ห้องเพลง**คนรากหญ้า**พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสีไม่มีกลุ่ม มีแต่เสียง 13/2/2561 - ราชินี Marie Antoinette

กระทู้คำถาม


สวัสดีครับอมยิ้ม17 สมาชิกห้องเพลงทุกๆท่าน วันนี้ MC แอ๊ด (WANG JIE) เข้าประจำการ ชดเชยวันเสาร์ที่ผ่านมาซึ่งได้ลากิจไป และวันพรุ่งนี้ก็จะชดเชยวันอาทิตย์ด้วยอีก 1 วันครับ อมยิ้ม36

วันนี้นำเรื่องของ พระนาง มารี อองตัวเน็ตต์ (Marie Antoinette) มาฝากครับ เรื่องราวของพระนางน่าสนใจและเคยถูกสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้ว

พระนาง มารี อองตัวเน็ตต์ (Marie Antoinette) เดิมคือ มาเรีย แอนโทเนีย โจเซปปา โจฮันน่า (Maria Antonia Josepha Johanna) ประสูติเมื่อ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 1755 ณ กรุงเวียนนา เป็นธิดาองค์ที่ 15 ของสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ที่ 1 แห่งโรมัน ดยุคใหญ่แห่งแคว้นทัสคานีแห่งราชสำนักลอเรนน์ กับสมเด็จพระจักรพรรดินีนาถมาเรีย เทรีซา แห่งออสเตรีย มารี อองตัวเนต ดำรงพระยศเป็น กษัตริย์แห่งฮังการี และราชินีแห่งแคว้นโบฮีเมีย อาร์คดัชเชสแห่งออสเตรียแห่งราชสำนักฮับสบูร์ก


อาร์คดัชเชสมารี อองตัวเนต เติบโตขึ้นที่พระราชวังฮอฟบูร์กในกรุงเวียนนา และปราสาทชอนบรุนน์ พระนางใช้ชีวิตแบบอิสระ ถูกเลี้ยงดูมาแบบง่ายๆ ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ไม่เข้มงวดดังเช่นราชนิกูลในราชสำนักฝรั่งเศส ในด้านการศึกษานั้น พระนางอ่านออกเขียนได้เมื่ออายุเกือบสิบชันษา เขียนภาษาเยอรมันได้บ้าง พูดภาษาฝรั่งเศสได้เพียงน้อยนิด ภาษาอิตาเลียนแทบจะไม่ได้เอาเสียเลย ส่วนทางด้านศิลปะ พระนางได้หัดเล่นฮาร์ปซิคอร์ด กับคีตกวีชื่อดัง คริสตอฟ วิลบัลด์ กลุค และเรียนนาฏศิลป์ฝรั่งเศสกับโนแวร์

เมื่อทรงพระชนมายุได้ 13 ชันษา เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 1769 มาร์กีแห่งดูร์ฟอร์ต มกุฎราชกุมารแห่งฝรั่งเศส ผู้เป็นหลานชายคนโตของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ได้มาสู่ขอพระนางเพื่ออภิเษก  จักรพรรดินีที่ขณะนั้นทรงเป็นหม้าย ได้ทรงสนพระทัยเพิ่มขึ้นในด้านการศึกษาของพระโอรสธิดา เพื่อจะได้สามารถจัดการอภิเษกสมรสได้ แต่เมื่อจักรพรรดินีมาเรีย เทเรซารีบตกปากรับคำ กลุ่มคนฝ่ายฝรั่งเศสที่เคร่งศาสนา ได้คัดค้านต่อต้านการหมั้นหมายซึ่งดำเนินการโดยดยุกแห่งชัวเซิล เอกอัครราชทูตฝรั่งเศส เนื่องจากจะเป็นการเอื้อประโยชน์กับออสเตรีย ศัตรูตลอดกาล พวกเขาถึงกับเรียกมารี อองตัวเนต ว่าที่พระชายาของมกุฎราชกุมาร ว่า "นางผู้หญิงแห่งออสเตรีย"


