ย้อนกลับไปนู่นเลยกลางเดือนธันวาคมปีที่เเล้วนานมากกกกกเเม่โทรมาพูดว่าเเม่จองตั๋ว " รถไฟลอยน้ำ " วันที่ 3 กุมภา
เคลียร์วันให้ว่างด้วยไอ้เราก็งงดิรถไฟลอยน้ำไรวะเลยไปหาข้อมูลได้ความว่า
" รถไฟลอยน้ำ " เป็นรถไฟนำเที่ยวที่จะไปหยุดจอดกันกลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ใช่ครับหยุดจอดเลย
ไม่เหมือนรถไฟปกติที่จะวิ่งผ่านไปเลยเเถมเร็วด้วย555เเค่หาข้อมูลเเค่นี้ยังมีความรู้สึกเลยว่า"เห้ยๆๆมันเจ๋งดีวะ"
ไปๆทุกๆคนไปเที่ยวกับผมกันนะเเต่ถ้ามีอะไรผิดผลาดก็ขอโทษด้วยนะครับผม555

6 โมงครึ่ง ณ ชานชาลาที่ 5 หัวลำโพงงง
ผมเเละชาวคณะของเราในที่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน5555ครอบครัวผมเองก็มาถึงหัวลำโพงกันก่อนกำหนดซักนึด
เพราะรถไฟนำเที่ยวขบวนนี้จะออกจากหัวลำโพงตามกำหนดคือ 7 โมง 10 นาที เหลือเวลาอีกนิดหน่อยโดดขึ้นรถไฟไปหาที่นั่งกัน

ที่นั่งของเราวันนี้อยู่ที่ตู้ที่ 6 ซึ่งเป็นรถไฟชั้นที่ 3 รถร้อนนั่นเอง
รถยังไม่ถึงเวลาออกเก็บรูปภาพบรรยากาศรอบๆเเละข้างๆชานชาลากัน

หัวรถจักร UM12C หรือ GEK
ฝั่งตรงข้ามกระจกยังไม่ได้ยกลงเก็บภาพตรา รฟท. มาเลย(ถ่ายอยู่นานกว่าจะได้55555)
ไม่ชัดด้วยเศร้าาาา


เเละเเล้วรถก็ออกเลทเฉย 8.10 น. พึ่งออก

วิ่งไปซักพักก็ผ่านสะพานข้ามคลองเเสนเเสบ

ผ่านสะพานข้ามคลองรถก็วิ่งต่อมาเรื่อยๆมาจอดที่สถานี สามเสน

รถจอดรับคนเเล้ววิ่งไปต่อที่อีกหนึ่งสถานีใหญ่ บางซื่อ

มองไปอีกฝั่งของสถานีที่มีการก่อสร้างนั่นคือ
" สถานีกลางบางซื่อ " ว่าที่สถานีรถไฟหลักของประเทศไทยแห่งใหม่แทนที่สถานีหัวลำโพงในปัจจุบัน
อีกทั้งยังจะเป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนแทนที่สถานี KL Sentral ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

หลังจากออกจากบางซื่อมาก็จะมีพี่เจ้าหน้าที่มาเเจกตารางกำหนดการเที่ยวทริปนี้ก่อน

น่ารักเอาการเลยที่เดียวตารางกำหนดการเนี่ย
เเจกเสร็จปุปพี่เค้าจะชวนพวกเราเล่นเกมกันเล่นเป็นตู้ๆไปเป็นเกมจับฉลากจากเลขที่นั่ง(ลืมบอกเลยว่าเค้าบุ๊คเลยไว้ด้วยนะตอนจองตั๋ว)
ผมโชคดีด้วย5555คือไปมา 4 คนเเล้วเลขที่นั่งที่จองมีคนจับได้โชคดีจริงไรจริงได้เเสตมป์ 100 ปีการรถไฟมาด้วย
พี่เจ้าหน้าที่บอกไม่มีขายไม่รู้จริงป่าว

