี่สาวคนโตด่าลูกกับสามี ไม่รู้คุณสามีมันทนได้ไง อยู่มาจนลูก 2
พี่สาวคนกลาง เดินเก็บกวาดบ้าน แล้วเขวี้ยงข้าวของ อะไรขวางหูขวางตาทิ้งหมด พ่อแม่นั่งอยู่ก็โดน บ้านต้องสะอาด ไม่มีฝุ่นแม้แต่ไมครอน เสื้อผ้าโยนข้ามหัวกันไปเลย ไม่ต้องแคร์
พ่อก็ไม่พูดอะไรซักคำ แม่ก็พูด พูด พูด พูดคนเดียว หลุดโลกไปแระ งง ไม่รู้คุยกับใคร

บางทีเราก็ไม่ค่อยอยากกลับไปที่นั่นเท่าไหร่ ถ้าไม่มีเหตุอันควร เพราะไปก็เจอแบบนี้ มันเบื่อหน่ายนะ
# แต่ยังไงเราก็ตัดขาดจากพวกเขาไม่ได้หรอก แต่ขอเป็นมาหานานๆทีดีกว่า ไม่งั้นเดี๋ยวจะหลุดโลกไปอีกคน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่