ขอเริ่มเลยนะคะ เรากับแฟนรู้จักกันมาตั้งแต่เรียนมหาลัยแต่คนละคณะค่ะ ความฝันของแฟนเราคือเป็นออดิทในbig4 ซึ่งพอจบมาก็ได้เป็นสมใจอยากได้เป็นค่ะ ส่วนเราทำงานบริษัทฝรั่งทั่วไป(คนละสายกับแฟนค่ะ)
ตั้งแต่คบกันมาแน่นอนว่ามันต้องมีการเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว พอเริ่มทำงานเค้าเริ่มมีสังคมใหม่ เจอคนมากขึ้น สังคมบัญชีออดิทที่เค้าทำคือมีผญประมาณ95% ผชนี่น้อยมากๆ เวลาทำงานคือเรียกได้ว่าเลิกไม่เคยเป็นเวลา เร็วสุดคือ2ทุ่ม เสาร์อาทิตย์ยังต้องทำงาน ต่างกับเราที่ทำงานในออฟฟิศที่เน้นwork life balance เวลาเลิกงาน ทุกคนไปกินข้าวกับแฟน เจอแฟน แต่กับตัวเรา เหงาสุดๆเลยค่ะ
สิ่งที่เราเจอตั้งแต่แฟนเราเป็นออดิทคือ
1.แฟนต้องออกจ้อบต่างจังหวัดตลอด เดี๊ยวไปเชียงใหม่ เดี๊ยวไปเชียงราย คือไปแทบจะทุกจังหวัด ไปครั้งนึงคือเป็นอาทิตย์ 2อาทิตย์ โดยไปกับทีมที่เป็นผญทั้งหมด แฟนเราเป็นผชคนเดียวในทีม มีค้างคืนนอนโรงแรม พูดตรงๆเลยนะคะเราเชื่อว่าไม่มีแฟนคนไหนที่สบายใจหรอกค่ะที่แฟนต้องไปใช้ชีวิตเรียกได้ว่า24ชมกับผญคนอื่นที่ต่างจังหวัดเป็นอาทิตย์ ขนาดกลับถึงโรงแรมยังต้องไปนั่งทำงานต่อในห้องผู้หญิงโดยให้เหตุผลว่าต้องแชร์ไฟล์เดียวกัน ทำด้วยกัน ทำดึกๆดื่นๆ เรารู้สึกไม่มีความสุขเลยกับสิ่งที่เป็นอยู่ โดยที่ไม่สามารถแก้หรือทำอะไรได้เพราะมันคืองานของเค้า เราพยายามเข้าใจ ปรับกับสิ่งที่เค้าเป็น แต่บางทีเราก็แค่ผญคนนึง น้อยใจ คิดมาก
เค้าเป็นผชคนเดียวในทีม ดังนั้นการเทคแคร์ดูแลคนในทีมคือแฟนเราต้องทำหน้าที่นั้น บางทีเราก็น้อยใจและหึงนะคะ แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้เพราะคำว่ามันคืองานของเค้า
2.ถ้ามีจ้อบที่กรุงเทพ (ซึ่งเราและแฟนอยู่กรุงเทพ) ก็ยังเลิกดึกอยู่ดีค่ะ บางทีบอกเลิก3ทุ่ม เราก็ขับรถไปหานะคะ รอจะได้กินข้าวด้วยกัน สรุปเลิก5ทุ่ม เราก็นั่งรอบนรถไปสิ มันเป็นแบบนี้จนเราชิน จนเราน้อยใจ จนหายน้อยใจ เรียกได้ว่าคบกับเค้า ถ้าอยากเจอ ต้องรอ รอโดยไม่มีกำหนด
3.เสาร์อาทิตย์ยังต้องเข้าออฟฟิศ แต่เค้าดูมีความสุขทุกครั้งที่ได้เข้าออฟฟิศค่ะ ได้เจอคนในทีม (จากพฤติกรรมและสิ่งที่เค้าบอกค่ะ) ส่วนเวลาที่เราได้เจอกัน กินข้าวกัน เราแทบไม่ได้คุยกัน เห็นเค้านั่งตอบแต่ไลน์โดยให้เหตุผลว่า ทีมส่งงานมา ต้องตอบ เวลาคุยกันก็จะพูดถึงแต่เรื่องที่ทำงาน น้องคนนู้นอยากกินอันนั้น คนนี้ชอบกินร้านนี้ (คือพยายามเข้าใจนะคะว่าโอเคไปอยู่ด้วยกันเป็นอาทิตย์อาจจะมีคิดถึงคนในทีม แต่นี่อยู่กับแฟนนะ ถามเราหน่อยมั้ยว่าเปนยังไงบ้าง)
