ผ่านเดือนแรกของปี 2018 ไปโดยที่ยังไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นบน Box Office และยังไม่มีภาพยนตร์ปี 2018 เรื่องไหนทำรายได้ในบ้านเกิน $100 ล้านได้เลย ตามธรรมเนียมหลังจาก Super Bowl Weekend ที่บรรดาหนังโรงทั้งหลายต้องถอยทัพให้กับเกมฟุตบอลนัดชิงแขมป์แล้ว ในสัปดาห์ต่อมา Box Office ก็จะกลับคึกคักขึ้นทันตาเห็น โดยในปีนี้มีหนังที่น่าสนใจพาเหรดกันเข้าโรงพร้อมกันถึง 3 เรื่อง ลองไปดูรายละเอียดการคาดการณ์หนังทำเงินในช่วงสุดสัปดาห์นี้กันครับ
Fifty Shades Freed
ภาคที่สามของหนังไตรภาคเร้าอารมณ์ชุดนี้จะเข้าโรงในอเมริกาเหนือช่วงสุดสัปดาห์ของเดือนกุมภาพันธ์ตามธรรมเนียมปฏิบัติ โดยทาง Universal ประเมินไว้ว่า Freed จะทำเงินเปิดตัวราว $33 ล้านเหรียญแต่สื่ออื่นๆฝั่ง Hollywood ประเมินไว้สูงกว่านั้น โดยพร้อมใจกันชี้ว่าหนังปิดไตรภาค Fifty Shades จะโกยรายได้ประมาณ $36-40 ล้านในสุดสัปดาห์แรกจาก 3,768 โรงฉาย ในขณะที่รายได้ตลาดต่างประเทศจะปิดที่ $80-90 ล้านเหรียญ ทำให้รายได้รวมทั่วโลกสุดปดาห์แรกจะกวาดไปทั้งหมด $115-130 ล้าน ทั้งนี้ Fifty Shades Freed เริ่มฉายพรีวิววันแรกไปแล้วเมื่อวันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ใน 5 ประเทศคือ เยอรมัน, ฝรั่งเศส, ฮอลแลนด์, ออสเตรเลีย และฟิลิปปินส์ โดยมีรายงานว่าทำเงินในวันพุธไปทั้งหมด $9.1 ล้านเหรียญ พร้อมกันนี้คาดว่าในช่วงสุดสัปดาห์ Fifty Shades franchise จะทำเงินทะลุ $1 พันล้านเหรียญจากทุนสร้างรวมทั้งหมดเพียง $150 ล้านเหรียญ
Peter Rabbit
จะเรียกว่าหนัง Counter-programming ก็ได้เพราะในช่วงนี้ไม่มีหนังครอบครัวเปิดใหม่ออกฉายเลย ขณะที่รายล้อมไปด้วยหนังรัก หนังแอ็คชั่น และจะตามมาด้วยหนังซูเปอร์ฮีโร่ ทำให้ Peter Rabbit จาก Sony มีโอกาสที่จะสร้างความประหลาดใจบนตาราง Box Office ได้เช่นกัน โดยเจ้ากระต่ายน้อยเตรียมเปิดตัวฉาย 3,725 โรงและทาง Sony ประเมินรายได้เปิดตัวในบ้านไว้ที่ $16 ล้านเหรียญ แต่ Hollywood คาดว่า Peter Rabbit จะทำได้ดีกว่านั้นมากรายได้เปิดตัวน่าจะอยู่ในระดับ $20-25 ล้านเลยทีเดียว ซึ่ง Peter Rabbit จะไม่มีการฉายรอบพรีวิวคืนวันพฤหัสในอเมริกานะครับ
The 15:17 to Paris
