“ดอยกอมูเล คืออะไร อยู่ที่ไหน?”
ย้อนกลับไปประมาณครึ่งปีเราได้เห็นรูปดอยดอยนึงของจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่เว็บเว็บนึง เป็นดอยที่สวยมาก
ทุ่งหญ้าเตี้ยๆ หญ้าสีเขียวขจีทั่วยอดดอยเหมาะกับการไปกางเต็นท์นั่งมองวิวรับลมชิวๆ
อยู่ท่ามกลางบรรยากาศแบบเปิดโล่ง 360 องศา มีหมอกหนาๆ ปุกปุยๆ มาให้เห็นเป็นระยะๆ
โห้ยยยยยแค่คิดก็ฟินแล้ว

เริ่มอยากไปเหมือนเรารึยัง ? ถ้าเริ่มอยากไปแล้วก็อ่านต่อเลย เราว่าที่นี่น่าจะยังใหม่สำหรับหลายๆคนหรือบางคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลยด้วย ก็ไม่แปลกหรอกเพราะมันเพิ่งเปิดได้ไม่นาน แต่ชั่งเถอะเราไปดูความงามของมันกันดีกว่า แต่ก่อนไปก็ขอหาข้อมูลสักหน่อย หลังจากนั้นก็โทรไปติดต่อคนในหมู่บ้านนัดวันเวลาที่จะไปให้เรียบร้อย
เราไปหาข้อมูลการเดินทางมา มีแต่คนเหมารูปตู้ไป ไม่ก็ไปกับกรุ๊ปทัวร์ แต่ราคามันแพงไปเราว่าเราไปได้ประหยักกว่านั้นหลายเท่าเลย สรุปไปกันเองสิ..ถูกดี และครั้งนี้เราอยากพาคนอื่นไปลำบากกับเราด้วย แต่กว่าจะหาผู้ร่วมชะตากรรมได้ก็แผนเกือบล่ม เพราะทุกคนที่จะไปว่างไม่ตรงกันเลย เปลี่ยนวันไปๆมาๆ บ่อยสะยิ่งกว่าเปลี่ยนกางเกงในเอง ถถถ และแต่ละคนมีความลังเลสูงมาก พอถึงวันเดินทาง สรุป เหลือทั้งหมด 6 ชีวิต ใครติดงานก็ไม่ว่ากันนาจา. และขอตั้งชื่อทริปนี้ว่า “โลเลทริป” เรานัดรวมพลกันที่หมอชิต ตื่นเต้นมากเพราะไม่ค่อยได้เที่ยวกับคนอื่นเลย ปกติจะแบกเป้ไม่ก็ขับมอไซค์ไปลุยกันเอง 2 คนทุกทริป ฮ่าๆ ครั้งนี้ลองไปลุยกับคนอื่นดูบ้าง…พอมาครบก็ลุยกันเลยพ๊วกก ลืมนั้น ลืมนี้แล้วไปขึ้นรถทัวร์กัน ฮ่าาา มุ่งหน้าสู่ ต.แม่โถ อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน จ้าววว
“การเดินทาง”
เรานั่งรถทัวร์ไปกัน สาย กทม-แม่ฮ่องสอน(บอกเขาว่าลงปากทางเข้าแม่โถ) และก็โทรให้คนในหมู่บ้านมารับแค่นี้ ง่ายๆ
#คำเตือนใครจะไปรถทัวร์แนะนำก่อนขึ้นเขาช่วงลำพูนลำปาง รีบทำให้ตัวเองหลับเลยอย่าตื่นขึ้นมา บอกไว้แค่นี้ละกัน อิอิ
แต่ถ้าใครไม่อยากนั่งรถนานๆ แนะนำให้เลือกเดินทางโดยเครื่องบินก็จะง่ายขึ้นมาหน่อย โดยการเดินทางไปแม่ฮ่องสอนเนี่ย สามารถบินมาลงได้ทั้ง จ.เชียงใหม่ หรือจะหาตั๋วบินไปแม่ฮ่องสอนเลยก็ยังได้ เอาที่สะดวกของแต่ละคน สำหรับตั๋ว แนะนำให้ลองเข้าไปดูได้ใน Traveloka เพราะเป็นวิธีที่สะดวกที่สุดแล้ว!!!
“แนะนำ”
ไปหน้าหนาวดีสุด เพราะจะไม่เจอทาก ไม่เจอวัว ไม่เจอขี้วัว ไม่เจอเสือ!!!
เราไปหน้าหนาวแต่ดันเจอฝน มีฝนก็ย่อมมีทากและไส้เดือนยัก และก็เจอวัวและก็ขี้วัว.
***ข้างบนไม่มีอะไรเลยนะธรรมชาติ มีวัวผสม
เตรียมของใช้ส่วนตัวไปกันเองนะจ๊ะ เสื้อผ้า ถุงนอน เต็นท์ ยา อาหารเครื่องครัว ทีวีตู้เย็น บลาๆๆ
ปล. ก่อนวันที่ไป 1 อาทิตย์ มีเสือขึ้นมากินควายไปด้วย
ปล2. เดินไม่ยาก เดินง่ายถ้าฝนไม่ตกแบบที่เราเจอ
ปล3. ทริปนี้เราหมดกันไปคนละพันกว่าบาทเอง ถ้าไปกับทัวร์5000+
พิกัด: จ.แม่ฮ่องสอน อ.แม่ลาน้อย ต.แม่โถ ติดต่อสอบถามครูสมบัติก่อนไปนะ 080-8545372