4.จะวันครบรอบ วาเลนไทน์ เทศกาลต่างๆ อย่าหวังว่าจะได้เจอ ตอนแรกก็นัดกันดิบดี เตรียมเซอร์ไพส์เรียบร้อย อยู่ดีๆมาบอกว่างานเข้า ไม่ว่างแล้ว เราพูดตรงๆว่าเสียใจค่ะ เราคิดมากขนาดที่วาเลนไทน์เค้าอยู่กับผญในทีม ทั้งๆที่ควรจะเป็นเราไม่ใช่หรอ คือเรารู้นะคะว่าเราอาจจะงี่เง่าไปเองมั้ง พยายามไม่คิด แต่มันห้ามไม่ได้เลยค่ะ
มันเป็นแบบนี้จนเราชา ทุกครั้งที่เรารู้สึกแย่คือเราต้องกลับมาปลอบใจตัวเองว่าเดี๊ยวมันก็ดี เพราะมันคืองานของเค้า เราน้อยใจและหึงเรื่องที่เค้าทำงานกับผญ ใช้ชีวิตแทบจะ24ชมกับผญคนอื่น เรายอมรับว่าเราหึง แฟนก็พูดแค่ว่าเชื่อใจเค้านะ ซึ่งเราพยายามอยู่นะคะ แต่สถานการณ์ต่างๆ บางทีมันก็ยากสำหรับผญคนนึงเหมือนกันที่จะต้องใจกว้างขนาดนี้ ถามว่ากลัวมั้ยว่าเค้าจะหวั่นไหวกับคนในทีม แน่นอนค่ะกลัวมาก สิ่งที่เราทำได้คือพยายามไม่งี่เง่าใส่ รู้สึกน้อยใจก็เก็บไว้ในใจเพราะรู้ว่าเค้าเครียดเรื่องงานมามากพอแล้ว คือตอนนี้เราไม่รู้ว่าเราควรทำยังไง เราแค่อยากให้เค้ามีเวลาให้เราบ้าง เข้าใจเราบ้างนะว่าเรารู้สึกยังไง หรือทำให้มันดีขึ้น แต่สิ่งที่เค้าบอกคือมันคืองาน เค้าแก้อะไรไม่ได้
เราอยากรู้ว่าเราต้องทนต่อไปแบบนี้อีกนานมั้ยคะ ต่อให้เค้าปรับตำแหน่งในอนาคต ตัวงานเค้ายังต้องเป็นแบบนี้อีกมั้ย เราควรดูแลใจเรายังไงดีค่ะ เราอาจจะพิมพ์วนไปวนมาไม่รู้เรื่อง ต้องขอโทษด้วยนะคะ ตอนนี้เราแค่รู้สึกว่าเราไม่รู้ว่าควรไปทางไหนดี
แฟนเป็นออดิท เลิกดีมั้ยคะ?
ตั้งแต่คบกันมาแน่นอนว่ามันต้องมีการเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว พอเริ่มทำงานเค้าเริ่มมีสังคมใหม่ เจอคนมากขึ้น สังคมบัญชีออดิทที่เค้าทำคือมีผญประมาณ95% ผชนี่น้อยมากๆ เวลาทำงานคือเรียกได้ว่าเลิกไม่เคยเป็นเวลา เร็วสุดคือ2ทุ่ม เสาร์อาทิตย์ยังต้องทำงาน ต่างกับเราที่ทำงานในออฟฟิศที่เน้นwork life balance เวลาเลิกงาน ทุกคนไปกินข้าวกับแฟน เจอแฟน แต่กับตัวเรา เหงาสุดๆเลยค่ะ
สิ่งที่เราเจอตั้งแต่แฟนเราเป็นออดิทคือ
1.แฟนต้องออกจ้อบต่างจังหวัดตลอด เดี๊ยวไปเชียงใหม่ เดี๊ยวไปเชียงราย คือไปแทบจะทุกจังหวัด ไปครั้งนึงคือเป็นอาทิตย์ 2อาทิตย์ โดยไปกับทีมที่เป็นผญทั้งหมด แฟนเราเป็นผชคนเดียวในทีม มีค้างคืนนอนโรงแรม พูดตรงๆเลยนะคะเราเชื่อว่าไม่มีแฟนคนไหนที่สบายใจหรอกค่ะที่แฟนต้องไปใช้ชีวิตเรียกได้ว่า24ชมกับผญคนอื่นที่ต่างจังหวัดเป็นอาทิตย์ ขนาดกลับถึงโรงแรมยังต้องไปนั่งทำงานต่อในห้องผู้หญิงโดยให้เหตุผลว่าต้องแชร์ไฟล์เดียวกัน ทำด้วยกัน ทำดึกๆดื่นๆ เรารู้สึกไม่มีความสุขเลยกับสิ่งที่เป็นอยู่ โดยที่ไม่สามารถแก้หรือทำอะไรได้เพราะมันคืองานของเค้า เราพยายามเข้าใจ ปรับกับสิ่งที่เค้าเป็น แต่บางทีเราก็แค่ผญคนนึง น้อยใจ คิดมาก
