[SR] การท่องเที่ยวเชิงโภชนาการ ตะลุยคันไซ >>เกียวโต

ต่อจาก การท่องเที่ยวเชิงโภชนาการ ตะลุยคันไซ https://pantip.com/topic/37308634 อ่านพอได้บันเทิงนะแก
... ถึงแล้ว เกียวโต ที่พักเราเป็นบ้าน Airbnb ไม่ไกลจากสถานี แต่เนื่องจาก สถานีเกียวโตนั้นไม่ใช่เล็กๆ ออกมาจาก Shinkansen ก็จะงงหน่อยๆ ออกมาก็พยามหาว่าบ้านต้องเดินไปทางไหน สรุปเปิดเช็ค google map มันบอกเดิน 11 นาที อย่าไปคิดมาก ลากกระเป๋าวนกลับไปรอ Taxi #ปัญหาไหนที่เงินแก้ได้ไม่เรียกว่าปัญหา เก็บแรงไว้ทำอย่างอื่น ไม่เดินสิ ในใจก็เคืองเจ้าของบ้าน ที่โฆษณาว่าบ้านห่างจากสถานี 2 นาที เอาจริงๆ มันไม่ไกล ถ้าออกถูกทางออก แต่เพราะเจ้าของบ้านมันไม่ได้บอกไว้ไง ว่า ออกทางออกไหน เรามาเจอว่าจริงๆ บ้านกะสถานี ห่างกันแค่เดิน 5 นาที และหน้าบ้านมี bus stop ที่ตรงไปที่วัดคิโยมิซึ (Kiyomizu dera) ได้เลย ถ้าเรามีบัตร IC ที่ใช้กับระบบขนส่งมวลชนที่นี่ได้ ก็ใช้ได้เลย ถ้าไม่มีก็หยอดเงินเที่ยวละ 230 เยน อากาศวันนี้หนาวพอควร คือ 8 องศา วัตถุประสงค์หลัก คือการดูไฟที่วัดKiyomizu ซึ่งปีนี้จะแสดงเป็นวันสุดท้ายพอดีเพ๊ะ เราออกไปประมาณ 5 โมงเย็น ไปถึงก็เดินเข้าซอยไปเรื่อยๆ เนื่องจากช่วงนี้ ต้นไม้ยังคงเป็นสีเหลือง สีแดง บ้างก็ร่วงไปบ้าง แต่ที่วัดยังคงแดง คงจะเพิ่งผ่านช่วงพีคมา เลยร่วงไม่เยอะมาก คนที่ชอบถ่ายรูปกลางคืน แบบ งูๆ ปลาๆ เลยจะสนุกนิดนึง





จากที่เคยมาวัดกลางวัน การากลางคืนก็สวยไปอีกแบบ คือ ถ้าใครจะไปกลางคืน ก็ต้องไปช่วงที่เค้ามีการเปิดไฟเนาะ มันจะได้สวยๆ ไม่ใช่ว่าไปช่วงไหนก็เปิดไฟ ยิ่งช่วงนี้วัดอยู่ในช่วงที่ renovate เนื่องจากอายุวัดก็มีมาหลายร้อยปี คนเข้าชมปีนึงก็หลายสิบล้านคน ตัววัดเอง ที่เราอยากจะเรียกว่า ศาลาการเปรียญทำจากไม้ท่อนใหญ่บิ๊กบึ้มทั้งหมด เดินดูไปตื่นเต้นไปว่า โหยยยยย ต้นมันต้องใหญ่และสูงมากกกกก มันต้องใช้เวลาโตกี่ปี ก็ไม่เชิงว่าเป็นนักอนุรักษ์ป่าอะไร แต่ก็ตอนนี้เราไม่ควรตัดละเนาะ อ่อ คราวก่อนที่มาเราไม่ได้มุดลงไปใต้โบสถ์ การมากลางคืนก็ตื่นเต้นอีกแบบคือการลอดใต้โบสถ์มืดตื๊ดตื๋อ เดินคลำลูกประคำที่เป็นเหมือนราวนำทางเดินก็ให้ความรู้สึกตื่นเต้น คนที่เดินลงไปก็จะเดินแบบเงียบๆ เหมือนเป็นการฝึกจิตนับลูกประคำอะไรแบบนั้น พอออกมา ก็เดินไปศาลาการเปรียญ ถนัดเรียกแบบนี้ 555 แล้วก็เดินลงไปข้างล่าง ไฟสาดเข้าศาลาการเปรียญสวยดี แล้วก็ไปตักน้ำที่เค้าว่ากันว่า ศักดิ์สิทธิ์ ขอพรให้มีสุขภาพที่ดี การงาน การเงินดี ความรักดี

