คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
โยม ; หลวงปู่ครับ ทำไมไปที่ไหนๆ พระท่านก็สอนแต่ให้ปล่อยวาง ปล่อยวาง ถ้าทุกคนปล่อยวางหมด ถ้าอะไร อะไรก็ปล่อยวาง แล้วประเทศชาติจะพัฒนาเหรอครับ
หลวงปู่ ; หือ คุณเข้าใจคำว่าปล่อยวางแค่ไหน
โยม ; ก็…. ผมคิดว่าการปล่อยวาง คือการละทิ้งทุกอย่าง ไม่สนใจอะไรเลย ไม่ยึดไม่ติด เอาตัวเองรอดอย่างเดียว
หลวงปู่ ; นั้นคุณกำลังยึดติด
โยม ; อ้าว ผมยึดติดยังไงครับหลวงปู่ ก็ในเมื่อผมวางทุกอย่าง ไม่สนใจอะไร ไม่สนใจใคร
หลวงปู่ ; นั้นหล่ะยึดติด ยึดติดในความคิดของคุณไง ยึดติดในความเห็นผิดไง การปล่อยวางแบบที่คุณว่าเป็นการปล่อยปละละเลย ไม่ใช่การปล่อยวาง บ้านสกปรก คุณไม่กวาดคุณก็บอกว่าปล่อยวาง ลูกทำตัวไม่ดีคุณก็ไม่ยอมบอกเตือน ไม่ยอมสอน คุณบอกว่าปล่อยวาง หนักๆเข้า อะไรมากระทบกายกระทบใจก็ปล่อยไป ปัญหาเข้ามาสุมหัวมากมาย ก็ไม่แก้ไข เพราะคุณปล่อยวาง แบบนี้ไม่เรียกปล่อยวาง เรียกว่าปล่อยปละละเลย ปล่อยวางอย่างนี้หลวงปู่ยังไม่เชื่อว่าคุณปล่อยวาง คุณขี้เกียจกวาดบ้านก็บอกว่าปล่อยวาง จะให้หลวงปู่เชื่อคุณต้องมานอนกลางลานดินอันนี้หลวงปู่ถึงจะเชื่อ แต่การปล่อยแบบคุณ มันจะมีแต่ปัญหา หลวงปู่จึงเรียกว่าการยึดติด ติดกับความคิดที่ผิดของคุณ เข้าใจนะ
โยม ; ครับผมหลวงปู่ แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี คำว่าปล่อยวางกับปล่อยปละละเลยที่หลวงปู่ว่ามันต่างกันยังไง
หลวงปู่ ; คุณเคยเห็นว่าวไหม ว่าวมันลอยอยู่บนฟ้าลอยไป ลอยมาอย่างอิสระ จะขึ้นจะลงก็อิสระ ที่ว่าวมันลอยอยู่ได้เพราะมีเชือกดึง ถ้าไม่มีเชือกว่าก็ลอยขึ้นฟ้าไม่ได้ เมื่อว่าวมันลอยขึ้นไปแล้วมันก็อาศัยเชือกยึดมันไว้ให้ลอยอยู่บนฟ้าได้ ถ้าว่าวขาดเชือก มันก็จะหลุดลอยตกลงมาบนพื้นดิน การปล่อยวางของคุณให้ทำให้ได้อย่างว่าว เอาความถูกต้องยึด ไม่ใช่ปล่อยไปตามความถูกใจ เอาความเหมาะสมยึดไม่ใช่ปล่อยไปตามความเหลวไหล เอาทางสายหลาย ความพอดียึด ไม่ใช่เอามิจฉาทิฏฐิ ความเห็นผิดยึด เอาศีลเอาธรรมยึด ยึดไว้แล้วปฏิบัติกายปฏิบัติใจดูแลรักษาสิ่งนั้นๆให้พอดี อย่าเอาใจไปเกาะจนทุกข์แต่อย่าละเลยจนขี้เกียจ อย่าเอาธรรมไปเข้าข้างตนเองในเมื่อตนขี้เกียจ ขี้เกียจกับปล่อยวางต่างกันฟ้ากับดิน ไม่ใช่ขี้เกียจแล้วอะไร อะไร ก็ปล่อยวางไปหมด เหมือนว่าวขาดเชือก สุดท้ายมันก็หล่นลงดิน ปล่อยวางได้แต่ต้องดูความเหมาะสมด้วย การเข้าใจการปล่อยวาง จะรักษากายของคุณให้ปลอดภัย รักษาใจของคุณให้เป็นสุข แต่ถ้าทำแล้วมันเกิดทุกข์ มันไม่ใช่การปล่อยวาง เข้าใจนะ
หลวงปู่หา สุภโร
หลวงปู่ ; หือ คุณเข้าใจคำว่าปล่อยวางแค่ไหน
