ทริปนี้ เป็นทริปชมใบไม้เปลี่ยนสี และเป็นการจองตั๋วไว้ล่วงหน้านานหลายเดือน ของทริป โตเกียว ช่วง 10-14 พฤศจิกายน 2560
สายการบิน สถู๊ต SCOOT ( TR ) ** โดยไกด์นำเที่ยว พี่ก้อย
อุณหภูมิเฉลี่ย 11-19 องศาเซลเซียส ที่ญี่ปุ่นเร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง
อุปกรณ์ ที่พกไปเพื่อการบันทึกเรื่องราว
1 Passport ที่ลืมไม่ได้
2.Canon 6 D เลนส์ 16-35 mm / 70-200 mm 24 mm F 1.4
3 Gopro hero 5 พาวเวอร์แบงค์
4.อุปกรณ์วายฟาย ราคา 1-7 วัน 599 บาท
ในเป้กล้องรวาม 9 กิโล เกินน้ำหนักซะด้วยซ้ำ

19.30 น เริ่มทริป เราได้เรียกแท๊กซี่ไปสนามบินดอนเมือง เรียกผ่าน grabtaxi เราไม่คิดเลยว่าจะได้รถซิ่งมารับ ที่คอนโด

เราถึงสนามบินดอนเมือง 20.30 เป็นการกะเวลาเผื่อที่จะรวมตัว นัดเจอพี่ๆ อีก 8 คน ทริป เรา 10 คน

เราได้นั่งสายการบิน ( SCOOT ) 3-3-3

ลุ้นว่าจะได้นั่งริ่มหน้าต่างไหม แต่ก็ไม่ได้ ที่อยากนั่งเพราะอยากถ่ายเส้นขอบฟ้า วันนั้น เครื่องออก 00.30 - 8.00 น

เช้าวันใหม่ที่ ญี่ปุ่น ตอนนั้น 5.30 ญี่ปุ่นก็จะเท่ากลับ 3.30 น ของไทย ถ้าใครได้จองที่นั่งได้ให้นังทางขวานะจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้น ( แต่ภาพนี้เดินไปเข้าห้องน้ำเลยเนียนๆไปถ่ายตรงประตู

ถึงแล้ว ณ สนามบิน นาริตะประเทศญี่ปุ่น 8.00 Japan

ขอ 1 รูป กับการหอบกระเป๋ามา ที่พุง 9 กิโล กระเป๋าเกินทางอีก 11 กิโล

และแล้วเราก็รีบเดินตาม ไกด์ก้อย ซึ่งจะอยู่กับเราทั้งทริป Varunyupha Chamchong อิๆ ไกด์ ที่แม่นมากในพื้นที่

สัญลักษณ์ ที่ต้องเดินตามคือ เจ้าชินจังนี่แหละ ที่เราต้องเดินตามทั้งทริป

การเดินทริปนี้ กลุ่มผม 10 คน แจมคนอื่นนิด ก่อนอื่น แอ๊ด Line เข้าในกลุ่มจะได้สะดวกต่อการนัด

เราเลือกใช้วายฟาย 1 - 7 วัน 599- บาท เพื่อสะดวกในการติดต่อ โหลรูปและหาข้อมูล รวมทั้งติดต่องานที่ทำงานเพราะทิ้งมาหลายวัน

ผ่าน ด่านตรวจคนเข้าเมือง Japan ไปด้วยดี มีเวลานิดหน่อย รอรถมารับ เข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันก่อน

ก็ไม่ได้เอามามากมายอะไรหลอก แต่ขากลับน่าจะต้อง จัดระเบียบ

10.00 น. รอออกเดินทาง โดยรถบัส

หลังจากหิวตาลายก็ได้แพ็คข้าวเหนียวหมูมา ประทังชีวิตช่วงเช้าไปก่อนเพราะเราจะนั่งเที่ยวกันทั่งวันแบบเต็มอิ่ม

Taxi สนามบิน จอดเป็นระเบียบดี แต่น่าจะแพงเอาการ

จุดแรกทีแวะเที่ยว หลังจากเราลงรถเราก็ต้องรีบเดิน ไปณ วัดอาซากุสะ ซึ่งไม่ไกล เวลาน้อยต้องรีบเดินแบบคน ญี่ปุ่น

