ใครเคยแก้จมูกด้วยการรองปลายจมูกด้วยเนื้อก้นกบ หลังการแก้จมูกที่ Medmetic by Meko ไหมคะ

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะ ชื่อกระทู้อาจจะฟังดูแปลกๆ แต่จริงๆก็ตามนั้นเลยนะคะ
ใครเคยแก้จมูกรอบ 2 ด้วยการรองปลายจมูกด้วยเนื้อก้นกบ หลังจากการแก้ครั้งแรกที่ Medmetic By Meko ไหมคะ

ปรกติไม่ค่อยเข้ามาเขียนอะไรในเว๊บ หรือแม้แต่เพจตัวเองเลยค่ะ แต่ครั้งนี้มีคำถามจริงๆ และอึดอัดมาก เลยขอถามและขอระบายนะคะ
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อปี 2017 ได้มีการติดต่อไปทาง Medmetic by Meko เนื่องจากมีเพื่อนแนะนำให้ลองศึกษาและไปแก้จมูกที่นั่น (จริงๆเราเคยทำจมูกมาแล้ว 1 รอบ ช่วง 2003 และต้องการจะหาที่แก้ เพราะอันที่ทำมาและอยู่กับเรามานานนั้นมันเบี้ยวค่ะ)

ตอนเราติด่อไป เตัวเราอยู่ อเมริกา และได้ทำการติดต่อเรื่อยๆ เพราะเวลาของที่อเมริกากับที่ไทยนี่ต่างกัน มีคำถามก็พิมพ์ทิ้งไว้ พอก่อนนอนเค้าเข้างานกัน ก็ค่อยมาตอบโต้กัน จนตัดสินใจจองวัน และเวลาไว้เรียบร้อย
ตอนนั้นที่จองคือ หลังจากบินกลับไทย เราก็ได้ทำการจองโรงแรม พักให้หายจากอาการเจ็ทแลคซัก 2 วัน แล้วเข้ารับการผ่าตัด และบินกลับต่างจังหวัดในวันต่อมา
ต้องขอบอกไว้ก่อนว่า ตอนที่ทำ ลูกสาวอายุเพียง 2 ขวบ เลยต้องให้เพื่อนที่อยู่ กท ช่วยมาดูแลลูกให้ในวันที่ทำการผ่าตัดแก้จมูก

พอถึงวันผ่าตัด ทาง รพ นัดเราเข้าไปตอน 5 โมง ซึ่งแน่นอนเราเข้าไปไวกว่าเวลา เพื่อทำการลงทะเบียนและถ่ายรูป และกะว่าคงได้ทำตรงเวลาแน่นอน แต่ที่ไหนได้ กว่าจะได้ทำก็ปาไป 2 ทุ่มครึ่ง ลูกกับเพื่อนก็รอไปสิ ทั้งเหนื่อย ทั้งเจ็ทแลค ลูกก็แอบงอแง ต้องรอแม่อยู่กับเพื่อนแม่ ส่วนแม่ก็ต้องนอนรอขึ้นเขียง เล่นโทรศัพท์ไปจนแบตเกือบหมด
พอถึงเวลาเข้าไปหาหมอและคุยกับหมอ (นี่เป็นการเจอกันครั้งแรกกับคุณหมอ) คุณหมอก็ถามนะคะว่าทำไมอยากแก้ ไม่คิดเหรอว่าหมอท่านเดิมทำมาตามความเหมาะสมแล้ว เลยบอกแกว่าอยากแก้เพราะมันเบี้ยว แล้วถ้าแกก็ขอปลายหยดน้ำ ซึ่งหมอก็ดูปลายเรา และบอกว่ามันจะรั้งไปนะ เราเลยบอกว่าเอาตามที่หมอคิดว่าจะทำได้ ไม่ต้องรั้งมันมาก เรากับหมอก็คุยกัน เหมือนๆหมอแอบลังเล แต่เราก็มาถึงขนาดนี้และ เตรียมตัวมาแล้ว และรอแล้ว ก็เลยทำ ทั้งที่หมอบอกแค่ว่า ไม่ทำก็ได้นะ และไม่ได้แนะนำอะไรอีกเลยนอกจากนั้น

วันผ่าตัดผ่านพ้นไป หลัง 4 วีค เราก็เริ่มรู้ตัวว่าปลายมันดูแปลกๆ และได้เริ่มส่งข้อความหาคนที่เราติดต่อ เค้าบอกมาว่า มันยังตัดสินอะไรไม่ได้ เพราะว่าเพิ่งจะ 1 เดิอนเอง เราเลยรอ และหลังจากนั้นอีก 2 อาทิตย์ ก็ถึงเวลาที่เราต้องเดินทางกลับอเมริกา และก่อนเดินทางกลับ เราได้นัดกับ พนง อีกท่าน ที่เข้ามาทำหน้าที่แทน พนงที่เราได้ติดต่อไว้ เพื่อที่จะนัดหมอเพื่อให้หมอได้ดูอาการ เพราะหมอบอกว่าอยู่ไกลถึงต่างประเทศ อยากให้เข้าไปเช็คก่อนที่จะกลับอเมริกา แต่ไม่มีการตอบรับ จนเราต้องโทรไปถามว่าหมอเข้าวันไหน กี่โมง เพื่อเข้ารับการตรวจก่อนบิน จนถึงวันบินถึงได้รับข้อความกลับ (อันนี้ละเลยมาก)
พอเจอหมอ ท่านก็บอกว่ามันดูรั้งๆตึงๆนะ แต่ต้องดูต่อไปว่าจะเป็นไง และอยากให้เรากลับมาตรวจทุกปีที่เรากลับไทย

