ก่อนอื่น ต้องขอเกริ่นก่อนว่า ตั้งแต่เที่ยวตะลอนๆมา เพิ่งเคยทำรีวิวครั้งแรก เพราะเพื่อนๆตัวเองอยากลองไปบ้าง จะแชร์ในเฟส เดี๋ยวยาว
เริ่มมาจาก เพื่อนสนิทจะกลับมาไทยเพียง 1 เดือน จึงคิดกันว่าจะไปไหน ดั๊นมาเจอตั๋ว Air Asia ไปกลับ รวม 6,780 บาท/pax อ้าวเฮ้ยยยย ซื้อดิ รอไร มัลดีฟส์นะเว้ยเฮ้ย พอโทรบอกแม่ (หญิงเหล็ก วัย 68 ที่ลุยแบบ โนสน โนแคร์อายุใดใดทั้งสิ้น) นางบอกว่า ซื้อตั๋วให้ชั้นด้วย แกไปได้ ชั้นก็ไปด้วย กลางคืนจะไปแรดไปก็ไป ชั้นนอน
หลังจากได้ที่ ก็เริ่มจัดแจง หาที่พัก โดยมีความตั้งใจว่าจะหาที่พัก แบบไม่เกิน 3,000 ต่อคืน 1ห้อง นอน 3 คน ก็เริ่มหาจาก agoda
ปัญหาหลักๆคือ การเจอราคาที่ตรงใจ ไม่ได้หมายความว่ามันใกล้ แนะนำเลยว่า เปิด google map ดูแผนที่ไปด้วย ว่าไอ้ห้องที่ได้ ไกลมั้ย เพราะมัลดีฟส์เป็นหมู่เกาะ แต่ล่ะเกาะ อาจห่างกันเป็น 100 กิโล ซึ่งถ้าไกลมาก ต้องขึ้น sea plane เปลืองไปอี๊ก ชั้นไปแบบจนๆนะเฮ้ย
จนได้ตามแผนที่ เพราะตั้งใจกันว่า เราจะเที่ยวไปเรื่อยๆ หลายๆเกาะ

ที่เดินทางตามแผนนี้ คือด้วยเพราะเวลาเครื่องลง เวลาเรือ
เครื่องถึง Velana Airport ประมาณ 12:30


เราต้องนั่งเรือ อารมณ์แบบ เรือข้ามฟากท่าช้าง-วังหลัง แต่ใหญ่กว่า เพื่อที่จะมายัง Male (มา-เล่) เมืองหลวง
คนละ 10 รูฟียา (1 US = 15 MVR) (1 MVR ประมาณ 2 บาท)

แต่ปวดหัวตั้งแต่ลงเครื่องคือ อีสนามบินนี้ แทบไม่มีป้ายบอกเลยว่า ควรต้องไปทางไหน ลงเรือทางไหน เข้าเมืองทางไหน อีผี จะรู้มั้ยวะ เดินหากันสิ
ดีว่า ออกมาปุ๊บหาร้าน Sim card ก่อนเลย เพราะต้องใช้เน็ตในการหาข้อมูล เลยมาได้ของเครือข่าย Dhiraagoo ราคา 16$ เน็ต 3GB โทรไม่ได้ อายุ 7 วัน
เสร็จแล้วก็แลกเงิน รูฟียา เผื่อบางที่ไม่รับเงินดอล

พอถึง male ปุ๊บ เอาล่ะสิ จะไปไงต่อวะ ถามคนแถวนั้น ช่วยกรูไม่ได้เล้ย เอาวะ เรียก taxi กว่าจะคุยกันรู้เรื่องเล่นเอาเพลีย

คือต้องรีบเพราะว่า เรือหวานเย็น ขสมก บ้านเค้ามีรอบเดียว ไม่ว่าจะสายเหนือหรือใต้ของสนามบิน คือออกจาก Male 14:30 ราคา 22 MVR (45 บาท) Taxi พาไปท่าเรือชื่อว่า Vilingili พอไปถึง อี พนง บอกว่า เรือเต็ม ต้องรอพรุ่งนี้ ถามนางว่า ชั้นจะไป Himmafushi ไปยังไง อะ ไม่มีใครช่วยชั้นได้ ต้องกราบ Taxi อีกรอบ นางเปิดกระจกถามไปเรื่อยจนเจอท่าเรือที่จะไป Himmafushi นั่นคือท่าเรือตรง Fish Market (เอิ่มมม คนพื้นที่ ยังแทบไม่รู้ แล้วกรูเป็นใคร)

