ยุคของการเปลี่ยนแปลงในหลายๆอย่าง กำลังเร่งตัวเองอย่างชัดเจน
เราเข้าสู่ Digital age มาพักใหญ่ ตั้งแต่ มือถือเลิกมีปุ่ม
มีตัวเลือกมากมายบนสื่อให้เสพ
แต่ที่ อมตะก็ว่าได้ คือ "ละครไทย" ที่มีแต่เนื้อหา ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
เรื่องตายตัวของละครแน่ๆคือ
1. นางเอก พระเอก ต้องสวยหล่อ เด่น Rating ต้องสูงส่ง ซึ่งก็เลือกลงมาจากหิ้งของค่ายผู้จัด มันก็พวกหน้าเดิมๆ ไม่ได้เหมาะกับบทบาท ไม่มีความเข้าถึง
บทของตัวละคร คือ พยายามจะเป็น แต่หน้ามันเป๊ะพลาสติกเกินไป จนนั่งดูแค่ 1 นาที ก็เลี่ยนแล้ว หรือแค่เปิดผ่านมาเห็นแว๊ป ก็ไม่รู้สึกว่ามันดึงดูดความสนใจเราเลย ... หัดคัดหน้าตา คนแสดงที่มัน ใช่เลยกับบท กับ plot เรื่องที่ต้องมาถ่ายทอดอารมณ์ แล้ว train คนๆนั้น ให้เหมือนกับนี่
คือเรื่องจริงในชีวิตคุณ หน้าไม่ต้องทำมา เอาหน้าสดๆแท้ๆมาแสดง --> ดูหนังฝรั่งได้ครับ หน้าแท้ โทรมเป็นโทรม สวย หล่อ ก็ไม่ต้องทำ เป็นธรรมชาติ ไม่ต้องโบ๊ะขาววอก หรือ หล่อเนี๊ยบ ใส่สูท อย่างกะ กทม
หิมะตก เช่น ถ้าถ่ายทอดเรื่องราวพระเอกพระนางในชนบท ก็ไปคัดคนที่หน้าตาเหมาะสม
ใน ต่างจังหวัดสิครับ จะมาเอา หน้าพลาสติกในเมือง แล้วไปอนุมานว่าเป็นคนบ้านนอก มาพยายามดัดสำเนียงมั่วๆ ให้เหมือน มันเป็นความใจแคบของผู้จัด และขี้เกียจทำงานอย่างชัดเจนมากๆครับ - -"
2. แก่นของเรื่อง เนื้อหา มันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ต้องเป็นการพลัดพลาก ระหว่างพระเอกนางเอก มีเรื่องตรงกลางแบบเหมือนจะร้ายแรง
สุดท้าย กลับมาอยู่ด้วยกันได้ แล้วสุดท้ายก็เป๊ะ ป้าบ ป้าบ กัน - -" หรือ ตัวร้าย ก็ท่องบทมาแบบเป๊ะมาก จนรู้อยู่ตลอดว่า นี่คือท่องมา มันไม่สื่ออารมณ์เหมือน นี่คือ เรื่องจริงของชีวิต ตามบทที่ดาราคนนั้นได้รับ --> สังเกต หนังฝรั่ง เราจะนึกไปเลยว่า นี่มันเรื่องจริงของตัวละครแน่เลย แววตา น้ำเสียง ท่าทาง
เห้ย นี่ดูเรื่องจริงอยู่อ่ะ แล้วหลายเรื่อง พระเอกนางเอก ตอนจบไม่ได้มาเป๊ะ ป้าบ ป้าบ ก็ใช้ชีวิตต่อไป เออ นี่ล่ะ ชีวิตจริงมันเป็นแบบนี้ มันไม่ลงตัวไง
3. นายร้าย หรือ นางร้าย ต้องเดือดร้อน เรื่องแย่งเงิน โกงเงิน พระเอกหรือนางเอก ไม่สำเร็จร่ำไป ^^ คือ ชีวิตมันจะมีแค่นี้ว่างั้นใช่มั้ยครับ? เป็นที่มาของรางวัล นางร้าย นายร้าย ว่าแสดงสมบทบาทมากกกกก แหกปากก็ขนาดนั้น ตบ ตี ใช้กำลัง เก่งงงงง ( น่าจะมี rating ละครไทยด้วย เผื่อ
เยาวชนนั่งดู มันซึมซับความรุนแรงนะครับ เด็กถูกปลูกฝังให้ได้มาซึ่งทุกอย่าง ด้วยการแหกปาก และ ใช้กำลังเข้าทำร้ายร่างกายกัน)
