วิธีการปฏิบัติตนเมื่อพบเจอกับการพลัดพราก

การมีอยู่  ไม่มีอยู่
    ก่อนที่เราจะดำรงชีวิตตั้งแต่เด็กจนกระทั่งเติบโตเป็นผู้ใหญ่  ผ่านวัยแต่ละวัย  ผ่านเหตุการณ์ทั้งหลาย  เราพบเจอเรื่องบางเรื่องที่มันเกิดซ้ำๆ  แบบที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้  หนึ่งในนั้นก็คือการพลัดพลาดจากของรัก  สิ่งอันเป็นที่รักรวมถึงคนที่เรารักนั้นด้วย  ยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งพบว่ามีการสูญเสียเกิดขึ้นตามไปด้วย  
    ครั้งแล้วครั้งเล่าที่พบว่าชีวิตเราได้ถูกทำลายลงเพราะความเศร้าโศกเสียใจจากการที่ต้องจากสิ่งอันเป็นที่รัก  บางครั้งมันทำให้เราตื่นตัว  รู้ว่าทุกสิ่งที่มีชีวิตจะต้องจากไปสักวันในวันใดวันหนึ่ง  บางครั้งทำให้เราตระหนกตกใจไปจนถึงหวาดระแวงกับสิ่งที่เหลืออยู่ว่าสักวันเราจะต้องอยู่โดยปราศจากสิ่งอันเป็นที่รัก  
    หลายคนเลือกที่จะทำสิ่งที่เหลืออยู่นี้ให้ดีที่สุด  ดูแลสิ่งที่มีอยู่ให้ดีที่สุด  แม้ว่าจะหวาดระแวงอยู่  ซึ่งก็ยังทำให้ไม่สามารถหายจากความทุกข์ใจได้หมด  เพราะเรียนรู้แล้วว่าสักวันมันจะต้องเป็นอย่างนั้น  ในการนี้สิ่งที่ควรทำคือการปล่อยวางสัจจะธรรม  ความเป็นไปของธรรมชาติ  ตามกฎไตรลักษณ์  อนิจจัง  ทุกข์ขัง  อนัตตา  ไม่มีใครล่วงเกินกฎนี้ได้จริงๆ  กฎแห่งการเกิดขึ้น  ตั้งอยู่  และดับไปมันก็มีอยู่แบบนี้เอง
    ทีนี้พอเวลามันเกิด  หลายคนก็ไม่เข้าใจ  หาว่าทำไมสิ่งที่ตัวเองรักต้องพลัดพรากจากตัวเองไป  ทำไมถึงเกิดเหตุนั้นเหตุนี้ทำให้ต้องเสียสิ่งที่รักไป  ปัดโถ่เอ๋ย .... การเกิดนี้ล่ะก็เป็นทุกข์แล้ว  การพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดนั้นล่ะคือทางหลุดพ้น  ตราบใดที่น้ำมันมีอยู่ในที่ใดมันก็มีลักษณะเป็นของเหลวนั้นล่ะ  แล้วจะหวังให้น้ำมันขาดจากการเป็นคุณสมบัติของเหลวได้อย่างไร  มันเกิดขึ้นแล้ว  ตั้งอยู่สักพัก  มันก็จากไป  แค่นั้นเองมนุษย์เอ๋ย
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ชาติ ชรา มรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส

พระพุทธงค์ได้ตรัสว่า แม้น้ำในมหาสมุทรทั้ง 4 ก็ยังน้อยกว่าน้ำตาคนที่ถูกความทุกข์ความเศร้าโศกครอบงำ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่