พอกลับอเมริกามาได้ 3-4 เดือน เราเริ่มรู้สึกว่า จมูกตรงกลางแดง และปลายดูมันวาวและมีการรัดที่ปลายของข้างซ้ายมากกว่าข้างขวา เลยติดต่อกับ จนท ที่รับเรื่องและส่งรูปไปให้ดู เค้าแนะนำว่าถ้ายังไม่รองปลายด้วยก้นกบ ควรเข้ามาลองทำเพื่อให้ปลายไม่บาง และมีค่าใช้จ่ายเพื่อม 10,000 บาทยังไม่รวมค่ายา และควรไม่เม้มปากเพื่อป้องกันปลายทะละ
บอกเลยมาถึงจุดนี้ เราเครียดมาก เพราะการรองปลาย ไม่มีการแนะนำจากหมอ เราพยายามเข้าใจนะว่าหมอก็ไม่ใช่เซล แต่ถ้าท่านลองแนะนำ เราก็จะทพ เงิน 10,000 บาท สำหรับเรามันไม่ใช่ปัญหานะ ถ้าแนะนำ เราก็ยอมจ่ายเพื่อที่เราจะเจ็บตัวทีเดียว และมีการเสี่ยงที่จะต้องกลับมาเจ็บตัวใหม่ แถมนานๆกลับอีก ทั้งที่หมอก็รู้นะคะว่าเราอยู่อเมริกา มีลูกเล็ก 2 ขวบ น่าจะแนะนำเพิ่ม เพื่อไม่ให้เจ็มตัว
ตอนนี้เราติดต่อไป อีกรอบ เพราะจะกลับไปแก้เดือน 6 คำตอบที่ได้มาคือ หมอจะไม่อยู่หลายเดือน อาจจะต้องได้เปลี่ยนหมอ
จะวางแผนอะไรก็ไม่ได้ คือ เอาจริงๆ ถ้าเราได้หมอว่าท่านไหนจะรับเคส และเวลาที่ทำ วันไหนกี่โมง เราก็จะได้วางแผนถูก จะได้หาคนดูลูกที่ ตจว และบินเข้าตอนช่วงเช้าเพื่อรับการรักษาและบินกลับตอนค่ำ เพราะลูกก็ไม่เคยนอนกับใครนอกจากกับแม่ จะค้างที่กทม ก็กะไรอยู่ ส่วนถ้าเราจองตั๋ว แต่ได้ทำช้า และเลยว่าบินไป จะทำยังไง
- เลยอยากจะมาถามเพื่อนๆว่า มีท่านไหนเคยแก้จมูกไปแล้ว และต้องกลับไปแก้เพิ่มด้วยการเสริมปลายก้นกบบ้างไหมคะ
- การทำนี่เหมือนกับการแก้ใหม่ทั้งหมดไหม (เข็มที่เจาะตอนแก้ปี 2017 ยังหลอนมาถึงทุกวันนี้ บอกเลยมันเจ็บมาก)
- หมอที่เพื่อนๆไปแก้ด้วยคือท่านไหนคะ

ป.ล.ไม่ขอเอ่ยนามหมอที่รับเคสนะคะ เพราะหมอน่ารักมาก พูดน่ารัก ดูใส่ใจ ยกเว้นไม่แนะนำเราทำทีเดียวให้จบอะค่ะ อันนี้ก็ขอเข้าใจว่าหมอไม่ใช่เซลเลยไม่อยากจะแนะนำขายเพิ่มนะคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
เราไม่เคยแก้ด้วยเนื้อก้นกบนะคะ แต่เคยอ่านเจอมาว่าเนื้อก้นกบเป็นอีกเทคนิกนึงในการเอามารองปลายซิลิโคน ซึ่งก็น่าสนใจ ของเราแก้โดยใช้แค่กระดูกอ่อนหลังหูเเละเนื้อเยื่อหลังหู(ไขมัน) ทำกับคุณหมอปราย ที่สรัญญาคลินิค ส่วนเทคนิคอื่น ๆ เราไม่ทราบว่าเหมือนกับที่อื่นไหม แต่โดยรวมคือคุณหมอมือเบาและให้คำแนะนำดี เค้ามีประสบการณ์แก้เคสด้วยวิธีนี้เยอะอยู่แล้ว อาการข้างเคียงหลังผ่าก็ทั่วไปค่ะ ใช้ระยะเวลาพักฟื้นไม่นาน เราไปทำงานตั้งเเต่ 3 วันเเรกเเล้ว พอครบ 7 วัน ก็ไปตัดไหมตามปกติ แต่ไม่มีอาการสวิงเรื่องแผลช้ำ รอยแดงอาการชา คือของเราเกิดขึ้นเป็นสเต็ปปกติเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่