17 เมษายน 1770 มารี อ็องตัวแน็ต ได้ประกาศสละสิทธิ์ในการเป็นอาร์ชดัชเชสของราชสำนักออสเตรียอย่างเป็นทางการ 16 พฤษภาคม พระนางได้เข้าพิธีอภิเษกสมรสกับมกุฎราชกุมารฝรั่งเศสที่พระราชวังแวร์ซาย ในวันเดียวกันได้มีเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้น เมื่อบรรดาเจ้าหญิงแห่งแคว้นลอแรนของฝรั่งเศส ได้อ้างสิทธิ์ในการเป็นพระญาติกับองค์มกุฎราชกุมาร เพื่อให้ได้เต้นรำกับพระองค์ก่อนบรรดาอาร์ชดัชเชสจากออสเตรียที่มาร่วมงาน ท่ามกลางความกังวลของเหล่าผู้ดีทั้งหลาย ที่ได้มีการซุบซิบนินทาต่อต้าน "ผู้หญิงออสเตรีย" กันแล้ว และในเย็นวันนั้นเอง มีประชาชน 132 คนขาดใจตายกลางท้องถนน ในระหว่างพิธีเฉลิมฉลองงานมงคลอภิเษกสมรส นี่เป็นลางร้าย!

มกุฎราชกุมารีผู้เยาว์ชันษาทรงมีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่ในรั้วในวังของฝรั่งเศส พระสวามีของพระนางตีตนออกห่าง โดยการหนีไปออกป่าล่าสัตว์แต่เช้าตรู่ (ทั้งคู่เริ่มมีสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาอย่างแท้จริง ในเดือนกรกฎาคม 1773) พระนางต้องทนทุกข์กับการปรับตัวเข้ากับพระราชพิธีและขนบประเพณีแบบฝรั่งเศส ทรงเกลียดการใช้ชีวิตกับผู้คนรอบข้าง พระนางได้รับคำปรึกษาทางไกลจากกรุงเวียนนา โดยการเขียนจดหมายหลายฉบับกับพระมารดา และกับเคานต์แห่ง แมร์ซี-อาร์จองโต เอกอัครราชทูตออสเตรียประจำกรุงปารีสที่ประเทศฝรั่งเศส เขาเป็นผู้เดียวที่พระนางวางพระทัยได้ เนื่องจากดยุกแห่งชัวเซิลได้ถูกปลดจากตำแหน่งภายในเวลาไม่ถึงปีหลังการอภิเษกสมรส จากแผนการอันซับซ้อนซ่อนเงื่อนของมาดาม ดู บาร์รี พระสนมผู้ทรงอิทธิพลของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 จดหมายโต้ตอบกับเคานต์แห่งแมร์ซี-อาร์จองโต ได้กลายเป็นแหล่งข้อมูลชิ้นเยี่ยม ที่จะอธิบายชีวิตโดยละเอียดของมารี อ็องตัวแน็ตหลังการอภิเษกสมรสจนกระทั่งถึงการสิ้นพระชนม์ของพระนางมาเรีย เทเรซาที่หนึ่ง พระมารดาในปี 1780

ในแวร์ซายส์ พระนางใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย หรูหรา แสนสิ้นเปลือง จัดงานเลี้ยงที่ฟุ้งเฟ้อบ่อยครั้ง ตั้งวงพนันกับราชนิกุลด้วยเงินเดิมพันมหาศาล สร้างความอิจฉาริษยาให้แก่นางสนมและราชนิกูลพระองค์อื่นๆอย่างมาก  

หลังจากพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศสเสด็จสวรรคตใน ค.ศ. 1774 พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศสขึ้นครองราชย์ พระนางมารี อองตัวเนตได้ทรงขึ้นเป็นราชินีแห่งฝรั่งเศส พระนางยังคงใช้ชีวิตในแวร์ซายที่แวดล้อมไปด้วยพระสหายสนิทที่เป็นผู้ทรงศักดินาจำนวนหนึ่ง อย่างฟุ้งเฟ้อกับสิ่งบันเทิงเริงรมย์เช่นเคย นอกจากนี้ยังกล่าวกันว่าพระนางพยายามมีอิทธิพลทางการเมืองเหนือกษัตริย์ เห็นได้จากการที่แต่งตั้งและถอดถอนรัฐมนตรีหลายคนตามพระทัย หรือไม่ก็จากคำแนะนำของพระสหายสนิท จึงไม่แปลกที่กระแสต่อต้านพระนางจะเริ่มก่อตัวขึ้น

