ผมเรียนจบวิศวะจากมหาลัยแห่งหนึ่งในชลบุรี คบกับแฟนคนแรกตั้งแต่เรียนจนถึงทำงาน ผมได้ทำงานเป็นวิศวกรในบริษัทแห่งหนึ่งที่ชลบุรี หลังจากทำงานมาได้เกือบปีเลยได้ตัดสินใจซื้อรถเป็นของตัวเอง หลังจากนั้นอีก 2 ปี จึงได้ตัดสินใจซื้อบ้าน คิดว่าอยากจะสร้างครอบครัว แต่แล้วเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เนื่องจากแฟนผมได้เลิกกับผมไป ไปคบคนใหม่ เนื่องจากผมผ่อนเยอะมาก เลยไม่ค่อยมีเงิน ดูเหมือนไม่มีอนาคตและไม่มีเวลาให้ เนื่องจาก ต้องขยันทำโอทีแทบทุกวัน พอบ้านสร้างผมได้ทำการยื่นกู้กับแบงค์ และได้นำเงินส่วนต่างที่เหลือไปปิดหนี้รถที่เหลือ เพื่อที่จะผ่อนบ้านอย่างเดียว ในช่วงที่หลังจากเลิกกับแฟนคนแรก ผมก็กินเหล้าเมา หาสาวๆไปเรื่อยๆทุกวัน เป็นเวลา 1 ปี จนทำใจได้
เริ่มคบกับแฟนคนที่ 2
ผมได้เริ่มต้นใหม่กับผู้หญิงคนนึง ซึ้งยังเป็นนักศึกษา แต่ก้อเหลือ 1 ปีก้อจะจบ ซึ่งก้อมีความสุขดี แต่เปลืองเงิน เพราะต้องช่วยเหลืออะไรเค้าหลายๆอย่าง และมีอยุ่วันนึง แฟนคนแรกกลับมาขอคืนดี ผมก้อมีความรู้สึกอยุ่ แต่ก็ปฏิเสธแฟนคนแรกไป และขอให้เป็นเพื่อนกัน เพราะผมไม่อยากทำร้ายแฟนคนที่ 2 พอถึงตอนน้องเค้าเรียนจบ ได้เข้าไปทำงานที่ธนาคารแห่งนึง น้องเค้าก้อได้บอกเลิกผม ด้วยเหตุผลว่าเราเข้ากันไม่ได้ แต่ในใจผมคิดว่าน่าจะมีคนอื่น ซึ่งผมก้อปล่อยให้เค้าไป แต่ก้อไม่ค่อยเสียใจเท่าไร
แฟนคนที่สาม
จากที่เลิกกันแฟนคนที่ 2 มาผมก้อทำงานเก็นเงินเพราะเชื่อว่าสักวันนึงจะต้องเจอคนที่ใช่สำหรับเรา จนวันนึง มีพนักงงานใหม่เข้ามา ซึ่งเขาเป็นล่ามภาษาญี่ปุ่น เขาเป็นคนหน้าตาธรรมดา และเป็นคนเรียบร้อย ผมจึงให้เพื่อนไปติดต่อให้ แล้วก้อเริ่มคุยกัน และก้อได้บอกสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำในอนาคต คือเรื่องแต่งงานและมีครอบครัว ซึ่งเค้าก้อได้บอกกับผมว่าเค้าไม่อยากมีลูก แต่ผมก้อคิดว่าคนเรามันเปลี่ยนกันได้ ในอนาคตผมอาจจะไม่อยากมีก้อได้ แล้วเราก้อเป็นแฟนกัน ผมเป็นคนคิดมากเนื่องจาก เค้าไปคนเก่ง เงินเดือนก้อเยอะกว่าผม ครึ่งต่อครึ่ง บ้านก้อรวยทำให้ผมคิดว่าเราต่างกันเยอะไปรึป้าว แต่เค้าก้อบอกผมว่าเค้าก้อเป็นคนธรรมดาเหมือนกัน ไม่ให้ผมคิดมา แต่เราก้อคบมาต่อ และผมกับแฟนก้อได้ลาออกจากที่ทำงานเก่าเพื่อที่จะไปหางานทำใกล้บ้านที่ราชบุรี ตอนแรกได้งานแถวสมุทรสาคร ซึ่งแฟนผมเป็นคนสมุทรสาคร หลังจากได้งานผมก้อทำได้อยุ่ 3เดือน