เเล้วด้วยความที่รถไฟมันออกเช้าเราก็ง่วงสรุปหลับ




ตื่นมาอีกทีเเถวๆเเก่งคอยมั่ง5555งงๆเบลอๆพึ่งตื่นถ่ายรูปตู้สินค้าเก่ามา

นั่งไปอีกซักพักถามเเม่เเม่บอกใกล้ถึงเเล้ว

ใกล้ถึงเขื่อนนี่ลมเเรงมากผมยุ่งเลย5555
เเละเเล้วรถก็วิ่งมาถึงกลางเขื่อนเเล้วลงไปถ่ายรูปกัน 30 นาทีโดยประมาณ

ถ่ายข้างตัวรถไป 2 รูปรีบวิ่งไปหน้าหัวรถจักรถ่ายรูปต่อ

วิว ณ จุดๆนั้นครับลมเเรงมากกกกกถึงมากที่สุด

พี่เจ้าหน้าที่ออกมาถ่ายรูป

ถึงว่าสีคุ้นๆน่าจะเป็นหัวรถจักรที่ลากรถไฟตู้นอนเเบบใหม่(อยากนั่งมั่งต้องไปลอง)
หลังจากผ่านไป 30 นาที่ รถก็จะพาเรามาที่สถานีโคกสลุงเพื่อมาซื้อของฝากจากชาวบ้านกันก่อนกลับไปจอดที่สถานีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
ไปลงไปหาไรกินกันของที่มาขายก็มีหลายอย่างเลยคาวหวานมีหมดเเละที่สำคัญใครปวดหนักปวดเบาก็มาเข้าห้องน้ำได้ด้วยที่นี่

เดินดูไปดูมาได้กล้วยทอดมาถุงอย่างใหญ่ 20 บาทไม่ก็ 25 เนี่ยเเหละลืม5555
หลังจากซื้อของกินกันเสร็จก็จะกลับไปขึ้นรถไฟไปสถานีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์กัน
พอรถจอดปุปจุดเเรกที่จะไปคือสันเขื่อนของที่นี่การขึ้นสันเขื่อนเท่าที่หาข้อมูลมามี 2 ทาง เช่ารถกอล์ฟ 350 บาท/1 ชม. กับรถนำเที่ยว
เนื่องจากมาหลายคนเลยเลือกรถกอล์ฟไปนั่งได้ประมาณ 4 คน
เค้าจะให้เราขับไปรอที่ทางเข้าเเล้วขับตามๆกันไปข้ามไปอีกฝั่งพื่อไปไหว้หลวงปู่ใหญ่กัน

เเละเเล้วเราก็มาถึงหลวงปู่ใหญ่ลงจากรถไปไหว้พระกัน

หลังจากไหว้พระเสร็จขากลับรถกอล์ฟจะต้องมาขับด้านล่างเเเทน

เเนวสันเขื่อน

อันนี้เป็นรถนำเที่ยวขากลับจะวิ่งข้างบนเเทนรถกอล์ฟ

" เขื่อนของพ่อ "
หลังจากเรากลับาจากสันเขื่อนเราก็มาเเวะพักกินข้าวกันพอกินเสร็จเหลือเวลาอยู่อีกสักพักเลยไปหอชมวิวกัน
เดินเข้ามาในอาคารอ่าวลิฟท์เสียถามเจ้าหน้าที่บอกเดินขึ้นบันไดไป 8 ชั้น โอ่ววววววไหนๆมาเเล้วไปสิ
ลากขาขึ้นมาโหวิวสวยมาก

หลังจากเราลงมาจากหอชมวิวเราเลยรีบกลับไปที่สถานีเลยรถไฟก็มาจอดรอเราเลย

บายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
รถก็วิ่งมาเรื่อยผมก็ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย555