ตอนนี้เวลาประมาณ 8 โมง ท้องฟ้าอันแสนจะอึมครึมบวกกับเม็ดฝนที่กำลังตกลงมา ชั่งเป็นบรรยากาศที่น่านอนเสียจริง มันช่างไม่เหมาะกับการเดินป่าเอาซะเลย โถถถถถ ตอนรับการมาของพวกเราได้ดีจริงๆ
ณ ปากทางเข้า ต.แม่โถ หลังจากที่พวกเราลงจากรถทัวร์ก็ได้เข้ามานั่งหลบฝนอยู่ในศาลา สักพักก็มีชายหนุ่มขับรถกระบะมาจอด ลงรถมามองหน้ากันแล้วรู้ใจเลย มารับพวกเราแน่นวล พี่แกก็ให้พวกเราไปล้างหน้าแปรงฟันกันก่อนแล้วค่อยเดินทางเข้าหมู่บ้านกัน ชายหญิง 7 ชีวิต ต้องนั่งอัดกันอยู่ในรถกระบะคันจิ๋วมันชั่งเบียดเสียดสะเหลือเกิน ผมนี่เข้าใจความรู้สึกของปลา3ตัวในซอสมะเขือเทศที่ถูกอัดกันไว้ในกระป๋องเลยครัช. ทางเข้าหมู่บ้านจะเป็นถนนสองเลนและโคตรโค้ง ช่วงแรกๆ ถนนยังเป็นถนนอยู่แต่หลังๆมันเริ่มไม่ใช่แล้วหลุมกลางถนนนี่น้ำขังจนเรียกว่าสระได้เลย หมาตกไปต้องตายอะ
“พี่บี้” คนขับของเราก็ขับหลบได้อย่างช่ำชองตลอดเกือบ 40 กิโล พวกเราก็นั่งเหวี่ยงซ้ายทีขวาที เหมือนปลาซาดีนที่กำลังคลุกเคล้าในซอสมะเขือเทศ ฮ่าๆๆ

ถึงแล้วหมู่บ้านห้วยผึ้งใหม่ จุดเริ่มต้นของเรา มีร้านขายของชำอยู่ ถือเป็นจุดเตรียมเสบียงของเรา
A : ป้าคะ มีน้ำเปล่าแพคมั้ยคะ?
ป้า : ไม่มี
A : ป้าคะ มีข้าวสารมั้ยคะ?
ป้า : หมด
A : แล้วข้าวที่วางอยู่หน้าร้านนี่ล่ะคะ?
ป้า : ไม่รู้ของใคร
สรุปเราแทบจะไม่ได้อะไรจากร้านป้าเลยนอกจากหมู
ได้แค่นี้ก็แค่นี้ดิ ป่ะขึ้นรถไปอีกนิดก็จะถึงจุดเริ่มเดินล่ะ.

จากจุดเริ่มเดิน พอเดินขึ้นได้สักพัก เอ๊ะ! เจ้าถิ่น ยืนเฝ้ากันอย่างกับ รปภ หน้าหมู่บ้านเลย แล้วทุกตัวก็หันมามองพวกเรากันเป็นตาเดียวเลย เหมือนมันอยากจะถามว่า “มาทำไรกันเจ้ามานุ๊ดดดดด?”

