นาย A ประกาศขาย G mail ที่เชื่อมกับเกม ในกลุ่มเฟสบุคของเกมโทรศัพท์เกมนึง, นาย B ได้ซื้อและทำข้อตกลงกันอย่างสมบูรณ์โดยมีสมาชิกในกลุ่มเฟสเป็นพยาน และเก็บหลักฐานการเงินไว้
แต่นาย A ไม่ได้บอกไว้ว่าเกมนั้นไม่ได้เชื่อมไว้กับแค่ Gmail, แต่เชื่อมกับ เฟสบุคตนเองไว้ด้วย ซึ่งต่อมานาย A ได้เข้าไอดีเกมที่ขายGmail ไปแล้วผ่านทาง Facebook แล้วทำให้เกิดความเสียหายทางทรัพย์สินในไอดีนั้น
นาย B ตรวจสอบพบว่าเฟสนั้นได้บันทึกรหัสผ่านไว้ใน G mail ที่ตนซื้อมา และได้ลอคอินเข้าเฟสนั้นเพื่อจะทำการเป็นเข้าของไอดีเกมแต่เพียงผู้เดียว โดยการเปลี้ยนรหัสเฟสของนาย A
คำถาม ใครผิดกว่ากันตามหลักกฏหมายที่ฟ้องร้องได้
นาย A :
1)ให้ข้อมูลไม่ครบตอนประกาศขาย เข้าข่ายหลอกลวง
ไหม?
2)เข้ามาทำให้เกิดความเสียหายภายในเกม ซึ่งความเสียหายนั้นมีค่าเป็นเงินสด
3)ขู่ว่าถ้ายุ่งกับเฟสอีก จะทำลายทรัพสินในเกมมากกว่าเดิม
4)หลีกเลี่ยงที่จะพูดคุยเจรจากับนายB
5)เคยโพสต์รูปถือปืน ในเฟสบุคของตัวเอง
นาย B:
เข้าเฟสของนาย A และพยายามจะเปลี่ยนรหัส, แต่การที่เข้าเฟสได้นั้น ไม่ได้เกิดจากการแฮก แต่เป็นข้อมูลที่พ่วงมากับสินค้าที่นาย A ยินยอมขายให้เอง
กฏหมายว่าด้วยเรื่องการเข้าเฟสคนอื่น ใครถูกผิดมากกว่ากัน, ผิดมากแค่ไหน?
แต่นาย A ไม่ได้บอกไว้ว่าเกมนั้นไม่ได้เชื่อมไว้กับแค่ Gmail, แต่เชื่อมกับ เฟสบุคตนเองไว้ด้วย ซึ่งต่อมานาย A ได้เข้าไอดีเกมที่ขายGmail ไปแล้วผ่านทาง Facebook แล้วทำให้เกิดความเสียหายทางทรัพย์สินในไอดีนั้น
นาย B ตรวจสอบพบว่าเฟสนั้นได้บันทึกรหัสผ่านไว้ใน G mail ที่ตนซื้อมา และได้ลอคอินเข้าเฟสนั้นเพื่อจะทำการเป็นเข้าของไอดีเกมแต่เพียงผู้เดียว โดยการเปลี้ยนรหัสเฟสของนาย A
คำถาม ใครผิดกว่ากันตามหลักกฏหมายที่ฟ้องร้องได้
นาย A :
1)ให้ข้อมูลไม่ครบตอนประกาศขาย เข้าข่ายหลอกลวง
ไหม?
2)เข้ามาทำให้เกิดความเสียหายภายในเกม ซึ่งความเสียหายนั้นมีค่าเป็นเงินสด
3)ขู่ว่าถ้ายุ่งกับเฟสอีก จะทำลายทรัพสินในเกมมากกว่าเดิม
4)หลีกเลี่ยงที่จะพูดคุยเจรจากับนายB
5)เคยโพสต์รูปถือปืน ในเฟสบุคของตัวเอง
นาย B:
เข้าเฟสของนาย A และพยายามจะเปลี่ยนรหัส, แต่การที่เข้าเฟสได้นั้น ไม่ได้เกิดจากการแฮก แต่เป็นข้อมูลที่พ่วงมากับสินค้าที่นาย A ยินยอมขายให้เอง