เคยรู้สึกว่าเพื่อนสนิทเริ่มห่างจากเราไหม

คือเราทำตัวปกติเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่ได้ทำอะไรผิดนะ หลังจากที่เราทำงานด้วยกัน รู้สึกได้ว่า เพื่อนเราเริ่มห่าง  เริ่มคุยกับคนอื่นได้ดีกว่าเรา มีเรื่องให้คุยเยอะแยะ  แต่กับเรา เค้าจะเงียบไม่มีอะไรจะคุย  ซึ่งเรารู้ตัวว่า เราเปนคนที่ค่อนข้างเงียบอยู่แล้ว  จากที่เคยนั่งด้วยกัน เค้ากลับย้ายที่นั่งไปนั่งกับเพื่อนคนอื่น
เฉย ซึ่งปกติจะนั่งด้วยกันทุกวิชา ทิ้งให้เรานั่งอยู่คนเดียว มันเจ็บใจนะ กับคนอื่นยิ้มหน้าบานเรย. ไปไหนเค้าจะไปกับเพื่อนคนอื่น ที่เค้าสนิท คุยถูกคอ  เวลานั่งกินข้าว ยังหันหน้าไปอีกฝั่งที่มีคนอื่น. ซึ่งส่วนตัว
เครียด. จนแบบขับรถแล้วน้ำตาไหล. ทำไมยิ้มทำกับกูแบบนี้ เข้าใจเรยว่าถูกเพื่อนทิ้ง ซึ่งเราไว้ใจมัน และคบมันเปนเพื่อนสนิทแค่คนเดียว เหมือนมันพยายามห่างไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะได้ไปคบเพื่อนที่ดีกว่าเรา มีประโยชน์มากกว่าเรา เราพยายามเข้าไปคุยด้วยแล้วแต่มันไม่เหมือนเดิม  เราก้อส่องกระจกดูหน้า ว่าเราหน้าโหดรึป่าว มันดูหยิ่งๆหรอ ถึงไม่กล้าคุยด้วยเนื่ย
คิดมากจนปวดหัว  คิดจนไม่อยากคิดแล้ว เราก้อนั่งที่เดิมที่เคยเรียน ไม่ย้าย นั่งที่เดิมทุกวิชา  และความรู้สึกของเราเปลี่ยนเรย คือไม่ค่อยอยากคุยด้วย อยากอยู่คนเดียวเงียบๆที่ไม่วุ่นวาย. คำว่าเพื่อน สำหรับเรา ตอนนี้มันไม่มีค่า มันไม่สำคัญแล้ว เพราะเจอครั้งเดียวเข็ด คนเราความคิดเปลี่ยน นิสัยเปลี่ยน
ถ้ายิ้มจะทำอย่างนี้กับกู  ถึงจะกราบแทบเท้า.        
ก้ออย่าหวังว่าจะได้มาคุยกันอีก จะไม่มีครั้งที่สาม   ไม่อยากจะอยู่ร่วมโลกหายใจอากาศกับยิ้มด้วยซ้ำ อยากจะลบความทรงจำ. ของกรูกับยิ้มเอาออกจากเชลล์ประสาทสมองจะดีมากกกก เอามันไปทิ้ง. นอกโลกเรยย
เพื่อนๆคนไหนเปนแบบเราบ้าง และวางตัวยังไง แชร์เล่ามานะ อยากรู้ค่ะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ที่อ่านมาข้างบนเราเห็นใจเธอนะ แต่รู้สึกว่าบรรทัดล่างๆแรงไปนิด แต่ก็เข้าใจแหละว่าเพราะอารมณ์โกรธอยู่ เคยโดนเหมือนกัน ตอนแรกๆเราเครียดกว่าเธออีก อยากย้ายห้อง ย้ายหนีไปให้ไกลๆ แต่พออยู่คนเดียวลองทำอะไรคนเดียวไปเรื่อยๆก็ชิน แล้วก็รู้สึกว่าเออดีกว่าเดิมอีก ไปกินข้าวก็ไม่ต้องรอใคร กลับบ้านก็ไม่ต้องนั่งรอ

อยู่กับตัวเองให้ได้ค่ะ อย่าไปฝังใจกับคนคนเดียว อย่าไปยึดกับมัน เรากินข้าวเราใช้เงินเราเองไม่ได้ใช้เงินเพื่อนค่ะอย่าไปสนใจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่