เอาหล่ะมาเรื่องมื้อแรกในเกียวโต เราออกจากวัดไปที่ Gion ถนนเส้นที่สวยเส้นนึงของเกียวโต จริงๆมันไม่ไกลจากวัดคิโยมิซึ  คือ ออกจากวัดเดินลงมาเรื่อยๆ ถึงถนน ก็ข้ามถนนไปรอรถเมล์ฝั่งตรงข้าม นั่งไปอีกนิดเดียวก็ถึง Gion นี่ตั้งใจมากจะไปกินสุกี้เนื้อลายหินอ่อน... ปรากฎว่า ร้านปิดดดดด ร้านปิดดดดด นี่ 21.00 ร้านปิด ฮือออ น้ำตาไหลลลลล เจ็บใจ รู้งี้ออกมาตั้งนานละ สรุปก็ทำใจ เดินเล่นไปมาก็คิดว่า วันนี้เราเดินทางมาเหนื่อย เดี๋ยวหาไรกินง่ายๆ เข้านอนแล้วเรามาใหม่ก็ได้ ร้านเป้าหมายเราคือ ร้านที่เพื่อนเรามาคราวก่อนแล้วประทับใจ พรุ่งนี้เจอกันละกัน
เรา 2 คนเดินออกมาจาก Gion ทางที่จะไปขึ้นรถเมลล์ เดินหาร้านของกิน เห้ออออ เกียวโตนี่มันเงี๊ยบเงียบ ปิดเร็วเหลือเกิน ร้านไหนๆ ก็หมุนป้าย Closed ใส่เรา เราเลยเดินมั่วๆ ไปเจอ ร้านราเม็ง... เอาเป็นว่า มันแย่เว้ย มันเป็นร้านแรก ที่เราใช้คำว่า แย่ เพราะมันกินแล้วกลัวไตวาย ไตทำงานหนักมาก ขนาดเป็นคนกินเค็มนะ กินหมูกะเส้น ให้มันจบๆไป เสียใจมาก แต่ก็กินเพื่ออยู่ พอกลับมาแถวบ้านที่พัก ก็มีร้านเหล้าที่เป็น café ขายกาแฟแต่เช้า มีอาหารอิตาเลี่ยน เราก็เดินเข้าไปจิบๆเบาๆ ให้ร่ายกายอบอุ่น ก่อนเดินอีก 10 ก้าวถึงที่พัก ... ยังคงเสียใจกะราเม็งไตวาย
พิกัดหรอ... เอาไว้ระวังตัวเนาะ เดินออกจาก Gion ข้ามถนน เดินเข้าซอยจากแยกนั้น สังเกตุง่ายๆ ตรงหัวมุมแยกคือ Trully Coffee เลี้ยวขวาแรก ร้านอยู่ห้องที่ 3-4 ทางขวามือ หน้าตาร้านคือ ประตูไม้ที่ สุดจะ Modern นั่นแหล่ะ จงระวัง