ที่นี่ ลงเรือก่อน แล้วเดินไปด้านหน้า จะมีคนเก็บเงินอยู่ ซื้อตั๋ว เก็บตั๋วไว้ เพราะอีกซักพัก จะมีคนมาเดินเก็บตั๋ว
ที่เลือกมา Himmafushi ก่อน เพราะใกล้ เดินทางประมาณ 1 ชม. จะได้มีเวลาเล่นน้ำ เดินสำรวจเกาะช่วงบ่ายๆเย็นๆ


Himmafushi เป็นเกาะเล็กๆ (ไม่รู้ว่ามันจะชาวบ้านขนาดนี้) ด้วยความตื่นเต้น ลุยเดินหาที่พักเลยจ้ะ บุญบาป ดีที่ซื้อซิม เปิด map เดินตามเลย
เราพักกันที่ EM Beach Resort เพิ่งเปิดได้ 2 เดือน ขุ่นพระ เดินวนอยู่สามรอบเพราะไม่มีป้ายติดหน้ารีสอร์ท อีผี จะรู้มั้ยวะ อ้าปากถามถึงได้รู้
พอเข้าห้อง เฮ้ย ห้องดี ไปดู agoda เอานะ รูปนั้นเลยไฟม่วงๆ
เริ่มลุยสิคราวนี้ หิว หาไรกิน ทั้งเกาะมีร้านขายอาหาร 3 ร้าน ย้ำ 3 ร้าน ตายละกู กินไรล่ะทีนี้ เอาวะ ลองดู
อ้าวเห้ย เมนูง่ายๆ กินได้ ข้าวผัดทูน่า เส้นผัดแห้งๆ คือเมนูที่นี่ จะแยกประเภท ไก่ ปลา เนื้อ ซึ่งแต่ล่ะประเภทก็จะเป็น ข้าวผัด ก๋วยเตี่ยวผัด หรือ ก๋วยเตี๋ยวสไตล์มัลดีฟส์ (ผัดแฉะๆใส่ซอสมะเขือเทศ) อย่าดีใจไปที่เห็นเมนู noodle นึกว่าคือเตี๋ยวน้ำไรงี้ ปล๊าวววว มันคือ ผัดมาม่าแห้งจ้ะ

พอท้องอิ่ม คราวนี้ก็เดินสิ ถามชาวบ้านไปเรื่อย beach ไปทางไหน คือมันเป็นเกาะก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่า ลงเล่นได้ทุกหาด เดินไปเรื่อยๆ หาดแรกที่ไป ไม่สวย เอ้า หาใหม่ เลยกลับไปพักที่ห้งแปบนึง ดั๊นเจอ พนง คนที่พูดภาษาอังกฤษรู้เรื่องสุด กลับมาพอดี มันบอกว่า ไปรอรับเราที่สนามบิน แต่หาไม่เจอ เอิ๋ม คุณคะ ไม่เมลล์มาหาก่อน แล้วกรูจะรู้มั้ยว่า

จะมารับ เดี๋ยวถีบกะโหลกโยก มันเลยอาสา พาเดินไปที่ Bikini beach ต้องบอกก่อนว่า เกาะที่เราไปไม่ใช่เกาะท่องเที่ยว ชาวบ้านที่นั่นจึงมีความ sensitive กับเรื่องชุดโป๊มาก ด้วยหลักศาสนาของเค้าด้วย เราจึงต้องเคารพกฏของบ้านเค้า แต่ก็มี bikini beach ไว้ให้ คนที่มาเที่ยวได้เล่นน้ำ ระหว่างทาง ใส่เสื้อ กางเกง นิดนึง พอถึงหาด จะ bikini จิ๋วแค่ไหน ตามใจเลยจ้ะ

ดีว่ามันคุยรู้เรื่อง เลยถามเรื่องเรือ เพราะวันต่อไป เราจะไปกันที่เกาะ Dhiffushi มันก็บอกว่า ให้รอเรือตอน 15:30 ก็คือเรือหลักที่ออกจาก Vilingili ตอน 14:30 นั่นแหละ มันจะแวะที่นี่ 5 นาที เราต้องไปรอ มันจอดปุ๊บ เราขึ้น