กลุ่มคนที่ต่อต้านได้ใช้วิธีโจมด้วยการแจกใบปลิวกล่าวหาว่าพระนางมีชายชู้ หรือแม้กระทั่งมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับสตรีด้วยกัน ใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่าย ไม่ว่าพระนางจะพยายามทำทุกวิถีทางที่จะต่อสู้กับกลุ่มที่ต่อต้าน แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ

19 ธันวาคม 1778 พระนางประสูติพระธิดาองค์แรกคือ มารี-เทเรสแห่งฝรั่งเศส 22 ธันวาคม 1781 ให้กำเนิดเจ้าชายหลุยส์-โจเซฟ มกุฎราชกุมาร และได้ได้ให้กำเนิดพระโอรสองค์ที่สองเมื่อ 27 มีนาคม 1785 คือเจ้าชายหลุยส์-ชาร์ล ดำรงตำแหน่งดยุคแห่งนอร์มงดี แต่การประสูติเหล่านี้ กลับนำปัญหามาให้พระนางตามมาด้วยถูกกล่าวหาว่า โอรสธิดานั้น ไม่ได้มีเชื้อสายของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ถึงขนาดว่ามีเสียงร่ำลือว่าจะมีการพิสูจน์สายเลือดของโอรสธิดา

ยังมีการกล่าวหาว่า พระนางพัวพันกับคดีกีเนส เรื่องอื้อฉาวในคดีสร้อยพระศอที่แม้ว่าพระนางจะไม่มีความผิดแต่ก็เสื่อมเสียพระเกียรติเป็นอันมาก การใช้จ่ายจำนวนมากในยามที่บ้านเมืองแร้นเเค้น ทั้งการใช้เงินจำนวนมากปรับปรุงพระตำหนักของพระนาง รวมทั้งเสียงประชดที่พระนางหลบไปใช้ชีวิตกับธรรมชาติอย่างไร้เดียงสาที่พระตำหนักเปอติ ทรีอานง ที่สร้างเป็นหมู่บ้านชนบท มีฟาร์มขนาดเล็กในพระราชวังแวร์ซายที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 สร้างพระราชทานให้พระนาง

การต่อต้านทวีความรุนแรงขึ้น มีการแจกจ่ายหนังสือต่อต้านระบอบกษัตริย์  ตั้งราคาพระเศียรของพระนางและกล่าวหาว่าพระนางจะลอบวางระเบิดรัฐสภาและต้องการส่งทหารเข้ามาในกรุงปารีส ประชาชนที่อดอยากไม่พอใจในการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยในราชสำนัก จึงลุกฮือบุกเข้าไปในพระราชวัง และตามประกบระหว่างทางที่บรรดาเชื้อพระวงศ์เดินทางหนีภัยกลับกรุงปารีส พร้อมกับขู่พระนางว่า จะใช้เสาโคมในกรุงปารีสแขวนคอพระนาง!

ต่อมากลุ่มก่อการปฏิวัติบุกเข้าสู่ปารีส และสามารถจับกษัตริย์กับราชินีได้ที่เมืองวาเรนน์-ออง-อาร์กอนน์ และได้นำตัวทั้งสองพระองค์กลับไปยังกรุงปารีส ในที่สุดพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ก็ต้องยอมรับระบอบประชาธิปไตย แม้ว่าทั้งสองพระองค์จะพยายามขอความช่วยเหลือจากราชวงศ์ต่างประเทศอย่างลับ ๆ ก็ไม่เป็นผล

แต่ความวุ่นวายยังไม่สงบลงง่ายๆ ประชาชนชาวฝรั่งเศสได้ลุกขึ้นต่อต้านอำนาจรัฐอีกครั้ง ความวุ่นวายเลวร้ายถึงขนาดมีการสังหารหมู่เชื้อพระวงศ์ และประชาชนกล่าวโทษว่าพระนางมารี อองตัวเนต เป็นผู้ทำให้เมืองหลวงนองไปด้วยเลือด และเรียกพระนางว่า "นางปิศาจ" หรือไม่ก็ "มาดามผู้เป็นปฏิปักษ์ต่อกฎหมาย"

