[CR][SR] แชร์ประสบการ์ ยื่นวีซ่านักเรียน เรียนภาษาที่แคนาดา แบบขอ study permit

อมยิ้ม13อมยิ้ม02ยิ้มยิ้มยิ้ม สวัสดีค่ะ จริงๆเราได้ยื่นวีซ่าไปเมื่อปลายปี ที่ผ่านมา แต่เพิ่งมีเวลาได้มา update ให้หลายๆคนที่อาจจะกำลังท้ออยู่ ในการยื่นวีซ่ามาเรียนภาษาที่แคนาดา เราเคยผ่านจุดนั้นมาแล้วเลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆที่บางคนยังลังเลหรือเผื่อเป็นแนวทางไม่มากก็น้อยค่ะ
เกริ่นก่อนค่ะ พอดีมีเพื่อนอยู่ที่โตรอนโต เพื่อนที่แคนาดาแนะนำให้ติดต่อกับพี่ที่ www.bigboxedu.com  เพราะเค้าเคยไปกับที่นี่
ส่วนตัว รู้สึกว่าพี่เจ้าหน้าที่ค่อนข้างเป็นกันเอง และเค้าช่วยดูแลเต็มที่จริงๆ การนัดเจอ รับเอกสารก็ค่อนข้างยืดหยุ่น นัดกันร้านกาแฟมั่งไรมั่ง และที่มาแชร์ประสบการณ์ในวันนี้ ก็เพราะประทับใจพี่เค้าจริงๆค่ะ T.T

อีกอันนึง คือ เรื่อง Statement และที่มาของการเงิน  จะแนะนำว่า ถ้าแพลนจะขอ Study Permit หรือยื่นวีซ่าแบบที่ต่อวีซ่าที่แคนาดาได้ ควรมีเงินหลัก 1.xx ล้าน(ยื่นวีซ่าจากที่ไทย) ทราบมาว่าแคนาดาค่อนข้างเข้มงวดเรื่องการสกรีนคน  นักเรียนทำงานพิเศษยากกว่าประเทศอื่นๆ เช่น ออสเตรเลีย ถ้าใครต้องการไปขุดทอง แนะนำว่า แคนาดาอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะนัก หรือถ้าจำนวนเงินยังไม่พอก็ลองดูแบบที่สมัครเรียนระยะเวลาสั้นลง แนะนำให้สอบถามเงื่อนไขกับเอเจ้นท์ดูอีกที

เท่ ในเลือกโรงเรียนอะไร ???
1. ในเมืองแน่นอน เพราะการเดินทางต้องสะดวก สำหรับกะเหรี่ยงอย่างเราคงไปไหนยาก ภาษาก็ไม่ดี
2. คิดว่าต้องเป็นที่รู้จัก เพื่อว่าเรียนต่อจะได้มี Pathway (พี่ตัวแทนแนะนำมา)
3. จริงๆ พี่แนะนำมา 3 โรงเรียน ค่ะ ผู้หญิง
   1 ที่ ดัง University Pathway เป็นที่รู้จัก แต่ คนไทยเยอะหน่อย ( คิดว่าไม่เยอะมากเพราะจริงๆคนไทยในโตรอนโตน่าจะน้อยอยู่แล้ว ถ้าจะเจอคงเจอที่นี่แหละ )
  1 ที่ จะมีหลายสาขาหน่อย ดังน้อยกว่าที่แรก เพราะเค้าไม่ค่อยทำตลาดมาก แต่ University Pathway รองลงมา แต่ข้อดี คือ มีหลายสาขาในหลายประเทศด้วย
  1 ที่ ตอบโจทย์เด็กเรียนการโรงแรม เลยอยู่ในเมืองแวนคูเวอร์ และอีกที่คือบน สกีรีสอร์ท ที่เคยเป็นที่แข่ง Olympic มันคงจะสวยมาก แต่ตัดทิ้งเพราะไม่ได้ไปแวนคูเวอร์สินะ
ลิง