ผลงานเรื่องใหม่จากปู่ Clint Eastwood ก็จะเข้าโรงในสุดสัปดาห์นี้เช่นกัน โดยล็อคโรงฉายเอาไว้ทั้งสิ้น 3,072 โรง ซึ่งทาง Warner ผู้จัดจำหน่ายคู่บุญของปู่ก็ประเมินไว้ว่า The 15:17 to Paris จะเปิดตัวในบ้านราว $10-15 ล้าน ซึ่งก็ตรงกับสื่อ Hollywood ทุกสำนักที่ชี้ว่ารายได้เปิดตัวน่าจะอยู่ที่ราว $15 ล้าน เท่าๆกับหนังเรื่องอื่นที่น่าจะมีผู้ชมกลุ่มเดียวกันอย่าง 12 Strong ($15.8 ล้าน) Den of Thieves ($15.2 ล้าน) โดยการตลาดอย่างหนึ่งของหนังเรื่องนี้คือเปิดตัวฉายใน ฝรั่งเศสเวลา 14:00 เมื่อวันที่ 8 กุมภาซึ่งเป็นเวลาคาบเกี่ยวกับเวลาและสถานที่ตามท้องเรื่องพอดี นอกจากนี้ฝรั่งเศสยังเป็นตลาดต่างประเทศอันดับ 2 ของ American Sniper หนังฮิตของปู่ Clint รองจาก Italy อีกด้วย
Jumanji : Welcome to the Jungle
ยังคงแรงไม่เลิกสำหรับ Jumanji แม้ว่าจะเข้าสุดสัปดาห์ที่ 10 แล้วก็ตามก็ยังทำให้ Sony ยิ้มแก้มปริ โดยสุดสัปดาห์นี้ยังยึดโรงฉายไว้ได้ทั้งหมด 3,136 โรงฉาย ซึ่งนับว่าเยอะมากสำหรับหนังที่เข้าโรงมา 10 สัปดาห์แล้ว แต่ในสัปดาห์นี้มีการประเมินแตกต่างหลากหลายกันออกไปบางค่ายบอกรายได้จะตกเพียง -12% บ้างว่า -20% บางเจ้าบอก -35% รายได้ประเมินกันไว้ที่ $7-10 ล้านเหรียญ แต่ไม่ว่าจะยังไง Jumanji ก็ยังคงทะยานต่อไป โดยคาดว่ารายได้รวมในบ้านจนถึงวันอาทิตย์จะอยู่ที่ราว $363 ล้านเหรียญ เทียบในสตูดิโอเดียวกันก็จ่อแซง Spider-man 2 ($373 ล้าน) เต็มที ส่วนรายได้รวมทั่วโลกอาจขึ้นไปทาบ Spider-man : Homecoming ที่ $880 ล้าน เตรียมตัวที่จะเขี่ย Spider-man 3 ($890 ล้าน) ตกกระป๋องพร้อมทะยานทะลุหลัก $900 ล้านเนื่องจากยังมีคิวเปิดตัวในญี่ปุ่นเดือนเมษายนนี้ ส่วนในบ้านก็ต้องดูว่า Welcome to the Jungle จะไปหยุดที่ไหนหลังจากจากการมาของ Black Panther ในสุดสัปดาห์หน้า
The Greatest Showman
ปิดท้ายด้วย The Greatest Showman ที่ยังคงสร้างความมหัศจรรย์ต่อไปหลังจากที่รายได้ไม่เคยตกเกิน -20% มา 9 สัปดาห์ ในสุดสัปดาห์ที่ 10 ก็ยังประเมินกันว่ารายได้ในบ้านของ Showman จะตกเพียง -19% และทำเงินในช่วง $6-7 ล้านเหรียญจาก 2,373 โรงฉาย เตรียมเข้าป้าย $150 ล้านอย่างสบายๆ นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่จะต้องคอยจับตาดูว่าจะยืนระยะไปได้อีกนานแค่ไหน และถ้า “This is me” เกิดคว้ารางวัล Oscar เพลงประกอบยอดเยี่ยมได้ขึ้นมาเผลอๆรายได้ของ The Greatest Showman จะกลับมาเป็นบวกได้อีกด้วยซ้ำ