ผมไม่สามารถปรับตัวกับที่ใหม่ได้ และได้ออกมาหางานใหม่อีกครั้ง ช่วงนั้นเป็นช่วงที่สภาวะจิตใจตกต่ำมาก เลยได้ไปคุยเพื่อปรึกษาแฟนเก่าคนแรก เพราะไม่อยากให้แฟนที่คบอยุ่ปัจจุบันมองเราว่าอ่อนแอ ไม่เก่ง และดูไม่ดีในสายตาเค้า และได้หลุดพูดไปว่า "ถ้าเรายังคบกันอยุ่ก้อคงจะดีเนอะ" (แฟนคนแรกแต่งงานมีลูกไปแล้วและก้อเป็นเพื่อนกัน) แฟนผมได้เข้าไปดูในไลน์ ก้อได้เห็นข้อความนี้ แล้วจึงบอกเลิกผม ผมก้อตามง้อจนกลับมาคบกันต่ออีกประมาณ 6 เดือน แต่ก้อเริ่มทะเลาะกันบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ในเรื่องเดิม ซึ่งเค้าเป็นคนคิดมาก เค้าบอกเค้าลืมเรื่องวันนั้นไม่ได้ ลืมบอกไป ผมได้งานใหม่แล้วแถวราชบุรีใกล้บ้าน แต่เงินเดือนก้อไม่สูงเท่าที่เก่า แต่ผมก้อพยายามเอามะพร้าวอ่อนไปฝากขายตามร้าน ลงทุนทำธุระกิจรถน้ำมันกับพี่ชาย เพื่อเพิ่มรายได้ แต่สุดท้ายเค้าก้อบอกเลิกผม ด้วยเรื่องที่เกิดในวันนั้น และอีกเหตุผลนึงคือ ผมไม่มีเป้าหมายในชีวิต และอีกอย่างนึงคือบอกว่าผมดูเด็กไม่มีความเป็นผู้ใหญ่ แต่เค้าก้อบอกเองว่าเค้าก้อไม่มีเป้าหมายเหมือนกัน เค้าเองก้อไม่มีทั้งบ้าน ไม่มีรถ (ลืมบอกเค้าอายุ 32 ส่วนผม 30) และเค้าก้อบอกว่าอยากให้ผมไปเจอคนใหม่ที่อยากแต่งงานอยากมีครอบครัว ไม่อยากให้เสียเวลาอยุ่กับเค้า ผมยอมรับนะผมไม่ได้เก่งเลย เรื่องงานก้อไม่เอาไหน ผมรู้สึกอย่างนั้น ได้แต่วาดฝันอยากแต่งงานอยากมีครอบครัว ผมบอกเค้าว่าผมเก็บเงินจะขอเค้าแตงงานปีหน้า จากเรื่องทั้งหมดผมไม่รู้ว่าสิ่งที่เค้าต้องการให้ผมมีเป้าหมายในชีวิตคืออะไร
แฟนบอกเลิกเพราะไม่เป้าหมายในชีวิต หรือว่าเพราะอะไรกันแน่ ผมเองไม่เข้าใจ
เริ่มคบกับแฟนคนที่ 2
ผมได้เริ่มต้นใหม่กับผู้หญิงคนนึง ซึ้งยังเป็นนักศึกษา แต่ก้อเหลือ 1 ปีก้อจะจบ ซึ่งก้อมีความสุขดี แต่เปลืองเงิน เพราะต้องช่วยเหลืออะไรเค้าหลายๆอย่าง และมีอยุ่วันนึง แฟนคนแรกกลับมาขอคืนดี ผมก้อมีความรู้สึกอยุ่ แต่ก็ปฏิเสธแฟนคนแรกไป และขอให้เป็นเพื่อนกัน เพราะผมไม่อยากทำร้ายแฟนคนที่ 2 พอถึงตอนน้องเค้าเรียนจบ ได้เข้าไปทำงานที่ธนาคารแห่งนึง น้องเค้าก้อได้บอกเลิกผม ด้วยเหตุผลว่าเราเข้ากันไม่ได้ แต่ในใจผมคิดว่าน่าจะมีคนอื่น ซึ่งผมก้อปล่อยให้เค้าไป แต่ก้อไม่ค่อยเสียใจเท่าไร
แฟนคนที่สาม
