ผจญภัยดาลัดยาวไปๆ

Day2 เดินทางจากโฮจิมินห์ --->ดาลัด

หลังจากกลับจากอุโมงค์กูจี๋ เรามีแผนที่จะไปเที่ยวดาลัด โดยซื้อแพคเกจทัวร์ของบริษัท  Wingstour  ราคา3,500 บาท
ดาลัด 2 days trip, มุยเน่ 1 day trip ราคานี้รวมรถทัวร์จากจากโฮจิมินห์ไปดาลัด, ดาลัดไปมุยเน่ และจากมุยเน่กลับโฮจิมินห์
แต่ไม่ไปส่งที่ที่พัก ต้องลงที่ขนส่งเอง แต่รถทัวรจะไปรับที่โรงแรม เพราะเราจองโรงแรมผ่าน Booking.comไปแล้ว

เราขึ้นรถทัวร์ 2ชั้นจากโฮจิมินห์ไปดาลัดที่ขนส่งฟาร์มงูเหลา เราขึ้นรถประมาณ2 ทุ่ม ครึ่ง ตามกำหนดการน่าจะถึงดาลัดประมาณเกือบ 6 โมงเช้า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7-8 ชม.




ประมาณเกือบเที่ยงคืน เค้าจะจอดให้ลงไปกินขนม เข้าห้องน้ำประมาณ 15 นาที  อารมณ์ประมาณรถทัวร์สายใต้ กำลังเคลิ้มๆ
มาปลุกด้วยความปรารถนาดี เค้าล้อเล่น

มีเรื่องเหนือความคาดหมายอีกเรื่อง คือรถทัวร์ถึงดาลัดประมาณตี3 กว่า ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเกือบ3 ชม. รถจอดให้ผู้โดยสารลงหน้าขนส่ง โอ้วๆๆๆ ทำไงดีล่ะที่นี้ เม่าตกใจ มืดตื๋อ  แถมมาคนเดียว คนที่มารถคันเดียวกันกับเราน่าจะเป็นต่างชาติทั้งหมดแต่เค้ามากันเป็นกลุ่ม หรือไม่ก็มากันเป็นคู่  แถมอากาศก็เย็นยะเยือก อากาศตอนนั้นราว 10-12องศา แถมฝนตกปรอยๆ

มีรถมอเตอร์ไซค์และรถแทกซี่จอดรออยู่หน้าขนส่ง เราอาจจะใช้บริการรถรับจ้างที่จอดรอหน้าขนส่งก็ได้ ถ้าเราไม่โดนหลอกจากโฮจิมินห์

นี่คือด้านดีของประสบการณ์ที่สอนให้เราไม่ประมาทประหลาดใจ

เราลากกระเป๋าตามคนที่นั่งรถคันเดียวกันกับเราเข้าไปในล็อบบี้ของขนส่ง พยายามรวบรวมสติว่าจะทำยังไงต่อไป เรานั่งฟังกลุ่มข้างโต๊ะเราตุยกันซักพัก

เนื่องจากดูซีรี่ย์เกาหลีมาหลายเรื่องคาดว่ากลุุ่มนี้น่าจะเป็นคนเกาหลี อีกคู่นีงน่าจะมาจากญี่ปุ่น อีกคู่นึงน่าจะมาจากมาเลย์หรือไม่ก็อินโด เราเลือกเข้าไปคุยกับคนที่พูดภาษามลายู เพราะเราพอจะเข้าใจภาษามลายูนิดหน่อย

เราเข้าไปตีเนียนถามว่าจองที่พักแล้วหรือยัง ชวนให้เดินไปที่พักด้วยกัน  เค้าเป็นคนอินโดนีเซียค่ะ เดินทางท่องเที่ยวในแถบอินโดจีน เราก็เลยชวนเค้าเดินไปหาที่พักด้วยกันเพราะเราไม่รู้ว่าที่พักเราอยู่ส่วนไหนของดาลัด ใจนึงเราก็กลัวแต่ใจนึงก้็ต้องเสี่ยง ดีกว่านั่งอยู่ที่เดิม

