[CR] Movies Feedback กับ “Fifty Shades Freed” - จากที่เฉยๆกับทั้งสองภาค พอดูภาคนี้จบกลับชอบเฉยเลย ใครดูแล้วมาคุยกันครับ

---------------------------------
"Fifty Shades Freed" (7/10)
---------------------------------

สวัสดีครับเพื่อนชาว Pantip ทุกท่านวันนี้เพจหนัง "Movies Feedback" ขอเสนอความเห็นหลังชมภาพยนตร์เรื่อง “Fifty Shades Freed” และนี่คือทางไปติดตามเพจผมครับ -->  https://www.facebook.com/FeedbackMovies

สองภาคแรกส่วนตัวมองว่า หนังมันแทบไม่มีห่าอะไรเลย เหมือนขายเซ็กซ์ ขายนม ขายตูดกันอย่างเดียว จะมีก็แค่ประเด็นดราม่านิดๆหน่อยๆสอดแทรกเข้ามาพอให้จิตไม่หมกมุ่นมากไประหว่างชม แต่สำหรับภาคสุดท้ายของคู่รักพันล้านอย่างมิสเตอร์เกรย์และสาวอนัสเตเซีย กลับทำให้ผมอินและชอบเรื่องราวของทั้งคู่ขึ้นมาทันที ภาคนี้ทั้งคู่ดูโตขึ้นทั้งในแง่ของบทบาทการทำงาน บทบาททางความรัก บทบาทการวางตัวในสังคม มันเปรียบเสมือนเรากำลังรับชมเรื่องราวชีวิตของคู่รักคู่หนึ่ง ที่มีเหตุการณ์และประเด็นพื้นฐานที่ทั้งคู่ต้องพบเจอ
.
อย่างภาคแรก ที่พูดถึงรักแรกพบระหว่างเด็กฝึกงานกับบอสใหญ่ของบริษัทที่จะออกแนวหวือหวาและตื่นตาตื่นใจ ซึ่งภาคนั้นเราจะเห็นว่าอนัสเตเซียประหลาดใจกับชีวิตอันแสนไฮโซของพ่อหนุ่มเกรย์มาก ทำให้บริบทในภาพรวมของภาคแรกนั้นเน้นไปที่การนำเสนอให้เห็นถึงการปรับตัวของอนัสเตเซียเข้าสู่ชีวิตของมิสเตอร์เกรย์เป็นหลัก
.
เข้าสู่ภาคสอง แน่นอนว่าหลังจากอนัสตาเซียได้เรียนรู้และเข้าใจนิสัยใจคอและรสนิยมที่ออกจะผิดเพี้ยนไปบ้างของพ่อหนุ่มเกรย์แล้ว ภาคนี้หนังก็พาอนัสเตเซียเข้าไปรู้จักครอบครัวและคนใกล้ตัวของเขา เรื่องราวในอดีตและตัวละครปริศนาทำให้เป็นประเด็นความไม่เชื่อใจ แต่กระนั่นทั้งคู่ก็ปรับความเข้าใจกัน และปิดท้ายด้วยการสู่ขอแต่งงานในที่สุด
.
และมาถึงภาคสุดท้ายซึ่งพูดถึงชีวิตหลังการแต่งงานของทั้งสองคน หนังเล่าเรื่องชีวิตการทำงานและการประคับประคองชีวิตคู่ล้วนๆ ซึ่งหากถามว่ามันมีประเด็นอะไรที่ดูวิเศษวิโสจนน่าจดจำมั้ย ผมว่ามันก็ไม่นะ แต่ความที่มันไม่มีอะไรพิเศษนี่แหละ ตัวละครทั้งคู่จึงสามารถนำไปเป็นกรณีศึกษาของผู้ชมที่กำลังใช้ชีวิตหลังแต่งงานได้ ทั้งเรื่องคงามเคารพในหน้าที่การงานของกันและกัน ความพยายามทำความเข้าใจความต้องการของอีกฝ่าย รวมถึงการใส่รสชาติและจริตจะก้านของศรีภรรยาที่มีต่อสามี ทั้งเรื่องเซ็กซ์และความหึงหวงแสดงความเป็นเจ้าของก็มีให้ได้เห็นกันในหนัง (กรณีการลักพาตัวในหนังขอไม่พูดถึงนะครับ เพราะผมถือว่าเป็นความตื่นเต้นเล็กๆน้อยๆที่พอให้หนังมีความน่าติดตามมากขึ้น)
.
ภาคนี้ “อนัสเตเซีย” ดูโตขึ้น (ทั้งความคิดและสรีระ) ตรงข้ามกับ “มิสเตอร์เกรย์” ที่ดูงอมๆเนือยๆไปหน่อย ไม่เหมือนภาคแรกที่ดูเพลย์บอยบ้าเซ็กซ์เสียเหลือเกิน ด้านงานสร้างหรืองานเบื่องหลังอยู่ในเกณฑ์พอใช้ได้ในแบบที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก แต่ปัจจัย ภายนอกที่มีส่วนช่วยให้หนังมีความน่าสนใจมากขึ้นคงจะเป็นเรื่องของการหยิบเพลงที่คุ้นหูพวกเราเป็นอย่างดีมาร้อยเรียงใหม่ให้เหมาะกับโทนของหนัง แถมปิดท้ายด้วยการเอา “Love Me Like You Do” เพลงหลักที่ใช้กับเฟรนไชส์นี้มาใช้ประกอบการเล่าเรื่องสรุปประเด็นสำคัญของทั้ง 3 ภาคในตอบจบ ซึ่งทำได้งดงามและตราตรึงผมแบบจากที่เฉยๆกับหนังเรื่องนี้กลายเป็นชอบเฉยเลย งานนี้นานาจิตตังครับ ถ้าไม่มองเรื่องเซ็กซ์ที่หนังเอามาใช้เป็นจุดขายหลัก ก็น่าจะพบว่าเรื่องราวตลอดทั้งสามภาคสำหรับผมมันคือการศึกษาและเรียนรู้ชีวิตคู่ของคนทั้งสองที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ต่างๆตามช่วงเวลา
.
เพื่อนๆสามารถเข้าไปกดไลก์และติดตามการรีวิวหนังกันได้ที่  https://www.facebook.com/FeedbackMovies
ชื่อสินค้า:   Fifty shades freed
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่