แวะ เซลฟี่ กันหน่อย ที่ วัดอาซากุสะ หรือวัดโคมแดง

วัดอาซากุสะ

ชมใบแปะก๊วย เปลี่ยนสีกันหน่อย

อีกสักมุม

มุมวัดก็สวย

วัดอาซากุสะ หรือวัดโคมแดง เป็นแลนมาร์คที่ใครมาก็ต้องหยุดถ่ายรูปที่มุมนี้

ใบแปะกวยก็สี หวานสวย

มีร้านชิมชาฟรีด้วย หอมมากชาที่นี่

วัดอาซากุสะ, Asakusa, Senjoji, วัดโคมแดง

ใกล้เที่ยงและ รีบเดินออกจากวัด หาร้านที่เราจะไปกินข้าวเที่ยงกัน

หลังจากเดินไม่นาน ก็มาถึงร้าน ร้านนี้จำชื่อไม่ได้แต่เคยเห็นในรีวิว

มาญี่ปุ่นก็ไม่ต้องถามหา KFC หรือผัดกระเพรานะครับ ต้องกินแบบนี้ แบบจืดๆ

แต่ดีนะไกด์ ติกน้ำจิ้มสุกี้ จากเมืองไทยมาให้ เพิ่มรสชาติ ขึ้นมาหน่อย

โคมไฟในร้านสวยดี

จัดร้านน่ารักมาก

อิ่มแล้ว เดินย่อยต่ออีก 1 ที่

เดินไม่นานก็ถึงสะพานแดง แลนด์มาร์กของกรุงโตเกียว ณ ริมแม่น้ำสุมิดะ ช่วงนั้นบ่ายนิดๆ

ถ่ายรูปเล่นกันหน่อย

10 คน 10 รูป ต้องรีบ หามุมให้ไว ลั่นชัตเตอร์ให้แม่น แต่รูปผมจะน้อยหน่อยต้องใช้โกโปรเอา

เราก็จะมองเห็นตึกสกายทรี และตึกอาซาฮี ถ่ายจากจุดสะพาน Kototoibashi Bridge สะพานสีแดง

ประมาณบ่ายกว่าๆ จบภารกิจไห้วพระ เรารีบออกเดินทางไปล่องเรือโจรสลัด ที่ทะเลสาบอาชิ เส้นทางไกลเอาเรื่อง หลับได้ 1 งีบ

บ่าย 3 กว่าๆเรา ได้ถึง ทางลงเรื่อล่องเรือโจรสลัด เส้นทางสวยงาม

ระหว่างรอไกด์ เครียเรื่องตั๋วเรือ ก็ได้รีบซื้อไอศครีม 400 เยน มาลองชิม ก็อร่อยนะกินตอนอากาศหนาวๆ แต่คิดแล้วแพงไปนิด

และแล้วก็ได้เวลาขึ้นเรือโจรสลัด ส่วนรถบัสที่มาส่งเราก็จะออกไปรับอีกฝั่งของท่าเรือโจรสลัด

ท่าเรื่อ โจรสลัดวิวสวยงาม อากาศหนาวลมแรง

มุ่งหน้าชมวิวสองข้าง ลมพัดเย็นมาก ใช้เวลาไม่นานก็ถึงฝั่ง

อากาศสดใสฟ้าเปิดพอดี เราได้เห็นภูเขาไฟฟูจิสวยงามมากวันนี้โชคดี เพราะเขาเริ่มใส่หมวกขาวๆๆแล้ว เพราะก่อนหน้านี้มีแต่คนบอกไม่ค่อยได้เห็นแบบนี้

จุดชมวิวบนเรือ ในวันที่ฟ้าทำให้มองเห็นภูเขาไฟฟูจิ สวยงามแบบนี้ และเห็นต้นไม้เปลี่ยนสีสลับหลากหลายสีมาก

ล่องเรือโจรสลัดชมทะเลสาบอะชิ (Lake Ashi) ทะเลสาบที่สวยงาม ชื่อดังของญี่ปุ่น และเป็นเรือที่สวยงาม ปลอดภัยในการนั่งชมวิว

เสาสีแดงๆ ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบนี้คืออะไร ก็ไม่ต้องสงสัยไปครับ เสาสีแดงนี้เรียกว่า เสาโทริอิ สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการบอกเขตเริ่มต้นของศาลเจ้าในศาสนาชินโต

เรือทุกลำจะมีดาดฟ้าให้นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นมาเดิน ยืนชมวิวชนยอดเสากระโดงเรือ หรือถ่ายรูปเล่นได้ แต่อยากจะบอกว่าข้างบนดาดฟ้าเรือลมแรงและหนาวมาก หากใครเดินทางมาช่วงหน้าหนาว หรืออากาศเย็น อย่าลืมเตรียมถุงมือมาใส่นะครับ