พอเช้า ที่นี่มี breakfast ให้ คือแบบ พนง ผู้ชายล้วน แต่น่าตาอาหารไม่แย่นะ


กินเสร็จ ไปเล่นน้ำสิ เรือมาตั้ง 15:30 มีเวลา ลุยยยย น้ำใสมาก สวย ปลื้ม



พอเล่นหนำใจก็ไปรอเรือ เพื่อจะเดินทางต่อไป Dhiffushi
17:30 ก็มาถึง เกาะ Dhiffushi มี จนท มารับที่ท่าเรือพาเดินไปที่พัก ชื่อ Dhiffushi White Sand Beach Resort

พนง น่ารักทุกคน แนะนำนู่นนี่นั่น มี welcome drink

แต่แอบ upsell พวก package ดำน้ำ อย่าเพิ่งตกลงปลงใจ เพราะราคาสูงอยู่ Fullday 100$ เราบอกว่า ขอค่ำๆเดี๋ยวมาบอก พอค่ำๆ มาถามอีกที นางบอกว่ามีคน join ด้วย เลยลดให้เหลือ 75$ ต่อคน เป็นไง ดีนะที่รอ
เช้าวันถัดมา ลุยสิ ทัวร์พาไปที่ Picnic Island เป้นเกาะเล็กๆ ไม่มีที่พัก ต่อด้วย เกาะ Thulusdhoo เกาะนี้ใหญ่หน่อย มีที่พัก นักท่องเที่ยวมีพอสมควร

ช่วงบ่าย ทัวร์ก็พาไปดำน้ำ แต่เสียดาย คลื่นแรง น้ำขึ้น ลงไปดำน้ำไม่ได้ คนขับเรือเลยขอกลับ แต่จะพามาดำใหม่ตอนเช้าของอีกวัน
ซึ่งเอาละไง เช้าของอีกวัน เราต้องขึ้นเรือ ขสมก กลับไปเกาะใกล้ๆสนามบิน แล้วเรือมันมีวันละรอบ คืออกจาก Dhiffushi ไป Male คือ 6:30 AM เวรละ น้ำยังไม่ได้ดำ เอาไงล่ะทีนี้ เลยกลับมาคุยกะ พนง รีสอร์ท นางบอกว่า ถ้าเราจะเหมา speed boat ก็ได้ ไปดำน้ำให้เสร็จ แล้วกลับมาค่อยขึ้น Speed Boat ไป คิดหนัก เพราะราคาเรือ ขสมก = 22 MVR (45 บาท) ต่อคน แต่ราคา Speed boat ตกคนละ 65$ แต่เอาวะ มาทั้งที ต้องดำน้ำดิ ยอมเสียค่าเรือแพงขึ้น แลกกับเวลาไปดำน้ำตอนเช้า
ชะนีโปรตุเกส ก็อ้อนว่า พวกยู อยู่นะ ไปดำน้ำกัน เออ โอเค ตกเย็นก็เลยเล่นน้ำ ไปเดินเล่นรอบเกาะ หาข้าวเย็นกินกัน

นางบอกว่า ไปเจอมาร้านนึง บรรยากาศดี ไปกันเถอะ ก็เลย กระเตงๆกันไป เราสามคนและนาง แต่นางจำชื่อร้านไม่ได้ ถ่ายมาแต่รูป เอาละไง เดินหาสิ ลองถามคนบนเกาะไปเรื่อย ดีนะ มีคนรู้ เลยเดินไปถูก คือจริงๆเป็นร้านอาหารของรีสอร์ทนึง แต่คนนอกเข้าไปกินได้ ชื่อ Veli Vilaa อร่อยเลยมื้อนี้


กินเสร็จก็เดินเล่น ชายทะเล แล้วไง กระเบนสิ ฉลามสิ มาว่ายโชว์ตัวกันแบบระยะประชิด



เช้ามา ก็ลุยสิ ไปดำน้ำ ให้สมความตั้งใจ



เสร็จจากจุดดำน้ำ คนขับเรือก็พามาที่ Sandbank คือจุดที่เป็นเนินทรายเล็กๆ เวลาน้ำลง เนินนี้จะโผล่ขึ้นมากลางทะเล คือมันสวยมากกกก จริงๆ



