เชื่อว่าทุกคนเคยมองไปถึงอนาคต และก็เชื่อว่าทุกคนเคยมีเวลาที่ยังไม่มองอนาคตเช่นกัน
ไม่ว่าสิ่งที่เห็นในอนาคตของแต่ละคนจะเป็นเช่นไร ก็จงอย่าลืมก้มลงมามองปลายเท้าตัวเองบ้าง
อาจจะแค่แวบเดียว ก็เกินพอ ปลายเท้าไม่ต้องมองมาก เพราะถ้ามองมากเราก็มองข้างหน้าไม่เห็น
แต่การมองแต่ข้างหน้าโดยไม่มองปลายเท้าเลย มันอาจจะสะดุดลงตรงไหนก็ได้ การสะดุดแต่ละครั้งไม่สนุกเลย
การมองอนาคตนั้นสำคัญ ชีวิตที่ดีต้องมีการวางแผนที่ดี ชีวิตคู่ที่ดี การงานที่ดี สภาพแวดล้อมที่ดี
ล่วนมาจากการวางแผนที่ดีเป็นส่วนสำคัญ แต่ในระหว่างที่มองอนาคตนั้น อย่าลืมหันมามองตัวเองด้วย
อนาคตที่วาดฝันไว้ มันเหมาะกับเรารึเปล่า
การงานที่ดีนั้น มันเหมาะกับตัวเรามั้ย
สภาพแวดล้อมที่ดีนั้น มันเหมาะกับตัวเรามั้ย
ชีวิตคู่ที่ดีนั้น มันเหมาะกับตัวเรามั้ย
บางครั้งการมีแฟน มีลูก2 มีบ้านเดี่ยว1หลัง มีรถเก๋งขับ1คัน ทำงานเช้าตรู่ กลับเย็น เงินพอมีเหลือเก็บนิดหน่อย อาจเป็นสิ่งที่วาดฝันไว้ แต่ถ้ามันเป็นแบบ นั้นจริงๆ มันจะเหมาะกับตัวเรามั้ย
บางครั้งงานที่ได้เงินเยอะๆ สบายๆ อาจเป็นงานที่ดี แต่สิ่งอื่นๆในงานเหมาะกับการใช้ชีวิตของเรามั้ย
บางครั้งการอยู่ในที่ทำงานที่มีผ้หญ่เยอะ แต่ละคนมีหน้าที่การงานที่ดี จบการศึกษาสูง พูดคุยเก่ง มันก็อาจไม่เหมาะกับเราก็ได้
บางครั้งการมีแฟนที่ทำงานเก่ง รับผิดชอบเรื่องภาระในบ้านได้ เทคแคร์ตามประสาบ้าง มันพอดีกับเราจริงๆเหรอ
ทุกๆเรื่องมีด้านดี แต่สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ว่า มันเหมาะกับเรามั้ย
ถ้าสมมติว่า เราอยู่ในที่ๆเป็นแบบนั้นไม่ได้ จะต้องคิดว่าใครผิด สังคมผิด หรือเราผิดเอง
ไม่หรอก ไม่มีใครผิด มันไม่ได้แย่ แค่ไม่เหมาะกับเรา
แต่การมองไปข้างหน้า เรายังไม่ได้อยู่ตรงนั้นจริงๆ เราไม่สามารถรู้ได้ว่าเมื่อเราไปอยู่ตรงนั้นจะเกิดอะไรขึ้น
นอกซะจาก ก้มลงมามองเท้าตัวเองก่อน ว่าเราเป็นยังไง
ลองมองเท้าตัวเองว่าเราใส่รองเท้าแตะ ใส่ผ้าใบ ใส่ส้นสูง อยู่บนจักรยาน อยู่บนมอเตอร์ไซ อยู่บนรถยนต์ อยู่หลังรถกระบะ อยู่บนเครื่องบิน
แล้วเราจะเป้นยังไงเมื่อไปถึงจุดที่เรามองเห็น
บางครั้งเราก็ต้องเลือก ว่าจะเอาความเป็นไปได้ หรือความถูกใจ
การนั่งเครื่องบิน จาก ชม.-กรุงเทพ. เร็วที่สุด สบายที่สุดก็จริง แต่ถ้าคุณอยากขับรถยนต์ไป มันก็ไม่ผิด
การมีแฟนที่ทำงานเก่ง รับผิดชอบเก่ง แต่ไม่ตามใจเรา ถ้าคุณยอมเสียใจเอง มันก็ไม่ผิด หรือถ้าคุณจะไม่เลือกเค้า มันก็ไม่ผิดเช่นกัน
แน่นอนว่ามันมีน้อยที่จะมองทั้งข้างหน้าและมองเท้าตัวเองไปพร้อมๆกันได้ แต่ถ้าคุณมองเห็นทั้ง2อย่างแล้ว
ขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่า เมื่อคุณมองเห็นแล้ว จะเลือกมันแบบไหน