โยม ; ก็…. ผมคิดว่าการปล่อยวาง คือการละทิ้งทุกอย่าง ไม่สนใจอะไรเลย ไม่ยึดไม่ติด เอาตัวเองรอดอย่างเดียว
หลวงปู่ ; นั้นคุณกำลังยึดติด
โยม ; อ้าว ผมยึดติดยังไงครับหลวงปู่ ก็ในเมื่อผมวางทุกอย่าง ไม่สนใจอะไร ไม่สนใจใคร
หลวงปู่ ; นั้นหล่ะยึดติด ยึดติดในความคิดของคุณไง ยึดติดในความเห็นผิดไง การปล่อยวางแบบที่คุณว่าเป็นการปล่อยปละละเลย ไม่ใช่การปล่อยวาง บ้านสกปรก คุณไม่กวาดคุณก็บอกว่าปล่อยวาง ลูกทำตัวไม่ดีคุณก็ไม่ยอมบอกเตือน ไม่ยอมสอน คุณบอกว่าปล่อยวาง หนักๆเข้า อะไรมากระทบกายกระทบใจก็ปล่อยไป ปัญหาเข้ามาสุมหัวมากมาย ก็ไม่แก้ไข เพราะคุณปล่อยวาง แบบนี้ไม่เรียกปล่อยวาง เรียกว่าปล่อยปละละเลย ปล่อยวางอย่างนี้หลวงปู่ยังไม่เชื่อว่าคุณปล่อยวาง คุณขี้เกียจกวาดบ้านก็บอกว่าปล่อยวาง จะให้หลวงปู่เชื่อคุณต้องมานอนกลางลานดินอันนี้หลวงปู่ถึงจะเชื่อ แต่การปล่อยแบบคุณ มันจะมีแต่ปัญหา หลวงปู่จึงเรียกว่าการยึดติด ติดกับความคิดที่ผิดของคุณ เข้าใจนะ
โยม ; ครับผมหลวงปู่ แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี คำว่าปล่อยวางกับปล่อยปละละเลยที่หลวงปู่ว่ามันต่างกันยังไง
หลวงปู่ ; คุณเคยเห็นว่าวไหม ว่าวมันลอยอยู่บนฟ้าลอยไป ลอยมาอย่างอิสระ จะขึ้นจะลงก็อิสระ ที่ว่าวมันลอยอยู่ได้เพราะมีเชือกดึง ถ้าไม่มีเชือกว่าก็ลอยขึ้นฟ้าไม่ได้ เมื่อว่าวมันลอยขึ้นไปแล้วมันก็อาศัยเชือกยึดมันไว้ให้ลอยอยู่บนฟ้าได้ ถ้าว่าวขาดเชือก มันก็จะหลุดลอยตกลงมาบนพื้นดิน การปล่อยวางของคุณให้ทำให้ได้อย่างว่าว เอาความถูกต้องยึด ไม่ใช่ปล่อยไปตามความถูกใจ เอาความเหมาะสมยึดไม่ใช่ปล่อยไปตามความเหลวไหล เอาทางสายหลาย ความพอดียึด ไม่ใช่เอามิจฉาทิฏฐิ ความเห็นผิดยึด เอาศีลเอาธรรมยึด ยึดไว้แล้วปฏิบัติกายปฏิบัติใจดูแลรักษาสิ่งนั้นๆให้พอดี อย่าเอาใจไปเกาะจนทุกข์แต่อย่าละเลยจนขี้เกียจ อย่าเอาธรรมไปเข้าข้างตนเองในเมื่อตนขี้เกียจ ขี้เกียจกับปล่อยวางต่างกันฟ้ากับดิน ไม่ใช่ขี้เกียจแล้วอะไร อะไร ก็ปล่อยวางไปหมด เหมือนว่าวขาดเชือก สุดท้ายมันก็หล่นลงดิน ปล่อยวางได้แต่ต้องดูความเหมาะสมด้วย การเข้าใจการปล่อยวาง จะรักษากายของคุณให้ปลอดภัย รักษาใจของคุณให้เป็นสุข แต่ถ้าทำแล้วมันเกิดทุกข์ มันไม่ใช่การปล่อยวาง เข้าใจนะ
หลวงปู่หา สุภโร
แสดงความคิดเห็น
คุณคิดอย่างไร กับคำถามที่ว่า "ศาสนาพุทธสอนให้ปล่อยวางมิใช่หรือ"