เราลากกระเป๋าเดินกันไป คุยกันไป หลงกันไป  คุยกันเหมือนคนที่รู้จักกันมาสิบปี เดินกันตั้งแต่ฟ้ามืด จนกระทั่งฟ้าสว่าง เราถึงที่พักเกือบ 6โมงเช้า ทัวร์ที่เราซื้อไว้จะมารับเรา 8 โมง ส่วนเพื่อนใหม่เราเค้าเช่ามอเตอร์ไซค์เที่ยวกัน เราตกลงกันว่าหลังจากที่เราจบทริปวันนี้ ราว 6 โมงเย็น เราจะไปแว๊นรอบเมืองดาลัดกันเม่าดี๊ด๊า

Day 3  ทริปชนบทของดาลัด

รถมารับหน้าที่พักผู้ร่วมทริปกับเราเป็นชาวต่างชาติซึ่งทุกคนมากันเป็นคู่ เนื่องจากดาลัดเป็นเมืองเย็นตลอดปี สถาปัตย์อาคารสวยงาม
ตามแบบเมืองฝรั่งเศส ภูมิประเทศเป็นภูเขา  คู่รักจึงนิยมมาเที่ยวและฮันนีมูนกัน ระหว่างนั่งรถเราก็สัปหงกตลอดทาง ช่างเป็นทริปที่ทรหดจริงๆร้องไห้

1.The Old railway Station พิพิธภัณฑ์รถไฟสายเก่า  สีสันสดใสดีเหมาะกับการถ่ายรูป

2.Flower Garden เนื่องจากดาลัดอากาศเย็นตลอดปี ดอกไม้จึงเป็นสินค้าเกษตรกรรมที่สำคัญ

3. Silk Factory ทริปวันนี้ช่างมีสาระจริงๆ หลิ่วตา โรงงานทอผ้าไหม เริ่มดูตั้งแต่กระบวนการเอาไหมมาจากตัวหม่อนจนทอเป็นผ้า

4.Cricklet Farm ฟาร์มจิ้งหรีด หมู่บ้านนี้เป็นชนกลุ่มน้อยที่เพาะเลี้ยงแมลง จิ้งหรีด คล้ายเป็นนค้า Otop ของบ้านเราแต่จะนำหมักเป็นเหล้า ชา แมลงทอด  เค้าให้ชิมแต่เราก็กินสิคะ บ้านเราเยอะ หิวพอดี


5.Elephant Water  น้ำตกช้าง


6. กาแฟขี้ชะมด ทัวร์พาเราไปดื่มกาแฟขี้ชะมด คนที่เป็นคอกาแฟน่าจะชอบ เราไม่ได้ซื้อกาแฟมา ราคากิโลละ 3000 กว่าบาท เราคิดว่าถูกกว่ากาแฟขี้ชะมดทั่วไป แต่เรานั่งดื่มกาแฟชะมดที่ร้านเลย เพราะวิวสวยมาก ข้างหน้าทะเลสาบ รอบๆเป็นไร่กาแฟ  และมีชะมดที่เลี้ยงไว้ในกรงเพื่อเอาขี้ชะมดเป็นเมล็ดกาแฟ


6. Crazy House  เป็นบ้านรูปทรงแปลกๆ สร้างขึ้นมาจากจินตนาการจากบ้านในนิยาย เหมาะกับการถ่ายรูปค่ะ ปีนป่ายไปเรื่อยๆ สนุกดีค่ะ


หลังจากจบทริปวันนี้ เพื่อนใหม่มารับเราพาไปแว๊น



ตลาด Night Market  ของดาลัด อากาศเย็นๆเหมือนตลาดไนท์บาซาเชียงใหม่ มีของพื้นเมือง ขนม ของฝาก ผลไม้

เราหาร้านนั่งดื่มชาอทิโสะ เป็นชาที่ขึ้นชื่อของเวียดนามบำรุงผิวและทำให้หลับลึก กินเสร็จแทบฟุบคาโต๊ะเลยค่ะ ไม่รู้เพราะเหนื่อยมาทั้งวันหรือเพราะฤทธิ์ชา

ไม่น่าเชื่อว่าเราจะได้มิตรภาพใหม่และเพื่อนที่ดีจากการเดินทาง ถึงแม้จะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันมากมายที่เกิดขึ้นกับเรา แต่มันทำให้ เราหลงเสน่ห์ของการเดินทางเข้าแล้วสิ จุ๊บๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่