ถึงสำนักข่าวต่างๆ ที่ทำข่าวคดีหวย 30 ล้าน อยากให้เล่นประเด็นต่อเรื่องคลิปเสียงใหม่ว่าสามารถจะเอามาใช้ในคดีได้แค่ไหน

อยากให้สำนักข่าวต่างๆ ทุกช่อง ทุกสำนักพิมพ์  เล่นประเด็นเรื่อง ที่มาของคลิปเสียงที่จะเป็นหลักฐานใหม่ที่กองบัญชาการสอบสวนกลาง หรือกองบังคับการกองปราบได้มา  ว่าได้มาอย่างไร

และสามารถจะเอามาใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีได้มากน้อยแค่ไหนเพียงไรครับ

ลองไปทำข่าว สอบถามอัยการ ทนาย นักกฎหมาย ดูในประเด็นนี้ครับ


ปล. ตามกฎหมายปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วไปไม่ว่าจะมียศใหญ่โตแค่ไหน ก็ไม่มีอำนาจดักฟังโทรศัพท์ หรือดักข้อมูลหรือตรวจสอบหรือเข้าถึงข้อมูลการใช้งานอินเทอร์เน็ตของประชาชน ยกเว้นเป็นเจ้าพนักงานตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ.2550 หรือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งมีอำนาจในการขอข้อมูลการใช้งานคอมพิวเตอร์ของผู้ต้องสงสัย หรือเป็นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ซึ่งมีอำนาจดักฟังโทรศัพท์และดักข้อมูลการสื่อสารต่างๆ ได้ หรือเป็นกรณีที่มีกฎหมายเฉพาะให้อำนาจการเข้าถึงข้อมูลหรือการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวไว้

ร่างแก้ไข วิ.อาญาฯ เพิ่ม มาตรา 131/2 ให้อำนาจดักข้อมูลเพื่อป้องกันปราบปรามการกระทำความผิด การรวบรวมหลักฐานในคดีอาญาทั่วไป และการนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย โดยกำหนดว่า

                “มาตรา 131/2 ในกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์แห่งการสืบสวนคดีความมั่นคงของรัฐ ความผิดที่มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรม หรือที่ยุ่งยากซับซ้อน  พนักงานสอบสวนโดยอนุมัติของผู้บังคับการ ซึ่งเป็นหัวหน้าของพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบอาจยื่นคำร้องขอต่ออธิบดีผู้พิพากษาหรือผู้พิพากษาหัวหน้าศาล เพื่อให้มีคำสั่งอนุญาตในการเข้าถึงและได้มาซึ่งข้อมูลอิเล็คทรอนิคส์หรือข้อมูลข่าวสารใดๆ เช่น การตรวจสอบหรือการดักรับข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลการติดต่อสื่อสาร หรือข้อมูลทางการเงิน ของบุคคลที่น่าจะเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดนั้นได้ ...”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่