4. บทพูด มันจะใช้คำเป็นทางการตั้งแต่คำแรก จนจบประโยค พวกดาราประกอบ เช่น คนขับรถ ตำรวจ แม่บ้าน และอื่นๆ สำคัญมากนะครับ พวกนี้ จะเสริมให้หนังมัน flow ได้เป็นธรรมชาติ แต่บร๊ะเจ้า ออกมาแต่ละที เหมือน เพิ่งแจ้งว่ามีบทเล่น 2 นาที ก่อนถ่าย ... พูด แสดง ได้หุ่นยนต์เรียกพี่ -->
หนังฝรั่ง ดาราประกอบ เป็นตัวขับหนังเลยนะครับ หรือ ในซีรี่ย์ ใช้ดาราประกอบ มาหักมุมหนังทั้งเรื่องได้เลย มันขับรสชาติของหนังขึ้นมาแบบ ได้ใจที่สุด
จริงๆ ค่ายที่ทำหนังโรง หลายๆค่าย ทำออกมาดีเลย หนังไทยในโรงหลายเรื่องดีเลย ทำไมค่ายหนังเหล่านั้น ไม่มีโอกาสมาทำหนังซีรี่ย์ ไม่ต้องเรียกว่าละครหรอกครับ มันควรจะหมดยุคแล้ว แล้วออกอากาศ ช่องปกติบ้าง ค่อยๆให้คนดูปรับทัศคติไป เลิกคิดว่า ชึวิต ต้องแหกปาก ตบ ตี แล้วจะดีไปทีละนิด
เอา plot เรื่องจากความจริง ในชีวิตประจำวันมาทำดู มากมายหลายแง่มุมครับ หาแก่นที่จะนำเสนอในซีรี่ย์นั้นๆ ฉาย 3 เดือน ติดจบ แบบนี้
มันทำได้หลายทางแน่ๆ แค่เริ่มใส่ความคิดสร้างสรรค์ คิดก่อน อยากให้คนดูได้อะไรจากหนัง จากซีรี่ย์ ที่ผ่านมา มันเหมือน ทำๆออกมาให้มันมีฉายบนช่อง 3 5 7 9 เอาเงิน มีกำไร รับรางวัล จบ ... ช่องเหล่านี้ กำลังตายแน่ๆครับ เพราะคนยุคใหม่ๆ เค้ารับสื่อจาก ต่างประเทศมากมาย
Preferences หรือความชอบ ความนิยม และโลกทัศน์ มันกว้าง ไม่เหมือน เมืองไทยสมัยกิน ยาแผ่นดอกงเหล้าตราน้ำเต้าทองแล้ว
ต่อให้ไป TV Digital ถ้าผู้กำกับ ยุค ครึ่งศตวรรษที่แล้วทำ ก็จะไปไม่รอดถ้าไม่พัฒนาเนื้อหา และองค์ประกอบที่จะนำมาผลิต
ทำไมละครไทยเนื้อหา ตบตี แบ๊วเลี่ยน ลงตัวแบบเป๊ะๆ ยังถูกผลิตออกมาได้ตลอดๆ
เราเข้าสู่ Digital age มาพักใหญ่ ตั้งแต่ มือถือเลิกมีปุ่ม
มีตัวเลือกมากมายบนสื่อให้เสพ
แต่ที่ อมตะก็ว่าได้ คือ "ละครไทย" ที่มีแต่เนื้อหา ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
เรื่องตายตัวของละครแน่ๆคือ
1. นางเอก พระเอก ต้องสวยหล่อ เด่น Rating ต้องสูงส่ง ซึ่งก็เลือกลงมาจากหิ้งของค่ายผู้จัด มันก็พวกหน้าเดิมๆ ไม่ได้เหมาะกับบทบาท ไม่มีความเข้าถึง
บทของตัวละคร คือ พยายามจะเป็น แต่หน้ามันเป๊ะพลาสติกเกินไป จนนั่งดูแค่ 1 นาที ก็เลี่ยนแล้ว หรือแค่เปิดผ่านมาเห็นแว๊ป ก็ไม่รู้สึกว่ามันดึงดูดความสนใจเราเลย ... หัดคัดหน้าตา คนแสดงที่มัน ใช่เลยกับบท กับ plot เรื่องที่ต้องมาถ่ายทอดอารมณ์ แล้ว train คนๆนั้น ให้เหมือนกับนี่
คือเรื่องจริงในชีวิตคุณ หน้าไม่ต้องทำมา เอาหน้าสดๆแท้ๆมาแสดง --> ดูหนังฝรั่งได้ครับ หน้าแท้ โทรมเป็นโทรม สวย หล่อ ก็ไม่ต้องทำ เป็นธรรมชาติ ไม่ต้องโบ๊ะขาววอก หรือ หล่อเนี๊ยบ ใส่สูท อย่างกะ กทม
ใน ต่างจังหวัดสิครับ จะมาเอา หน้าพลาสติกในเมือง แล้วไปอนุมานว่าเป็นคนบ้านนอก มาพยายามดัดสำเนียงมั่วๆ ให้เหมือน มันเป็นความใจแคบของผู้จัด และขี้เกียจทำงานอย่างชัดเจนมากๆครับ - -"