เช้าวันนี้เรามีแพลนไปเที่ยวแค่ 2 ที่เท่านั้นคือ Arashiyama และ Fushimi-Inari เราสองคนเดินออกจากบ้านไปที่สถานีรถไฟ สถานีเกียวโตซึ่งมันก็จริงๆของเจ้าของบ้าน ว่ามันไม่ไกล ขาสั้นๆแบบเราก็สัก 5 นาทีเอง ขายาว 2 เมตรก็เดิน 2 นาที เราไปถึงก็เลือกที่จะซื้อตั๋วรถเมลล์ Kyoto One Day Bus pass คนละ 500 เยน เอาจริงๆ อยู่เกียวโตใช้บัสก็สะดวกสบายดี นั่งชิลๆ มองบ้านเมืองที่นี่ก็เป็นโบนัสชั้นดี พอซื้อพาสเสร็จเราก็ไปขึ้นรถไฟไป Arashiyama ไปดูป่าไผ่
วันนี้อากาศหนาวแต่อากาศดี เนื่องจากเรามี Kansai Wide Pass เราสามารถใช้กับ JR ได้ วันนี้ใช้ พาส นั่งรถไฟไปแค่ 16 นาที ลงที่สถานี Saga-Arashiyama
แล้วเดินต่อจากสถานี จริงๆมีป้ายบอกทาง มีเจ้าหน้าที่รอที่จะให้ข้อมูลอยู่แล้ว ถามเค้า ยิ้มสวยๆ และก็เดิร ชิลๆ อีก ไม่นานก็ถึง Arashiyama Bamboo Grove คนที่ว่าไม่เยอะในวันจันทร์ที่แสนธรรมดา แต่นั่นก็เยอะแล้วสำหรับเรา และแน่นอนชนกลุ่มข้างหน้า อายุ 30-60 ปี เสื้อผ้าสีสด สดมาก บู้ทยาวถึงเข่า ทีมกล้องพร้อม ไม้เซลฟี่นั่นอีก.... อบอุ่นชะมัด คนไทยนี่เอง มองอีกมุม เค้าก็น่ารักดี แต่เวลาเดินผ่านเราเลือกจะหายใจเป็นภาษาญี่ปุ่น กลัวเค้ารู้ว่าเราเป็นคนไทย ไม่ใช่ไรนะ เราเกรงว่าจะคุยนาน เราเป็นคนเข้ากะคนแปลกหน้าไม่ง่าย 5555 อันนี้มุขนะข้ายิ้มง่าย ใจดี เข้ากะคนง๊ายยยย เราวา ถ้ามาเดินที่นี่ตอนไม่มีคน คงจะโคตรดี เดินๆ สูดอากาศดีๆ เต็มปอด แล้วเราก็กลับลงมา จริงๆ ที่นี่มีรถไฟสายโรแมนติก Sagano Romantic Train เค้าว่าเป็นรถไฟที่ดูใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุด และช่วงซากุระ ก็ไม่แพ้ที่ไหนในญี่ปุ่น แต่ช่วงที่เราไปคือ ต้นธันวาคม มันก็แอบเลทไปสำหรับใบไม้เปลี่ยนสี ราคาค่าตั๋วรถไฟไม่แพงค่ะ แค่ 620 เยนต่อเที่ยว แนะนำว่าให้นั่งตู้หมายเลข 5 ที่เป็นตู้แบบเปิด ยื่นหน้าออกไปได้ด้วย แหะๆ รอบนี้เราไม่ได้นั่งเพราะว่า เราเคยนั่งแล้ว และก็เลยอยากไปที่อื่นมากกว่า ซึ่งถ้าอยากหาข้อมูลที่นี่ เราว่า คนนี้เขียนไว้ดีเลยอ่ะ ลองหาข้อมูลเพิ่มเติม เอาจริงๆ เรื่องข้อมูลแบบนี้ เราว่า
1.เราไม่ค่อยถนัด
2.ตอนนี้มีเพื่อนใจดีแบ่งปันข้อมูลพวกนี้เยอะมาก เราใช้ตลอด
3.Google ใช้ง่ายใช้ดี ขอแค่มีอินเตอร์เนต
http://www.thetouristdiary.com/travel/japan/arashiyama

หลังจากออกจากที่นี่เราก็กลับไปขึ้นรถไฟ จากที่นี่ไปที่ Fushimi Inari ศาลเจ้าที่มีเสาสีแดงเรียงสวยงาม ใช่แก เห็นอื่นไปถ่าย เราก็จะคาใจนิดนึง ไหนขอได้สิ้ เราเป็นพวกไม่ชอบอ่าน หรือ ดูจากคนอื่น ของแบบนี้ต้องไปเสพเอง นั่งรถไฟจาก Saga-Arashiyama กลับไป Kyoto Station และเปลี่ยนรถไฟไปสายที่จะไป Nara ไปลง Inari Station แค่ 5 นาทีก็ถึงละ พอออกจากสถานี เราก็เจอกับวัดแล้ว ที่นี่ คือ Fushimi Inari Taisha

ตอนแรก เราเจอคน เราก็ท้อแหล่ะแก แต่ว่าเรื่องปกติ ที่ไหนที่เป็น Tourist Attraction ก็แบ่งปันกันชม นี่มั้งเลยเป็นสาเหตุให้เราเริ่มเที่ยวที่ที่ซุกซ่อน ที่เป็น Unseen มากขึ้น แต่มาที่นี่ ไม่ใช่ว่าเราไม่ชอบหรือผิดหวังนะ เราชอบแต่เราจะอยู่ที่คนเยอะๆ นานๆไม่ค่อยได้ ซึ่งเสาแดงๆ นี่ มีแบบขึ้นไป 1 สเตปแล้วก็เข้าไปไหว้ศาลเจ้าและสามารถเดินต่อไปได้อีกระดับ คือเดินขึ้นได้อีก และแน่นอน เด็กอ้วนเลือกที่จะเดินกลับ ด้วยช่องทางเดินอีกช่อง ขนานกะอันที่เดินขึ้นมา เบาๆ ไม่เหนื่อย เข่าไม่เสีย แก่อย่างมีคุณภาพ ต้องรู้จักสังขารตัวเองดี ป่ะค่ะ ไปหาของกินกัน