ถึงเวลา แยกย้าย ต้องออกจาก Dhiffushi


เราต้องไปที่เกาะ Hulhumale ต่อ
ที่เลือกเกาะนี้เพราะใกล้สนามบิน จะได้สะดวกเวลากลับ speed boat ก็พามาส่งถึงที่ ประมาณ 15:00 เข้าที่พัก UI Inn ห้องโอเคนะ กว้างดี นอนสามคนสบายๆ
รีบเปลี่ยนชุด เพราะตั้งใจจะไป เดินดูพิพิธภัณฑ์ และผู้คนในเมืองหลวงกัน ต้องนั่งเรือจาก Hulhumale ไป Male ประมาณ 20 นาที แต่เสียดาย Museum ปิด 16:00 เรามากันไม่ทัน ไม่เปนไร เดินเล่นไปเรื่อยละกัน ที่นี่ให้ความรู้สึกวุ่นวายสมกับเป็นเมืองหลวงจริงๆ เดินไปอีกหน่อยมีเหมือนสวน ตกแต่งอย่างดี แต่นักท่องเที่ยวต้องเสียเงินเข้า เลยไม่เข้า
แต่จะมีโซนนึง เหมือนเป็นจุกพักผ่อนของคนเมือง จะอยู่ใกล้แหล่งขายของที่ระลึก




เสร็จแล้วก็นั่งเรือกลับ Hulhumale ก่อนนอน ไปนั่งบาร์ที่ไม่มีเหล้าขาย ฮ่าๆๆ มัลดีฟส์เคร่งเรื่องศาสนา เพราะงั้นแอลกอฮอล์หายากมากตามเกาะทั่วไป ยกเว้นเกาะที่เป็นโรงแรมใหญ่ๆ หรือ Floating Bar คือเรือบาร์ที่ลอยอยู่นอกเกาะ
เช้ามา ก็นั่งรถเมล์สิครับ ลุยมาขนาดนี้ ต้องลอง 15 นาที ถึงสนามบิน