เเละทุ่มกว่าๆเราก็กลับมาถึงเเล้วกรุงเทพพพพพพ

จบเเล้วกับการไปเที่ยวรอบนี้รอบหน้าไปไหนเดี่ยวเอามาเล่าให้ฟังขอบคุณทุกๆคนมากครับผม
เห้ยยังจบไม่ได้ค่าเดินทางคนละ 270 บาทนะครับผมไปละครับจบจริงเเล้วๆบายครับบบผม
[CR] " รถไฟลอยน้ำ " มีเเต่รถไฟเท่านั้นที่ไปได้
เคลียร์วันให้ว่างด้วยไอ้เราก็งงดิรถไฟลอยน้ำไรวะเลยไปหาข้อมูลได้ความว่า
" รถไฟลอยน้ำ " เป็นรถไฟนำเที่ยวที่จะไปหยุดจอดกันกลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ใช่ครับหยุดจอดเลย
ไม่เหมือนรถไฟปกติที่จะวิ่งผ่านไปเลยเเถมเร็วด้วย555เเค่หาข้อมูลเเค่นี้ยังมีความรู้สึกเลยว่า"เห้ยๆๆมันเจ๋งดีวะ"
ไปๆทุกๆคนไปเที่ยวกับผมกันนะเเต่ถ้ามีอะไรผิดผลาดก็ขอโทษด้วยนะครับผม555
6 โมงครึ่ง ณ ชานชาลาที่ 5 หัวลำโพงงง
เพราะรถไฟนำเที่ยวขบวนนี้จะออกจากหัวลำโพงตามกำหนดคือ 7 โมง 10 นาที เหลือเวลาอีกนิดหน่อยโดดขึ้นรถไฟไปหาที่นั่งกัน
ที่นั่งของเราวันนี้อยู่ที่ตู้ที่ 6 ซึ่งเป็นรถไฟชั้นที่ 3 รถร้อนนั่นเอง
รถยังไม่ถึงเวลาออกเก็บรูปภาพบรรยากาศรอบๆเเละข้างๆชานชาลากัน
หัวรถจักร UM12C หรือ GEK
ฝั่งตรงข้ามกระจกยังไม่ได้ยกลงเก็บภาพตรา รฟท. มาเลย(ถ่ายอยู่นานกว่าจะได้55555)
ไม่ชัดด้วยเศร้าาาา
เเละเเล้วรถก็ออกเลทเฉย 8.10 น. พึ่งออก
วิ่งไปซักพักก็ผ่านสะพานข้ามคลองเเสนเเสบ
ผ่านสะพานข้ามคลองรถก็วิ่งต่อมาเรื่อยๆมาจอดที่สถานี สามเสน
รถจอดรับคนเเล้ววิ่งไปต่อที่อีกหนึ่งสถานีใหญ่ บางซื่อ
มองไปอีกฝั่งของสถานีที่มีการก่อสร้างนั่นคือ
" สถานีกลางบางซื่อ " ว่าที่สถานีรถไฟหลักของประเทศไทยแห่งใหม่แทนที่สถานีหัวลำโพงในปัจจุบัน
อีกทั้งยังจะเป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนแทนที่สถานี KL Sentral ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
หลังจากออกจากบางซื่อมาก็จะมีพี่เจ้าหน้าที่มาเเจกตารางกำหนดการเที่ยวทริปนี้ก่อน
น่ารักเอาการเลยที่เดียวตารางกำหนดการเนี่ย
เเจกเสร็จปุปพี่เค้าจะชวนพวกเราเล่นเกมกันเล่นเป็นตู้ๆไปเป็นเกมจับฉลากจากเลขที่นั่ง(ลืมบอกเลยว่าเค้าบุ๊คเลยไว้ด้วยนะตอนจองตั๋ว)
ผมโชคดีด้วย5555คือไปมา 4 คนเเล้วเลขที่นั่งที่จองมีคนจับได้โชคดีจริงไรจริงได้เเสตมป์ 100 ปีการรถไฟมาด้วย
พี่เจ้าหน้าที่บอกไม่มีขายไม่รู้จริงป่าว
เเล้วด้วยความที่รถไฟมันออกเช้าเราก็ง่วงสรุปหลับ