นั่งเรื่องประมาณ 10 นาที ไม่นานก็ถึงฝั่ง

หลังจากขึ้นฝั่งก็รีบถ่ายรูป เพราะมีเวลาไม่นาน รถบัสมาจอดรอเราแล้ว จุดหมายต่อไปของวันแรก และเป็นหมายสุดทายของเย็นนี้ เราเดินทางต่อเพื่อไปช๊อปปิ้ง ที่ โกเทมบะ เอาท์เลท Gotemba Premium Outlets Gotemba Premium Outlets

ก่อนกลับขอถ่ายใบเมเปิ้ลแดงสักหน่อยรถยังไม่ออก ยืนถ่ายคู่กับพี่ก้อย ซึ่งเป็นไกด์ การเดินทางของผม

ขึ้นรถได้ พี่ไกด์เรียกและ ขึ้นๆลงๆๆ วัน เวลามีค่าสำหรับคนที่รี่คือตรงต่อเวลา ถ้านัดหมายเวลากี่โมง นั่นคือเวลารถออก ไม่ใช่เวลามารอรถ

ระหว่างทางไปมีทุ่งหญ้ากว้างมากสวยงาม ดอกหญ้ากำลังออกดอกสีขาวเต็มทุ่ง อันยาวไกล สุดสายตา ดีนะถ่ายทันตอนอยู่บนรถ เพราะกล้องที่ติดตัวมาสแตนบายตลอดแบ็ตพกมาหลายก้อน

ระหว่างทางกลับ เสียดายมากเลยครับ มุมสวยมากแต่ไม่สามารถจอดถ่ายรูปได้เลย ที่ญี่ปุ่นเขาเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่มาก ไม่มีใครจอดข้างทางถ่ายรูปเลยเท่าที่เห็น และเป็นช่วงเวลาจะมืดแสงสวยมาก

ช่วง 5 โมงเย็นกว่าๆจะหมดไปอีก 1 วันเสียดายบางมุมสวยมาก เช่น พระอาทิตย์จะตกแบบนี้ แสงสีทองสวยมากส่องมายังหมวกภูเขาไฟฟูจิ

และแล้วเราก็มาถึง โกเทมบะ เอาท์เลท Gotemba Premium Outlets เล่นเอาเกือบมืดเลย / Gotemba Premium Outlet คือเอาท์เลทที่มีชื่อเสียงที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น

แหล่งช้อปปิ้งราคาย่อมเยา แต่คุณภาพดีเยี่ยมในประเทศญี่ปุ่น “Gotemba Premium Outlet” เขาว่างั้น แต่ผมไม่ได้ซื้ออะไรเลยเดินถ่ายรูปไปชิวๆๆได้แต่กดชาเขียวกินอุ่นๆๆเพื่อรอชุดใหญ่คืนนี้เราจะไปกินขายปูยัก

แบรนด์ที่สำคัญๆทั่วโลกมารวมอยู่กันที่นี่ เรียกว่าขาชอปจะต้องตื่นตาตื่นใจ แถมวิวทิวทัศน์รอบๆ ก็ยังอยู่ในระดับไม่ธรรมดา อันเนื่องมาจากตั้งอยู่บนฐานของภูเขาไฟฟูจิเลย แถมยังไม่ไกลจากทะเลสาบฮาโกเนะอีกต่างหาก เรียกได้ว่าอยู่ในระดับพรีเมียมทั้งสินค้าและทิวทัศน์เลย
[CR] ตะลุยโตเกียว @ japan
สายการบิน สถู๊ต SCOOT ( TR ) ** โดยไกด์นำเที่ยว พี่ก้อย
อุณหภูมิเฉลี่ย 11-19 องศาเซลเซียส ที่ญี่ปุ่นเร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง
อุปกรณ์ ที่พกไปเพื่อการบันทึกเรื่องราว
1 Passport ที่ลืมไม่ได้
2.Canon 6 D เลนส์ 16-35 mm / 70-200 mm 24 mm F 1.4
3 Gopro hero 5 พาวเวอร์แบงค์
4.อุปกรณ์วายฟาย ราคา 1-7 วัน 599 บาท
ในเป้กล้องรวาม 9 กิโล เกินน้ำหนักซะด้วยซ้ำ