ถึงเวลากลับละ


สรุปค่าใช้จ่าย เราสามคน ทั้งหมด ตั๋ว ที่พัก อาหาร เรือ ทัวร์ ทุกสิ่งอย่าง ประมาณเกือบ 18,000 บาท ซึ่งหลายคนบอกว่า เห้ย ถูกมาก
ก็นะ เราไปแบบลุยๆโนะ ลองลุยแบบนี้ดู สนุกดี ฝากรีวิวนี้ด้วยนะครับ
[CR] เที่ยวมัลดีฟส์ 5 วัน 4 คืนแบบลุยเล็กๆ แบบไม่สนห้องหรู แบบไม่เน้นดูแพง แต่แอบแฝงการผจญภัยเบาๆ
เริ่มมาจาก เพื่อนสนิทจะกลับมาไทยเพียง 1 เดือน จึงคิดกันว่าจะไปไหน ดั๊นมาเจอตั๋ว Air Asia ไปกลับ รวม 6,780 บาท/pax อ้าวเฮ้ยยยย ซื้อดิ รอไร มัลดีฟส์นะเว้ยเฮ้ย พอโทรบอกแม่ (หญิงเหล็ก วัย 68 ที่ลุยแบบ โนสน โนแคร์อายุใดใดทั้งสิ้น) นางบอกว่า ซื้อตั๋วให้ชั้นด้วย แกไปได้ ชั้นก็ไปด้วย กลางคืนจะไปแรดไปก็ไป ชั้นนอน
หลังจากได้ที่ ก็เริ่มจัดแจง หาที่พัก โดยมีความตั้งใจว่าจะหาที่พัก แบบไม่เกิน 3,000 ต่อคืน 1ห้อง นอน 3 คน ก็เริ่มหาจาก agoda
ปัญหาหลักๆคือ การเจอราคาที่ตรงใจ ไม่ได้หมายความว่ามันใกล้ แนะนำเลยว่า เปิด google map ดูแผนที่ไปด้วย ว่าไอ้ห้องที่ได้ ไกลมั้ย เพราะมัลดีฟส์เป็นหมู่เกาะ แต่ล่ะเกาะ อาจห่างกันเป็น 100 กิโล ซึ่งถ้าไกลมาก ต้องขึ้น sea plane เปลืองไปอี๊ก ชั้นไปแบบจนๆนะเฮ้ย
จนได้ตามแผนที่ เพราะตั้งใจกันว่า เราจะเที่ยวไปเรื่อยๆ หลายๆเกาะ
ที่เดินทางตามแผนนี้ คือด้วยเพราะเวลาเครื่องลง เวลาเรือ
เครื่องถึง Velana Airport ประมาณ 12:30
เราต้องนั่งเรือ อารมณ์แบบ เรือข้ามฟากท่าช้าง-วังหลัง แต่ใหญ่กว่า เพื่อที่จะมายัง Male (มา-เล่) เมืองหลวง
คนละ 10 รูฟียา (1 US = 15 MVR) (1 MVR ประมาณ 2 บาท)
แต่ปวดหัวตั้งแต่ลงเครื่องคือ อีสนามบินนี้ แทบไม่มีป้ายบอกเลยว่า ควรต้องไปทางไหน ลงเรือทางไหน เข้าเมืองทางไหน อีผี จะรู้มั้ยวะ เดินหากันสิ
ดีว่า ออกมาปุ๊บหาร้าน Sim card ก่อนเลย เพราะต้องใช้เน็ตในการหาข้อมูล เลยมาได้ของเครือข่าย Dhiraagoo ราคา 16$ เน็ต 3GB โทรไม่ได้ อายุ 7 วัน
เสร็จแล้วก็แลกเงิน รูฟียา เผื่อบางที่ไม่รับเงินดอล
พอถึง male ปุ๊บ เอาล่ะสิ จะไปไงต่อวะ ถามคนแถวนั้น ช่วยกรูไม่ได้เล้ย เอาวะ เรียก taxi กว่าจะคุยกันรู้เรื่องเล่นเอาเพลีย
ที่นี่ ลงเรือก่อน แล้วเดินไปด้านหน้า จะมีคนเก็บเงินอยู่ ซื้อตั๋ว เก็บตั๋วไว้ เพราะอีกซักพัก จะมีคนมาเดินเก็บตั๋ว
ที่เลือกมา Himmafushi ก่อน เพราะใกล้ เดินทางประมาณ 1 ชม. จะได้มีเวลาเล่นน้ำ เดินสำรวจเกาะช่วงบ่ายๆเย็นๆ
เราพักกันที่ EM Beach Resort เพิ่งเปิดได้ 2 เดือน ขุ่นพระ เดินวนอยู่สามรอบเพราะไม่มีป้ายติดหน้ารีสอร์ท อีผี จะรู้มั้ยวะ อ้าปากถามถึงได้รู้
พอเข้าห้อง เฮ้ย ห้องดี ไปดู agoda เอานะ รูปนั้นเลยไฟม่วงๆ
เริ่มลุยสิคราวนี้ หิว หาไรกิน ทั้งเกาะมีร้านขายอาหาร 3 ร้าน ย้ำ 3 ร้าน ตายละกู กินไรล่ะทีนี้ เอาวะ ลองดู
อ้าวเห้ย เมนูง่ายๆ กินได้ ข้าวผัดทูน่า เส้นผัดแห้งๆ คือเมนูที่นี่ จะแยกประเภท ไก่ ปลา เนื้อ ซึ่งแต่ล่ะประเภทก็จะเป็น ข้าวผัด ก๋วยเตี่ยวผัด หรือ ก๋วยเตี๋ยวสไตล์มัลดีฟส์ (ผัดแฉะๆใส่ซอสมะเขือเทศ) อย่าดีใจไปที่เห็นเมนู noodle นึกว่าคือเตี๋ยวน้ำไรงี้ ปล๊าวววว มันคือ ผัดมาม่าแห้งจ้ะ