เราพยามเดินผ่านไปกันด้วยความเงียบสงบ โดยมีสายตาของเจ้าถิ่นที่ค่อยมองอยู่ตลอดเวลา

พวกเราและแก๊งลูกหาบ จะเรียกว่าแก๊งสเตอร์ลูกหาบหรือกลุ่มนักท่องเที่ยวดีล่ะ ขึ้นกันมาเยอะซะขนาดนี้ พวกเรามี6คน แก๊งลูกหาบมากัน10คน เหมือนพวกเรามาขอร่วมทริปมากกว่า ฮ่าๆๆๆ (ในรูปมีชาวบ้าน10คนและอีกหลายๆคนที่ยืนอยู่หลังกล้อง… ..จะเยอะไปไหน)

คำสารภาพจากปากลูกหาบคนหนึ่ง !!!
“หาบจริงๆ มีแค่5คนเอง ส่วนคนที่เหลือเขาอยากขึ้นมาเที่ยวด้วย”
ตูว่าแล้วววว ฮ่าๆๆๆ

ฝนเริ่มตก อีกรอบหลังจากที่หยุดไปแล้ว บรรดาทากที่จำศีลอยู่นานพอได้รับความชื้นพวกมันก็รีบขึ้นมาสายหัวโยกตัวกัน แด่วๆ เลย ทุกคนเริ่มเช็คตัวเองตลอดเวลา เพราะมันเยอะมาก แป๊ปๆก็มาเกาะกันอีกล่ะแล้วทีละตัวสองตัว เราต้องเผชิญกับพวกทากตลอดทาง.
(เป็นคนบอกให้ทุกคนเตรียมถุงกันทากมาเองแท้ๆ แต่คนบอกกับขี้เกียจเอามา… ใครจะไปคิดว่าฝนจะตกในฤดูหนาว /เสื้อกันฝนอีก)
ฝนเริ่มตกหนักขึ้น พี่ลูกหาบเลยหาร่มธรรมชาติมาให้ ไม่รู้มันช่วยหรือเพิ่มภาระ ฮ่าๆๆ ก็กันฝนได้บ้างแหละแต่มันค่อยเกี่ยวกิ่งไม้ตลอดเลย

ตัดภาพมาที่ยอดดอย ก่อนหน้านี้ฝนตกแรงมากเพราะเป็นวันที่กรมอุติประกาศว่ามรสุมเข้าวันนี้และเข้าวันเดียวด้วยพรุ่งนี้เหตุการณ์ปกติ โถๆๆชีวิต เลือกวันได้ดีมากเฮ้ ทางก็ลื่นมากๆเลย ทุกคนเดินกันแบบไม่สนอะไรแล้ว รีบพาตัวเองไปให้ถึงทากจะเกาะก็เกาะเหอะไม่สนแล้ว เละแค่ไหนดูได้จากสภาพรองเท้า ก่อนหน้านี้มันสีขาวนะไม่เชื่อย้อนกลับไปดูรูปแรกๆ
ด้านล่างมีทากมีวัว ด้านบนมีใส้เดือนเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งชนิดจ้า มันเยอะมากเต็มตลอดทางเลยและตัวใหญ่มากด้วยใหญ่แค่ไหนเหรอ? นึกภาพเส้นอุด้งเส้นใหญ่ๆมันใหญ่กว่านั้นเท่านึงตัวก็ยาวๆ แค่นั้นยังไม่พอยังต้องค่อยหลบกองระเบิดที่วัวมาวางไว้อีก … … . . . . . ตูมาทำอะไรที่นี่ทำไมต้องพาตัวเองมาเจออะไรแบบนี้

“เราคงไปยอดไม่ไหว ฝนตกลมแรงมากหมอกหนาด้วย ทางลื่นด้วยเดี๋ยวจะอันตราย แคมป์กันตรงนี้นะครับ” เป็นประโยคบอกเล่าสั้นๆ ที่ทุกคนพร้อมจะเออออด้วย เพราะตอนนี้อะไรก็ได้ อยากเปลี่ยนชุดเปียกๆแล้วเข้าไปนอนขดตัวอยู่ในถุงนอนแล้ว แม่มโคตรหนาวววววเลย ปกติก็หนาวอยู่แล้วนี่เจอทั้งลมทั้งฝน ตัวนี่สั่นเลยครัช