>>> University Pathway คือ โปรแกรมเรียนภาษาที่เราเรียนจบหลักสูตรหรือ Level นี้แล้ว สามารถเลือก College หรือ มหาวิทยาลัย โดยไม่ต้องใช้คะแนนภาษาอังกฤษเข้า (ซึ่ง พี่เค้าก็บอกว่ามันไม่ง่ายยยยยย....... ถ้าคนขยันและประหยัด สอบเอง IELTS TOFEL ก็จะคุ้มกว่ามาก ) ข้อดีของหลักสูตร คือ เหมือนเรียนปรับพื้นฐานการเขียนรายงาน ฝึกพรีเซ้นต์ เพราะสกีลขั้นนี้ เราไม่เก่งเอาซะเลย

หลังจากได้โรงเรียนที่เราโอเคแล้ว ก็มาถึงการเตรียมเอกสารเพื่อยื่นวีซ่า  คร่อกฟี้
1. สเตทเม้นท์ที่บ้าน
2. ต้องบอกรายละเอียดให้หมด เช่น ว่างงาน จบอะไรมา แล้วคิดว่าจะทำอะไรต่อ ตอนคุยจะก็เขิล เบาๆ
3. อย่าอายที่จะพูดเรื่องเงิน เพราะ มันมีผลต่อการพิจารณา เตรียมเอกสารแล้วหากเงินไม่มี ก็มีโอกาสจะยื่นไม่ผ่านอยู่ดี
สเตตัสของเรา คือ ว่างงาน เพราะเพิ่งจบปริญญา ซึ่งพี่เค้าจะแนะนำว่า ต้องมีเหตุผลดีๆ ด้วยว่าทำไมเลือกไปเรียนภาษาที่แคนาดา มากกว่าการเรียนในประเทศ บลาๆๆ
4. เอกสารต้องครบ โยงใยชัดมาก ของเราก็หนาเป็นปึกๆ และต้องส่งแปล ซึ่งพี่เค้าได้แนะนำแหล่งแปลเอกสารให้ คือ ราคาถูก และสะดวก  เยี่ยม

หลังจากสมัครเรียน ซึ่งพี่เจ้าหน้าที่จะส่ง List ยาวมาก ซึ่ง เค้าบอกว่า ห้ามรำคาญนะ พี่จิ๊กเป็นไก่ ไก่ 555

pompomพี่ตัวแทนก็จะช่วยเราเตรียม
1. กรอกเอกสารวีซ่าที่เป็นภาษาอังกฤษ
2. รวบรวมเอกสารเพื่อประกอบการพิจารณา
3. ช่วยแนะนำการเขียน letter of intend เป็นจดหมายที่เขียนเพื่อบอกว่าวัตถุประสงค์ไปเรียนเพื่ออะไร เมืองไทยมีที่เรียนเยอะแยะประมาณนั้น
4. การเตรียมสเตทเม้นท์
5. Sponsor Letter คือ จดหมายผู้สนับสนุน อันนี้พี่เค้าบอกว่าของเราเขียนไม่ยากมากเพราะพ่อเป็นผู้สนับสนุน และลูกคนเดียว  
6. ยื่นวีซ่าให้
ดอกไม้ ค่าใช้จ่ายที่เราจะต้องจ่าย ได้แก่
1. ค่าสมัครวีซ่า 150 CAD. ซึ่งหากวีซ่าไม่ผ่านก็ไม่ได้คืน ตรงนี้ต้องเข้าใจก่อน พี่เค้าเน้นว่ามันเป็นข้อกำหนด
2. ค่า Cashier cheque ของ VFS. ประมาณ 684 บาท + ค่าธรรมเนียม 20 บาท (พีก็ใจดีวิ่งไปซื้อให้ หมู )
3. ค่าตรวจสุขภาพกับโรงพยาบาล ซึ่งแต่ละที่ไม่เท่ากัน ของเราไปที่ BNH เพราะในระหว่างตรวจเสร็จรอผล 2 ชม. พี่เค้าพาไป สนง ตำรวจเพื่อขอใบอาชญากรรมให้
หลังจากนั้น พอดีเหมือนเป็นช่วงที่วีซ่ารอนาน พี่มีส่งรูปมาให้ดู เราเลยแอบไปเที่ยวก่อนแล้วกลับมายื่นอีกที  ไซบีเรียนฮัสกี้ 55