2. แก่นของเรื่อง เนื้อหา มันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ต้องเป็นการพลัดพลาก ระหว่างพระเอกนางเอก มีเรื่องตรงกลางแบบเหมือนจะร้ายแรง
สุดท้าย กลับมาอยู่ด้วยกันได้ แล้วสุดท้ายก็เป๊ะ ป้าบ ป้าบ กัน - -" หรือ ตัวร้าย ก็ท่องบทมาแบบเป๊ะมาก จนรู้อยู่ตลอดว่า นี่คือท่องมา มันไม่สื่ออารมณ์เหมือน นี่คือ เรื่องจริงของชีวิต ตามบทที่ดาราคนนั้นได้รับ --> สังเกต หนังฝรั่ง เราจะนึกไปเลยว่า นี่มันเรื่องจริงของตัวละครแน่เลย แววตา น้ำเสียง ท่าทาง
เห้ย นี่ดูเรื่องจริงอยู่อ่ะ แล้วหลายเรื่อง พระเอกนางเอก ตอนจบไม่ได้มาเป๊ะ ป้าบ ป้าบ ก็ใช้ชีวิตต่อไป เออ นี่ล่ะ ชีวิตจริงมันเป็นแบบนี้ มันไม่ลงตัวไง
3. นายร้าย หรือ นางร้าย ต้องเดือดร้อน เรื่องแย่งเงิน โกงเงิน พระเอกหรือนางเอก ไม่สำเร็จร่ำไป ^^ คือ ชีวิตมันจะมีแค่นี้ว่างั้นใช่มั้ยครับ? เป็นที่มาของรางวัล นางร้าย นายร้าย ว่าแสดงสมบทบาทมากกกกก แหกปากก็ขนาดนั้น ตบ ตี ใช้กำลัง เก่งงงงง ( น่าจะมี rating ละครไทยด้วย เผื่อ
เยาวชนนั่งดู มันซึมซับความรุนแรงนะครับ เด็กถูกปลูกฝังให้ได้มาซึ่งทุกอย่าง ด้วยการแหกปาก และ ใช้กำลังเข้าทำร้ายร่างกายกัน)
4. บทพูด มันจะใช้คำเป็นทางการตั้งแต่คำแรก จนจบประโยค พวกดาราประกอบ เช่น คนขับรถ ตำรวจ แม่บ้าน และอื่นๆ สำคัญมากนะครับ พวกนี้ จะเสริมให้หนังมัน flow ได้เป็นธรรมชาติ แต่บร๊ะเจ้า ออกมาแต่ละที เหมือน เพิ่งแจ้งว่ามีบทเล่น 2 นาที ก่อนถ่าย ... พูด แสดง ได้หุ่นยนต์เรียกพี่ -->
หนังฝรั่ง ดาราประกอบ เป็นตัวขับหนังเลยนะครับ หรือ ในซีรี่ย์ ใช้ดาราประกอบ มาหักมุมหนังทั้งเรื่องได้เลย มันขับรสชาติของหนังขึ้นมาแบบ ได้ใจที่สุด
จริงๆ ค่ายที่ทำหนังโรง หลายๆค่าย ทำออกมาดีเลย หนังไทยในโรงหลายเรื่องดีเลย ทำไมค่ายหนังเหล่านั้น ไม่มีโอกาสมาทำหนังซีรี่ย์ ไม่ต้องเรียกว่าละครหรอกครับ มันควรจะหมดยุคแล้ว แล้วออกอากาศ ช่องปกติบ้าง ค่อยๆให้คนดูปรับทัศคติไป เลิกคิดว่า ชึวิต ต้องแหกปาก ตบ ตี แล้วจะดีไปทีละนิด
เอา plot เรื่องจากความจริง ในชีวิตประจำวันมาทำดู มากมายหลายแง่มุมครับ หาแก่นที่จะนำเสนอในซีรี่ย์นั้นๆ ฉาย 3 เดือน ติดจบ แบบนี้
มันทำได้หลายทางแน่ๆ แค่เริ่มใส่ความคิดสร้างสรรค์ คิดก่อน อยากให้คนดูได้อะไรจากหนัง จากซีรี่ย์ ที่ผ่านมา มันเหมือน ทำๆออกมาให้มันมีฉายบนช่อง 3 5 7 9 เอาเงิน มีกำไร รับรางวัล จบ ... ช่องเหล่านี้ กำลังตายแน่ๆครับ เพราะคนยุคใหม่ๆ เค้ารับสื่อจาก ต่างประเทศมากมาย
Preferences หรือความชอบ ความนิยม และโลกทัศน์ มันกว้าง ไม่เหมือน เมืองไทยสมัยกิน ยาแผ่นดอกงเหล้าตราน้ำเต้าทองแล้ว
ต่อให้ไป TV Digital ถ้าผู้กำกับ ยุค ครึ่งศตวรรษที่แล้วทำ ก็จะไปไม่รอดถ้าไม่พัฒนาเนื้อหา และองค์ประกอบที่จะนำมาผลิต