กินเสร็จ ไปเล่นน้ำสิ เรือมาตั้ง 15:30 มีเวลา ลุยยยย น้ำใสมาก สวย ปลื้ม
พอเล่นหนำใจก็ไปรอเรือ เพื่อจะเดินทางต่อไป Dhiffushi
17:30 ก็มาถึง เกาะ Dhiffushi มี จนท มารับที่ท่าเรือพาเดินไปที่พัก ชื่อ Dhiffushi White Sand Beach Resort
เช้าวันถัดมา ลุยสิ ทัวร์พาไปที่ Picnic Island เป้นเกาะเล็กๆ ไม่มีที่พัก ต่อด้วย เกาะ Thulusdhoo เกาะนี้ใหญ่หน่อย มีที่พัก นักท่องเที่ยวมีพอสมควร
ซึ่งเอาละไง เช้าของอีกวัน เราต้องขึ้นเรือ ขสมก กลับไปเกาะใกล้ๆสนามบิน แล้วเรือมันมีวันละรอบ คืออกจาก Dhiffushi ไป Male คือ 6:30 AM เวรละ น้ำยังไม่ได้ดำ เอาไงล่ะทีนี้ เลยกลับมาคุยกะ พนง รีสอร์ท นางบอกว่า ถ้าเราจะเหมา speed boat ก็ได้ ไปดำน้ำให้เสร็จ แล้วกลับมาค่อยขึ้น Speed Boat ไป คิดหนัก เพราะราคาเรือ ขสมก = 22 MVR (45 บาท) ต่อคน แต่ราคา Speed boat ตกคนละ 65$ แต่เอาวะ มาทั้งที ต้องดำน้ำดิ ยอมเสียค่าเรือแพงขึ้น แลกกับเวลาไปดำน้ำตอนเช้า
ชะนีโปรตุเกส ก็อ้อนว่า พวกยู อยู่นะ ไปดำน้ำกัน เออ โอเค ตกเย็นก็เลยเล่นน้ำ ไปเดินเล่นรอบเกาะ หาข้าวเย็นกินกัน
กินเสร็จก็เดินเล่น ชายทะเล แล้วไง กระเบนสิ ฉลามสิ มาว่ายโชว์ตัวกันแบบระยะประชิด
เช้ามา ก็ลุยสิ ไปดำน้ำ ให้สมความตั้งใจ
เสร็จจากจุดดำน้ำ คนขับเรือก็พามาที่ Sandbank คือจุดที่เป็นเนินทรายเล็กๆ เวลาน้ำลง เนินนี้จะโผล่ขึ้นมากลางทะเล คือมันสวยมากกกก จริงๆ
ถึงเวลา แยกย้าย ต้องออกจาก Dhiffushi
เราต้องไปที่เกาะ Hulhumale ต่อ
ที่เลือกเกาะนี้เพราะใกล้สนามบิน จะได้สะดวกเวลากลับ speed boat ก็พามาส่งถึงที่ ประมาณ 15:00 เข้าที่พัก UI Inn ห้องโอเคนะ กว้างดี นอนสามคนสบายๆ
รีบเปลี่ยนชุด เพราะตั้งใจจะไป เดินดูพิพิธภัณฑ์ และผู้คนในเมืองหลวงกัน ต้องนั่งเรือจาก Hulhumale ไป Male ประมาณ 20 นาที แต่เสียดาย Museum ปิด 16:00 เรามากันไม่ทัน ไม่เปนไร เดินเล่นไปเรื่อยละกัน ที่นี่ให้ความรู้สึกวุ่นวายสมกับเป็นเมืองหลวงจริงๆ เดินไปอีกหน่อยมีเหมือนสวน ตกแต่งอย่างดี แต่นักท่องเที่ยวต้องเสียเงินเข้า เลยไม่เข้า
แต่จะมีโซนนึง เหมือนเป็นจุกพักผ่อนของคนเมือง จะอยู่ใกล้แหล่งขายของที่ระลึก
เสร็จแล้วก็นั่งเรือกลับ Hulhumale ก่อนนอน ไปนั่งบาร์ที่ไม่มีเหล้าขาย ฮ่าๆๆ มัลดีฟส์เคร่งเรื่องศาสนา เพราะงั้นแอลกอฮอล์หายากมากตามเกาะทั่วไป ยกเว้นเกาะที่เป็นโรงแรมใหญ่ๆ หรือ Floating Bar คือเรือบาร์ที่ลอยอยู่นอกเกาะ
เช้ามา ก็นั่งรถเมล์สิครับ ลุยมาขนาดนี้ ต้องลอง 15 นาที ถึงสนามบิน
ถึงเวลากลับละ
สรุปค่าใช้จ่าย เราสามคน ทั้งหมด ตั๋ว ที่พัก อาหาร เรือ ทัวร์ ทุกสิ่งอย่าง ประมาณเกือบ 18,000 บาท ซึ่งหลายคนบอกว่า เห้ย ถูกมาก
ก็นะ เราไปแบบลุยๆโนะ ลองลุยแบบนี้ดู สนุกดี ฝากรีวิวนี้ด้วยนะครับ