ในขณะที่ทุกคนเริ่มตั้งแคมป์กันอย่างสามัคคี / ตัดภาพมาที่เรา

หลังจากที่เปลี่ยนชุดเสร็จก็ทำให้รู้ว่าตูโดนทากกันเรียบร้อย นับจำนวนแล้ว 6 ตัวกินกันอิ่มหนำเลย พอบอกให้ทุกคนช่วยเอาออก ทุกคนก็รีบหยุดกิจกรรมทุกอย่างที่ทำแล้วรีบวิ่งมา. . . . ถ่ายรูป!! ขอบคุณนะครับ (กัดฟันพูด)

ลูกหาบทีมนี้มีความบอยแบนด์สูงมาก ชอบยืนเรียงกันเหมือนกำลังถ่ายโฆษณาอะไรสักอย่าง ฮ่าๆๆ พี่ๆแกก็ดูตื่นเต้นกับความสวยของที่นี่นะ เซลฟี่กันไม่หยุดเลย



วัวเด็กเจ้าถิ่น วัวที่นี่รู้งานจริง เหมือนรู้ว่าจะถ่ายรูปรีบมองกล้องเลย

เหมือนเปิดช่องฟีซแล้วไอเย็นค่อยๆ ไหลออกมาเลย



บรรยากาศ ความเปื่อย ความหมอก ความหนาว มาให้หมด / ที่นอนลูกหาบ นอนแบบไม่กลัวลมไม่กลัวทากกันเลย

“ฟ้าหลังฝนเขาบอกว่ามันงดงามเสมอ” ตั้งแต่มาเพิ่งได้เห็นท้องฟ้าจริงๆก็ตอนนี้แหละ

นั้นเป็นยอดที่เราต้องไปนอนกัน แต่ด้วยฝนถล่มน้ำไหลทางเละ บลาๆๆ เราเลยต้องนอนกันตรงนี้ ตอนเดินมาก็มองไม่เห็นอะไรเลยหมอกปิดหมด ปิดจนมี2คนในกลุ่มเราเดินขึ้นไปถึงยอดกันแบบไม่รู้ตัวเลย ฮ่าๆๆ / แต่เอาจริงๆนอนตรงไหนก็ได้บนนี้สวยทุกจุด

ได้เวลากินแล้ว เมนูวันนี้ หมูต้มโค้ก หมูย่าง หมูทอด เมนูหมูๆของแก๊งหมู อิอิ

หมูต้มโค้กอร่อยมากเวอร์ แนะนำเลย อาหารมื้อนี้อร่อยมาก หรือเราหิว? ไม่หรอกเป็นเพราะเราทำอร่อยมากกว่า ฮ่าๆๆ

เอาจริงๆนะ เราว่าลูกหาบถ่ายรูปเยอะกว่าเราอีก หันไปทีไรต้องมีสักคนที่ถ่ายรูปอยู่ ฮ่าๆๆ น่ารัก

ข้างบนมีทั้งวัวทั้งควายเลย จุดนี้หรือเปล่า ?! ที่ชาวบ้านบอกว่ามีเสือมากินควายไปเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา . . . .

หลังจากต่อสู้กับมรสุมกันมาตัวเปียกปอน เสียเลือดให้กับฝูงทาก เดินฝ่าทางขี้วัวเปียกๆและใส้เดือนยัก ทุกคนต่างเหนื่อยล้า หลังจากกินข้าวกันอิ่มและได้กินมันเผาร้อนๆ ทุกคนก็แยกย้ายกันไปนอน / หมอกหนาขนาดนี้ หมดหวังที่จะเจอทางช้างเผือกแล้ว. พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปดูอีกยอดดอยนึงให้ได้(ถ้าฟ้าเปิดนะ) กึ๊ดไนท์จ้าวว

มอนิ่ง เมื่อคืน แทบไม่เป็นอันหลับอันนอนเลย เหมือนลูกหาบจะมีปาตี้กัน ทั้งร้องเพลงทั้งเล่นไพ่ สนุกกันเลย ลูกหาบที่นี่ชอบถ่ายรูปและยังชอบร้องเพลงอีกด้วย มีความสุนทรี

