เครือข่ายขบวนการบ่อนทำลายจ้องล้มอำนาจรัฐคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หน้าเดิมๆ ฉวยโอกาสจากภาวะขาลงของอำนาจรัฐคสช.โดยเฉพาะจากกระแสต่อต้านกรณีฉาวนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ “บิ๊กป้อม” รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม ด้วยการเติมเชื้อสุมไฟหวังยกระดับเป็นการลุกฮือทั่วประเทศโดยวางแผนนัดชุมนุมแสดงพลังในวันที่ 10 ก.พ.นี้
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวป่วนเมืองในช่วงนี้ล้วนเป็นเครือข่ายขบวนการเสื้อแดงหน้าเดิมๆ ที่เคลื่อนไหวด้วยยุทธวิธีแยกกันเดินแต่ร่วมกันตีโดยมีการวางแผนอย่างเป็นระบบเคลื่อนไหวทั้งภายในและนอกประเทศ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือบ่อนทำลายมุ่งล้มอำนาจรัฐคสช.ในภาวะขาลงให้จงได้
การเคลื่อนไหวของขบวนการจ้องล้มอำนาจรัฐคสช.ดังกล่าว กำลังถูกจับตาอย่างใกล้ชิดจากหน่วยงานด้านความมั่นคงที่พยายามตัดไฟแต่ต้นลม ด้วยการดำเนินคดีกับกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ก่อนที่จะถึงวันดีเดย์นัดรวมพลังครั้งใหญ่ 10 ก.พ.นี้
พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ โฆษกคสช.กล่าวถึงความเคลื่อนไหวปลุกกระแสเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายของขบวนการบางกลุ่มช่วงที่ผ่านมาว่า คงไม่ได้รับความน่าเชื่อถือ
แม้รัฐบาลจะมีจุดอ่อนกรณีนาฬิกาหรูของ “บิ๊กป้อม” แต่ก็ยังไม่เป็นสาเหตุที่ชอบธรรมมีน้ำหนักเพียงพอถึงกับต้องออกมาขับไล่รัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งปูมหลังขบวนการที่อยู่เบื้องหลังความพยายามปลุกม็อบป่วนเมืองหวังล้มอำนาจรัฐคสช.มีประวัติอันเลวร้ายที่เป็นต้นเหตุของวิกฤติชาติตลอดช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา
การเคลื่อนไหวของขบวนการจ้องล้มอำนาจรัฐคสช.ยิ่งหมดราคาความน่าเชื่อถืออย่างสิ้นเชิงเพราะเป็นขบวนการหน้าเดิมๆ เพียงหยิบมือเดียวที่ชักใยโดยกลุ่มอำนาจเก่าและทุกอย่างล้วนมีเป้าหมายเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มอำนาจเก่าที่หวังจะคืนชีพกลับมายึดครองประเทศอีกครั้ง
ที่สำคัญมหาชนส่วนใหญ่อยากให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยและไม่อยากเห็นการก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเหมือนในอดีตอีก อย่าว่าแต่มีขบวนการแดงคิดล้มเจ้าเข้ามาร่วมปลุกระดมนัดชุมนุมใหญ่ 10 ก.พ.นี้ เท่ากับเป็นการเผยโฉมหน้าขบวนการชักใยหน้าเดิมๆ ซึ่งหมดราคาความน่าเชื่อถือไปแล้วในสายตามหาชน ดังนั้นต้องคอยดูว่าดีเดย์ 10 ก.พ.นี้ จะมีคนมากันสักกี่มากน้อย
http://www.naewna.com/politic/columnist/33938

ภาพจากเฟซบุ๊ก หนุ่ย อภิสิทธิ์
9 ก.พ. 61 - นายอภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ หรือ "หนุ่ย" สมาชิกประชาธิปไตยใหม่ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า
"ต่อให้คุณดังแค่ไหนก็ตาม
สังคมเปลี่ยนไม่ได้ เพราะวีรชนเอกชนหรอก
... อาการหลงมวลชน หรือมั่นใจว่า
การลุกมาถือไมค์ แล้วจะมีคนลุกฮือมาตามเป็นพันเป็นหมื่นคน มันเป็นไปไม่ได้
ถ้าไม่ทำงานเครือข่าย หรือใช้เวลาจัดตั้งทางความคิด
... ความมั่นใจ ตามมวลชนในโลกออนไลน์
มันก็เป็นได้เพียงสิ่งหล่อเลี้ยงจิตใจ ในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นเอง
สุดท้ายก็จะหายไป ตามกระแสธารที่ไหลรุนแรง ไม่หยุดนิ่ง"
สำหรับกลุ่มประชาธิปไตยใหมที่ประกอบไปด้วยนักศึกษา นักกิจกรรรมคนหนุ่มสาว เคยมีบทบาทโดดเด่นในการต่อต้านการรัฐประหารช่วงแรกๆ ต่อมาช่วงหลังลดบทบาทลงเนื่องจากแตกต่างทางความคิดโดยเฉพาะแนวทางการเคลื่อนไหว ทำให้ นายรังสิมันต์ โรม หนึ่งในสมาชิกกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ แยกตัวออกมาก่อตั้งกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยและเป็นแกนนำในการชุมนุมวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้