21 มกราคม 1793 สภาคณะปฏิวัติแห่งชาติฝรั่งเศส ได้ลงมติให้ประหารพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ต่อมา 27 มีนาคม มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์ได้เรียกร้องกับสภาให้จัดการกับราชินี, 13 กรกฎาคม องค์มกุฎราชกุมารถูกลักพาตัวไปจากพระมารดา 2 สิงหาคม พระนางมารี อ็องตัวแน็ตถูกนำตัวไปยังทัณฑสถานกรุงปารีส การไต่สวนพระนางเริ่มต้นในวันรุ่งขึ้น พระนางถูกตั้งข้อหาโดยศาลปฏิวัติ โดยฟูกิเยร์-ทังวิลล์ ผู้ฟ้องร้องแทนประชาชน

แม้ว่าการพิจารณาคดีของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ยังคงไว้ซึ่งกระบวนการยุติธรรม แต่การพิจารณาคดีของราชินีมิได้เป็นเช่นนั้นเลย มีการทำสำนวนฟ้องขึ้นอย่างรวดเร็ว และเป็นเอกสารที่ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากฟูกิเยร์ เดอ ทังวิลล์ไม่สามารถหาเอกสารของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ได้ครบ เพื่อให้สามารถตั้งข้อกล่าวหาพระนางได้ เขาจึงใช้แผนให้มกุฎราชกุมารขึ้นให้การต่อศาลในทางเป็นปฏิปักษ์ต่อพระมารดา ซึ่งต่อหน้าศาล เจ้าชายน้อยได้กล่าวหาพระมารดาและพระมาตุจฉาว่าเป็นผู้สอนให้พระองค์สำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง และบังคับให้เล่นเกมสวาท พระนางมารี อ็องตัวแน็ตเรียกราชเลขามาขึ้นให้การ พระนางพ้นจากการถูกรุมประชาทัณฑ์ได้อย่างหวุดหวิด แต่ก็ยังถูกตั้งข้อกล่าวหาอีกว่าสมรู้ร่วมคิดกับประเทศมหาอำนาจต่างชาติ และเมื่อพระนางยังคงยืนกรานความบริสุทธิ์ นายแอร์มานน์ ประธานศาลปฏิวัติ ได้กล่าวว่าพระนางเป็น "ตัวการสำคัญที่ผลักดันให้เกิดการทรยศต่อหลุยส์ โอกุสต์" คดีพลิกกลายเป็นการพิจารณาคดีของทรราช

บทนำของสำนวนฟ้องส่วนหนึ่งกล่าวว่า "จากการพิจารณาเอกสารทั้งหมดที่ยื่นโดยผู้ฟ้องร้องแทนประชาชน ผลปรากฏว่า มารี อ็องตัวแน็ต หญิงหม้ายของหลุยส์ คาเปต์ เป็นผู้มีความละโมบเป็นที่สุด และเป็นหายนะอันใหญ่หลวงของชาวฝรั่งเศส"

พวกพยานที่ถูกจัดหามาไม่น่าเชื่อถือเท่าที่ควร พระนางให้การว่าพระนาง "เป็นเพียงแค่ภรรยาของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 เท่านั้น และพระนางก็ทำอะไรตามพระทัยของพระนางเอง" นายฟูกิเยร์-ทังวิลล์ ได้เรียกร้องให้ประหารพระนางและกล่าวหาว่าพระนางเป็น"ศัตรูอย่างเปิดเผยของชาติฝรั่งเศส" ส่วนนายทรองซง-ดือคูเดรย์ และนายโชโว-ลาการ์ด ทนายความสองคนของพระนางยังหนุ่มและขาดประสบการณ์ ทั้งไม่ได้เห็นเอกสารฟ้องก่อนขึ้นว่าความ ทำได้แค่เพียงอ่านออกเสียงบันทึกไม่กี่หน้าที่ตนได้จดเอาไว้