ทะเลหมอกมาเสิร์ฟถึงหน้าเต็นท์เลย



ฟ้าเปิดแล้ว ทุกคนเริ่มออกเดินสู่ดงทากอีกครั้ง

วิวระหว่างทางในดงทาก นาขั้นบันไดในหุบเขา
#ความลำบากนี้ยังไม่จบเดี๋ยวมาต่อนะจาาาา : )[/cent
[CR] "ดอยกอมูเล" คือที่ไหน ? ไปยังไง ? สวยมั้ย ? น้องจะพาบุกกก :)
ย้อนกลับไปประมาณครึ่งปีเราได้เห็นรูปดอยดอยนึงของจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่เว็บเว็บนึง เป็นดอยที่สวยมาก
ทุ่งหญ้าเตี้ยๆ หญ้าสีเขียวขจีทั่วยอดดอยเหมาะกับการไปกางเต็นท์นั่งมองวิวรับลมชิวๆ
อยู่ท่ามกลางบรรยากาศแบบเปิดโล่ง 360 องศา มีหมอกหนาๆ ปุกปุยๆ มาให้เห็นเป็นระยะๆ
โห้ยยยยยแค่คิดก็ฟินแล้ว
เริ่มอยากไปเหมือนเรารึยัง ? ถ้าเริ่มอยากไปแล้วก็อ่านต่อเลย เราว่าที่นี่น่าจะยังใหม่สำหรับหลายๆคนหรือบางคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลยด้วย ก็ไม่แปลกหรอกเพราะมันเพิ่งเปิดได้ไม่นาน แต่ชั่งเถอะเราไปดูความงามของมันกันดีกว่า แต่ก่อนไปก็ขอหาข้อมูลสักหน่อย หลังจากนั้นก็โทรไปติดต่อคนในหมู่บ้านนัดวันเวลาที่จะไปให้เรียบร้อย
เราไปหาข้อมูลการเดินทางมา มีแต่คนเหมารูปตู้ไป ไม่ก็ไปกับกรุ๊ปทัวร์ แต่ราคามันแพงไปเราว่าเราไปได้ประหยักกว่านั้นหลายเท่าเลย สรุปไปกันเองสิ..ถูกดี และครั้งนี้เราอยากพาคนอื่นไปลำบากกับเราด้วย แต่กว่าจะหาผู้ร่วมชะตากรรมได้ก็แผนเกือบล่ม เพราะทุกคนที่จะไปว่างไม่ตรงกันเลย เปลี่ยนวันไปๆมาๆ บ่อยสะยิ่งกว่าเปลี่ยนกางเกงในเอง ถถถ และแต่ละคนมีความลังเลสูงมาก พอถึงวันเดินทาง สรุป เหลือทั้งหมด 6 ชีวิต ใครติดงานก็ไม่ว่ากันนาจา. และขอตั้งชื่อทริปนี้ว่า “โลเลทริป” เรานัดรวมพลกันที่หมอชิต ตื่นเต้นมากเพราะไม่ค่อยได้เที่ยวกับคนอื่นเลย ปกติจะแบกเป้ไม่ก็ขับมอไซค์ไปลุยกันเอง 2 คนทุกทริป ฮ่าๆ ครั้งนี้ลองไปลุยกับคนอื่นดูบ้าง…พอมาครบก็ลุยกันเลยพ๊วกก ลืมนั้น ลืมนี้แล้วไปขึ้นรถทัวร์กัน ฮ่าาา มุ่งหน้าสู่ ต.แม่โถ อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน จ้าววว
“การเดินทาง”
เรานั่งรถทัวร์ไปกัน สาย กทม-แม่ฮ่องสอน(บอกเขาว่าลงปากทางเข้าแม่โถ) และก็โทรให้คนในหมู่บ้านมารับแค่นี้ ง่ายๆ
#คำเตือนใครจะไปรถทัวร์แนะนำก่อนขึ้นเขาช่วงลำพูนลำปาง รีบทำให้ตัวเองหลับเลยอย่าตื่นขึ้นมา บอกไว้แค่นี้ละกัน อิอิ
