รสนา ข้องใจ ตร.แจ้งข้อหาผู้ชุมนุมแรงเกินเหตุ ชี้ อย่าเอาใจรัฐบาล จนลืมความยุติธรรม


"ดิฉันเองก็เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจในสมัยรัฐบาลนายกฯทักษิณ ชินวัตร แจ้งข้อกล่าวหามาตรา116 เมื่อต้นปี 2549 จากการที่ได้รับเชิญขึ้นเวทีพันธมิตรพูดเรื่องที่ฟ้องศาลปกครองสูงสุดให้เพิกถอนการแปรรูป กฟผ.และต่อต้านการขายหุ้นชินคอร์ปของนายกฯทักษิณโดยไม่เสียภาษี ดิฉันพูดว่าประชาชนไม่ควรเสียภาษีจนกว่านายกฯจะลาออก ดิฉันถูกรวมเข้าไปอยู่ในกลุ่มพันธมิตรรุ่นที่2 ที่ถูกกล่าวหาด้วยข้อหามาตรา116

ดิฉันและพวกพันธมิตรรุ่น 2 ไม่ไปรับทราบข้อกล่าวหาในชั้นตำรวจ โดยส่งเรื่องขอความเป็นธรรมไปที่ศาลอาญาว่าตำรวจตั้งข้อหารุนแรงเกินความเป็นจริง และน่าจะเป็นเครื่องมือของรัฐบาลที่ปิดกั้นการตรวจสอบของประชาชน จึงขอความเมตตาจากศาลเปิดการไต่สวนคดีนี้ก่อนที่จะอนุมัติหมายจับให้ตำรวจมาจับดิฉันและพวก

ศาลอาญาได้ให้ความกรุณาด้วยการเปิดการไต่สวน มีการนำเทปปราศรัยของดิฉันมาเปิดให้ศาลฟัง ซึ่งกระบวนการเช่นนี้ทำให้ภาระการพิสูจน์กลับไปอยู่ที่ตำรวจที่ต้องพิสูจน์ว่าดิฉันและพวกมีพฤติกรรมอะไรที่เข้าข่ายเป็นการก่อความไม่สงบในราชอาณาจักร ถ้าหากตำรวจสามารถพิสูจน์ได้ว่าดิฉันมีพฤติการณ์ที่เข้าข่ายตามข้อกล่าวหาของตำรวจ หากศาลอนุมัติหมายจับ ดิฉันก็ค่อยไปมอบตัวในชั้นตำรวจและสู้คดีต่อไป

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
หลังจากเปิดการไต่สวนในครั้งนั้น ศาลไม่อนุมัติหมายจับ โดยคำสั่งของศาลระบุว่าพวกเราอาจจะใช้วาจาที่ขาดความเคารพไปบ้างแต่ไม่ถึงขั้นจะเป็นความผิดตามมาตรา116 ศาลระบุว่าพวกเรามีความผิดที่ใช้เครื่องเสียงและพื้นที่สาธารณะโดยไม่ได้ขออนุญาต ซึ่งตำรวจสามารถดำเนินการปรับได้ตามกฎหมาย

คดีนี้ตำรวจอุทธรณ์แต่ศาลก็ยืนตามคำสั่งเดิมเพราะตำรวจไม่มีข้อเท็จจริงใหม่มาหักล้าง ทำให้คดีนี้สิ้นสุดไปโดยไม่ต้องเป็นคดีรกโรงรกศาล

ในขณะที่คดีเดียวกันของพันธมิตรรุ่นที่1 ที่สู้คดีตามที่ตำรวจกล่าวหาใช้เวลาหลายปีกว่าศาลจะยกฟ้องในชั้นศาลฎีกา

การดำเนินคดีในชั้นตำรวจเป็นต้นน้ำของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งต้องมีความเป็นธรรมและไม่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำ สั่งการของฝ่ายการเมือง ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้ง หรือการรัฐประหาร หรือแม้แต่ไม่มีการสั่งการ แต่ตำรวจอาจดำเนินการไปเองเพื่อต้องการเอาใจผู้มีอำนาจก็เป็นไปได้

นายตำรวจเจ้าของคดีที่กล่าวหาดิฉันกระทำผิดมาตรา116 ในสมัยรัฐบาลนายกฯทักษิณ ปัจจุบันก็มีตำแหน่งเป็นสนช.ในรัฐบาลคสช."
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่