สุดสัปดาห์นี้ก็คงจะเป็นการอุ่นเครื่องหลังจากที่พักผ่อนกันไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนที่ Box Office จะกลับมาคึกคักสุดๆกันอีกครั้งในสุดสัปดาห์หน้าเนื่องจากเป็น Presidents Day Weekend และการมาของ Black Panther หนึ่งในภาพยนตร์ที่มีผู้ชมรอคอยมากที่สุดในปี 2018 นี้
Fifty Shades Freed, Peter Rabbit และ 15:17 to Paris ยกทัพบุก Box Office สุดสัปดาห์นี้
Fifty Shades Freed
ภาคที่สามของหนังไตรภาคเร้าอารมณ์ชุดนี้จะเข้าโรงในอเมริกาเหนือช่วงสุดสัปดาห์ของเดือนกุมภาพันธ์ตามธรรมเนียมปฏิบัติ โดยทาง Universal ประเมินไว้ว่า Freed จะทำเงินเปิดตัวราว $33 ล้านเหรียญแต่สื่ออื่นๆฝั่ง Hollywood ประเมินไว้สูงกว่านั้น โดยพร้อมใจกันชี้ว่าหนังปิดไตรภาค Fifty Shades จะโกยรายได้ประมาณ $36-40 ล้านในสุดสัปดาห์แรกจาก 3,768 โรงฉาย ในขณะที่รายได้ตลาดต่างประเทศจะปิดที่ $80-90 ล้านเหรียญ ทำให้รายได้รวมทั่วโลกสุดปดาห์แรกจะกวาดไปทั้งหมด $115-130 ล้าน ทั้งนี้ Fifty Shades Freed เริ่มฉายพรีวิววันแรกไปแล้วเมื่อวันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ใน 5 ประเทศคือ เยอรมัน, ฝรั่งเศส, ฮอลแลนด์, ออสเตรเลีย และฟิลิปปินส์ โดยมีรายงานว่าทำเงินในวันพุธไปทั้งหมด $9.1 ล้านเหรียญ พร้อมกันนี้คาดว่าในช่วงสุดสัปดาห์ Fifty Shades franchise จะทำเงินทะลุ $1 พันล้านเหรียญจากทุนสร้างรวมทั้งหมดเพียง $150 ล้านเหรียญ
Peter Rabbit
จะเรียกว่าหนัง Counter-programming ก็ได้เพราะในช่วงนี้ไม่มีหนังครอบครัวเปิดใหม่ออกฉายเลย ขณะที่รายล้อมไปด้วยหนังรัก หนังแอ็คชั่น และจะตามมาด้วยหนังซูเปอร์ฮีโร่ ทำให้ Peter Rabbit จาก Sony มีโอกาสที่จะสร้างความประหลาดใจบนตาราง Box Office ได้เช่นกัน โดยเจ้ากระต่ายน้อยเตรียมเปิดตัวฉาย 3,725 โรงและทาง Sony ประเมินรายได้เปิดตัวในบ้านไว้ที่ $16 ล้านเหรียญ แต่ Hollywood คาดว่า Peter Rabbit จะทำได้ดีกว่านั้นมากรายได้เปิดตัวน่าจะอยู่ในระดับ $20-25 ล้านเลยทีเดียว ซึ่ง Peter Rabbit จะไม่มีการฉายรอบพรีวิวคืนวันพฤหัสในอเมริกานะครับ
The 15:17 to Paris
ผลงานเรื่องใหม่จากปู่ Clint Eastwood ก็จะเข้าโรงในสุดสัปดาห์นี้เช่นกัน โดยล็อคโรงฉายเอาไว้ทั้งสิ้น 3,072 โรง ซึ่งทาง Warner ผู้จัดจำหน่ายคู่บุญของปู่ก็ประเมินไว้ว่า The 15:17 to Paris จะเปิดตัวในบ้านราว $10-15 ล้าน ซึ่งก็ตรงกับสื่อ Hollywood ทุกสำนักที่ชี้ว่ารายได้เปิดตัวน่าจะอยู่ที่ราว $15 ล้าน เท่าๆกับหนังเรื่องอื่นที่น่าจะมีผู้ชมกลุ่มเดียวกันอย่าง 