เค้าเป็นผชคนเดียวในทีม ดังนั้นการเทคแคร์ดูแลคนในทีมคือแฟนเราต้องทำหน้าที่นั้น บางทีเราก็น้อยใจและหึงนะคะ แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้เพราะคำว่ามันคืองานของเค้า
2.ถ้ามีจ้อบที่กรุงเทพ (ซึ่งเราและแฟนอยู่กรุงเทพ) ก็ยังเลิกดึกอยู่ดีค่ะ บางทีบอกเลิก3ทุ่ม เราก็ขับรถไปหานะคะ รอจะได้กินข้าวด้วยกัน สรุปเลิก5ทุ่ม เราก็นั่งรอบนรถไปสิ มันเป็นแบบนี้จนเราชิน จนเราน้อยใจ จนหายน้อยใจ เรียกได้ว่าคบกับเค้า ถ้าอยากเจอ ต้องรอ รอโดยไม่มีกำหนด
3.เสาร์อาทิตย์ยังต้องเข้าออฟฟิศ แต่เค้าดูมีความสุขทุกครั้งที่ได้เข้าออฟฟิศค่ะ ได้เจอคนในทีม (จากพฤติกรรมและสิ่งที่เค้าบอกค่ะ) ส่วนเวลาที่เราได้เจอกัน กินข้าวกัน เราแทบไม่ได้คุยกัน เห็นเค้านั่งตอบแต่ไลน์โดยให้เหตุผลว่า ทีมส่งงานมา ต้องตอบ เวลาคุยกันก็จะพูดถึงแต่เรื่องที่ทำงาน น้องคนนู้นอยากกินอันนั้น คนนี้ชอบกินร้านนี้ (คือพยายามเข้าใจนะคะว่าโอเคไปอยู่ด้วยกันเป็นอาทิตย์อาจจะมีคิดถึงคนในทีม แต่นี่อยู่กับแฟนนะ ถามเราหน่อยมั้ยว่าเปนยังไงบ้าง)
4.จะวันครบรอบ วาเลนไทน์ เทศกาลต่างๆ อย่าหวังว่าจะได้เจอ ตอนแรกก็นัดกันดิบดี เตรียมเซอร์ไพส์เรียบร้อย อยู่ดีๆมาบอกว่างานเข้า ไม่ว่างแล้ว เราพูดตรงๆว่าเสียใจค่ะ เราคิดมากขนาดที่วาเลนไทน์เค้าอยู่กับผญในทีม ทั้งๆที่ควรจะเป็นเราไม่ใช่หรอ คือเรารู้นะคะว่าเราอาจจะงี่เง่าไปเองมั้ง พยายามไม่คิด แต่มันห้ามไม่ได้เลยค่ะ
มันเป็นแบบนี้จนเราชา ทุกครั้งที่เรารู้สึกแย่คือเราต้องกลับมาปลอบใจตัวเองว่าเดี๊ยวมันก็ดี เพราะมันคืองานของเค้า เราน้อยใจและหึงเรื่องที่เค้าทำงานกับผญ ใช้ชีวิตแทบจะ24ชมกับผญคนอื่น เรายอมรับว่าเราหึง แฟนก็พูดแค่ว่าเชื่อใจเค้านะ ซึ่งเราพยายามอยู่นะคะ แต่สถานการณ์ต่างๆ บางทีมันก็ยากสำหรับผญคนนึงเหมือนกันที่จะต้องใจกว้างขนาดนี้ ถามว่ากลัวมั้ยว่าเค้าจะหวั่นไหวกับคนในทีม แน่นอนค่ะกลัวมาก สิ่งที่เราทำได้คือพยายามไม่งี่เง่าใส่ รู้สึกน้อยใจก็เก็บไว้ในใจเพราะรู้ว่าเค้าเครียดเรื่องงานมามากพอแล้ว คือตอนนี้เราไม่รู้ว่าเราควรทำยังไง เราแค่อยากให้เค้ามีเวลาให้เราบ้าง เข้าใจเราบ้างนะว่าเรารู้สึกยังไง หรือทำให้มันดีขึ้น แต่สิ่งที่เค้าบอกคือมันคืองาน เค้าแก้อะไรไม่ได้
เราอยากรู้ว่าเราต้องทนต่อไปแบบนี้อีกนานมั้ยคะ ต่อให้เค้าปรับตำแหน่งในอนาคต ตัวงานเค้ายังต้องเป็นแบบนี้อีกมั้ย เราควรดูแลใจเรายังไงดีค่ะ เราอาจจะพิมพ์วนไปวนมาไม่รู้เรื่อง ต้องขอโทษด้วยนะคะ ตอนนี้เราแค่รู้สึกว่าเราไม่รู้ว่าควรไปทางไหนดี