แต่ถ้าใครไม่อยากนั่งรถนานๆ แนะนำให้เลือกเดินทางโดยเครื่องบินก็จะง่ายขึ้นมาหน่อย โดยการเดินทางไปแม่ฮ่องสอนเนี่ย สามารถบินมาลงได้ทั้ง จ.เชียงใหม่ หรือจะหาตั๋วบินไปแม่ฮ่องสอนเลยก็ยังได้ เอาที่สะดวกของแต่ละคน สำหรับตั๋ว แนะนำให้ลองเข้าไปดูได้ใน Traveloka เพราะเป็นวิธีที่สะดวกที่สุดแล้ว!!!
“แนะนำ”
ไปหน้าหนาวดีสุด เพราะจะไม่เจอทาก ไม่เจอวัว ไม่เจอขี้วัว ไม่เจอเสือ!!!
เราไปหน้าหนาวแต่ดันเจอฝน มีฝนก็ย่อมมีทากและไส้เดือนยัก และก็เจอวัวและก็ขี้วัว.
***ข้างบนไม่มีอะไรเลยนะธรรมชาติ มีวัวผสม
เตรียมของใช้ส่วนตัวไปกันเองนะจ๊ะ เสื้อผ้า ถุงนอน เต็นท์ ยา อาหารเครื่องครัว ทีวีตู้เย็น บลาๆๆ
ปล. ก่อนวันที่ไป 1 อาทิตย์ มีเสือขึ้นมากินควายไปด้วย
ปล2. เดินไม่ยาก เดินง่ายถ้าฝนไม่ตกแบบที่เราเจอ
ปล3. ทริปนี้เราหมดกันไปคนละพันกว่าบาทเอง ถ้าไปกับทัวร์5000+
พิกัด: จ.แม่ฮ่องสอน อ.แม่ลาน้อย ต.แม่โถ ติดต่อสอบถามครูสมบัติก่อนไปนะ 080-8545372
ตอนนี้เวลาประมาณ 8 โมง ท้องฟ้าอันแสนจะอึมครึมบวกกับเม็ดฝนที่กำลังตกลงมา ชั่งเป็นบรรยากาศที่น่านอนเสียจริง มันช่างไม่เหมาะกับการเดินป่าเอาซะเลย โถถถถถ ตอนรับการมาของพวกเราได้ดีจริงๆ
ณ ปากทางเข้า ต.แม่โถ หลังจากที่พวกเราลงจากรถทัวร์ก็ได้เข้ามานั่งหลบฝนอยู่ในศาลา สักพักก็มีชายหนุ่มขับรถกระบะมาจอด ลงรถมามองหน้ากันแล้วรู้ใจเลย มารับพวกเราแน่นวล พี่แกก็ให้พวกเราไปล้างหน้าแปรงฟันกันก่อนแล้วค่อยเดินทางเข้าหมู่บ้านกัน ชายหญิง 7 ชีวิต ต้องนั่งอัดกันอยู่ในรถกระบะคันจิ๋วมันชั่งเบียดเสียดสะเหลือเกิน ผมนี่เข้าใจความรู้สึกของปลา3ตัวในซอสมะเขือเทศที่ถูกอัดกันไว้ในกระป๋องเลยครัช. ทางเข้าหมู่บ้านจะเป็นถนนสองเลนและโคตรโค้ง ช่วงแรกๆ ถนนยังเป็นถนนอยู่แต่หลังๆมันเริ่มไม่ใช่แล้วหลุมกลางถนนนี่น้ำขังจนเรียกว่าสระได้เลย หมาตกไปต้องตายอะ
“พี่บี้” คนขับของเราก็ขับหลบได้อย่างช่ำชองตลอดเกือบ 40 กิโล พวกเราก็นั่งเหวี่ยงซ้ายทีขวาที เหมือนปลาซาดีนที่กำลังคลุกเคล้าในซอสมะเขือเทศ ฮ่าๆๆ
ถึงแล้วหมู่บ้านห้วยผึ้งใหม่ จุดเริ่มต้นของเรา มีร้านขายของชำอยู่ ถือเป็นจุดเตรียมเสบียงของเรา
A : ป้าคะ มีน้ำเปล่าแพคมั้ยคะ?
ป้า : ไม่มี
A : ป้าคะ มีข้าวสารมั้ยคะ?
ป้า : หมด
A : แล้วข้าวที่วางอยู่หน้าร้านนี่ล่ะคะ?
ป้า : ไม่รู้ของใคร
สรุปเราแทบจะไม่ได้อะไรจากร้านป้าเลยนอกจากหมู
ได้แค่นี้ก็แค่นี้ดิ ป่ะขึ้นรถไปอีกนิดก็จะถึงจุดเริ่มเดินล่ะ.