คณะลูกขุนต้องตอบถามคำถามสี่ข้อด้วยกันคือ
1.จริงหรือไม่ที่ได้มีการคบคิดและมีการแลกเปลี่ยนข่าวกรองกับประเทศมหาอำนาจต่างชาติ และศัตรูอื่นๆ นอกสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยที่การคบคิดและข่าวกรองดังกล่าวนั้นมีจุดมุ่งหมายให้ความช่วยเหลือทางการเงิน ให้พวกนั้นเข้ามาในดินแดนฝรั่งเศส และให้พวกนั้นพัฒนาอาวุธได้ ?
2. มารี อ็องตัวแน็ตแห่งออสเตรีย เราเชื่อว่านางได้มีส่วนร่วมมือกับการคบคิดและสนับสนุนการข่าวกรองดังกล่าวหรือไม่ ?
3. จริงหรือที่มีแผนการสมรู้ร่วมคิดและแผนข่าวโคมลอยที่พยายามจุดชนวนให้เกิดสงครามกลางเมืองภายในสาธารณรัฐฝรั่งเศส?
4. เราเชื่อว่ามารี อ็องตัวแน็ตได้มีส่วนร่วมในแผนสมรู้ร่วมคิดและข่าวโคมลอยนี้หรือไม่?

คณะลูกขุนได้ตอบว่าจริงและใช่ทุกข้อ มารี อ็องตัวแน็ตจึงถูกตัดสินประหารชีวิตในข้อเป็นทรราชย์ขั้นร้ายแรงเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ประมาณเวลาสี่นาฬิกาของรุ่งเช้า ในวันเดียวกันนั้นเอง ครั้นถึงเวลา 12.15 น. พระนางถูกประหารด้วยกิโยตินและเกศาหงอกขาวหมดทั้งพระเศียร! พระนางปฏิเสธจะสารภาพบาปกับบาทหลวงที่คณะปฏิวัติจัดหาให้ พระศพของพระนางถูกฝังในหลุมฝังศพลา มาเดอเลน บนถนนอองจู-ซังต์-ตอนอเร ต่อมาเมื่อวันที่ 18 มกราคม 1815 พระศพของพระนางจึงถูกขุดขึ้นมา และถูกย้ายไปฝังไว้ที่มหาวิหารแซ็ง-เดอนี เมื่อวันที่ 21 มกราคมปีเดียวกัน

ขอบคุณ ข้อมูลจาก http://www.vcharkarn.com/varticle/39680 และวิกิฯ

พบกันวันพรุ่งนี้ อีก 1 วันครับ หัวใจดอกไม้
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 25
สวัสดีค่ะ MC พี่แอ๊ด อ่านจบละ สนุกดีค่ะ เยี่ยมเยี่ยมเยี่ยม

เคยมีเป็นภาพยนตร์ด้วย

Marie Antoinette (2006) มารีย์ อองตัวเน็ต โลกหลงของคนเหงา

ว่าด้วยพระนางแมรี่ อังตัวเนต อันเป็นพระนามที่คู่กับประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสโดยเฉพาะในแง่การเปลี่ยนแปลงสังคมครั้งใหญ่

หนังเล่าเรื่องราวของพระนางอังตัวเนตอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่การเป็นเจ้าหญิง(ดัชชเชสส์) ของออสเตรีย มาแต่งงานกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ด้วยเหตุผลทางการเมืองในอายุแค่ 15 ปี (ทรงถูกเรียกว่า"หญิงออสเตรีย"จากพวกราชสำนัก) เด็กอายุแค่นั้นเดินทางมาต่างแดนเพียงลำพัง เพียงแค่วันแรกเท่านั้น เจ้าหน้าที่ก็จับสุนัขตัวเล็กๆที่เธอรักนักหนา หอบหิ้วมาด้วยกันทิ้งไปอย่างไม่ใยดี (พระองค์จะหาที่น่ารักกว่านี้ได้ถมไปในปารีส - เธอบอก)



ตอนนั้นพระองค์ยังไม่รู้ว่าที่นั้นยังจะโยนอะไรหลายๆอย่างของพระองค์ทิ้งไป เริ่มจากจิตใจรวมไปถึงชีวิตของพระองค์เอง

เมื่อชนชั้นแรงงานและฝ่ายซ้ายปฎิวัติฝรั่งเศส ได้เปลี่ยนการปกครองมาสู่ระบอบสาธารณรัฐ นักประวัติศาสตร์หลายๆคนมองพระนางอังตัวเนตว่าเป็นหญิงใจแตก / ฟุ่มเฟือย / เหลวไหล / ไม่เอาใจใส่ประชาชน / ไปจนตั้งข้อหาถึงขั้นว่าเป็นต้นเหตุแห่งการล่มสลายของราชวงศ์ฝรั่งเศส