12 Strong ($15.8 ล้าน) Den of Thieves ($15.2 ล้าน) โดยการตลาดอย่างหนึ่งของหนังเรื่องนี้คือเปิดตัวฉายใน ฝรั่งเศสเวลา 14:00 เมื่อวันที่ 8 กุมภาซึ่งเป็นเวลาคาบเกี่ยวกับเวลาและสถานที่ตามท้องเรื่องพอดี นอกจากนี้ฝรั่งเศสยังเป็นตลาดต่างประเทศอันดับ 2 ของ American Sniper หนังฮิตของปู่ Clint รองจาก Italy อีกด้วย
Jumanji : Welcome to the Jungle
ยังคงแรงไม่เลิกสำหรับ Jumanji แม้ว่าจะเข้าสุดสัปดาห์ที่ 10 แล้วก็ตามก็ยังทำให้ Sony ยิ้มแก้มปริ โดยสุดสัปดาห์นี้ยังยึดโรงฉายไว้ได้ทั้งหมด 3,136 โรงฉาย ซึ่งนับว่าเยอะมากสำหรับหนังที่เข้าโรงมา 10 สัปดาห์แล้ว แต่ในสัปดาห์นี้มีการประเมินแตกต่างหลากหลายกันออกไปบางค่ายบอกรายได้จะตกเพียง -12% บ้างว่า -20% บางเจ้าบอก -35% รายได้ประเมินกันไว้ที่ $7-10 ล้านเหรียญ แต่ไม่ว่าจะยังไง Jumanji ก็ยังคงทะยานต่อไป โดยคาดว่ารายได้รวมในบ้านจนถึงวันอาทิตย์จะอยู่ที่ราว $363 ล้านเหรียญ เทียบในสตูดิโอเดียวกันก็จ่อแซง Spider-man 2 ($373 ล้าน) เต็มที ส่วนรายได้รวมทั่วโลกอาจขึ้นไปทาบ Spider-man : Homecoming ที่ $880 ล้าน เตรียมตัวที่จะเขี่ย Spider-man 3 ($890 ล้าน) ตกกระป๋องพร้อมทะยานทะลุหลัก $900 ล้านเนื่องจากยังมีคิวเปิดตัวในญี่ปุ่นเดือนเมษายนนี้ ส่วนในบ้านก็ต้องดูว่า Welcome to the Jungle จะไปหยุดที่ไหนหลังจากจากการมาของ Black Panther ในสุดสัปดาห์หน้า
The Greatest Showman
ปิดท้ายด้วย The Greatest Showman ที่ยังคงสร้างความมหัศจรรย์ต่อไปหลังจากที่รายได้ไม่เคยตกเกิน -20% มา 9 สัปดาห์ ในสุดสัปดาห์ที่ 10 ก็ยังประเมินกันว่ารายได้ในบ้านของ Showman จะตกเพียง -19% และทำเงินในช่วง $6-7 ล้านเหรียญจาก 2,373 โรงฉาย เตรียมเข้าป้าย $150 ล้านอย่างสบายๆ นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่จะต้องคอยจับตาดูว่าจะยืนระยะไปได้อีกนานแค่ไหน และถ้า “This is me” เกิดคว้ารางวัล Oscar เพลงประกอบยอดเยี่ยมได้ขึ้นมาเผลอๆรายได้ของ The Greatest Showman จะกลับมาเป็นบวกได้อีกด้วยซ้ำ
สุดสัปดาห์นี้ก็คงจะเป็นการอุ่นเครื่องหลังจากที่พักผ่อนกันไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนที่ Box Office จะกลับมาคึกคักสุดๆกันอีกครั้งในสุดสัปดาห์หน้าเนื่องจากเป็น Presidents Day Weekend และการมาของ Black Panther หนึ่งในภาพยนตร์ที่มีผู้ชมรอคอยมากที่สุดในปี 2018 นี้