จากจุดเริ่มเดิน พอเดินขึ้นได้สักพัก เอ๊ะ! เจ้าถิ่น ยืนเฝ้ากันอย่างกับ รปภ หน้าหมู่บ้านเลย แล้วทุกตัวก็หันมามองพวกเรากันเป็นตาเดียวเลย เหมือนมันอยากจะถามว่า “มาทำไรกันเจ้ามานุ๊ดดดดด?”
เราพยามเดินผ่านไปกันด้วยความเงียบสงบ โดยมีสายตาของเจ้าถิ่นที่ค่อยมองอยู่ตลอดเวลา
พวกเราและแก๊งลูกหาบ จะเรียกว่าแก๊งสเตอร์ลูกหาบหรือกลุ่มนักท่องเที่ยวดีล่ะ ขึ้นกันมาเยอะซะขนาดนี้ พวกเรามี6คน แก๊งลูกหาบมากัน10คน เหมือนพวกเรามาขอร่วมทริปมากกว่า ฮ่าๆๆๆ (ในรูปมีชาวบ้าน10คนและอีกหลายๆคนที่ยืนอยู่หลังกล้อง… ..จะเยอะไปไหน)
คำสารภาพจากปากลูกหาบคนหนึ่ง !!!
“หาบจริงๆ มีแค่5คนเอง ส่วนคนที่เหลือเขาอยากขึ้นมาเที่ยวด้วย”
ตูว่าแล้วววว ฮ่าๆๆๆ
ฝนเริ่มตก อีกรอบหลังจากที่หยุดไปแล้ว บรรดาทากที่จำศีลอยู่นานพอได้รับความชื้นพวกมันก็รีบขึ้นมาสายหัวโยกตัวกัน แด่วๆ เลย ทุกคนเริ่มเช็คตัวเองตลอดเวลา เพราะมันเยอะมาก แป๊ปๆก็มาเกาะกันอีกล่ะแล้วทีละตัวสองตัว เราต้องเผชิญกับพวกทากตลอดทาง.
(เป็นคนบอกให้ทุกคนเตรียมถุงกันทากมาเองแท้ๆ แต่คนบอกกับขี้เกียจเอามา… ใครจะไปคิดว่าฝนจะตกในฤดูหนาว /เสื้อกันฝนอีก)
ฝนเริ่มตกหนักขึ้น พี่ลูกหาบเลยหาร่มธรรมชาติมาให้ ไม่รู้มันช่วยหรือเพิ่มภาระ ฮ่าๆๆ ก็กันฝนได้บ้างแหละแต่มันค่อยเกี่ยวกิ่งไม้ตลอดเลย
ตัดภาพมาที่ยอดดอย ก่อนหน้านี้ฝนตกแรงมากเพราะเป็นวันที่กรมอุติประกาศว่ามรสุมเข้าวันนี้และเข้าวันเดียวด้วยพรุ่งนี้เหตุการณ์ปกติ โถๆๆชีวิต เลือกวันได้ดีมากเฮ้ ทางก็ลื่นมากๆเลย ทุกคนเดินกันแบบไม่สนอะไรแล้ว รีบพาตัวเองไปให้ถึงทากจะเกาะก็เกาะเหอะไม่สนแล้ว เละแค่ไหนดูได้จากสภาพรองเท้า ก่อนหน้านี้มันสีขาวนะไม่เชื่อย้อนกลับไปดูรูปแรกๆ
ด้านล่างมีทากมีวัว ด้านบนมีใส้เดือนเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งชนิดจ้า มันเยอะมากเต็มตลอดทางเลยและตัวใหญ่มากด้วยใหญ่แค่ไหนเหรอ? นึกภาพเส้นอุด้งเส้นใหญ่ๆมันใหญ่กว่านั้นเท่านึงตัวก็ยาวๆ แค่นั้นยังไม่พอยังต้องค่อยหลบกองระเบิดที่วัวมาวางไว้อีก … … . . . . . ตูมาทำอะไรที่นี่ทำไมต้องพาตัวเองมาเจออะไรแบบนี้
“เราคงไปยอดไม่ไหว ฝนตกลมแรงมากหมอกหนาด้วย ทางลื่นด้วยเดี๋ยวจะอันตราย แคมป์กันตรงนี้นะครับ” เป็นประโยคบอกเล่าสั้นๆ ที่ทุกคนพร้อมจะเออออด้วย เพราะตอนนี้อะไรก็ได้ อยากเปลี่ยนชุดเปียกๆแล้วเข้าไปนอนขดตัวอยู่ในถุงนอนแล้ว แม่มโคตรหนาวววววเลย ปกติก็หนาวอยู่แล้วนี่เจอทั้งลมทั้งฝน ตัวนี่สั่นเลยครัช