สาวน้อยอายุแค่ 15 ปี ภายใต้สังคมที่หรูหราไฮโซ ไม่เพียงแต่ความเปลี่ยวเหงาที่พระองค์ต้องเจอจากพระสวามีที่ค่อนข้างเย็นชาในช่วงแรกๆ คนรอบข้างหลายๆคนล้วนนำพาพระองค์ไปในทิศทางที่ออกจะบิดเบี้ยว พระองค์ถูกปิดกั้นจากโลกภายนอก และถึงแม้จะพยายามทำดีอย่างเต็มที่ก็อดจะรู้สึกเหงาและไม่รู้จะทำอย่างไรไม่ได้อยู่ดี



หนังกำกับและเขียนบทโดย Sofia Coppola  อัดซีนแสดงความหรูหราฟุ่มเฟือยในราชสำนักฝรั่งเศสตอนนั้นมาเพียบ พระนางอังตัวเนตเอาแต่ดื่มกินอาหารชั้นดี / เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นว่าเล่น / ใส่รองเท้าปีละร้อยๆคู่ / ดูละครทุกวัน / เล่นการพนัน / ไปปิกนิค / ปาร์ตี้หน้ากากแฟนซี - ไม่มีใครจะหนีพ้นจากภาวะนั้นได้ พระนางฟังพวกเขานินทาว่าร้ายกัน พุดจาโอ้อวดประชันขันแข่งกัน กระทั้งเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ไปมาจนออกจะมั่วซั่ว

แต่นั้นไม่ได้เกิดจากอุปนิสัยของพระนาง แต่ถูกสังคมที่เป็นอยู่กลายกลืนสภาพ

Kirsten Dunst ที่รับบทพระนางอังตัวเนตแสดงได้ดีมาก เธอแสดงให้เห็นตั้งแต่ความไร้เดียงสาเมื่อเข้าวัง - ตอนวันแรกๆที่เธอมาอยู่และต้องยืนเปลือยกอดอกหนาวตัวสั่น รอพวกผู้ดีมาแย่งกันรอคิวใส่เสื้อให้นั้น ดูน่าสงสารมาก เธอแบกรับหนังเรื่องนี้ไว้ลำพัง และแสดง - ความพยายามเข้ากับผู้คน - ความเก็บกดที่ถูกหมางเมิน - ความเศร้าใจที่ถูกนินทาว่าร้าย ทั้งหมดทำได้ยอดเยี่ยม



Sofia Coppola ใช้เวลา 2 ชั่วโมงเต็มๆแต่เรื่องราวในวัง ให้เห็นที่มาที่ไปของพระนาง แก้ข้อเข้าใจผิดในประวัติศาสตร์ เธอกระทั้งเขียนบทให้ Kirsten Dunst พูดแก้คำพูดแห่งประวัติศาตร์ "let then eat cake" มาตรงๆ - "พวกข้างนอกใจร้ายมากเลย มาใส่ความว่า ฉันพูดว่าประชาชนไม่มีขนมปังก็ไปกินขนมเค้กแทนสิ ฉันจะพูดอย่างนั้นได้อย่างไร ฉันเสียใจจริงๆ"

  ความเสียพระทัยที่ต้องเก็บไว้ลำพัง

เรื่องราวทั้งหมดไม่ใช่เพราะพระนางใจแตก แต่ไม่รู้จริงๆว่าจะทำอะไร เพราะชีวิตที่รวยล้ำจนว่างเปล่า ทุกคนในสังคมนั้นต่างก็หาสิ่งต่างๆมาเติมเต็มชีวิต แม้จะเหลวไหลจนแทบจะไม่มีเหตุผลอะไร ไม่ใช่แต่คนเท่านั้น แม้สุนัขในวัง ก็ยังถูกห้อยสายสร้อยเพชรอย่างดี และมีขนมเค้กหรูหรากินเป็นอาหาร

หนังไม่มีฉากนอกวังเลย ไม่มีเรื่องราวของพวกประชาชนที่อดอยาก ไม่มีตัวละครวางแผนปฎิวัติ ไม่มีอะไรทั้งนั้น....



ขอบคุณที่มาข้อมูลและภาพประกอบ
http://oknation.nationtv.tv/blog/kakalot/2008/03/07/entry-1
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/02/K7529535/K7529535.html
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่