http://www.thaipost.net/main/detail/2751
สรุปว่าไร้ราคา...ทางใครทางมันแล้วค่ะ
🤐🔇~มาลาริน~แผนปลุกม็อบ 10 ก.พ.ไร้ราคา..เอาแล้วไง สมาชิกปชต.ใหม่โพสต์เตือนใครอย่าหลงมวลชน-แค่ถือไมค์แล้วจะมีคนลุกฮือตาม
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวป่วนเมืองในช่วงนี้ล้วนเป็นเครือข่ายขบวนการเสื้อแดงหน้าเดิมๆ ที่เคลื่อนไหวด้วยยุทธวิธีแยกกันเดินแต่ร่วมกันตีโดยมีการวางแผนอย่างเป็นระบบเคลื่อนไหวทั้งภายในและนอกประเทศ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือบ่อนทำลายมุ่งล้มอำนาจรัฐคสช.ในภาวะขาลงให้จงได้
การเคลื่อนไหวของขบวนการจ้องล้มอำนาจรัฐคสช.ดังกล่าว กำลังถูกจับตาอย่างใกล้ชิดจากหน่วยงานด้านความมั่นคงที่พยายามตัดไฟแต่ต้นลม ด้วยการดำเนินคดีกับกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ก่อนที่จะถึงวันดีเดย์นัดรวมพลังครั้งใหญ่ 10 ก.พ.นี้
พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ โฆษกคสช.กล่าวถึงความเคลื่อนไหวปลุกกระแสเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายของขบวนการบางกลุ่มช่วงที่ผ่านมาว่า คงไม่ได้รับความน่าเชื่อถือ
แม้รัฐบาลจะมีจุดอ่อนกรณีนาฬิกาหรูของ “บิ๊กป้อม” แต่ก็ยังไม่เป็นสาเหตุที่ชอบธรรมมีน้ำหนักเพียงพอถึงกับต้องออกมาขับไล่รัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งปูมหลังขบวนการที่อยู่เบื้องหลังความพยายามปลุกม็อบป่วนเมืองหวังล้มอำนาจรัฐคสช.มีประวัติอันเลวร้ายที่เป็นต้นเหตุของวิกฤติชาติตลอดช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา
การเคลื่อนไหวของขบวนการจ้องล้มอำนาจรัฐคสช.ยิ่งหมดราคาความน่าเชื่อถืออย่างสิ้นเชิงเพราะเป็นขบวนการหน้าเดิมๆ เพียงหยิบมือเดียวที่ชักใยโดยกลุ่มอำนาจเก่าและทุกอย่างล้วนมีเป้าหมายเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มอำนาจเก่าที่หวังจะคืนชีพกลับมายึดครองประเทศอีกครั้ง
ที่สำคัญมหาชนส่วนใหญ่อยากให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยและไม่อยากเห็นการก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเหมือนในอดีตอีก อย่าว่าแต่มีขบวนการแดงคิดล้มเจ้าเข้ามาร่วมปลุกระดมนัดชุมนุมใหญ่ 10 ก.พ.นี้ เท่ากับเป็นการเผยโฉมหน้าขบวนการชักใยหน้าเดิมๆ ซึ่งหมดราคาความน่าเชื่อถือไปแล้วในสายตามหาชน ดังนั้นต้องคอยดูว่าดีเดย์ 10 ก.พ.นี้ จะมีคนมากันสักกี่มากน้อย
http://www.naewna.com/politic/columnist/33938
ภาพจากเฟซบุ๊ก หนุ่ย อภิสิทธิ์
9 ก.พ. 61 - นายอภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ หรือ "หนุ่ย" สมาชิกประชาธิปไตยใหม่ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า
"ต่อให้คุณดังแค่ไหนก็ตาม
สังคมเปลี่ยนไม่ได้ เพราะวีรชนเอกชนหรอก
... อาการหลงมวลชน หรือมั่นใจว่า
การลุกมาถือไมค์ แล้วจะมีคนลุกฮือมาตามเป็นพันเป็นหมื่นคน มันเป็นไปไม่ได้
ถ้าไม่ทำงานเครือข่าย หรือใช้เวลาจัดตั้งทางความคิด
... ความมั่นใจ ตามมวลชนในโลกออนไลน์
มันก็เป็นได้เพียงสิ่งหล่อเลี้ยงจิตใจ ในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นเอง
สุดท้ายก็จะหายไป ตามกระแสธารที่ไหลรุนแรง ไม่หยุดนิ่ง"
สำหรับกลุ่มประชาธิปไตยใหมที่ประกอบไปด้วยนักศึกษา นักกิจกรรรมคนหนุ่มสาว เคยมีบทบาทโดดเด่นในการต่อต้านการรัฐประหารช่วงแรกๆ ต่อมาช่วงหลังลดบทบาทลงเนื่องจากแตกต่างทางความคิดโดยเฉพาะแนวทางการเคลื่อนไหว ทำให้ นายรังสิมันต์ โรม หนึ่งในสมาชิกกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ แยกตัวออกมาก่อตั้งกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยและเป็นแกนนำในการชุมนุมวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้
http://www.thaipost.net/main/detail/2751
สรุปว่าไร้ราคา...ทางใครทางมันแล้วค่ะ