ในขณะที่ทุกคนเริ่มตั้งแคมป์กันอย่างสามัคคี / ตัดภาพมาที่เรา
หลังจากที่เปลี่ยนชุดเสร็จก็ทำให้รู้ว่าตูโดนทากกันเรียบร้อย นับจำนวนแล้ว 6 ตัวกินกันอิ่มหนำเลย พอบอกให้ทุกคนช่วยเอาออก ทุกคนก็รีบหยุดกิจกรรมทุกอย่างที่ทำแล้วรีบวิ่งมา. . . . ถ่ายรูป!! ขอบคุณนะครับ (กัดฟันพูด)
ลูกหาบทีมนี้มีความบอยแบนด์สูงมาก ชอบยืนเรียงกันเหมือนกำลังถ่ายโฆษณาอะไรสักอย่าง ฮ่าๆๆ พี่ๆแกก็ดูตื่นเต้นกับความสวยของที่นี่นะ เซลฟี่กันไม่หยุดเลย
วัวเด็กเจ้าถิ่น วัวที่นี่รู้งานจริง เหมือนรู้ว่าจะถ่ายรูปรีบมองกล้องเลย
เหมือนเปิดช่องฟีซแล้วไอเย็นค่อยๆ ไหลออกมาเลย
บรรยากาศ ความเปื่อย ความหมอก ความหนาว มาให้หมด / ที่นอนลูกหาบ นอนแบบไม่กลัวลมไม่กลัวทากกันเลย
“ฟ้าหลังฝนเขาบอกว่ามันงดงามเสมอ” ตั้งแต่มาเพิ่งได้เห็นท้องฟ้าจริงๆก็ตอนนี้แหละ
นั้นเป็นยอดที่เราต้องไปนอนกัน แต่ด้วยฝนถล่มน้ำไหลทางเละ บลาๆๆ เราเลยต้องนอนกันตรงนี้ ตอนเดินมาก็มองไม่เห็นอะไรเลยหมอกปิดหมด ปิดจนมี2คนในกลุ่มเราเดินขึ้นไปถึงยอดกันแบบไม่รู้ตัวเลย ฮ่าๆๆ / แต่เอาจริงๆนอนตรงไหนก็ได้บนนี้สวยทุกจุด
ได้เวลากินแล้ว เมนูวันนี้ หมูต้มโค้ก หมูย่าง หมูทอด เมนูหมูๆของแก๊งหมู อิอิ
หมูต้มโค้กอร่อยมากเวอร์ แนะนำเลย อาหารมื้อนี้อร่อยมาก หรือเราหิว? ไม่หรอกเป็นเพราะเราทำอร่อยมากกว่า ฮ่าๆๆ
เอาจริงๆนะ เราว่าลูกหาบถ่ายรูปเยอะกว่าเราอีก หันไปทีไรต้องมีสักคนที่ถ่ายรูปอยู่ ฮ่าๆๆ น่ารัก
ข้างบนมีทั้งวัวทั้งควายเลย จุดนี้หรือเปล่า ?! ที่ชาวบ้านบอกว่ามีเสือมากินควายไปเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา . . . .
หลังจากต่อสู้กับมรสุมกันมาตัวเปียกปอน เสียเลือดให้กับฝูงทาก เดินฝ่าทางขี้วัวเปียกๆและใส้เดือนยัก ทุกคนต่างเหนื่อยล้า หลังจากกินข้าวกันอิ่มและได้กินมันเผาร้อนๆ ทุกคนก็แยกย้ายกันไปนอน / หมอกหนาขนาดนี้ หมดหวังที่จะเจอทางช้างเผือกแล้ว. พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปดูอีกยอดดอยนึงให้ได้(ถ้าฟ้าเปิดนะ) กึ๊ดไนท์จ้าวว
มอนิ่ง เมื่อคืน แทบไม่เป็นอันหลับอันนอนเลย เหมือนลูกหาบจะมีปาตี้กัน ทั้งร้องเพลงทั้งเล่นไพ่ สนุกกันเลย ลูกหาบที่นี่ชอบถ่ายรูปและยังชอบร้องเพลงอีกด้วย มีความสุนทรี
ทะเลหมอกมาเสิร์ฟถึงหน้าเต็นท์เลย
ฟ้าเปิดแล้ว ทุกคนเริ่มออกเดินสู่ดงทากอีกครั้ง
วิวระหว่างทางในดงทาก นาขั้นบันไดในหุบเขา