--- นับจากวันที่เจอพี่เค้า 20 ตุลาคม >>>> สรุปเราได้ยื่นวีซ่าจริงๆ 25 พย (เตรียมเอกสารพร้อมยื่น  1 เดือนพอดี เพราะรอใบอาชญากรรมและแอบหนีเที่ยว )

                                               รู้สึกดีมากเพราะ มันเหลือ 10 สัปดาห์  ยิ้ม ในใบขีดฆ่า จาก 16 สัปดาห์ (โหดมากกกก)
และรอคอยไปค่ะ ทำโน่นนี้นั้น
  ผ่านไปเพียง 3 สัปดาห์ พี่ตัวแทนก็ส่งข้อความมาอีกค่ะ ว่า ผลออกแล้ว เห้ยยยยยย  พระเจ้า.. คิดในใจตอนนั้นว่า หรือจะไม่ผ่านนะ ;
                      

บอกตามตรงช่วงนั้นอ่านกระทู้คนที่มีปัญหาวีซ่าแคนาดา เยอะจนจิตตกมาก แต่พี่เจ้าหน้าที่แจ้งว่า 2 สัปดาห์ ก็เคยยื่นผ่านมาแล้ว ถ้าเราเตรียมเอกสารดีๆ ดังนั้น อย่าคิดมากเป็นปาล์มมี่ ประหลาดใจ

อ่อ... แต่ที่ไม่พอใจค่ะ คือ พี่เค้าแกล้งไม่เปิด รอให้มาลุ้นเอง ........ แต่สุดท้ายเราก็ขอให้เปิดก่อนนั่นแหละ 55 เพราะอดใจไม่ได้ และก็ก่อนจะเปิดจะเล่าเคสที่ไม่ผ่านและผ่าน เหมือนหนังม้วนแรกที่ขู่ตอนเตรียมเอกสาร คือ มีเงิน 10 ล้าน ไม่ผ่านก็มี เพราะไม่ตั้งใจเตรียมเอกสาร มีผู้ปกครองเป็นข้าราชการวีซ่าตกก็มีเพราะเหตุผลไม่เพียงพอที่จะไปเรียน  แต่มีเงินน้อยหลัก 1 ล้าน ว่างงานมา 1 ปี ผ่าน เพราะเหตุผลเพียงพอก็มี ทั้งหมดเป็นการพิจารณาของยมฑูต เอ้ย สถานฑูต นั่นเอง
                                                        
พี่เค้าใช้บริการส่งมาที่ออฟฟิศค่ะ

มีส่งภาพแหวกซองมาด้วยแบบเนียนๆ

และผลวีซ่าที่ออก ก็คือ ผ่าน !!!!!!!!


โดยรวมจากทั้งหมดดีใจมากจริงๆเพราะเป็นการตัดสินใจไปเรียนครั้งแรกในชีวิต ดีใจที่ วีซ่าผ่านเร็ว พี่เจ้าหน้าที่แนะนำดี เป็นกันเอง และก็ตามเอกสารจนที่บ้านชอบใจ เพราะเราเป็นคนช้ามาก ยังไงก็ขอบคุณพี่ๆ ทีมงาน Bigbox education ถ้าใครสนใจกิติดต่อเองเน้อ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะค่ะ ยิ้ม ติดขัดอย่างไรขอโต๊ดก่อนน้าาา และขอเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนๆที่ยังรอคอยวีซ่ากันอยู่ ขอให้โชคดีกันน้าค่า
see u in canada lol
ชื่อสินค้า:   www.bigboxedu.com
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่