จากที่เลิกกันแฟนคนที่ 2 มาผมก้อทำงานเก็นเงินเพราะเชื่อว่าสักวันนึงจะต้องเจอคนที่ใช่สำหรับเรา จนวันนึง มีพนักงงานใหม่เข้ามา ซึ่งเขาเป็นล่ามภาษาญี่ปุ่น เขาเป็นคนหน้าตาธรรมดา และเป็นคนเรียบร้อย ผมจึงให้เพื่อนไปติดต่อให้ แล้วก้อเริ่มคุยกัน และก้อได้บอกสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำในอนาคต คือเรื่องแต่งงานและมีครอบครัว ซึ่งเค้าก้อได้บอกกับผมว่าเค้าไม่อยากมีลูก แต่ผมก้อคิดว่าคนเรามันเปลี่ยนกันได้ ในอนาคตผมอาจจะไม่อยากมีก้อได้ แล้วเราก้อเป็นแฟนกัน ผมเป็นคนคิดมากเนื่องจาก เค้าไปคนเก่ง เงินเดือนก้อเยอะกว่าผม ครึ่งต่อครึ่ง บ้านก้อรวยทำให้ผมคิดว่าเราต่างกันเยอะไปรึป้าว แต่เค้าก้อบอกผมว่าเค้าก้อเป็นคนธรรมดาเหมือนกัน ไม่ให้ผมคิดมา แต่เราก้อคบมาต่อ และผมกับแฟนก้อได้ลาออกจากที่ทำงานเก่าเพื่อที่จะไปหางานทำใกล้บ้านที่ราชบุรี ตอนแรกได้งานแถวสมุทรสาคร ซึ่งแฟนผมเป็นคนสมุทรสาคร หลังจากได้งานผมก้อทำได้อยุ่ 3เดือน ผมไม่สามารถปรับตัวกับที่ใหม่ได้ และได้ออกมาหางานใหม่อีกครั้ง ช่วงนั้นเป็นช่วงที่สภาวะจิตใจตกต่ำมาก เลยได้ไปคุยเพื่อปรึกษาแฟนเก่าคนแรก เพราะไม่อยากให้แฟนที่คบอยุ่ปัจจุบันมองเราว่าอ่อนแอ ไม่เก่ง และดูไม่ดีในสายตาเค้า และได้หลุดพูดไปว่า "ถ้าเรายังคบกันอยุ่ก้อคงจะดีเนอะ" (แฟนคนแรกแต่งงานมีลูกไปแล้วและก้อเป็นเพื่อนกัน) แฟนผมได้เข้าไปดูในไลน์ ก้อได้เห็นข้อความนี้ แล้วจึงบอกเลิกผม ผมก้อตามง้อจนกลับมาคบกันต่ออีกประมาณ 6 เดือน แต่ก้อเริ่มทะเลาะกันบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ในเรื่องเดิม ซึ่งเค้าเป็นคนคิดมาก เค้าบอกเค้าลืมเรื่องวันนั้นไม่ได้ ลืมบอกไป ผมได้งานใหม่แล้วแถวราชบุรีใกล้บ้าน แต่เงินเดือนก้อไม่สูงเท่าที่เก่า แต่ผมก้อพยายามเอามะพร้าวอ่อนไปฝากขายตามร้าน ลงทุนทำธุระกิจรถน้ำมันกับพี่ชาย เพื่อเพิ่มรายได้ แต่สุดท้ายเค้าก้อบอกเลิกผม ด้วยเรื่องที่เกิดในวันนั้น และอีกเหตุผลนึงคือ ผมไม่มีเป้าหมายในชีวิต และอีกอย่างนึงคือบอกว่าผมดูเด็กไม่มีความเป็นผู้ใหญ่ แต่เค้าก้อบอกเองว่าเค้าก้อไม่มีเป้าหมายเหมือนกัน เค้าเองก้อไม่มีทั้งบ้าน ไม่มีรถ (ลืมบอกเค้าอายุ 32 ส่วนผม 30) และเค้าก้อบอกว่าอยากให้ผมไปเจอคนใหม่ที่อยากแต่งงานอยากมีครอบครัว ไม่อยากให้เสียเวลาอยุ่กับเค้า ผมยอมรับนะผมไม่ได้เก่งเลย เรื่องงานก้อไม่เอาไหน ผมรู้สึกอย่างนั้น ได้แต่วาดฝันอยากแต่งงานอยากมีครอบครัว ผมบอกเค้าว่าผมเก็บเงินจะขอเค้าแตงงานปีหน้า จากเรื่องทั้งหมดผมไม่รู้ว่าสิ่งที่เค้าต้องการให้ผมมีเป้าหมายในชีวิตคืออะไร