เงยหน้าไม่เห็นปลายเท้า มองเท้าไม่เห็นข้างหน้า
ไม่ว่าสิ่งที่เห็นในอนาคตของแต่ละคนจะเป็นเช่นไร ก็จงอย่าลืมก้มลงมามองปลายเท้าตัวเองบ้าง
อาจจะแค่แวบเดียว ก็เกินพอ ปลายเท้าไม่ต้องมองมาก เพราะถ้ามองมากเราก็มองข้างหน้าไม่เห็น
แต่การมองแต่ข้างหน้าโดยไม่มองปลายเท้าเลย มันอาจจะสะดุดลงตรงไหนก็ได้ การสะดุดแต่ละครั้งไม่สนุกเลย
การมองอนาคตนั้นสำคัญ ชีวิตที่ดีต้องมีการวางแผนที่ดี ชีวิตคู่ที่ดี การงานที่ดี สภาพแวดล้อมที่ดี
ล่วนมาจากการวางแผนที่ดีเป็นส่วนสำคัญ แต่ในระหว่างที่มองอนาคตนั้น อย่าลืมหันมามองตัวเองด้วย
อนาคตที่วาดฝันไว้ มันเหมาะกับเรารึเปล่า
การงานที่ดีนั้น มันเหมาะกับตัวเรามั้ย
สภาพแวดล้อมที่ดีนั้น มันเหมาะกับตัวเรามั้ย
ชีวิตคู่ที่ดีนั้น มันเหมาะกับตัวเรามั้ย
บางครั้งการมีแฟน มีลูก2 มีบ้านเดี่ยว1หลัง มีรถเก๋งขับ1คัน ทำงานเช้าตรู่ กลับเย็น เงินพอมีเหลือเก็บนิดหน่อย อาจเป็นสิ่งที่วาดฝันไว้ แต่ถ้ามันเป็นแบบ นั้นจริงๆ มันจะเหมาะกับตัวเรามั้ย
บางครั้งงานที่ได้เงินเยอะๆ สบายๆ อาจเป็นงานที่ดี แต่สิ่งอื่นๆในงานเหมาะกับการใช้ชีวิตของเรามั้ย
บางครั้งการอยู่ในที่ทำงานที่มีผ้หญ่เยอะ แต่ละคนมีหน้าที่การงานที่ดี จบการศึกษาสูง พูดคุยเก่ง มันก็อาจไม่เหมาะกับเราก็ได้
บางครั้งการมีแฟนที่ทำงานเก่ง รับผิดชอบเรื่องภาระในบ้านได้ เทคแคร์ตามประสาบ้าง มันพอดีกับเราจริงๆเหรอ
ทุกๆเรื่องมีด้านดี แต่สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ว่า มันเหมาะกับเรามั้ย
ถ้าสมมติว่า เราอยู่ในที่ๆเป็นแบบนั้นไม่ได้ จะต้องคิดว่าใครผิด สังคมผิด หรือเราผิดเอง
ไม่หรอก ไม่มีใครผิด มันไม่ได้แย่ แค่ไม่เหมาะกับเรา
แต่การมองไปข้างหน้า เรายังไม่ได้อยู่ตรงนั้นจริงๆ เราไม่สามารถรู้ได้ว่าเมื่อเราไปอยู่ตรงนั้นจะเกิดอะไรขึ้น
นอกซะจาก ก้มลงมามองเท้าตัวเองก่อน ว่าเราเป็นยังไง
ลองมองเท้าตัวเองว่าเราใส่รองเท้าแตะ ใส่ผ้าใบ ใส่ส้นสูง อยู่บนจักรยาน อยู่บนมอเตอร์ไซ อยู่บนรถยนต์ อยู่หลังรถกระบะ อยู่บนเครื่องบิน
แล้วเราจะเป้นยังไงเมื่อไปถึงจุดที่เรามองเห็น
บางครั้งเราก็ต้องเลือก ว่าจะเอาความเป็นไปได้ หรือความถูกใจ
การนั่งเครื่องบิน จาก ชม.-กรุงเทพ. เร็วที่สุด สบายที่สุดก็จริง แต่ถ้าคุณอยากขับรถยนต์ไป มันก็ไม่ผิด
การมีแฟนที่ทำงานเก่ง รับผิดชอบเก่ง แต่ไม่ตามใจเรา ถ้าคุณยอมเสียใจเอง มันก็ไม่ผิด หรือถ้าคุณจะไม่เลือกเค้า มันก็ไม่ผิดเช่นกัน
แน่นอนว่ามันมีน้อยที่จะมองทั้งข้างหน้าและมองเท้าตัวเองไปพร้อมๆกันได้ แต่ถ้าคุณมองเห็นทั้ง2อย่างแล้ว
ขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่า เมื่อคุณมองเห็นแล้ว จะเลือกมันแบบไหน