ตามที่ผมได้พบเห็น เหตุการณ์มาหลายครั้งแล้วกับเรื่องราวแบบนี้ตาม social คือ มีคนเอารูปพระสงค์ไปตัดต่อทำกิริยาไม่เหมาะสม มีคนเอารูปพระพุทธรูปไปปั้นเป็นปรางค์ที่มีลักษณะไม่เหมาะสม มีการพูดดูถูก หรือเป็นเชิง พูดเล่น ซึ่งไม่เหมาะสมกับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็จะมีชาวพุทธบางส่วนออกมา บอก มาตำหนิ ติเตียนว่านี่คือการกระทำที่ไม่เหมาะสมเลย แต่ก็มีบางส่วนออกมาถามกลับว่า ศาสนาพุทธสอนให้ปล่อยวางมิใช่หรือ จขกท อ่านแล้วก็เอะใจคิดตริตรองว่า ฝ่ายไหนพูดถูกกันแน่นะ
ซึ่งถ้าเอาตามความคิดเห็นของ จขกท ในเรื่องของความเหมาะสม ถ้าเป็นชาวพุทธคงจะรู้จักมงคล 38 ประการ และในข้อที่ 3 คือ บูชาบุคคลที่ควรบูชา
บุคคลในที่นี้ถ้าเอาตามศาสนาพุทธ หมายถึง 1)พระสัมมาสัมพุทธเจ้า 2)พระสงฆ์ที่ประพฤติดี 3)พระมากษัตริย์ที่ตั้งในทศพิธราชธรรม 4)บิดามารดา
5)ผู้บังคับบัญชาที่มีความประพฤติดีเหมาะสม 6)สิ่งที่เนื่องด้วยพระพุทธเจ้า เช่นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า พระพุทธรูป พระบรมสารีริกธาตุ และสังเวชนียสถาน 7)สิ่งที่เนื่องด้วยพระสงฆ์ เช่น พระธาตุ รูปพระสงฆ์ 8)คำสั่งสอน หรือรูปภาพของบุคคลที่ควรบูชา ดังนั้นถ้าท่านเป็นชาวพุทธและนับถือในศาสนาพุทธ
ก็จะเห็นว่าการที่ท่านเอาภาพพระสงฆ์มาล้อเลียน เอาพระพุทธรูปมาล้อเลียน หรือพูดจาเป็นการไม่เคารพพระพุทธเจ้าย่อมเป็นการประพฤติที่ไม่เหมาะสม
ไม่เป็นมงคลตามหลัก ของ ศาสนา แต่ถ้าท่านมองอีกมุมหนึ่งตามที่บุคคลบางกลุ่มได้ถามว่า ศาสนาพุทธสอนให้ปล่อยวางมิใช่หรือ อืม!!!มันน่าคิดนะ
ก็ในเมื่อจริงๆแล้วศาสนาพุทธก็สอนให้ปล่อยวาง และหลักธรรมนี้มันเป็นหลักธรรมที่สำคัญซะด้วยสิ ขนาดพระอานนท์ ก็บรรลุอรหันต์ได้เพียงเพราะท่านปล่อยวาง แล้วคุณจะปล่อยวางไหมถ้าเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ไม่สมควรที่จะทำ คุณจะปล่อยวางได้ไหม ถ้ามีคนมาขโมยทรัพย์สมบัติคุณ คุณก็ทำใจไม่แจ้งตำรวจไม่เอาผิด ไม่โกรธแค้นพยาบาทกับโจร และพูดกับตัวเองว่า ทรัพย์สมบัติเป็นของนอกกายไม่ตายก็หาใหม่ได้ ท่านจะปล่อยวางได้ไหมถ้ามีคนมาฆ่าพ่อท่าน ท่านจะไม่คิดโกรธ พยาบาท เคียดแค้น ท่านก็แค่ปล่อยวางและพูดกับตัวเองว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม มันก็เฉกเช่นเดียวกับการที่ท่านเห็นคนประพฤติไม่เหมาะสมแล้วท่านทำได้ไหมที่จะไม่เข้าไปต่อว่า ตำหนิ หรือเตือนสติว่ามันไม่เหมาะสม แต่อย่างไรก็ตาม จขกท คิดว่า การปล่อยวางเป็นหลักธรรมที่ดีและสำคัญมากอย่างหนึ่งของพระพุทธศาสนา ถ้าท่านมีหลักธรรมข้อนี้ ชีวิตท่านก็ไม่ต้องมีเรื่องกังวลใจ ให้คิดปวดหัว มีความสุข สามารถปล่อยวางได้ในทุกเรื่อง
ยินดีก็ปล่อยวาง ยินร้ายก็ปล่อยวาง
แล้วเพื่อนๆชาวพุทธ พุทธศาสนิกชน มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างกับ คำถามที่ว่า "ศาสนาพุทธสอนให้ปล่อยวางมิใช่หรือ"