ระหว่างทางเดินลงจากวัด แยกมาทางขวามือ มีร้านขนม อาหารเรียงราย จำนวนร้านไม่มากนัก คนก็แวะชิม แวะซื้อกัน เราก็ซึ่งขนมกินเล่น จะต้องลงมาเจอของหนักเพราะนี่ ก็ปาไปบ่ายโมงแระ เราเลือกร้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นร้านแนะนำย่านนี้ คนที่เรารู้จักมาที่นี่ แทบจะทุกคนกินร้านนี้ ร้านปลาไหล มีหลายสิ่งที่ทำจากปลาไหล คือหน้าร้านมีความเรียลมาก ทำการแร่ การแหกท้อง ปิ้งโชว์หน้าร้าน  โอ้วววว ข้านี้ กลัวงูขั้นสุดและไม่ได้ชอบปลาไหลเป็นทุน ถึงกะใจสั่น แต่เพื่อนมาก็ต้องกิน อ่ะกินก็กิน หลายเสียงบอกว่าที่นี่ดี แต่ข้าก็ดูโชคไม่เข้าข้าง คือเราว่ามันยังคาว เกรงว่าจะคิดไปเองเพราะไม่ชอบปลาไหลเป็นทุนเดิม เลยหันไปถามเพื่อนที่เพิ่งมาที่นี่ไม่นาน มันก็บอก เออ คราวนี้ไม่ดีอ่ะ แต่คนส่วนมากว่าดี เราว่าไปแล้วก็ควรไปชิม ที่นี่มี coke Kyoto Edition ขวดน่ารักดี ประเทศบ้าอะไรไม่รู้ กุ๊กกิ๊ก ดีเทลเยอะดีจริงๆ

หลังจากมื้อนี้ เราก็กลับไปที่ Kyoto Station ไปกินหนม จิบกาแฟ เพราะพยากรณ์บอกว่าฝนจะตก เราก็กลับไปชิล นอนพักร่าง เอาจริงๆ เกียวโตน่ารักมาก และมีอีกหลายวัด หลายที่ให้เที่ยว แต่เราสองคนเคยมาที่นี่แล้วเลยไปเท่าที่อยากไป เอิ่ม นี่เป็นนักท่องเที่ยวประเภท ไม่กลัวไม่คุ้ม ของแบบนี้อยู่ที่ใจ
ข้ามมาเย็นเลย เราตั้งใจจะกลับไป Gion เพื่อร้านสุกี้เนื้อ โบราณ ที่หน้าตาร้านดูแบบมีตำนานมายาวนาน ที่นั่งในร้านไม่เยอะ เราสองคนรอคิวเกินครึงชั่วโมง ดีนะ เราออกมาตอนที่ยังไม่หิวมาก

เราว่า ร้านนี้คือ อร่อยมากกกก ลายเนื้อหินอ่อนเนี่ย ให้เกียรติเรามาก นุ่มนิ่ม ละลาย ตอนแรกเห็นคิดว่า ไม่อิ่มแน่ เราเลยสั่งกุ้งเทมปุระมา หน้าตาดี เสิร์ฟมาแบบผู้ดีมาก ระหว่างที่กินไป รวมเครื่องเคียง กะข้าวก็ทำเราอิ่มมากเหมือนกัน โถ.... อ้วนเอ้ยยย


เนื่องจากความอิ่มมาก ทำให้เราต้องออกมาเดินย่อย เราไปหาเหล้าจิบเบาๆ แถวตรอกเล็กริมน้ำ ไม่ไกล Gion นัก เป็นย่านกินดื่ม ชื่อ พอนโตโชะ (Pontocho) เป็นที่หนุ่มสาวเกียวโตที่มีความสามารถจ่ายหน่อย จะ hangout แถวนี้ เพราะราคาก็ไม่ได้ไก่กาอ่ะแก แถวนี้สายเนื้อหลายสาย บอกว่า ดีมากเหลือเกินเช่นกัน เราไม่รีวิวละกัน เพราะเราพูดไม่ได้เราไม่ได้กิน แต่เราไปจิบ ที่ร้านนึง ป้ายน่ารักเลยเข้าไป hello doll แก... มันดีเลย ร้านหรอ ป่าววววว บาร์เทนเดอร์ 555 เหล้าก็ดี คนไม่เยอะ เปิดเพลงแจ๊สเบาๆ ชอบเชียว




เกียวโตนี่มันชิลลลล จริงๆนะ เราเชื่อว่า นางเป็นเมือง favorite ของใครหลายๆคน... อิ่มแล้วเข้านอนได้
ชื่อสินค้า:   เกียวโต , Arashiyama , Kinkakuji , Fushimi Inari Shrine
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่