ตื่นมาอีกทีเเถวๆเเก่งคอยมั่ง5555งงๆเบลอๆพึ่งตื่นถ่ายรูปตู้สินค้าเก่ามา
นั่งไปอีกซักพักถามเเม่เเม่บอกใกล้ถึงเเล้ว
ใกล้ถึงเขื่อนนี่ลมเเรงมากผมยุ่งเลย5555
เเละเเล้วรถก็วิ่งมาถึงกลางเขื่อนเเล้วลงไปถ่ายรูปกัน 30 นาทีโดยประมาณ
ถ่ายข้างตัวรถไป 2 รูปรีบวิ่งไปหน้าหัวรถจักรถ่ายรูปต่อ
วิว ณ จุดๆนั้นครับลมเเรงมากกกกกถึงมากที่สุด
พี่เจ้าหน้าที่ออกมาถ่ายรูป
ถึงว่าสีคุ้นๆน่าจะเป็นหัวรถจักรที่ลากรถไฟตู้นอนเเบบใหม่(อยากนั่งมั่งต้องไปลอง)
หลังจากผ่านไป 30 นาที่ รถก็จะพาเรามาที่สถานีโคกสลุงเพื่อมาซื้อของฝากจากชาวบ้านกันก่อนกลับไปจอดที่สถานีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
ไปลงไปหาไรกินกันของที่มาขายก็มีหลายอย่างเลยคาวหวานมีหมดเเละที่สำคัญใครปวดหนักปวดเบาก็มาเข้าห้องน้ำได้ด้วยที่นี่
เดินดูไปดูมาได้กล้วยทอดมาถุงอย่างใหญ่ 20 บาทไม่ก็ 25 เนี่ยเเหละลืม5555
หลังจากซื้อของกินกันเสร็จก็จะกลับไปขึ้นรถไฟไปสถานีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์กัน
พอรถจอดปุปจุดเเรกที่จะไปคือสันเขื่อนของที่นี่การขึ้นสันเขื่อนเท่าที่หาข้อมูลมามี 2 ทาง เช่ารถกอล์ฟ 350 บาท/1 ชม. กับรถนำเที่ยว
เนื่องจากมาหลายคนเลยเลือกรถกอล์ฟไปนั่งได้ประมาณ 4 คน
เค้าจะให้เราขับไปรอที่ทางเข้าเเล้วขับตามๆกันไปข้ามไปอีกฝั่งพื่อไปไหว้หลวงปู่ใหญ่กัน
เเละเเล้วเราก็มาถึงหลวงปู่ใหญ่ลงจากรถไปไหว้พระกัน
หลังจากไหว้พระเสร็จขากลับรถกอล์ฟจะต้องมาขับด้านล่างเเเทน
เเนวสันเขื่อน
อันนี้เป็นรถนำเที่ยวขากลับจะวิ่งข้างบนเเทนรถกอล์ฟ
" เขื่อนของพ่อ "
หลังจากเรากลับาจากสันเขื่อนเราก็มาเเวะพักกินข้าวกันพอกินเสร็จเหลือเวลาอยู่อีกสักพักเลยไปหอชมวิวกัน
เดินเข้ามาในอาคารอ่าวลิฟท์เสียถามเจ้าหน้าที่บอกเดินขึ้นบันไดไป 8 ชั้น โอ่ววววววไหนๆมาเเล้วไปสิ
ลากขาขึ้นมาโหวิวสวยมาก
หลังจากเราลงมาจากหอชมวิวเราเลยรีบกลับไปที่สถานีเลยรถไฟก็มาจอดรอเราเลย
บายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
รถก็วิ่งมาเรื่อยผมก็ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย555
เเละทุ่มกว่าๆเราก็กลับมาถึงเเล้วกรุงเทพพพพพพ
จบเเล้วกับการไปเที่ยวรอบนี้รอบหน้าไปไหนเดี่ยวเอามาเล่าให้ฟังขอบคุณทุกๆคนมากครับผม
เห้ยยังจบไม่ได้ค่าเดินทางคนละ 270 บาทนะครับผมไปละครับจบจริงเเล้วๆบายครับบบผม